27 มิถุนายน 2547 00:39 น.

งามประเทืองสู่เบื้องปลายคำโคลง แลกลอนแจงนิราศสุนทรภู่

tiki

งามประเทืองสู่เบื้องปลายคำโคลง แลกลอนแจงนิราศสุนทรภู่


          ๏    วางกลอนวอนว่าไว้............วันวาร

ลุยี่สิบหกจาร..........................ฝากไว้

ระลึกวันเลือนกาล....................คำเอ่ย...เอื้อนเฮย

ฝากพี่ฝากผองไซร้...................ซื่อซ้ำคำครู   ๚     
 

         ๏ *นิราศแรกแจกเรื่อง *นิราศเมืองแกลง*

พ.ศ.แถลง.สองพันสามร้อยห้าสิบหนา(พ.ศ.2350)

นิราศพระบาท แต่งในคราสเดียวกันมา(พ.ศ.2350)

เจ็ดหนึ่ง(พ.ศ.2371)ว่า..สุวรรณมาศ..นิราศภูเขาทอง   ๚

      ๏ นิราศเจ้าฟ้า_เณรพัด..นี้..ปีเจ็ดห้า (พ.ศ.2375)

นิราศอิเหนาปีเดียวครา พาแซ่ซ้อง (พ.ศ.2375)

นิราศสุพรรณบุรีปีเจ็ดเก้า  เข้าโคลงคลอง(พ.ศ.2379)

แปดห้าพ้อง..กลอนปราชญ์..นิราศพระประธม  (พ.ศ.2385)   ๚

        ๏  จำนรรจ์ ...**รำพันพิลาป**...อาบความเศร้า  (พ.ศ.2385)

เคยเนา..นิราศเมืองเพชรบุรี...ที่หลบขม

ส่งมือ..นิราศสุดท้าย..ปลาย คารม

ชื่นชม..ปีเก้าสอง.. ประคองกลอน (พ.ศ.2392)   ๚

      ๏   รวมนิราศเก้า(9) เรื่องเฟื่องสมัย

ฝากแดนไทยแผ่นดินแม่แลอักษร

ส่วนนิราศพระแท่นดงรังเจ็ดหก  (พ.ศ.2376)กลอน

สามเณรกลั่น ร่วมหมื่นพรหมสมพัตรสร ผู้แต่งกัน   ๚

       ๏   ท่านครูภู่ เพียงช่วยแจงแต่งแก้ไข

บางตอนให้ สวยงามความ สมฝัน

จึงเรียนมาตามตำราอย่าว่าครัน

ทั้งนี้นั้น ขอขอบคุณ  การุณย์ความ   ๚

           กราบพ่อครูท่านเจ้ากรมอาลักขณ์*ภู่* 


พระสุนทรโวหาร...เรียกสามัญว่า **สุนทรภุ่** นั้น ชื่อเดิมว่า *ภู่* 
เกิดวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙  เวลา๘:๐๐ น
 ตรงกับ วันจันทร์  เดือน ๘ ขึ้น ๑  ค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช ๑๑๔๘. 
ณ บริเวณ ฝั่งธนบุรี ใกล้กับพระราชวังหลัง

...ในแผ่นดินของ พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่   ๑  หลังสร้างกรุงเทพฯ (กรุงรัตนโกสินทร์) แล้ว ๔ ปี

เป็นกวีไทยที่มีชื่อเสียงและความเป็นเอกในเชิงกลอน 
.มีบรรดาศักดิ์สุดท้ายเป็นพระสุนทรโวหาร  รับตำแหน่งเป็นเจ้ากรมอาลักขณ์
เมื่ออายุ ๖๕ ปี และ ถึงแก่กรรม  ปีเถาะ ปี พ.ศ. ๒๓๙๘ สิริ รวมอายุได้ ๗๐ ปี 
 ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๔

ท่านได้รับเกียรติจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ องค์การยูเนสโก(UNESCO)
ได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม  โดยยกลำดับขึ้นเป็นหนึ่งในกวีเอกโลก

เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙ รัฐบาลไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการฉลอง ๒๐๐ ปี กวีเอกสุนทรภู่ขึ้น 

นับว่าท่านเป็นกวีสามัญคนเดียวที่ได้รับการสดุดียกย่องอย่างสูง 

งานที่มีชื่อเสียง มิเพียงบทละครเช่น พระอภัยมณี ฯลฯ 
แต่นิราศ ทั้ง ๙ เรื่อง ตามลำดับนี้ คืองานชิ้นงามมีคุณค่า ในการบันทึกภาพประวัติศาตร์ ภูมิศาสตร์ และวัฒนธรรมไว้ใน ลีลาบทกลอน ของท่านอย่างงามที่สุด
*
๑...นิราศเมืองแกลง*(พ.ศ.๒๓๕๐)
๒...นิราศพระบาท (พ.ศ.๒๓๕๐)
.๓...นิราศภูเขาทอง   .(พ.ศ.๒๓๗๑)
๔ ..นิราศเจ้าฟ้า...(พ.ศ.๒๓๗๕)
๕...นิราศอิเหนา..(พ.ศ.๒๓๗๕)
๖....นิราศสุพรรณบุรี..(พ.ศ.๒๓๗๙)
๗...นิราศพระประธม ...(พ.ศ.๒๓๘๕)
๘....**รำพันพิลาป**.....(พ.ศ.๒๓๘๕)
.๙...นิราศเมืองเพชรบุรี..(พ.ศ.๒๓๙๒)

ทิกิ_tiki

เวลาบันทึก ๒๓:๕๐ 
 คืนพระเสาร์ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๗

ท่านที่ต้องการค้นคว้าข้อมูลทั้งหมด   ที่ รวบรวมข้อมูลของทั้งหมดได้ที่

http://www.thaipoem.com/web/boarddata.php?id=3292				
25 มิถุนายน 2547 22:04 น.

จากพระสุนทรโวหาร สู่...บำนาญกวี

tiki


จากพระสุนทรโวหาร สู่...บำนาญกวี

                      ๏  วางกลอนวอนว่าไว้............วันวาร

                     ลุยี่สิบหกจาร..........................ฝากไว้

                    ระลึกวันเลือนกาล....................คำเอ่ย...เอื้อนเฮย

                    ฝากพี่ฝากผองไซร้...................ซื่อซ้ำคำครู... ๚ 


                ๏ สมดั่งเป็นกวีเอกเลขหนึ่งโลก

           สะพัดโบกขจรเรื่องเปรื่องคำหวาน

          พระอภัยมณีชี้เด่นเช่นนิทาน

          แทรกอาการเหล่าฝรั่งคลั่งล่าเมือง


           ๏ ได้ยกย่องก้องโลกาค่าชื่อไทย

        ณ.แห่งไหนย่อมเด่นคำล้ำกระเดื่อง

       ค่ากลอนไทยให้ต่างฃาติได้ประเทือง

      มาค้นหาตามเรื่อง..เฟื่อง..สามัญ


            ๏  ถึงว่าถือศักดินาค่าคุณพระ

      ศักดินาว่าจะจะสองพันนั่น

    เป็นไร่นาสืบมาเป็นสำคัญ

   แต่สืบพลันลูกหลานท่านอยู่หนใด...?


          ๏  เป็นกวีไร้สิทธิ..มิสำคัญ

     ลิขสิทธิ์ทั้งนั้นอยู่ชั้นไหน

   พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ตราติดไว้

   กวีไทยคงตาหลับ..นับถือวงศ์


        ๏  ค่าลิขสิทธิ์ไม่ปิดกั้นถึงชั้นหลาน

   จะสืบสานยกระดับนับเคียงหงส์

  ใช่แฮรี่พ็อตเตอร์เพ้อจำนงค์

   ขอเผ่าพงศ์วงศ์กวีจงดีใจ.. ๚ 

(...๑...)


ตามประวัติความเป็นมา สุนทรภู่ ท่านเกิด วันจันทร์ เดือนแปด ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช 1148 เวลาเช้า 2 โมง 
ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 ในรัชกาลที่ 1 ที่เกิด  กรุงเทพฯ 
(ความจาก คุณ ชมนาด เสวิกุลในหนังสือเรื่อง ประวัติชีวิตและผลงานของสุนทรภู่
ได้กล่าวถึง สุนทรภู่ไว้ว่า
              สุนทรภู่
พระสุนทรโวหาร...เรียกสามัญว่า **สุนทรภุ่** นั้น ชื่อเดิมว่า *ภู่* เกิดวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329
ตรงกับ วันจันทร์  เดือน 8 ขึ้น 1ค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช 1148 เวลา 8.00 น. ณ บริเวณ ฝั่งธนบุรี ใกล้กับพระราชวังหลัง)
...ในแผ่นดินของ พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ๑ (หนึ่งนะคะ )  หลังสร้างกรุงเทพฯ (กรุงรัตนโกสินทร์) แล้ว 4 ปี
เป็นกวีไทยที่มีชื่อเสียงและความเป็นเอกในเชิงกลอน 
.มีบรรดาศักดิ์เป็นพระสุนทรโวหาร ถึงแก่กรรม  ปีเถาะ รวมอายุได้ 70 ปี 
 ปี พ.ศ. 2398  ในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 
ท่านได้รับเกียรติจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ องค์การยูเนสโก(UNESCO)
ได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม หรือนัยหนึ่งเป็นกวีเอกของโลก โดยยกลำดับขึ้นเป็นหนึ่งในกวีเอกโลก
เมื่อ พ.ศ. 2529 รัฐบาลไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการฉลอง 200 ปี กวีเอกสุนทรภู่ขึ้น 
นับว่าท่านเป็นกวีสามัญคนเดียวที่ได้รับการสดุดียกย่องอย่างสูง 
ทำให้ ฐานันดรศักดิ์ของกวีไทย ที่ถูกกล่าวหามาตลอดว่า 
ใครเป็นกวี ก็ยากจนไปจนตาย ถึงชั้นลูกหลานนี้ น่าจะเปลี่ยนไปได้
และ สำหรับเรื่องนี้ ซึ่งเขียนถึง


บำนาญกวี............

        ๏   ฐานันดรศักดิ์..พรรคพวกยศ..หดตามโลก

กวีโศกไม่มีจะกินถิ่นไหนไหน

กวีจะเรียนไม่มีเงินเรียนหากอ่านเขียนไทย

กวีอะไร ...ฤๅกวีไทย...ต้องทุกข์โศกตรม


        ๏    นับแต่กาล....ผ่านมา ...ถึงครานี้

สองร้อยปี ท่านกวีภู่...ดูสง่าสม

แต่หากอ่านประวัติท่านซึ่งซานซม

เห็นจำข่มใจลาน้ำตาคลอ


        ๏   ด้วยใจน้อยใจนิดคิดกันหรือ

จะมาถือยศศักดิ์อัครฐานหนอ

ข้าฯชั้นสูง...เอ็งชั้นต่ำ...ร่ำขมคอ

เกิดและตายฤๅจักพอแผ่นดินไทย  ๚ .

...(๒..)        เช้าขึ้นปลายเดือน   ใจไม่ลบเลือน เป็นเดือนเกิดครู

ที่ยี่สิบหก    ยกขึ้นเชิดชู    ใจชื่นรับรู้     จะอยู่แห่งไหน

ส่วนผองเพื่อนเรา   เข้ามาอ่านกลอน   ก่อนนอนสุขใจ

รุ่งขึ้นตื่นมา     วันทา ทันใด      ขึ้นครูดูไหว้     จิตไม่ระคาง

ได้เรียนได้ร่ำ     ตามครูตามคำ    สุรางคณางค์

กาพย์นี้เจ็ดบาท    เพียรวาทย์คาดวาง   สดสวยสะอาง      สว่างเสาวคนธ์

ชื่นชอบฉอเลาะ     ครูสอนว่าเพราะ    อย่าเยาะอึงอล

เบิกความตามเจ้า    เขียนเข้าด้วยคน   สุรางคณางค์ผล      เขียนมนต์เช้างาม   ๚

กาพย์สุรางคณางค์
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_55978.php


๏    วางผังวางทางอย่างเคียง      เตรียมส่งเสบียง
หาเลี้ยงเพียงกาพย์ฉบัง

     ส่งเสียงเพียงถ้อยความหวัง     ห่างหนคนชัง
ไกลรังแกจิตคิดหวน

       ความรักหนึ่งเหเซซวน....     พ่ายแพ้กระบวน
ทบทวนความแปลกแตกต่าง

      หนึ่งคนหนึ่งรักหักวาง       เพียงเรียงพยางค์
ส่งคว้างฉบังผังความ..

       เทิดครู   ภู่  คนดลยาม.........ขจัดขวากหนาม
แลงามด้วยพระคุณครู.  ๚ 

กาพย์ฉบัง ๑๖


         ๏ สองกรวอนไหว้ครูภู่.              เทิดพระคุณครู              ก้มคู้งอราบอินทรีย์    

เหตุด้วยบูชาครูนี้.           คุณชาติบาทมี            รองพลีบิดรมารดา

ครูเอื้ออำนวยอวยมา         ทุกศาสน์วาทย์พา        ครูบาพาเจริญธรรม 

ยึดคำครูล้นพ้นกรรม         ละบาปบุญนำ           ส่งให้แต่ได้มิตรดี... ๚ 

กาพย์ฉบัง ๑๖
  ทิกิ_tiki 

       ๏  ก็แม้กระทั่งลูกหลานตนเองยังไม่ทราบเลยว่า  บุพการีตนเขียนอะไรไว้ที่ไหนบ้าง เมื่อคิดเป็นมูลค่าแห่งการพิมพ์ แม้อย่างน้อย 5 -10 เปอร์เซ็นต์อันเป็นค่าลิขสิทธิ์การพิมพ์นี้ ... ลูกหลานก็มองเป็นของไร้ค่า...นิดน้อย.
        ..แต่ขอให้คิดเถิดว่า  ผู้เฒ่าผู้แก่นี้นั้นหมายใจจะให้ ลูกหลานไว้เป็น  บำนาญกวีให้ได้ดื่มกินใช้ต่างหน้าแม้นผู้เขียนจะจากโลกกันไปก็ตาม
      จึงทำให้ยังน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ว่า ฐานันดรศักดิ์ ของกวีศรีสยาม นั้น ยังไม่ไปไหนไกลเลย .....คงมีคนเพียง กระหยิบมือเดียว ซึ่งจะยังสนใจบทกลอน อ่านกลอน เขียนกลอนกันอยู่   ๚ 

   ๏ บทนี้เขียนให้ต่อเนื่องจาก บทที่แล้ว..รำพึงถ้อย พระ(ครูศรี)สุนทรโวหาร
http://www.thaipoem.com/web/poemdata.php?id=55872
คงขอไปเรื่องสั้นดีกว่านะคะเพราะยาวมากแล้ว
http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2704
     
 ๏ ท่านที่ต้องการค้นคว้าข้อมูลทั้งหมดที่ รวบรวมข้อมูลของทั้งหมดไว้ที่
กระทู้ซ้ายสุดของหน้าแรก
http://www.thaipoem.com/web/boarddata.php?id=3292

เชิญเข้าไปค้นได้ค่ะ
.(...๑...)
 tiki_ทิกิ  - [ 24 มิ.ย. 47 17:02:41 ] 
...(๒..)     
21:50 นาฬิกา 25 มิถุนายน 2547

สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved  

    ทิกิ_tiki				
25 มิถุนายน 2547 16:38 น.

ดนตรี:*``*:-คือชีวิต

tiki

เชิญสดับ...ฟังดนตรีเถิดชื่นใจ...บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ 
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=332
     
        ๏ เสียงดนตรี:*``*:-คือชีวิตสิทธิ์หวามหวาน
ถ้อยสมานเสียงเซาะเสนาะหู
คลายทุกข์ร้อนผ่อนดวงใจใครหดหู่
บรรเลงกู้กระตุ้นใจให้คืนเย็น   ๚

      ๏ บรรเลงรื่นชื่นบานสมานฉันท์
เริงรำพันสรรค์สร้างพร่างความเห็น
เสนาะโสตโลดผ่านสานประเด็น
สงบร่ำพร่ำกระเซ็นเย็นชื่นทรวง   ๚

         ๏ ฟังดนตรีผ่อนคลายหายหนักเหน็บ
ซึ่งเคยเจ็บก็กลับคลาย สลายร่วง
ผลักเบื้องทุกข์รุกให้หายคลายความลวง
ใจดวง...กลับโดดเด่น..เป็นหนึ่งใจ   ๚

        ๏ ผสาน..สมาธิ...ให้ผลิผ่าน
ราวผกา...แย้มบาน....ซร่านไสว
ผลักหมอก...อันกลอกกลุ้ม...รุมฤทัย
ชีวินฉัน....กระจ่างใส...หทัยเย็น...๚ะ๛-    

ทิกิ_tiki
เคาะแป้นพิมพ์ ..จารหน้าจอ เมื่อ  ๑๖.๐๐ นาฬิกา เพลาบ่ายใกล้เย็น
วันพระศุกร์  ที่ยี่สิบห้า...๒๕ มิถุนายน  พุทธศักราช ๒๕๔๗
ขึ้น ๙  ค่ำ เดือน ๘
สยาม..กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร....ประเทศไทย

สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved  

เสียงดนตรี:*``*:-คือชีวิต				
24 มิถุนายน 2547 13:47 น.

๏รำพึงถ้อย..๏พระ(ครูศรี)สุนทรโวหาร ๚ .......

tiki

เทิดคุณครู ...พระครูศรี....กวีสวรรค์ 

ครูท่านสรรค์..สุนทรศรี....กวีศร

ข้าขอจารจารึกคำ...พระสุนทรฯ

ด้วย โวหาร...กวีกลอน...ท่านเลิศไกล  ๚ ..........๑

     ๏ พระเดชพระคุณ..ครูมิพ้น....ล้นท่วมหัว

จะดีชั่ว...ฤามัวเมา...อับเฉาไฉน

พระคุณท่าน...ทอดยาว ....ราวปัดภัย

หัตถาไซร้...ลูบศีรษะ...นะ..เมตตา  ๚ ..........๒

   ๏ อ่านถ้อยคำ...จำบทครู....ไว้คู่จิต

เพียงพริ้วบิด...พลิกพริ้วความ..งามล้ำค่า

พระคุณล้น...บนกระหม่อม...เสมอมา

ท่วมดินฟ้า....ใช้ถ้อยคำ...ไม่หนำทรวง  ๚ ..........๓

     ๏ จะพลิกพริ้ว...ชิวหา...คราปลอบขวัญ

จะรำพัน...... ผันออเซาะ..เพราะล้ำร่วง

จะเชือดเฉือน....ฟาดฉับ...ดับความลวง

ราวได้ควง...กระบี่ครู....อยู่ทุกวาร  ๚ ..........๔

    ๏ แต่ทั้งนี้...ต้องมี ...สัจจะตั้ง

ถ้อยระวัง....อัตตะ...มานะผ่าน

ใช้เมตตา....คราเกื้อหนุน...คุณ ..ครูจาร

เป็นรากฐาน...กรุณา...ค่ายินดี   ๚ ...........๕

       ๏อีกยั้งใจ....เยือกเย็น...เป็นอ่อนโยน

ไม่ตะโกน...เย้ยหยัน..ขั้นเสียดสี

ไม่แช่งชัก...หักกระดูก...ผูกราวี

ไม่ถือดี......เยาะซ้ำ...ถ่มน้ำลาย  ๚ ..........๖

     ๏..บนอัตตา...ตัวตน...คนสุภาพ

ไม่หยามหยาบ....ให้เคืองขุ่น....การุณย์หมาย

ถือเมตตา...กรุณา....ไม่ระคาย

ชนทั้งผอง......ไม่ข้ามกราย....ย่ำใส่ครู  ๚ ........๗

     ๏..เป็นผู้รู้....ด้วยเพราะเรียน....เพียรหลายชาติ

เคยฝึกมาด...วาทย์กาพย์กลอน.......วอนโคลงหรู

แต่ชาตินี้.....อย่าหยิ่งหยัน....เข้าพันตู

เสนาะหู....ยามเจรจา....ฤาว่าความ  ๚ ............๘

     ๏..ย่อมสบใจ...ใสซื่อ...ถือคุณ...ชาติ

ช่วยประกาศ.....กวีไทย....ในสยาม

ช่วยโอบเอื้อ.....วิญญูชน...คนงดงาม

วาทย์วาววาม....ความไพเราะ...เสริมเหมาะใจ  ๚ .............๙

     ๏..เทิดคำครู...พ่อภู่ไว้...ให้เนืองนิตย์

คิดก่อนพูด.....พูดแล้วมิตร....จะแจ่มใส

มากมายพจน์.......รจนา......ภาษาไทย

คือสอนให้......เจรจา.......ถ่อมคารม  ๚ ..............๑๐

     ๏...***ปากเป็นเอก..เลขเป็นโท..ชั่วดีเป็นตรา

จะพูดจา..จงพิเคราะห์...ให้เหมาะสม

แม้นพูดดี...มีคน..ชนนิยม

แม้นพูดชั่ว...ครัวจะล่ม...คมดาบฟัน  ๚.............๑๑ 

     ๏...คะนึงแล้ว....หวังแก้วตา...เจ้ายาใจ

อ่านคำไข....ไหว้พระครู....พ่อ**ภู่**ฉัน

ได้พิเคราะห์....เหมาะความ.....ข้ามจำนรรจ์

ร่วมสร้างฝัน....วรรณไหว้ครู.......ชูภาพพจน์  ๚ ...............๑๒

     ๏   ครูสอนว่า..*****อย่าไว้ใจมนุษย์

มันแสนสุด...ลึกล้ำ.....เหลือกำหนด

ถึงเถาวัลย์...พันเกี่ยว...ที่เลี้ยวลด

ย่อมไม่คด...เหมือนหนึ่งใน....น้ำใจคน*****1   ......... ๚ะ๛-..

..@..,_,.-:*``*:-.,_ฝันนั้น:-.,_,.-:*` 
ผิดกฎหมายด้วยฤา?.-:*`*``*:-.,_,...@ .-: 

บทกลอนพระ(ครูศรี)สุนทรโวหาร ท่านสุนทรภู่...**พระอภัยมณี**

***แล้วสอนว่า...อย่าไว้..ใจมนุษย์

มันแสนสุด...ลึกล้ำ.....เหลือกำหนด

ถึงเถาวัลย์...พันเกี่ยว...ที่เลี้ยวลด

ย่อมไม่คด...เหมือนหนึ่งใน....น้ำใจคน*****1  


  `*:-.ฤา,_,.-:*``ฝันนั้น*:-.,_,.-:*``มิใช่สิทธิ์ *:-.,_,.-:*``*:-ของฉัน ? ,.-:
*``*:-.,_,.-::-.,_,.-:*``*:-  

การที่ข้าพเจ้าเรียก พระสุนทรโวหาร ว่า พระ ครูศรี สุนทรโวหาร นี้ ก็หมายว่า
ข้าพเจ้าได้ยกเทิดท่านขึ้นเป็นพระครูศรี....กวีสวรรค์ สุนทรสรรค์...กวีศรตามบทกลอนของข้าพเจ้านำไป มิได้เอ่ยอ้างล่วงเกิน
ท่านผู้ใด อภัยด้วยเกล้าฯ 

เคาะแป้นพิมพ์ ..
จารจดลงเวลา.ณ. หน้าเครื่อง 
กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร...ประเทศไทย
เมื่อ  ๑๓.๑๐ นาฬิกา เพลาบ่าย
วันพระ...พระพุฤหัสบดี วันครู.
ที่ยี่สิบสี่...๒๔  มิถุนายน  พุทธศักราช ๒๕๔๗
ขึ้น ๘  ค่ำ เดือน ๘

สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved  

ทิกิ_tiki
๏รำพึงถ้อย..๏พระ(ครูศรี)สุนทรโวหาร ๚ .......				
24 มิถุนายน 2547 04:26 น.

น้อมเศียร คารวะครู

tiki

ลำดับ ๙ : น้อมเศียร คารวะครู    
tiki  
        
        นิ้วทั้งสิบ  ขึ้นพนม      ก้มเกศา

ด้วยจิตข้า ฯ      ขอระลึก        ถึงครูภู่

เปรียบยิ่งกว่า    เบื้องปฐม        บรมครู

ขอเชิดชู         ทุกบทกลอน      คอยสอนใจ


        ความจำหลัก        ทักทุกบท      สอนทุกบาท

ไทยเป็นชาติ         กลอนกวี            ที่ยิ่งใหญ่

เพราะครูนั้น         ถ่ายวิชา              ทุกคราไป

หวังเพื่อให้            ศิษย์ระลึก           ฝึกจดจำ


    น้อมเศียร  คารวะครู


ทุกบทกลอน     ทิ้งให้คิด           สะกิดเสมอ

ยามพลั้งเผลอ          ยินคำสอน           ครูวอนสั่ง

คอยปลุกปลอบ         ใจให้สู้                    ครู..ทุกครั้ง

สติตั้ง                      เพียรอยู่              มิรู้คลาย


       จึงกราบบาท        กลบท               จรดหน้าผาก

ว่าถ้าหาก                      ดวงจิต             คิดขึ้นได้

ขอให้ครู                     รับรู้                   อยู่มิวาย

ข้าฯนั้นไซร้               ระลึกบุญ             พระคุณครู 


ทิกิ_tiki  


35730 - ผู้ชม 182   ผู้ตอบ 8  
 Written by :   tiki  
 Posted by :   รหัสสมาชิก : 4895 - tiki  
 Source :   -  
 Date - Time:   26 มิ.ย. 46 - 03:04  
 Note :   -  
 E-Mail :   nickmansl@hotmail.com  
 URL :   www.thaipoem.com  


เทิดพระคุณ ครูไว้ จากใจข้าฯ  
 จาก : tiki  
 รหัส - วัน เวลา : 151936 - 26 มิ.ย. 46 - 03:28  
				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki