11 ธันวาคม 2546 20:53 น.
tiki
ผิดทั้งเพโอ๊ย เบื่อ !!
@ ตื่นขึ้นมา ข้าฯก็ผิด คิดแล้วแปลก
นอนก็แหวก แหกเวลา กว่าใครเขา
กลอนก็บ้า ห้าร้อยสาระ ปะเรื่องเอา
ตื่นแต่เช้า ใส่ฉันทลักษณ์ ตักบาตรลวง ....(๑ )
@ เขียนก็ผิด อ่านก็ผิด จิตของข้าฯ
ถูกความหา ว่า**ไร้รัก** ยิ่งหนักหน่วง
เงินไม่หนัก ***รักก็ไม่ลอง*** สมองก็กลวง
อย่าดัดจริต อย่าทำเป็นห่วง มาทำลวงใจ....(๒ )
@ เอ้า** จะเอาอะไรก็ว่ามา**
ถูกหรือผิด ไปสัมมะนา ให้หายสงสัย
เกรงก็แต่พรหมสามสิบสองช่องฟ้า...ท่านอยู่ช่องใด ????
ไม้บรรทัด น่ะ ..โปรดเก็บไว้....วัดใจกัน ( ๓)
จะยากอะไรก็คนเหมือนกัน
@ วันนี้.....
พสุธา..ยังมีเนื้อที่ให้ฉัน
ได้ย่างก้าว ด้วยเรี่ยวแรงเป็นสำคัญ
อย่างสามัญ...ชนชั้น...ประชากร (๔ )
@ ถามว่า..จน..สุดไหม...ก็ไม่กล้า
จะไปลงทะเบียน.(กลุ่มคนจน) ..ก็ตากหน้า...อยู่วันก่อน
ครั้นว่ารวย...ก็ไม่รวย ...ยังสังวร
ประชากร..ชั้นกลาง..ล่างนิดนิด ....(๕ )
@ จึงนอนแอบแบบอย่างเมื่อเป็นหวัด
ต้องตามฮัด-เช้ย บัตรทอง..ถูกจ้องผิด
ครั้นจะใข้บัตรประกันสังคมก็ถูกริด
ไม่จ่ายบัตร ..ถูกตัดสิทธิ ..คิดแล้วเซ็ง... (๖ )
@ ประสาจน จึงกินยา สารพัด
ที่ชัดชัด คือยาไทย ใช่หมอเหล็ง ??
ฟ้าทะลายโจรห้าร้อย...ไม่ต้องเล็ง
ทะลวงแหลก..โรคตะเบ็ง..ตะบึงไกล .....(๗ )
@ เกิดเป็นคน..จนวันนี้ ดีวันหน้า
มองดอกฟ้า..ริมระเบียง..บานไสว
เห็น **ดวงนฤมล** บานเต็มช่อ..ล่อตาใคร
โหงวเฮ้งให้ เป็นเศรษฐี..ไม่กี่วัน ......(๘ )
@ จึงยินดีปรีดาเป็นยิ่งนัก
ยอมลงควัก เงินพริ้นท์งาน..กลอนของฉัน
หน้าละหกบาท..รู้สึกประสาท..ไข้จับพลัน
เก็บใส่แฟ้ม ประวัติศาสตร์นั้น***วันที่ฉันจน***** ......(๙ )
ประวัติศาสตร์วันนี้
คือเศรษฐีในอนาคต !!1
ถ้ายังไม่จน
ทำตัวยากจน
จะเป็นเศรษฐ๊
ถ้ายังไม่รวย
ทำตัวร่ำรวย
จะยากจนลง
คำขวัญของผุ้ใหญ่บ้านหมู่ 5 หมุ่ หก
แถวสารภีเชียงใหม่ อะไรแบบนั่นแหละ
11 ธันวาคม 2546 01:30 น.
tiki
-ขอบคุณ
ขอบคุณที่เธอสอนว่า
ชาติหน้าไม่มีมีแต่พรุ่งนี้ตอนบ่ายบ่าย
ขอบคุณที่เธอสอนฉันไว้ให้ไร้ใจ
ขอบคุณที่สอนว่า.ยังไงก็ต้องมีเธอ
ขอบคุณที่เธอสอนว่า
คำพูดคำจาให้คอยหลอกไว้เสมอ
ขอบคุณที่สอนฉันให้พบเจอ
ขอบคุณความหลงละเมอที่เธอให้มา
ขอบคุณที่คุณสอนฉัน
มุขเด็ดเผ็ดมันยากใครฝันหา
ขอบคุณที่เธอสอนฉันมิให้มีน้ำตา
ขอบคุณที่ผ้าเช็ดหน้ามันยังแพงกว่าผ้าเช็ดมือ
ขอบคุณที่เธอสอนว่า....
10 ธันวาคม 2546 17:13 น.
tiki
@ ถึงวันหนึ่ง ซึ่งทุกคนจะต้องแก่
มองคุณแม่ท่านเริ่มแก่ก็คิดครุ่น
หากพวกเราจะเสริมสิ่งใดไว้เป็นบุญ
เสริมสติ..ปัญญา..นั้นคือคุณ ในปลายวัย
@ เมื่อเริ่มแก่ เซลสมองต้องเสื่อมถอย
เรียกสิ่งใดมักประดิดประดอยคำเรียกใหม่
แต่หากเสริมความจำทั้งกายใจ
คนแก่ไซร้ ให้วิตามิน กินจะดี
@ อีกวิตามินทางใจให้คนแก่
พบคุณแม่ประจ๋อประแจ๋ล้อทุกที่
ท่านหัวร่อย้อยั่วกระเซ้าจะเข้าที
เสียงหัวเราะของท่านนี้...เจ้าทำบุญ
@ กุศลใดให้แม่เจ้าเขาเป็นสุข
เรื่องสนุกอย่าให้หมองจ้องอุดหนุน
ปากคอยถามเรื่องก่อนเก่าชุลมุน
ให้ท่านลุ้นเล่าเรื่องเก่าให้เจ้าฟัง
@ ดั่งคุณยาย ในวัยปลาย เก้าสิบเจ็ด
ยังทีเด็ดเล่าสืบหลานปานมนต์ขลัง
คอยเงี่ยหู คอยเข้าถามความดุจดัง
จดเป็นตั้งยังไม่หมด พจนา
@ ถึงจะแก่ แต่คุณยายคล้ายคลังประวัติ
ซึ่งขี้ขัดเรื่องเก่าล้วนชวนมีค่า
อีกคุณแม่ ป้า น้า เราชักพา
ให้คุยว่าเรื่องเก่าเด็ด เผ็ดมากมาย
@ เรื่องยิ่งเก่า ยิ่งเป็นคุณ บุญสมอง
ได้เป็นทุน ใส่ลิ้นชัก ไว้สลักขาย
เรื่องเก่าก่อนของคนแก่แท้วุ่นวาย
แต่คุณยาย หรือ แม่ คุณ จะอุ่นใจ
@ พบคนแก่วันนี้ อย่ามองข้าม
ยิ้มแล้วถาม ค้นเขา เอาใจใส่
เปรียบเหมือนเพชร มีทีเด็ด ควรห่วงใย
หากปล่อยไป รอถึงวันนั้น..มันสายเกิน !!! ๚ะ๛-
เคาะแป้นพิมพ์ ..
จารจดลงเวลา.ณ. หน้าเครื่อง
พระพฤหัส.ที่สิบห้า...๑๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๘
สยาม..เมืองฟ้าเดือนเลือนลับ..กรุงเทพฯ .ประเทศไทย
สยาม..เมืองฟ้างาม..
.กรุงเทพฯ .ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved ๏
9 ธันวาคม 2546 18:09 น.
tiki
@ ดุจดักแด้ดักดานอยู่ในดง
ขยักขย่อนคิดจะปลงออกจากฝัก
กะหลักกะเหลื่อเหลือจะคิดดั่งติดชนัก
คล้ายจมปลักจักแหล่นแค่นจะวาย.(๑)
@ กระลำพัก ถักไว้ ใยดักแด้
ขดชะแง้ ขยับชะเง้อ เจอไม่หาย
เยี่ยงพยัคฆ์ พะวักพะวน จนเจียนตาย
ถูกปฏักปฏิปักษ์ปลายเสียบชายโครง.(๒)
@ ณ. ชุณหปักษ์ เชลยศํกดิ์ ทุลักทุเล
ธรรมจักรไม่แลเหล่ หลุดโขยง
ทรลักษณ์ กักตำหนัก เดี๋ยวปากโป้ง
ธัญลักษณ์ ถูกหอยโข่ง โล่งเตียนดอน.(๓)
@ นรลักษณ์ ทักรูปเฉียด เกียรติศักดิ์
ทุรลักษณ์ แค่เห็นพักตร์ จักหนีก่อน
แทบกระอัก กักขฬะ นักเลงกลอน
บรรดาศักดิ์ ฉันทลักษณ์ วอน นอนรำพึง.(๔)
@ พะวักพะวน พยักพเยิด เปิดตำรา
ดูปทา พจนา ว่าลึกถึง
ตก นักษัตร ชัด อุบาทว์ ปราชญ์ตะลึง
ตื่นตักบาตร แต่ตีหนึ่ง ..จึงนอนปลง.(๕)
กระลำพัก แปลว่า เนื้อไม้หอม
ชุณหปักษ์ แปลว่า ข้างขึ้น
เชลยศักดิ์ แปลว่า นอกทะเบียน
ทรลักษณ์ แปลว่า แบบลักษณะไม่ดี คนเลว
ธัญลักษณ์แปลว่า ลักษณะดี
นรลักษณ์ แปลว่า ผุ้มีลักษณะดี
ทุรลักษณ์ แปลว่า ผุ้มีลักษณะไม่ดี
กักขฬะ แข็งกระด้างหยาบคาย
นักษัตร แปลว่า ดาว ดาวฤกษ์
อย่างอื่นไปเปิดกันเองนะคะ อิอิ
8 ธันวาคม 2546 20:11 น.
tiki
@ ราวปีสองพันห้าร้อยสามสิบ
เจาะจงหยิบวันให้แน่แท้มิได้
หากกะการว่าประมาณวันวารใน
คืนหนึ่งไซร้ที่บ้านห้าสาม ยามดึกแล้ว ...(๑)
@ หลังสวดมนต์ไหว้พระ จะยาวนาน
จิตชื่นบาน..จิตใจใสดั่งแก้ว
จึงเข้านอนหลับไปใจเพริศแพร้ว
เริ่มเห็นแนวกระแสธารา..มหาสมุทร ...(๒ )
@ ฝั่งไกลโพ้นโน้นที่ไหนฉันไม่รู้
หากพิศดูสิ่งใดหนอ..ละออ..ผุด
ดั่งดวงแก้ว..ใสแพรว ..แวววิมุติ
ชะลอเลื่อน..งามบริสุทธิ์..ผุดข้ามมา ...( ๓)
@ ชุดส่าหรีเด็กหญิงงามสามภพเลิศ
ปรางเอิบอิ่ม ชมพูบรรเจิด..เพริดจัดจ้า
โอษฐ์แดงเรื่อผิวเนื้อบางละมุนตา
ยิ่งนัยนา ใสพิสุทธิ์ ผุดผ่องนัก
...( ๔)
@ แม่ร่างน้อยชลอเลื่อนเคลื่อนเข้าหา
คืบชิดใกล้..กิริยาท่าประจักษ์
เข้าวงแขนเงยเข้าหาท่าแห่งรัก
ไร้เดียงสา บริสุทธิ์นักแม่สายใจ ...(๕ )
@ ภาษาใจที่ส่งมาช่างสุดแสน
บริสุทธิ์แม้น*รักมารดา* อยากเข้าใกล้
จิตระบาย รู้สึกมา ภาษาใจ
บ่งบอกให้..*คิดถึงมารดา* ท่าเจ้าวอน...(๖ )
@ นัยน์ตาใส..สลดลึก นึกถึงแม่
ทีชะเง้อ ท่าชะแง้ ดังแต่ก่อน
แล้วเจ้าเอียงปรางให้แม่เชยชิดช้อน
จุมพิตแก้มใสอาทร ย้อนความรัก ( ๗)
@ ไร้เดียงสา ดูอาการ เจ้าแก้มใส
แม่จุมพิตสองปรางได้..ยิ่งศึกหนัก
ลูกดีใจในรักแม่..หนักหน่วงนัก
จึ่งได้จัก ลอยมาหา คราย้อนใจ..( ๘)
คือศึกหนัก..ราตรีนั้น ต่อ ตอน 2
@ ที่แม่เห็น..ใต้สองฝั่ง เจ้าลอยมา
มีเหล่าภา..รตะ ชน ล้นหลามให้
เรี่ยริมน้ำริมพื้น ตื้นตันใจ
ส่งสายตา บูชาไว้ ให้แม่ยล (๙ )
@ แต่เจ้าลอยมาผู้เดียวดูเปลี่ยวเปล่า
ดุจสัญญาแห่งสองเรา เจ้าไม่บ่น
ดูโศกซึ้ง เจียมใจ ดูเจียมตน
ทั้งอ่อนโยน ดั่งอุบล เหนือธารา ( ๑๐)
@ ครั้นแล้วหมดเวลาคราต้องไป
กลิ่นหอมซึ้งอบอวลใจไล้นาสา
เจ้าลอยจากอ้อมแขนแม่อย่างแช่มช้า
จากมารดา ท่าเรียบร้อย ลอยลับไป ( ๑๑)
@ เห็นเจ้าลอยข้ามมหาสมุทร..สุดตามข้าม
ฝูงชนหลามแลตามส่ง..คงหมองไหม้
ยามฉันตื่น..ยังสะอื้น..ตื้นตันใจ
อ้อมแขนไร้เงาวิญญาณ์คราจากจร( ๑๒)
@ สองแก้มหยาดอสุชลหล่นเต็มแก้ม
ยังได้กลิ่นบุบผาแย้มแห่งผิวอ่อน
ยังรู้สึกแก้มนุ่มเนียนอรชร
คืนอาวรณ์..เจ้ามาหา ท่าแห่งรัก( ๑๓)
@ น้ำใส..กลิ้ง..จากนัยน์ตา..มากค่านี้
จริงดั่งที่..แม่หลงใหล..มิได้หัก
มาหลงโลกลืมเชื้อวงศ์เผ่าพงศ์พรรค
โลกซ้อนโลก มิติประจักษ์..เคลื่อนทักทาย(๑๔ )
@ ไฉนหนอ ..แม่จะกลับไปรับขวัญ
ราตรีนั้น..น้ำตาเกลื่อน..เคลื่อนเป็นสาย
ถึงราตรีนี้เมื่อจาร ซร่านมิวาย
ใจสลายคล้ายรันทด..หมดทางเดิน( ๑๕)
@ แม่จักสั่งสมบุญได้เพียงไหน
จึงจะหวนกลับไปได้ ..ดั่งหงส์เหิร
กรรม..ภพนี้ มีแต่งาน การไกลเกิน
กลับย้อนเดิน..สู่หนทาง..หว่างภพเรา( ๑๖)
คือศึกหนัก..ราตรีนั้น ต่อ ตอน 3
@ เผ่าวงศ์นั้นอยู่แห่งไหนในอีกภพ
ฤาให้ลบรอยความรักสลักเสลา
ทิ้งลูกยา..ก็มิอาจ..พลาดจากเงา
ห่วงสองเจ้า..แห่งโลกนี้..มิกล้าไป......(๑๗ )
@. หน้าที่แม่ ..แท้ลำบาก ยากหนักหนา
ทิ้งลูกยา..ดั่งฆ่าสองเจ้า...เราทำมิได้
ด้วยลูกพรหมคงหงอยเหงาเศร้าฤทัย
แต่ลุกคนสลดใจ..ร้าวฤดี......(๑๘ )
@ ภพซ้อนภพ..สองหน้าที่...มิอาจได้
แม่เสียใจ ...หากหนีมา..ทิ้งหน้าที่
พระเดชพระคุณ..เจ็บสุดใจ..ชีวิตนี้
ดั่งถูกสาป..ไม่เคยมี สุขอุรา.......( ๑๙)
@ พระกรุณา..ส่งมิ่งขวัญ..มาเตือนแม่
ว่าป่านนี้..ยังตามแล..ชะแง้หา
พระบิตุรงค์..ตามมิได้..ให้ลูกมา
เตือนแม่ว่า พระธิดา ยังรอคอย.......(๒๐ )
@ รักสองภพ...ข้ามฝัน..คืนวันนั้น
ยังตามหลอน..ใจฝัน..อันละห้อย
กำหนดจิต..เพลงใจ ไม่ย้อนรอย
กรรมนั้นพลอย..พาจาก..ดั่งพรากไกล.......( ๒๑)
@ แต่หน้าที่..ต้องประคอง...สองในโลก
จะวิปโยค..ศึกหนัก..สักเพียงไหน
ในโลกนี้ แม่เป็นหลัก ปักธงชัย
นำครอบครัว..หมุนไป..ดังจักรเฟือง.......( ๒๒)
คือศึกหนัก..ราตรีนั้น ต่อ ตอน ๔
@ สองลำบากยากแค้นอยู่แสนเข็ญ
ต่างต้องเป็น..มาใช้กรรม..ซ้ำหนุนเนื่อง
แม่จะอธิษฐานอยู่ต่อไปจนรุ่งเรือง
ให้กระเดื่อง ขจรไกล ในภพนี้......(๒๓ )
@ พระบิตุรงค์..ส่งหทัย มาให้เห็น
คล้ายลำเค็ญ...อย่าสาปส่ง..ให้อึงมี่
พระลูกพรหม ท่านอยู่เย็น เป็นสุขดี
แต่ลูกคน ณ. โลกนี้ ล้วนมีทุกข์......(๒๔ )
@ ขอหม่อมฉัน..ทำหน้าที่ ณ ที่นี้
สร้างกุศล แต่สิ่งดี อันมีสุข
เมตตาธรรม นำใจ ให้เร้ารุก
สันติสุข สืบสร้าง ทางเมตตา......(๒๕ )
@ จึงจดจาร อีกราตรี ที่จดจำ
คะนึงหวน ครวญคร่ำ ถวิลหา
ธิดาน้อย ลอยตาม ข้ามน้ำมา
ขอเธอสุข เกษมอุรา ทุกราตรี.......( ๒๖)
@ หากเคยเป็น แม่ลูก เคยผูกใจ
ขอบุญแม่ ทำไว้ ในทุกที่
ทางมรรคผล กุศลบุญ คุณความดี
มอบลูกน้อย ดวงฤดี เจ้าเพ็ญจันทร์.......(๒๗ )
@ ให้รักแม่ แผ่กระจาย ไปนานฟ้า
ให้ลุกยาได้นอนหลับ ลงกับฝัน
ให้ลูกรักได้พักผ่อน ก่อนตะวัน
จะบิดผันแรงร้อน ...ผ่อนกายา.......(๒๘ )
@ ให้แม่กล่อม เจ้านอน ทั้งค่อนคืน
ให้ยามตื่น ยามลูกแล ชะแง้หา
ให้เงาแม่ ฉาบไสว ในนภา
ดุจทิวา อรุณสว่าง กระจ่างนิรันดร์.......(๒๙ )
@ แม่ขอฝากกลอนนี้ ลูกที่รัก
ได้ประจักษ์รักยิ่ง สิ่งมุ่งมั่น
ให้ลูกทั้งสองภพ บรรจบกัน
รับบุญนั้น ทุกทิพา ราตรีเทอญ.......(๓๐ )