10 กรกฎาคม 2547 14:48 น.
tiki
๏ ๏ เพียงลม...พรมเธอเลือน๏ ๏
๏ ลอยเลื่อนเลือนลับราวดับหลัง
ภวังค์ข้องจิตนิมิตผ่าน
เพียงรูปแลเงาเคยเฝ้าจาร
สำราญอารมณ์พริ้วพรมไป๚
๏ หวนหาคราฝันวันเก่าก่อน
อาลัยใจสะท้อนหวั่นไหว
รักเอ๋ยมิเคยเอ่ยข้ามใจ
เกิดแต่หนใดใจจึงครวญ๚
๏ ปลิดดอกมาลีขยี้ทิ้ง
ใจนิ่งรำพึงถึงถ้อยถ้วน
เคยเย้าหยอกเล่นเช่นผองมวล
รัญจวนแหวกจิตมิตรทักทาย๚
๏ เกลอเก่าข้องแวะแตะที่เห็น
กระเซ็นถ้อยความยามสลาย
หัวใจหลีกเร้นเค้นจากกาย
ละม้ายแยกสองไม่ปรองกัน๚
๏ หวั่นฤทัยไกลหลีกปลีกภพ
สองประสบก็เพียงแต่ฝัน
ใจเอ๋ยพิศวาสบาทนั้น
รำพันเพียงฝากยากลืมเลือน๚
๏ เกยกรกระหวัดรัดรึงไว้
ดวงใจเคยชมภิรมย์เหมือน
ราวเทพน้อมนำจำตราเตือน
บิดเบือนความไปใช่เลือนจำ๚
๏ เก็บไว้ชะโลมใจก้นบึ้ง
คืนหนึ่งเคยพบเจ้าคมขำ
ในฝันคืนนั้น...วันเผยธรรม
ยืนค้ำ...ตระหนก...ตกอุรา๚
๏ คืนร้าว...ยืนพิศ...จิตพินาศ
ใจประหลาด...หวั่นไหว...กระไรหนา
เอื้อมหัตถ์...ชัดเงื้อม... เอื้อมคว้ามา
แต่ทว่าเพียงลม....พรมเธอเลือน๚ะ๛-
..@..,_,.-:*``*:-.,_ฝันนั้น:-.,_,.-:*`
ผิดกฎหมายด้วยฤา?.-:*`*``*:-.,_,...@ .-:
ทิกิ_tiki
``*:-.ฤา,_,.-:*``ฝันนั้น*:-.,_,.-:*``มิใช่สิทธิ์ *:-.,_,.-:*``*:-ของฉัน ? ,.-:
*``*:-.,_,.-::-.,_,.-:*``*:-
เคาะหน้าจอเขียน..
จารจดลงเวลา.ณ. หน้าเครื่อง
เมื่อ ๑๔:๑๕ นาฬิกา เพลาบ่าย
พระเสาร์ ๔ กรกฎคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
แรม ๙ ค่ำ เดือน ๘
สยาม..กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร....ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved
ทิกิ_tiki
๏ ๏ เพียงลม...พรมเธอเลือน๏ ๏
9 กรกฎาคม 2547 13:46 น.
tiki
๏ ๏ อยากลอยล่องไป...เมืองระยอง ๏ ๏
๏ดีกดื่นคืนนั้นฉันเมื่อยล้า
ดวงใจสว่างจ้าตาไม่หนัก
นั่งหน้าจอรอพิมพ์งานกานท์ที่รัก
จึงพบพักตร์เพื่อนพ้องระยองงาม.. ๚
๏พูดจาประสาไทได้หลายเพลา
ก่อนสนิทนิทรามักมาถาม
ดึกดื่นชื่นใจได้ต่อความ
พบปะยามดึกนั้นราวสัญญา.. ๚
๏จึงวันหนึ่งพึงหมายได้ตอบถ้อย
ผ่านใจคล้อยคืบนานผ่านคบหา
มิแปลกหนอรอพบปะพูดจา
ได้อัตถาสำเหนียกเพรียกพิจารณ์.. ๚
๏หนึ่งไม่สองงามระยองระยับยิ่ง
มิรู้จริงใดหนอจับมาขับขาน
ได้พบปะพูดคำล้วนสำราญ
ต่างเบิกบานวาจาภาษามิตร.. ๚
๏แล้วเธอเอื้อนเอ่ยความข้ามเชิญชวน
ว่าโปรดด่วนมาเยี่ยมเยือนเพื่อนสนิท
มาชมเมืองชาวระยองคล้องใกล้ชิด
มาเถิดมาได้เป็นนิจนะเพื่อนไท.. ๚
๏สำนึกย้ำคำกล้าท้าชวนคบ
จึงน้อมนบคำสัญญาจะมาใกล้
อีกผองเพื่อนไทยโพเอ็มหากเต็มใจ
จะชวนไปเมืองระยองล่องสักวัน... ๚ะ๛-
ทิกิ_tiki
จารหน้าจอ เมื่อ ๑๓.๑๕นาฬิกา เพลาบ่าย
พระศุกร์.ที่เก้า..๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
แรม ๘ ค่ำ เดือน ๘..วันพระอีกแล้ว
สยาม..กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร....ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved
ทิกิ_tiki
๏ ๏ตั้งใจว่าจะไปเมืองระยอง๏ ๏
8 กรกฎาคม 2547 03:22 น.
tiki
ฝากใจไว้ในบุญ...คุณปฐพีคำโคลง
๏
ดังลอยลงผ่านแล้ว................เลออินทร์
ติดกระแสติดดิน..............................เหวี่ยงชั้น
เทโครมร่วงปานบิน.........................โบยหล่น ...ฤๅแม่
ใจจะเหยียบหยามนั้น.......................แน่แท้ใจฤา... ๚..
๏ ผองใครใดด่าวดิ้น................แดนสวรรค์
ผองอย่าเหยียบหยามหยัน................หมกไหม้
สองตาอย่าปรายปัน........................ปานต่ำ....ดินเฮย
เพียงอยู่กับผองได้..........................หนึ่งแล้วนางจันทร์... ๚..
๏ สองตามาท่วมแท้................ ปฐพี
ใจหยั่งฝากนภศรี...........................ส่องหล้า
กายทอดนาบชลธี..........................เป็นดั่ง...มรรคเฮย
บุญเผื่อคนบาปกล้า.......................เกริ่นแล้วรอยกรรม ๚ะ๛-
ฝากใจไว้ในบุญ...คุณปฐพี
หญิงงาม อันคิดว่าตนนั้นลอยลงมาจากสวรรค์ชั้นฟ้ามากำเนิดในโลกมนุษย์
ด้วยสุดโศกเศร้าว่าเหตุใดตนจึงถูกเหวี่ยงลงมาจากสวรรค์ ชนิดยังติดบุญเก่าตนเองอยู่
เมื่อมาอยู่ในโลกมนุษย์นี้แล้ว ก็ทำท่าชิงชังรังเกียจสังคมผู้คนเขาอยู่เป็นนิตย์
แต่ให้พิจารณาดูว่า นางจันทร์ อันสูงส่ง
ดุจนางหงส์ นางยูงรำแพนหางนั้น
ควรจะได้รำพึงถึงบุญของนางอันสูงส่งนั้น
ว่าแท้จริงคนเราเมื่อมาอยู่ดิน
ก็ควรทอดกายไปบนน้ำอันแฉะเฉอะเปรอะเปื้อนดินนั้น
ให้ผู้คนได้ข้ามไปมาได้อ่านธรรมอีกฟากหนึ่ง ได้
หรืออย่างน้อยก็นั่งเป็นบาทบริจาแห่งพระหน่อชาติพุทธางกูรทั้งหลาย
อันเป็นพระหน่อชาติโพธิสัตย์ อันแสวงวิโมกวิมุตติ์ บำเพ็ญบารมีสิบทัศนั้นอยู่
ความก็มีดังนี้แลค่ะ
จารจรดเมื่อ คืนพระพุธต่อเช้าพระพฤหัส
เพลา ๒:๕๐ นาฬิกา คืนวันที่ ๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
แรม ๖ ค่ำ เดือน ๘
กรุงเทพฯคืนฟ้าฉ่ำฝน ประเทศไทย
สงวนลิขสิทธิ์.ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved
ทิกิ_tiki๚
ฝากใจไว้ในบุญ...คุณปฐพีคำโคลง
7 กรกฎาคม 2547 13:33 น.
tiki
๏ ใครบางคนฝากรำพึงซึ้งดวงจิต
ว่าไม่คิดนำรูปลงปลงนะขวัญ
ว่าพี่นี้เป็นหล่อมากเป็นสำคัญ
เกรงใจสาวจะจาบัลย์สนั่นเมือง ๚
๏ ใครบางคนก็โลมเล้าเว้าวอนน้อง
อยู่สามสองนางฉอเลาะเพราะปราดเปรื่อง
ไม่กล้าทิ้งรูปมาเกรงแควนเคือง
จะมีเรื่องอื้อฉาวถึงตบตี ๚
๏ลางคนว่าหนูนี้มีหลายหนุ่ม
ผู้แอบซุ่มแอบรักมักแอบสี
หากหนูเปิดโฉมหน้าจะกาลี
จะโดนดีโดนปืนถึงขืนใจ ๚
๏ ฤๅสังคมบ่มกวีนี้ไม่โลด
ระคายโสตกันส่งมาน่าสงสัย
จงเย็นใจเย็นเถิดจงเปิดไป
หน้านี้อยู่เพื่อวิสัยแห่งสามัญ ๚ ..
๏ ด้วยชนชั้นกวีไม่มีเล่ห์
ใช่กล่อมเห่เพื่อกวาดต้อนอ้อนหฤหรรษ์
แต่เพื่องานอักขราวาทะนั้น
ได้แบ่งปันฝากดินก่อนสิ้นใจ ๚
``*:-.ฤา,_,.-:*``ฝันนั้น*:-.,_,.-:*``มิใช่สิทธิ์ *:-.,_,.-:*``*:-ของฉัน ? ,.-:
*``*:-.,_,.-::-.,_,.-:*``*:-
ทิกิ_tiki
จารจดเมื่อ ๑๒: ๕๕
พระพุธ วาจาคม วันที่ ๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
สงวนลิขสิทธิ..ตามพระราชบัญญัติ
Copyright ..All rights reserved
ทิกิ_tiki
๏ ๏ ใจกวีไม่มีเล่ห์๏ ๏
7 กรกฎาคม 2547 00:50 น.
tiki
คืนวันรัญจวนปั่นป่วนจิต
มิ่งมิตรอยู่หนไหนใจฝากฝัน
นั่งนับนอนนึกคะนึงวัน..
.หัวใจรำพันฝันถึงเธอ.....tiki_ทิกิ.
อยู่แห่งไหนใกล้ไกลจากตรงนี้
รู้ไว้นะคนดี....คิดถึงเสมอ
แม้นวันคืนล่วงผ่านมิเจอะเจอ
อยากบอกเธอรักเสมอรักเธอจริง.....atm
สุดฟ้าฝากฝันเดือนจันทร์ฉาย..
.ดารารายล้อมห้อมทุกสิ่ง
เมฆเคลื่อนเลือนลับอับประวิง..
..หยุดนิ่งเพียงฝันพรรณราย... ..tiki_ทิกิ.
...งามปลอดเจ้ายอดชีวัน...
...งามล้ำดั่งจันทร์ทรงฉาย.........
...หากชีพนี้ต้องพลีมลาย.......
....คงไม่หมายได้เจ้ามาเคียงครอง.........@...เอกมาศ
....มองเมียงยินแต่เสียง วิหค......
.........คราพลบจบแต่ใจใช่...เราสอง
...........คราเพลเพลา ..เอกมาศ
ดุจจะท้าประลอง
ต้องหม่นหมองถอนใจไม่วางวาย tiki_ทิกิ.
ก่อนจากไกลเธอเคยประวิงว่า
จะกลับมาคู่กันสมใจหมาย
จะรักกันจนกว่าตัวมลาย
จะรักกันจน*สุดท้ายตายจากกัน .......atm
บัดนี้ห่างร้างแล้วเจ้าแววหวาน
เคยพ้องพานถ้อยครวญเคยป่วนปั่น
แต่บั้นปลายคือกายทอดยอดชีวัน
ทิ้งฉันให้ขวํญผวาคราดายเดียว..tiki_ทิกิ.
...........โอ้ ดวงจิต คิดกระไรแลฤา........
.......ลงวาจาเฉกนี้หรือเช่น อยู่ดายเดี่ยว....
...........ใครกันเล่า คิดถึงเจ้าอยู่นางเดียว.......
............โอ้ คิดแลเหลียวพี่นี้ก็ ชื่นจิต......
...........ในวังวารพาลเพลาให้ ลาหลีก.....
........หวนคิดอีก วิเวกกาล คานถูก-ผิด
........ประวิงประวาย...กายกายา ที่คราคิด...
........เนื้อ..นางนิด สัมผัสนี้ให้พี่ครวญ.... ....@...เอกมาศ
วิโยครักหักแสนแม้นวิบาก
มาซ้ำซากฝากจิตให้คิดหวน
แสนระกำซ้ำซากจะเซซวน
กระบิดกระบวนยวนต้องประคองกาย
จิตใจไห้หวนชวนอาสํญ
สติมั่นลางเลือนจะเบือนหาย
อีกกี่ครั้งชีวาจะวอดวาย
แต่หากกลายคืนกลับไม่ลับลา
สัมผัสใจไปไม่กลับหลับไม่ตื่น
จะขมขื่นฝืนอารมณ์บ่มผวา
จะเคืองขัดวิบัติขึ้งทึ้งวิญญาณ์
ก็เพราะกรรมกระทำมาแต่ชาติใด.....tiki_ทิกิ.
คืนพระอังคาร ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
เป็นบทกลอนแต่งร่วมก้นสามคน
atm tiki So..far..away
สามกลอนรัก