5 กุมภาพันธ์ 2547 22:04 น.

....@.. บานคลี่...รับแสง...แห่งใจ ....@..

tiki

  บานคลี่...รับแสง...แห่งใจ      

 
เก็บความทรงจำเก่า....... 

ร้อยเอา......แต่......บทกวี 

ซึมซับเอาใจ....ดวงนี้ 

บานคลี่...รับแสง....ตะวัน 


ขวบปีเคลื่อนคล้อย..ลอยลับ 

ความหวาน...จารจับ...คิดฝัน 

เรียงร้อย..สร้อยสา..สุธาวัลย์ 

นำฝันใส่เพลง..บทกวี... 



   ฝันเอย..........อย่าเลย.....อย่าลับ

เยือนกลับ.......คืนถิ่น....แห่งที่

เคยรัก....เคยฝัน...ขวัญชีวี

อย่าลี้........ลับเลือน.....เบือนลา


ฝากเพลง...บทนี้.....ให้จอมขวัญ

เจ็บช้ำ..วันใด...ให้มาหา

รอคอย......เธอกลับ...นับวันมา

เห็นหน้า........ตัดพ้อ...ล้อใจ ?


ไม่เท่าไหร่....ชีวิตก็สั้น

ไม่เท่าไหร่..ก็จากกัน..ฝันไปไหน...

เมื่อยังพบ  คราตื่น....ให้ชื่นใจ

วอนเธอ..คืนใจ...มาให้ที


ให้เสมือน...ดอกไม้..ในสวน

แย้มยวน...บานกลีบ...รีบรี่

ยามตะวัน...ย้อนมา..เริ่มนาที

ชุบชีวี...ชูขวัญ..ฝันถึงเธอ

tiki  
05 ก.พ. 47 - 22:04  


  ดอกหญ้าสวย แซมดอกไม้ ตามป่าเขา

ช่วยแบ่งเบา ลมฟ้าฝน โหมแรงกล้า

แบ่งน้ำเลี้ยง ให้ดอกไม้ เติบชีวา

เปรียบแสงจ้า ในใจ ให้พลัง   
..กระบี่รับใช้ 

ดอกหญ้าเขียวใสใบระบัด

เติมความชัดให้ดอกไม้ได้ภาพหลัง

สีดอกหญ้าฉากผ่านตาครากำบัง

ดอกไม้ทั้งผืนป่า จ้าสีแดง... ทิกิ


   ดอกไม้ ในสวน เริ่มเหี่ยวเฉา

ลมแห่งเหงา โบกโบยเบา ดอกใกล้แห้ง

รอเพียงฝน และแสงฟ้า ส่องกลางแปลง

แสงแดดแจ้ง  ฝนพรำ ดอกไม้โต......กระบี่รับใช้    


 กาลเวลาเลือนมาผ่านไป

ทุกดอกใบได้แสดงแข่งอักโข

ถึงลำต้นจะเริ่มซีดดูเซโซ

กลีบดอกคงบานโร่.โถ..คงทน ...ทิกิ


     แต่ดอกหญ้า ในสวน นั้นตายยาก

ไม่ต้องฝาก ชีวิต กับฟ้าฝน

เอนโอนอ่อน ยามพายุ พัดใจตน

มิเคยสน ว่าต้องเจอ กับอะไร  ...
 
 จาก : กระบี่รับใช้  
 รหัส - วัน เวลา : 216084 - 06 ก.พ. 47 - 00:58  


 ..เพราะเป็นหญ้า...คราโอนลู่...ไปกรูเกรียว

หยิบมือเดียว....หรือทั้งแผง...แรงต้านไล่

ลมก็ผ่าน.....พราวพรู......ล้วนดูใจ

ไม่หักโค่น......ดังไม้ใหญ่...ไร้ร่มเงา ...ทิกิ


 ........เปรียบดอกหญ้า ดังจิตใจ ของมนุษย์

ซึ่งคอยฉุด ดึงใจ ในยามเหงา

อาจเป็นเพียง ฉากหลัง มีเพียงเงา

ยามคราเศร้า ได้ดอกเขียว เติมพลัง
 ....กระบี่รับใช้ 


คือดอกหญ้า.....เป็นฉากหลัง...นั่งเป็นรอง

มองเจ้าของ....เขาประคอง....ป้องเบื้องหลัง

เป็นเพียงฉาก.......ใจมิอยาก...จากกำบัง

จึงจำนั่ง.......เศร้านัก...เมื่อรักโล้  ......ทิกิ...


.เห็นดอกไม้ เติบโตได้ ด้วยแดดแสง

ดอกหญ้าแจง จำนรรค์ ยินดีโข

เห็นดอกไม้ โบกสะพัด ไม่เหี่ยวโซ

หญ้าเอนโย้ คลอเคล้า อยู่ข้างเคียง
 จาก : กระบี่รับใช้  


เป็นอีกวัน...ฉันรำพัน....ด้วยเพลงดิน

หอมไปสิ้น.......หญ้าถวิล.....ดินไร้เสียง

เป็นดอกหญ้า.......ยังมีดิน....คอยปองเรียง

สวาทเพียง.......ดินทราย.....เย็นในใจ ....ทิกิ...อิอิ

3:50 นาฬิกา

บานคลี่เพื่อรับไออุ่น

ละมุ่นด้วยความอ่อนไหว

สะพัดด้วยใจที่ละไม

คงอยู่เรื่อยไป...ด้วยใจที่มั่นคง...

มาเยี่ยมนะคับ กลอนเพราะมากครับ *-*  
 จาก : รหัสสมาชิก : 6184 - พู่กันของหูกวาง  
 รหัส - วัน เวลา : 216183 - 06 ก.พ. 47 - 07:21  


    กระบี่เอ๋ย กระบี่รับใช้

เพื่อนมากมายชอบใช้ให้ซื้อน้ำแข็ง

โซดาหมดสุราพร่องช่างอ่อนแรง

ทั้งเมื่อยแขนเมื่อยขาเกินอดทน 

เมื่อตะกี้ พอดีติดงาน(ม่ะช่ายเดินซื้อน้ำแข็งนะครับ ) เลยมาต่อให้จบอะครับ กลอนคุณ tiki น่ารักดีนะครับ เหมือนสาวๆมี poppy love เลยครับ ใสมากๆ
 
 จาก : กระบี่รับใช้  
 รหัส - วัน เวลา : 216117 - 06 ก.พ. 47 - 02:52  

 อิอิ คนมีความสุขก็อย่างงี้แหละค่ะ อิอิ
xปอลอ นะคะ puppy love ค่ะ แปลว่าความรักของลูกหมา
ส่วน poppy love ทิกิไม่เอานะคะ แปลว่าความรักของดอกฝิ่น ค่ะ อิอิ อื๋ยย์ เล่นแรงจัง กระบี่รับใช้ !!				
5 กุมภาพันธ์ 2547 12:42 น.

ฤา...เมตตา...ไม่เคยระทม ...?

tiki



 ฤา...เมตตา...ไม่เคยระทม ...?      

วรรณกรรมแห่งความเมตตาต่อมวลมนุษยชาติ

เมื่อข้ามบทบาท..........ล้ำเส้น....ข้าม...ตัณหา

ไปเกี่ยวร้อย....ถ้อยความ........หวามอุรา

ใจก็พา........สลดใจ.......ในเพลิงธรรม  


 มือคู่นี้ละหรือ.....เคยถือเขียน

คำแวะเวียน........เพียรหา.......อักขราระส่า

ฤาเคยอ้อน........วอนในพจน์........บทระกำ

เคยถือคำ.....ยอกย้อน......วอนหัวใจ 


แล้วถือเศร้า.........ไว้ทุกบท.......ยินรดหลั่ง

น้ำตาพลั่ง.......พร่างมา.........คราชิดใกล้

เคยโศกตรม......ระทมทุกข์.........อยู่เพียงใด

ด้วยมิได้.........เมตตา.....ภาษากลอน 


 กินน้ำตา........ทุกบท.....และทุกบาท

น่าอนาถ.......ความไข.......ใครเคยสอน

ให้รินหลั่ง......เศร้ารันทด.....ทุกบทตอน

แล้วรินย้อน.....ร้อนรัก........ในอักขรา 


สิถามใจ........ใครคนนี้.....เคยขมไหม้

สักเพียงไร........ใจนั้น........เคยฝันหา

ระลึกหวาน.......ที่จารสอด.......กอดกายา

ลูบไล้ข้า........จากเรือนผม.....พรมทั้งกาย 


ที่รันทด......สลดใจ......ข้าฯได้รับ

เคยสดับ......รับรู้.....คู่ความหมาย ?

เคยไหม.....ได้ยินเสียง....ใจแทบวาย

เกือบปางตาย.......ด้วยฤทธิ์รัก......สลักวอน  


.ข้าฯนั่งนิ่ง........บัดนี้.......ที่ธารโศก

วิปโยค.....ชะโงกเงา........เจ้าวัยอ่อน...

ฤารู้รัก.......อักขรา.....กลับมาย้อน.....

มาไล่ต้อน.....ข้าฯให้ช้ำ....ระกำใจ 


 จึงจบบท.....เพียงเท่านี้.....ในสี่บาท

ด้วยอนาถ.....ใจของข้าฯ.......ซึ่งหมองไหม้

ร้าวรันทด.......รินหลั่ง......พลั่งทั้งใจ

ด้วยหน้าที่.....มีแต่ใจ.....ต้องเมตตา..!! 


และจบบท.....ที่กล้ำกลืน......อันฝืนทน

ร้าวระคน......หมองหม่น......ดูดั่งบ้า

ไม่ระวัง.......ในกลอนร้าว.......เขาส่งมา

รินรดข้าฯ......โศกธารา.....เกินกดใจ.... 




. ในนามของความรัก ..เมตตา..แต่ข้าฯเองเล่า ??? 
 ..เจ้านั้นเคยเมตตาข้าฯ หรือ ?? 

ทิกิ_tiki 
***************************************************************************************


ในแต่ละบท......แต่ละบาท.......เธอวาดหวาน

ดึงวิญญาน...ให้ผูกกัน....ให้พันใกล้..

..ให้ ร่ำร้อง.....เรียกขาน....วันผ่านไป

ให้รินรด.......หมดใจ....ให้แก่เธอ 


ดูทีหรือ.......อำนาจอักษร.......พรแห่งฟ้า

จะมัดข้าฯ........ทั้งกายา.....นาทีเผลอ

จะมัดข้าฯ.......ล้าดวงใจ.....ยามพบเจอ

อ่านพร่ำเพ้อ.......คำคม........คารม..วรรณ 


ดั่งต้องมนต์.......ดลสมาน....แห่งมานถ้อย

ซึ่งเกี่ยวก้อย......ร้อยไว้....แห่งใจฝัน

คำนั้นหรือ........ช่างดึงดื้อ......ถือดึงดัน

ช่างรุกรัน.....คมบาด....ให้ขาดใจ 


ข้าฯ....รินหลั่ง.......พจนา.......ในครานี้

มิถือดี......คิดว่าตน......นี้เป็นใหญ่

จะครั้งครา.......พบพูดจา.....ทุกคราไป

ขอน้ำใส.........ชะโลมใจ......ให้อาทร 


คือห่วงหา.......ห่วงฝัน....ทุกวันคืน

คือสดชื่น......ยามให้เห็น........ในอักษร

คือความฝัน.....บันดาล.....ในงานกลอน

อย่าร้าวรอน.....ดั่งไฟ...จงใสเย็น  


. ในนาม..ของความรัก..สลักฟ้า

ขอผ่านมา......แผ่ประกาย......ให้เล็งเห็น

ขอฝากความ......งามประกาย......ด้วยบำเพ็ญ

งามเมตตา.....โอบเย็น.....เป็นนิรันตร์  


ทิกิ_tiki 

13:22 พฤหัสบดี....๕ กุมภาพันธ์  พุทธศักราช ๒๕๔๗

ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน 				
5 กุมภาพันธ์ 2547 01:17 น.

วจี....ลี้ธรรม...บำเพ็ญ

tiki

วจี....ลี้ธรรม...บำเพ็ญ  


ข้ามจินต์..ผิน.........พลัดมา.........คราเพียงเฉียด

คำละเมียด........ความละม้าย........คล้ายเคยไข

ลิ้มรสคำ........ล้ำชีวิต........ค้ำจิตใจ

ยามเมื่อได้........ฟังพจนา........ค่ากวี........( ๑) 


กระแสคลื่น........เมตตา........คราพร่าพราว

คือแสงขาว........สว่างจ้า........ทุกคราที่

ลำดับใจ........ละเอียดอ่อน........ช้อนวจี

ผ่านภาวะ........ทุกข์โลกนี้........มีที่ไป
........(๒ ) 


จึงกางปีก........แผ่กว้าง........ว้าง...ห่มฟ้า

ให้เมตตา........โอบประทับ........รับขวัญใกล้

ผลักน้ำตา........เคยตกทุกข์........รุกเร้าใจ

ละเมียดละไม........ระแวดระวัง........ไม่พลั้งความ........(๓ ) 


เก็บรู้สึก........ส่วนตน........ไว้ก้นบึ้ง

อย่าคำนึง........ที่หวงหึง........อย่าพึงถาม

ด้วยหน้าที่........แผ่เมตตา........พยายาม

ให้ก้าวข้าม........มิติ........สิ..ฝึกไว้.!........( ๔) 


ไร้สีสัน........เพศวัย........ไร้วรรณะ

อีกพึงละ........ข้ามตัวตน........วนเลื่อนไหล

ตัดภพชาติ........สัญญาวิปลาส........คลาดห่างไกล

ตัดอาลัย........ข่มลง........ปลง..ละวาง........( ๕)..... 


 .หากตัดใจ........มิได้........อย่าไปทุกข์

ฉันยังสุข........แม้นปัญหา........มาหมื่นอย่าง

ไหล่นี้แบก........ไว้จนลู่........อยู่ทุกทาง

อย่าหม่นหมาง........กังวล........จนห่วงกัน.......( ๖) 


สู่สำเร็จ........ของงาน........แต่ละอย่าง

ค่อยค่อยก้าว........ค่อยค่อยย่าง........อย่าข้ามขั้น

ใช้ความเพียร........พยายาม........ตามฝันนั้น

สู่สำเร็จ........ลุล่วงพลัน........ที่**พยายาม **........( ๗) 


การเมตตา........ต้องก้าวข้าม........อคติ

ฉันทาคติ........จะโน้มเอียง........เพียงวาบหวาม

โมหาคติ........สิ..หลงไหล........ลืมดีงาม

โทสาคติ........จะหยาบหยาม........ต่อฝูงชน ........( ๘) 


.หากถือไว้........ที่เมตตา........คราวิพากย์

ย่อมชัดมาก........ถอดร่าง........วางสับสน

ให้ถอดใจ........ไปอยู่........กับผู้คน

แล้วหันกลับ........มองตน........จนเด่นชัด.......( ๙) 


ความรู้สึก........ส่วนตน........เก็บก้นตู้

อย่ารับรู้........**พวกของตน**........จะคน..สัตว์ ?

อย่ารับรู้........*ใคร?..พวกเรา*........เข้าผูกมัด

จึงเข้าสัจ..จะ*เมตตา*........โลกาธรรม........( ๑๐) 


ที่หน้าที่........เมตตา........อยู่หน้าที่

เขาทุกข์มาก........กาย..ใจ..วจี........อย่ารี่ซ้ำ

ช่วยถอนทุกข์........รุกให้คลาย........หายระกำ

เก็บความช้ำ........ฝังดิน........ให้สิ้นใจ........(๑๑ )..... 


 แม้นหากทุกข์........ยังรุกฆาต........ในชาตินี้

ก็พึงมี........วจีน้อม........ค้อมไว้ให้

พึงอ่อนโยน........ด้วยหัทยา........พึงพาไป

รับความทุกข์........นั้นไว้........ด้วยใจเรา........(๑๒ ) 


 เมื่อรู้รับ .......จับว่าทุกข์.......จงปลุกปลอบ

เอาความชอบ.......ในธรรมะ.......นะ..หว่านเข้า

ปลูกพืชพันธุ์.......*ฉันทะ*.......กะใจเอา

เมตตาหว่าน.......ผ่านนะเจ้า.......อย่าติดใจ........(๑๓ ) 


หากทำได้.......ก็หมายว่า.......ใจกล้าแข็ง

เมตตาแรง.......จึงยื่นออก.......อย่างผู้ให้

จึงกางปีก.......ห่มเมตตา.......นภาลัย

ห่มจิตใจ.......ผู้ทุกข์ทน.......จนนิรันตร์ ........(๑๔ ) 


Written in the night of Saturday  Jan 31st,2004
 Night Bazaar...
Bangkok...Thailand. 




. ในนามของความรัก....แลเมตตาไร้ขีดจำกัด  
ทิกิ_tiki 
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน 				
4 กุมภาพันธ์ 2547 05:09 น.

ฝันเหงาเหงาถึงเพื่อนเก่าแต่มัธยม

tiki

    เพื่อนรัก.....
คงยากจะหักใจไว้เรียกเพื่อน
นานมาก....นานจนเลิกคิดเตือน
เห็นเพื่อนช้ำ..เป็นลม..แทบล้มตาย

         โกรธมาก......
ไม่ลำบากเอาเพื่อนเธอมาขาย
โทรศัพท์หาแฟนฉันให้วุ่นวาย
สร้างนิยายเรื่องฉัน..**มันหลายใจ-*-

          เอาเข้าไป.......
อภัยให้เธอมาทั้งชีวิต..เพื่อนรู้ไหม ?
แปดร้อยเก้าสิบเก้าครั้งมังนับไว้
แม้นอดีตชาติยังต้องตามไปอภัยเธอ

        เจ็บไม่จำ........
จำไม่เจ็บเพื่อนเหน็บเข้าทีเผลอ
ชาตินี้คบนานมาเกินค่าเพ้อ
พูดตรงตรงฉันนี้เซ่อตามไม่ทัน


          อภัย.....
ให้แก่คนอิจฉาใจ...ซึ่งไหวหวั่น
ไหนเธอเลือกทางใกล้พระอรหันต์ ?
แต่ใยฉัน..ยังต้องฝัน...ให้ห่างเธอ?

         เย็นชา
แล้วเมื่อพบหน้า....คงหลีกให้เสมอ
เพื่อนรัก..เพื่อนตาย ? และเพื่อนเกลอ
หนาวใจ..สุดจะเพ้อ...อภัยอีกครั้ง !! 

อันเนื่องมาจากไดอารี
บ้าน bangkokcity.com/tiki

http://www.bangkokcity.com/2004/member/diary04/detail.php?boid=49690

เลยต้องส่งมาเป็นกลอนอีกแล้ว

ว่าจะไม่แต่งแล้วเขียวนา
. ในนามของความรัก  
ทิกิ_tiki 


. ความรักลอยห่างไร้...............คนเคียง 

นับเรื่อยมาเรียงเรียง....................ห่อนได้ 

เป็นฤาว่าขาดเพียง.......................บุญเก่า....เราฤา 

ฤาแข่งวาสนาไซร้......................พี่น้องวอนบุญ 


ก็เลยนำโคลงที่น้องเขียนและพี่ตอบมามอบให้เลยค่ะ 
ทิกิ_tiki 
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน  

-****----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------**** 
ยามนี้รู้พี่ท้อ ทำใจ 
แข็งแกร่งไว้นะพี่ มั่นได้ 
ร้ายผ่านแล้วมาดี มีแน่ 
พบแน่เพื่อนแท้ไซร้ ไม่แคล้ว จากกัน 
จาก : รหัสสมาชิก : 6797 - พฤศจิการาศี 


 
. จดจำโคลงว่าไว้..............โลกนิติ 
ดังเพื่อนกันนับสนิท..........พี่น้อง 
หากยามที่ภัยประชิด .........ตามเข่น....นี่ฤา 
หาใช่เพื่อนตายพ้อง..........ผ่านเข้าวงศ์เครือ 


รหัส - วัน เวลา : 215189 - 04 ก.พ. 47 - 07:44 

ในนามของความรัก ...แห่งมิตรสหาย ! 
ทิกิ_tiki 




  
อีกไม่นานมัธยมของเราก็ต้องกลายเป็นอดีต

ให้กลับมานั่งหวนคิดอีกครั้ง...อย่างอ่อนล้า

เวลาผ่านไป...อะไรอะไรก็ไม่เคยได้คืนมา

มีแค่ความทรงจำของตัวเองที่ยังค้นหา...ในเวลาที่เดียวดาย........ 

กลอนยาวไปหน่อย...แต่รู้สึกถึงเวลาอีกไม่นาน
ที่เราก็จะต้องจากเพื่อนไปแล้วเหมือนกัน...
ช่วงวัยมัยมเป็นช่วงที่เรามีความสุขกับชีวิตมากที่สุดเลยเนอะครับ 
*-* มันผ่านไปเร็วมาก ๆ เลยนะครับ *-*  

 จาก : รหัสสมาชิก : 6184 - พู่กันของหูกวาง  
 รหัส - วัน เวลา : 215192 - 04 ก.พ. 47 - 08:07  

 เพียงปีสองปีในชั้นมัธยมต้น

แต่เพียงว่าคนกำลังแตกเนื้อสาว

จึงทำอะไรพิศดารไม่เป็นเรื่องราว

สนุกสนานตื่นเร้าเมื่อนึกถึง.... 


 เพื่อนวัยนี้จึงจำฝังใจมั่น

ซ้ำดื้อรั้นต่อพ่อแม่เป็นที่หนึ่ง.

เพื่อนจูงจมูกไปไหน..ไปตะบึง

ไปตกหล่มโคลนถึง...ก็ยังไป 


ครั้นเติบใหญ่ได้คิดมิตรนี้หรือ

เคยนับถือว่าซื่อสัตย์เพื่อนตายได้

แต่กลับเปลี่ยนแปลงให้เห็นเป็นอะไร..?

พวกผู้ใหญ่เคยคิดเตือน...กลับเชือนแช.. 

**************************************

  เพื่อนมากมายหลายมิตรที่ติดต่อ
มีทั้งก่อทางดีเป็นศรีสรรค์
บ้างปนเปลอะเลอะเลือนคอยเฉือนกัน
ขอเท่านั้นเพื่อนเราอย่าเผาเรือน  

 
 จาก : รหัสสมาชิก : 2353 - ผีขี้เมา  
 รหัส - วัน เวลา : 215211 - 04 ก.พ. 47 - 10:23  
  

ต่อเวลานานนักหักไม่ได้

แต่ห่างไป..ต้องทำใจ...ไม่เชือดเฉือน

เรือนจะพังก็เพราะเพื่อนเราคอยเผาเรือน

ต้องคอยเตือนเพื่อนไม่ดี..อย่ามีเลย..!!!

... 
ทิกิ_tiki 


 ความรู้สึกดีที่เพื่อนให้

ยังคงจำมั่นในใจเสมอ

เรื่องราวที่เราเคยพบเจอ

ความทรงจำดีๆของฉันและเธอ..ยังเหมือนเดิม.. 


บางครั้งก็คิดว่าเพื่อนทำเหมือนเราเป็นคนอื่น ไม่เข้าใจเรา..
.แต่ตอนนี้ใครจะคิดยังไม่รู้ แต่ตะแหง่วจะเก็บเฉพาะสิ่งดีๆเท่านั้นไว้ในใจ จาก : รหัสสมาชิก : 5453 - ตะแหง่ว  
รหัส - วัน เวลา : 215250 - 04 ก.พ. 47 - 12:37  


ทิกิ_tiki 
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน  



  เพื่อน..ในความรู้สึกของเรน...
  ..คืออารมณ์ ..
          ..คือเข้าใจ..
      คืองอน ..คือง้อ...
         ..คือ..ยิ้ม..
    ..และสุดท้าย...
            คือรัก...
       ..รักเพื่อน .. มากๆเลยคะ..
   ภาพถ่าย ..มากมาย...
           ..เรนว่า...  สนุกที่สุด นะคะ..
      
 จาก : รหัสสมาชิก : 3384 - rain..  
 รหัส - วัน เวลา : 215414 - 04 ก.พ. 47 - 20:18  


เพื่อนเอ๋ย
คราวที่ผ่านมาล่วงเลยฉันเคยเว้น
ให้เธอเป็นคนทำให้ช้ำลำเข็ญ
แต่ฉันก็อภัยให้ทุกเช้าเย็นแด่เธอ

*-*เพื่อนรักย่อมไม่ทำร้ายเพื่อนค่ะ  กลอนไพเราะมากเลยค่ะ*-*
 
 จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา  
 รหัส - วัน เวลา : 215558 - 04 ก.พ. 47 - 23:24  


อย่าตั้งความหวังให้เหนื่อยเปล่า
ว่าคนที่เป็นเพื่อนเราต้องเปอร์เฟคประมานไหน
ต้องพร้อม ต้องเก่ง ต้องมีนิสัยดีกว่าใคร
ต้องรับฟังทุกปัญหาได้และยอมรับกัน

เพราะไม่มีใครจะสมบูรณ์สำหรับใครได้เท่านี้
เมื่อคนละหัวใจที่มี ก็แตกต่างกันไปทั้งนั้น
ความเป็นเพื่อนแท้ความหมาย จึงไม่ได้อยู่แค่เจอหน้าทุกวัน
หรือแต่งตัวเหมือนกัน ฟังเพลงวิทยุคลื่นเดียวกันซ้ำๆไป

และอย่าวาดจนความรู้สึกอึดอัด
ด้วยไม่มีเส้นดินสอใดจะวาดเส้นความผูกพันชัด ทั้งหมดได้
ในวิชาคณิตศาสตร์ รากที่สองของ4 คือสองเสมอไป
แต่ในวิชามิตรภาพ ทุกรากของเพื่อนคือจริงใจ
~~~ เคียงข้างกันในวันร้องไห้ ไม่ซ้ำเติม.....

**** เหะๆ ... เป็นอย่างนี้แหละมั้งเพื่อน ^^
 
 จาก : เมจิคเชี่ยน  
 รหัส - วัน เวลา : 215579 - 04 ก.พ. 47 - 23:51  
				
3 กุมภาพันธ์ 2547 13:39 น.

จงถอดใจ........ฝากครู.......ก่อนดูกลอน

tiki




 เหวย...เหวย.....ลูกทั้งผองของข้าฯ 

เจ้าจะเก่ง...........จะกล้า.......มาแต่ไหน 

ฤาว่าเจ้า........ได้เรียนรส........จนหมดใจ 

จึงกล้าข้าม.......ข้าฯไป.........ข้างในกลอน 


.นั่น! ล้วนหลาก.........อักขรา........อันสีสัน 

ต่อสวรรค์.........มาอ่าน......ก็ยังอ้อน 

ฤาพวกเจ้า.......ไร้ใจแล้ว.......จึงแคล้วคลอน 

ฤาเจ้าถอน.....ใจไว้........ที่ไหนฤา ? 


บ้างเพ้อพจน์.....รจนา.......ภาษารัก 

บ้างตะหวัก.......กระบิดกระบวน........ชวนเคืองชื่อ 

บ้างกราดเกรี้ยว......เลี้ยวหา......สักฝ่ามือ 

บ้างซึมกระทือ.......ท้อทด.........หมดหนทาง 


บ้างก็รัก.........ก็หลง.......พะวงหา 

บ้าง........เลือดเย็น........ทรมา.........ไปทุกข้าง 

บ้างกรี๊ดกร๊าด......ขำตะบัน.......ไล่ฝันวาง 

บ้าง.....เมินหมาง.......ให้ตามง้อ......ล่อหลอกใจ 


เหวยเหวย........ลูกเอ๋ย......ฝากไว้ก่อน 

หากหัวใจ.......เจ้านี้อ่อน......สะท้านไหว 

ถอดมาฝาก.......ไว้สักห้อง.......กล่องดวงใจ 

อ่านทุกบท.......จบไซร้......ค่อยไขคืน 


มิหากคบ.........ไปนานนาน......เกรงฝันค้าง 

กลอนจะจับ......จนรุ่งสาง.......ปลุกไม่ตื่น 

จะกินนอน........อักษรจะครอบ.....กลอนกอบกลืน 

แล้วจะล้ม......ทั้งยืน.......แม้นชาตรี..... 


พ่อไม่อยาก......จะบอก......หรอกลูกเอ๋ย

ว่าอักษร......กลอนที่เอ่ย.....มันแรงรี่

จะกระชาก......ลากใจ .....ไร้ใยดี

ทำป่นปี้.........มาแต่นัก......ถึงหักพัง 


ด้วยหลงใหล......ไม่จำแนก...แหวกรูป...นาม

เจ้าจึงข้าม........บทเรียน.....เวียนตามหลัง

หากระลึก.......ตรึกสักนิด......สะกิดภวังค์

ว่าใจนั่ง.......ตามดู.......รู้นามใจ 


 ว่าเป็นรูป.....ตัวอักษร......ที่ย้อนยอก

รูป..นาม...จะคอยบอก.....ในเงื่อนไข

หากไม่รั้ง......ระวังจิต......คอยปิดภัย

ก็ลูกเอ๋ย.......ชักดิ้นไป.......ไปตามกลอน 


เค้าหลอกแกล้ง......ให้เจ้าหลง.......พะวงนัก

จึงเร่าร้อน......ฤทัยรัก........คำหวานอ้อน

จะโยกไป.......ก็ไม่กลับ......พิษจับจร

สวรรค์ย้อน.....นรกย่ำ......คำพิษใจ 


 เอ้าลูกเอ๋ย.....อ่านแล้ว......ไม่รู้สึก

ไม่จับใจ........ลึกลึก.......ก็มาใกล้

มารับใจ........อันอ่อนโยน.......เจ้าคืนไป

ให้สดใส......ทุกทิวา.....ราตรีกาล 


. ในนามของความรักและเมตตา ..!  

ทิกิ_tiki 
ไร้สีสันวรรณะเพศวัยไร้ตัวตน 				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki