21 พฤศจิกายน 2546 14:46 น.
tiki
โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
@.อย่างที่ว่า พี่คนโต หลานคนแรก
คุณปู่ย่า รักเกินแทรก เข้าขวางกั้น
แถมรูปหล่อ ยิ้มแก้มใส ช่างจำนรรจ์
ขวัญใจท่าน ถึงวัยโต โก้เป็นนาน .......(๑๖๘ )
@ พี่ที่สอง ก็เกิดมา คราคุณพ่อ
ย้ายมาปลูก เรือนหอ บ้านศรีย่าน
ใกล้น้ำท่า เจ้าพระยา ชลประทาน
คุณแม่ท่าน อัครฐาน อย่างคุณนาย.. ........(๑๖๙ )
@ แค่พูดถึง คุณปู่ย่า คุณตายาย
ท่านเห็นไหม ร้อยกว่าตอน ค่อนจนสาย
กว่าจะถึง ฉันเติบโต โก้ทั้งกาย
ขอเรียนท่าน อ่านแทบตาย ต้องได้ความ.........(๑๗๐ )
@. อ่านประวัติ ท่านปู่ย่า ตายายแล้ว
เชิญพ่อแก้ว อ่านย้อนใหม่ ไม่ต้องถาม
จะต่อเนื่อง เรื่องตอนเด็ก เล็กทุกยาม
อยู่ประถม ต้นแม่งาม สำราญใจ...( ๑๗๑)
@ ครั้นคราวนั้น ที่ฉัน เรียนจนเย็น
ไม่ค่อยเห็น ญาติมารับ นับถามไถ่
ก็นั่งรอ วิ่งเดินเล่น สำราญกระไร
เจอเด็กน้อย น่ารักไซร้ แกล้งเขาพลัน.........( ๑๗๒)
@ บางวันก็ มีพี่พี่ มาเล่นด้วย
แล้วมาช่วย ซื้อขนม เลี้ยงอิฉัน
เป็นนักศึกษา เรียนวิชา ฝึกสอนกัน
นี่คือคน ยิ้มแฉ่งนั่น คือฉันเอง.........( ๑๗๓)
@ เป็นเด็กเล็ก ของสาธิต สุนันทา
ผู้เริงร่า สำราญใจ ทั้งขี้เบ่ง
วิ่งโลดแล่น โลกทั้งใบ ได้บรรเลง
วิ่งร้องเพลง ทั่วโรงเรียน เวียน.ทั้งวัน........( ๑๗๔)
ชีวิตสอนชีวิต โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
ตอนสิบสาม(๑๓) ย้อนถึงวัยเด็ก (ต่อ)
@อยู่จนเย็น คอยคุณญาติ ท่านมารับ
บางทีนับ ประตูหน้า ตำหนักนั่น
บางทีชะเง้อ ไม่เห็นมา หน้าบึ้งพลัน
บางครั้ง ท่าน คุณปู่กลับ มารับเอง..........(๑๗๕ )
@ ท่านพาขึ้น รถราง เสียงแก๊งก๊อง
ฟังทำนอง กระดิ่งรถ กระฉับกระเฉง
ไปเข้าพระ บรมมหาราชวัง ฉันบรรเลง
วิ่งร้องเล่น แม้นวังเวง ทั่วตึกวัง .....(๑๗๖ )
@ ห้องทำงาน คุณปู่ ผ่านประตู
ท่านสั่งดู อย่าเหยียบทวาร ผ่านไม่ขลัง
อีกห้องน้ำ ในตัวตึก พิลึกจัง
ชักโครกช่าง เสียงดัง ยังกะฟ้าร้อง........(๑๗๗ )
@ ห้องศาสตราวุธ เครื่องอาวุธ มีมากหลาย
ฉันเข้าไป วิ่งเล่นไหว้ ดูทุกห้อง
มีดาบแขวน ไว้มากมาย ให้จับลอง
ฉันไปจ้อง ท่าชักฟัน ทุกวันไป ........(๑๗๘ )
@ อีกคุณปู่ มีเพื่อนมาก หากน่ารัก
ชอบคุณปู่ ทรงเดชนัก ชอบถามไถ่
หยิบหนังสือ นางจันทร์ผมหอม ให้ย้อมใจ
นั่งอ่านไป นางในกลอง สนุกจัง..........( ๑๗๙)
@งานคุณปู่ ทำอะไร ฉันไม่ทราบ
สอนให้กราบ อยากทำงาน อยู่วังมั่ง
ฉันวิ่งเล่น ตามคุณปู่ อยู่หลายวัง
ท่านสอนสั่ง ท่านบนอบ ชอบตอบความ........( ๑๘๐)
@ ในบางวัน พวกคุณน้า ก็มารับ
คุณน้าเวียน เพียรมาจับ แล้วคอยห้าม
เฮ้ยทิกิ อย่าซุกซน จนลนลาม
แล้วแลปราม ปราบไว้ ให้เรียบร้อย.........( ๑๘๑)
20 พฤศจิกายน 2546 16:58 น.
tiki
@ แล้ววันนั้น ก็ผ่านไป ใจเลือนลับ
ชีวิตกลับ เริ่มเข้มแข็ง กันขี้นใหม่
คุณยายฉัน กำหนดจิต คิดปรับหทัย
ไม่สนใจ จะเป็นไร ก็ช่างมัน.........(๑๕๒ )
@ มีหน้าที่ อยู่ที่หน้า ไม่ฝ่าฝืน
มีจุดยืน อบรมธิดา ไม่อาสัญ
อีกบุตรใหม่ ทั้งหญิงชาย รวมหกนั้น
ท่านแข็งใจ กัดฟัน ประคับประคอง.........(๑๕๓ )
@ ดูจิตใจ ที่ท่านเจ็บ ประเสริฐเหลือ
ลุกขึ้นยืน หยัดเยี่ยงเสือ แม้หม่นหมอง
คุณยายฉัน งามเสมอ เมื่อฉันมอง
รักจากคลอง บางหลวง คล้ายลวงกัน.........(๑๕๔ )
ชีวิตสอนชีวิต โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
ตอน สิบสอง (๑๒) สาวโสภาแห่งเมืองสุพรรณ
@ ในวัยเด็ก แม่ช่างงาม เหมือนเทพธิดา
สวยโสภา ดุจดังสาว จากเมืองสวรรค์
แม่ฉันนั้น สาวสุดสวย ศรีประจันต์
ณ.สามชุก เวลานั้น ช่างน่าเชย.........(๑๕๕ )
@ จากบางหลวง และเจ้าพระยา ในครานั้น
ตา-ยายฉัน ร่วมชีวิต อย่างเปิดเผย
ยายไปตาม หน้าที่ ที่ควรเคย
ดูแลลูก น่าชมเชย เคียงครอบครัว.........(๑๕๖ )
@ เมื่อคุณป้า เรียนจบ เป็นอาจารย์
ได้เิงินเดือน ให้ทางบ้าน ท่านยิ้มหัวว
อยากให้น้อง สาวน้องน้อย จงอย่ากลัว
ส่งไปเรียน กรุงเทพฯทั่ว โรงเรียนดัง.........( ๑๕๗)
@ ครั้นรุ่นคุณพ่อ ไปฝึกงาน ชาญสมร
พบบังอร สาวงาม ยิ่งความหลัง
คราคุณแม่ สวยสดสาว ดาวสะพรั่ง
ท่าทียัง ไร้เดียงสา คราเหนียมอาย.........( ๑๕๘)
@ เกิดนิยาย รักอีกรุ่น ให้ครุ่นฝัน
กลิ่นไอรัก อบอวลพลัน รู้สึกได้
คราคุณแม่ เรียนหนังสือ ฝั่งธนไซร้
อยู่บ้านคลอง บางหลวงใน บ้านคุณตา.........( ๑๕๙)
@ คุณพ่อแอบ ไปเมียงดู อยู่หลายครั้ง
แม้นยังเด็ก คุณพ่อก็ยัง เสน่หา
พอเรียนจบ มัธยม ก็อีกครา
คุณตาพา ไปฝากคุณอา ด็อกเตอร์พร .........( ๑๖๐)
@ เมื่อครานั้น คุณแม่เริ่มเรียน ที่ธรรมศาสตร์
ช่างฉลาด เรื่องบัญชี ที่เรียนก่อน
แต่ต่อมา สงครามโลก ก็มาชอน
ระเบิดร่อน ทั่วกรุง ยุ่งพารา.........( ๑๖๑)
ชีวิตสอนชีวิต โดย ทิกิ( tiki) กวีคอนโด
ตอน สิบสอง (๑๒) สาวโสภาแห่งเมืองสุพรรณ (ต่อ)...
@ คุณตารับ แม่กลับไป สู่สามชุก
แอบไม่สุข หนีสงคราม ข้ามเคหา
ส่วนคุณพ่อ ก็อพยพ ทั้งปู่ย่า
สู่ปากเกร็ด หลบระเบิดมา ไปท่าน้ำ.........(๑๖๒ )
@ เมื่อสงคราม สงบ ก็พบใหม่
คุณพ่อใจ รอนรอน เฝ้าวอนคร่ำ
อ้อนคุณย่า ขอวิงวอน อ้อนประจำ
ช่วยไปทำ การสู่ขอ รอไม่ไหว........(๑๖๓ )
@ เมื่อแต่้งงาน มีพิธี อย่างสมเกียรติ
คุณย่ารับ สะใภั...เหยียด คิดว่าไพร่
คำบ้านนอก สะใภับ้านนอก ช่างยอกใจ
คุณแม่ไป อยู่ในวัง หลัีงวังหลวง........(๑๖๔ )
@ ที่ฉันเล่า ไปแล้ว แต่ตอนต้น
ว่าพี่ชาย คนโตนั้น ก็หล่นร่วง
มาสู่ครรภ์ มารดา ดุจดั่งดวง
มณีแก้ว ทิพย์จากสรวง ปวงเทวา........(๑๖๕ )
@ แม่เมื่อแต่ง เป็นสาวสวย แสนอ้อนแอ้น
คราท้องแล้ว กลับข้นแค้น อยู่หนักหนา
เลี้ยงลูกชาย แสนลำบาก ยากกายา
ด้วยสินค้า แพงสตางค์ หลังสงคราม........(๑๖๖ )
@ คุณย่าจึง เข้าปกครอง คุณท่านพี่
เลี้ยงด้วยหลง ว่าหลานนี้ เทพอุ้มข้าม
มาส่งให้ และตามใจ อยู่ทุกยาม
แม่กับย่า ทำสงคราม กันทุกวัน.........(๑๖๗ )
สงครามโลกแล้วก็......สงครามเรือน
20 พฤศจิกายน 2546 11:08 น.
tiki
อ่านงานกลอนชิ้นนี้พลันได้คิด
จักพินิจสรรงานตามคุณค่า
กานท์กวีจารจำหลักศิลา
บรรเจิดจ้าคมคำคมความนัย
...............
@ ทุกวินาทีอย่านิ่งรอช้า
ความคิดที่แล่นมาแม้นฉับพลันคือหวั่นไหว
ใจรับพลังมหาศาลจากด้านใด
บันทึกไว้เป็นพลังใจในด้านกลอน
@ เปิดใจให้กว้างหว่างสรรพสิ่ง
ระลึกถึงความจริงยิ่งอนุสรณ์
ทุกเวลามีคุณค่าให้อาวรณ์
แรกอาทรควรขอบคุณบุญตัวเอง
@ เป็นกวีจับทางอ้างใจคน
แรกต้องค้นใจตน...อย่าข่มเหง
เฟ้นหัวข้อ....ท้อจิตใจ....ใช่นักเลง..?
หากกริ่งเกรง....เพลงจะร้าง...หว่างกังวล
@.......ดุจทารก เรียกหา....**จาเอาอันนี้**
มิเคยมี....จะห่วงใย...ในเหตุผล
เสียงจากใจ...คล้ายดรุณน้อย...คอยอ้อนคน
ฟังใจตน...ค้นคำนับ...รับใจตัว
@.....เป็นกวี...เสียงจากใจ...ใยไม่เคารพ....?
จะหวังพบ....ผู้วิเศษ...มันน่าหัวว
คำของใจ...เขียนจากใจ...ใช่เมามัว
ขอบคุณตัว...ขอบคุณใจ...จะได้ดี
...@
-ขอมอบให้น้อง...
19 พฤศจิกายน 2546 13:55 น.
tiki
ในบางคืนนั่งเขียนงาน..พาน..สัมผัส
รักเย็นฉ่ำ....สู่สรรพสัตว์......จากแหล่งไหน...??
พลังเย็น....หลั่งความงาม...จากหฤทัย
..แทรกซึมให้....ทุกอณู....สู่ห้วงเย็น
เป็นพลัง...รักมหา.....อานุภาพ
แผ่กำซาบ........ดั่งเม็ดวสันต์.......ช่านทุกข์เข็ญ
เป็นพลัง.....จิตจากฟ้า.....คราบำเพ็ญ
....ไล่ทุกข์เข็ญ...แผ่ห่มฟ้า....ข้าฯ...ตรึงใจ...
.........ในกระแส...ไร้สิ่งผิด...ดำกฤษณา
.เป็นภาษา........สู่หัทยา.........ให้ฝันใฝ่
ดุจกางปีก..........โบกจากฟ้า........นภาลัย
.รักเย็นใจ........ให้ข้าสัมผัส......รหัส..เมตตา.........
18 พฤศจิกายน 2546 22:47 น.
tiki
ในวันอันเหงาเงียบแสนเหงา
เธอเดินเข้ามาปัดเป่าอย่างสุขุม
เธอวางมือยิ้มละไมใจประชุม
ดับร้อนรุ่มโลกยินดีมาที่เธอ
เมตตาของเธอนั้นมากหลาย
โชนฉายพรายแสงแห่งรักเสมอ
ความดีแผ่กำจาย...คล้ายบำเรอ
ยากพบเจอ...คนใจบุญ...รวยสุนทาน
รักและเมตตาเฉกนี้หรือที่ไหน
ปล้นดวงใจไปได้อย่างหวานหวาน
ใจเท่านั้นที่ปล้นใจไปชั่วกาล
ตะลึงลานปล้นเอาไปในชั่ววัน
ฉันยินดียกใจให้เธอปล้น
ไม่ตัองค้นอยู่ตรงนี้...ที่ความฝัน
รักและเมตตาที่มีเกินรำพัน
คนอย่างฉัน..บ้าคนดี...ที่รักจริง
เธอเป็นโจรปล้นใจในวันนี้
ฉันไม่มีใจเหลือให้สักสิ่ง
ฉันไร้ใจด้วยปลดให้ทั้งขั้วปลิง
อาการนิ่ง.....ด้วยรักล้น....คับพ้นใจ