18 พฤษภาคม 2548 11:04 น.

วิสาข ...ปารมี

tiki

วิสาข ...ปารมี

       เพ็ญเดือนหกวกมา ณ ครานี้
วิสาขปารมีพิสุทธิ์แสง
น้อมรำลึกวิสาข..ธ แสดง
ประสูติ ..ตรัสรู้แจ้ง..แห่งนิพพาน.

       ปีสองพันห้าร้อยสี่สิบสอง
โลกาผองยกสากลให้ขับขาน
วันสมาธิโลก..โบกศรัทธา..ประชาทาน
เผื่อบุญจาร..สงบนิ่ง..อิงแสงธรรม

     หลีก ละ ลด และ เลิก..เศิกมารผอง
ไกลชั่วปอง..สงบบุญ...ดุลดื่มด่ำ
ประคองตน..อยู่ในบุญ จุนเจือนำ
สงบล้ำ...พบตน..บนความดี

     ขอความสงบมีแด่สาธุชนในสัปดาห์วิสาขะบูชา
ทิกิ_tiki
     
      	."ในช่วงต้นปี  ๒๕๔๖ สืบต่อเนื่องมาถึงกลางปี 
(สืบต่อมาถึงวันนี้ ๒๕๔๘_ผู้เขียน)
เหตุการณ์ของบ้านเมืองและของโลก  มีความเดือดร้อนวุ่นวาย มีสงคราม
แย่งชิงความเป็นใหญ่ของมิจฉาทิฏฐิ  เกิด ฉาตกภัย  ข้าวยากหมากแพง 
 และมีภัยพิบัติ  เกิดโรคระบาด ทำให้ผู้คนเดือดร้อน ยากจน เจ็บป่วย 
ล้มตายเป็นจำนวนมาก
	คนทุกวันนี้เป็นโรคเครียด และ โรคประสาทกันมาก	
เพราะปัญหาในชีวิตประจำวันที่สร้างความขัดข้อง  ความขัดแย้ง
  ความไม่สบายใจมีมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่า
คนเหล่านี้    ไม่สามารถที่จะปัดความคิดที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจออกไปได้  เมื่อความไม่สบายใจเกิดขึ้นบ่อยๆ   สะสมมากขึ้น   ก็ต้องเป็นโรคประสาท
อย่างแน่นอน 
 แต่บางคนแม้สิ่งแวดล้อมจะเลวร้ายเพียงใด    ถ้าใจยังเกาะเกี่ยว  ยังติด   
ยังปล่อยวางสิ่งต่างๆ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด  ใจจะเป็นอิสระอย่างแท้จริงไม่ได้ 
  ไม่สามารถจะรู้แจ้งสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง

	การสร้างกำลังใจ

	พระพุทธองค์ตรัสว่า
	  ภิกษุทั้งหลาย  เธอจงวิดน้ำออกจากเรือ  เพราะเรือที่วิดน้ำ
ออกแล้ว จะถึงฝั่งได้เร็วและเมื่อ ตัดราคะ โทสะ ได้แล้ว ก็จะถึงฝั่ง คือ นิพพาน

         	การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความสุข 
หมายถึง การเข้าใจตนเอง รู้จักตั้งเป้าหมายรู้จักวางแผน และต้องรู้จัก
 เลือกเฟ้นสิ่งดีๆให้กับชีวิต แม้บางครั้ง อาจจะเผขิญกับความทุกข์และ
ความยากลำบากบ้าง  ให้คิดว่าเป็นแบบฝึกหัดของชีวิต
ที่ต้องมีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันไป
	แม้จะมีความทุกข์ความยากลำบากเกิดขึ้นกับชีวิตอยู่เนืองๆ 
แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนอาจลืมไปว่า ในบางครั้งการคลายทุกข์ 
 สามารถหาได้จากสิ่งที่มีรอบตัว มองโลกให้สดใส ด้วยจิตใจที่
เบิกบาน และ สรรหาความสุขจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ รอบตัวให้มากที่สุด

	การตั้งสติให้มั่น  คิดหาทางออกโดยให้กำลังใจกับตนเองว่า
 ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไขไม่ได้   ไม่เกรงกลัว และเชื่อมั่นว่า สามารถนำชีวิต
รอดพ้นจากมรสุม และ อุปสรรคทั้งปวง
	การให้กำลังใจตนเองอยู่เสมอ เมื่อเกิดปัญหาจะช่วยให้สภาพจิตใจมีพลังมากขึ้น   จิตใจเยือกเย็น  ไม่รู้สึกดดัน  หากยิ่งมีความเชื่อมั่นในตนเองว่าสามารถแก้ปัญหาได้โดยไม่เกรงกลัว
ย่อมมีโอกาสในการขจัดเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี

ถ้อยแถลง หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความจากบรรทัดที่ ๘ หน้า ๑๐๔ มาว่าดังข้างต้นนี้
ทิกิ_tiki				
15 พฤษภาคม 2548 22:06 น.

บุญเพล ๑๔ พฤษภา

tiki

บุญเพล ๑๔ พฤษภา

         เสาร์วานวันสิบสี่แห่งพฤษภ
ได้พานพบบุญชัดมินัดหมาย
เริ่มเมื่อเพลเร่งเวลาพาใจกาย
ถึงที่หมายข้างวัด*สังฆทาน*

       เข้าเขตบ้านเพื่อนเก่าของคู่ครอง
เพิ่งดับชีพพาเศร้าหมองจบหลักฐาน
รถชนตายเพราะมิได้ขึ้นสะพาน
กลับวิ่งลอดใต้ฐานจึงถูกชน

      วันที่เผามิได้ไปใจจึงเร่ง
รีบตรงเป๋งทันเพลแต่สับสน
เข้าทางผิดเลี้ยวไปมาพาวกวน
แต่ก็พ้นวกเวียนทางเตียนมา

      เข้าไปทันหลวงพ่อสนองท่านจ้องเทศน์
สอนสั่งเรื่องสาเหตุแห่งโทสา
แล้วสอนสั่งผลิบุญหนุนชะตา
เพื่อตายไปเกิดครั้งหน้าพาตนดี

      จึงร่วมถวายหนังสือทั้งสองเล่ม
ครบพระสงฆ์เก้าองค์เต็มนำวิถี
ให้เจ้าภาพถวายสงฆ์ด้วยยินดี
โอนบุญนี้ให้สามีผู้วายชนม์

      เวลากลับเพื่อนมาส่งตรงที่รถ
ไม่ท้อทดรำพึงคำเหมือนพร่ำบ่น
เพื่อนแม้นตายของได้ครบกลับสู่ตน
เป็นทุนท้นคืนมาหาลูกตัว

      น่ายินดีที่คนนนท์รถชนแล้ว
ยังเก็บของให้เป็นแถวรู้ดีชั่ว
ไม่เหมือนบางจังหวัดสัตว์พันพัว
ปาก้อนอิฐใส่หัวให้คนตาย

     ยินเพื่อนพูดมองบุตรสาวให้สงสาร
ถอดสร้อยพระพุทธะทานคล้องคอหมาย
ขอพระคุ้มแม้นว่าพ่อมลาย
หลวงพ่อนี้สวดมนต์ร่ายให้คุ้มครอง

     พระที่ให้*สมเด็จกาว อำเภอสี*
*จังหวัดส้ม* ดูให้ดีไม่มีหมอง
ให้สืบค้นธาตุในโลกเป็นก่ายกอง
ไม่มีวันคล้องจองกับธาตุใด

      พระที่เห็น*หลวงพ่อเสือ*ท่าน*จิ้มสร้าง*
ส้มเขาวางมาถวายอยู่ใกล้ใกล้
หลวงพ่อ*เสือ* หยิบกาวหยอดกลางส้มไป
หยิบปากกาเมจิกไซร้เสียบขึ้นมา

      จึงเป็นพระตามสีที่หยิบเสียบ
งามพร้อมเรียบตามสีสันที่ฝันหา
มอบลูกสาวเจ้าบ้านให้บูชา
ติดตัวไว้เถิดหนา..คาถามี

     *โอมหังวันโทนะโมพุทธายะ*
ท่องไว้นะ จะพาให้สุขศรี
ถึงพ่อตายหลวงพ่ออยู่คู่ชีวี
มอบพระดีให้ลูกเพื่อนแล้วเตือนจร

     ช่วงเวลาดีดีมีไม่มาก
บนลำบากของผู้คน..เป็นอนุสรณ์
สิ่งที่ให้ ถวายหนังสือเป็นบทกลอน
แจกญาติมิตรเพื่อนอีกฟ่อนเป็นบุญทาน

       แต่หลวงพ่อในคอที่ถอดให้
นับเป็นเงินค่ามิได้..มหาศาล
แต่ถอดให้ลูกเพื่อนนั้นทันแก่กาล
เป็นพุทธทาน..ลดแหนหวงดวงธรรมตน

     จึงบันทึกไว้อีกบุญที่หนุนรอบ
สู่ทางชอบบุญ_ทาน งานส่งผล
ใจฉ่ำเย็นเป็นสุขในกมล
ของรักตน..เมื่อให้เขา..เราอิ่มเอม...


บันทึกเรื่องบุญปัจจุบันเฉพาะหน้าวานนี้
ไปร่วมบุญ ๑๐๐ วันหลังวันเผาเพื่อน ได้ร่วมถวายหนังสือ
แม่จ๋า ชีวิตสอนชีวิตเล่ม ๑ และ ถวายพระพรพระปิยมหาราช
ชีวิตสอนชีวิตเล่ม ๒ แด่พระสงฆ์ โดยผ่านทางเจ้าของงาน
และได้มอบให้แก่ญาติสนิทเพื่อนอีกส่วนหนึ่ง
จากนั้น ได้ถอดสร้อยพระ *หลวงพ่อกาว อำเภอสี จังหวัดส้ม*
ของหลวงพ่อเสือพระพิรุณหผลวัดไผ่สามกอ ให้แก่ลูกสาวเพื่อน
เพื่อไว้บูชา...เป็นพระที่ข้าพเจ้าจะสวมคอเสมอแต่มีสองสามองค์
สลับเปลี่ยนตัวสร้อย......
            พระนี้..วันนี้ ก็ไม่มีใครสร้างแล้ว
เพราะเป็นพระเกิดจากอิทธิตรงหน้าที่เห็นคือ หลวงพ่อ
หยิบส้มที่มีผู้นำมาถวาย ท่านแหวกส้มให้เป็นร่อง หยิบกาว
เทลงไปในส้ม แล้ว หยิบปากกาเมจิกสีแท่ง เสียบทะลุ
ก้นส้มขึ้นมาด้านบน ปรากฏออกมาเป็นพระเครื่องบูชา
ลักษณะเหมือนไฟเบอร์ตามสีที่ปากกาเสียบ เช่นปากกา
สีแดง พระก็สีแดง  ปากกาสีม่วงพระก็สีม่วง ปากกาสีเหลือง
พระก็สีเหลือง......สำหรับข้าพเจ้า สิ่งที่เห็นมันเป็นปรากฏการณ์
ธรรมดาสามัญในวันนั้น เพราะเห็นบ่อยก็เฉยๆไม่รู้สึกตื่นเต้น
อะไร ก็ธรรมดา เห็นเรื่อยๆ...แต่วันนี้...ท่านไม่ลงมาทำให้คนดูแล้ว
เพราะผู้คนไม่เชื่ออิทธิปาฏิหาริย์แล้วแถมไปลบหลู่พระพุทธคุณ
พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เข้าไปอีก..
          คนที่ได้เลยมีบุญ...เงินล้านก็หาไม่ได้นะพระนี้..

           จะเขียนเรื่องฟังธรรมพระอาจารย์สนอง..และได้ถวาย
หนังสือท่านกลายเป็นมา เน้นเรื่องพระหลวงพ่อเสือ เสียแล้ว
ทิกิ_tiki
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติ พุทธศักราช ๒๕๓๗
Copy right.  All rights  reserved.				
15 พฤษภาคม 2548 01:51 น.

๔๐๐ ปีพระนเรศวรสวรรคาลัย

tiki

  ๔๐๐ ปีพระนเรศวรสวรรคาลัย

     ประณตน้อมกรอมหัตถ์ลงแทบบาท
พระหน่อชาติกฤษดาภินิหาร
ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมเกล้าถวายกราน
กราบพระบาทพระทศมาลย์พระเดชา

     ขอเดชะสมเด็จพระมหาราช
พระนามพระองค์ทรงผงาดทุกทิศา
ทรงปลดทาสปวงไทยพ้นม่านมา
สี่ร้อยปี..เมื่อไคลคลาจาก แดนไทย

     ขอเดชะพระนเรศมหาราช
ชนทั้งชาติซึ้งวิญญาณ์ทุกหน้าไพร่
สี่ร้อยปีผ่านมาจารึกไว้
พระเกียรติไกลปลดแอกแหวกโซ่ตรวน

     ซึ่งรบพุ่งทุกเวลาทุกหน้าที่
พระเดชแม้นบารมีนเรศวร
จารึกความตามประวัติชัดทบทวน
สิบห้าพฤษภาไทยล้วนเฉลิมงาน

    ฟ้านั้นกำสรดสลดเหลือ
ยามชีพยังทุกเมื่อต้องเรื้อบ้าน
ยามชีพวายสลายจาก..มิพรากงาน
เมื่อถึงวารจะจากโลก..โศกเดียวดาย

      ประณตน้อมกรอมหัตถ์ขึ้นเหนือเกล้า
ข้าพระพุทธเจ้า.ก้มกราบ.น้อมถวาย
ลงแทบบาทนเรศวรผู้พลีกาย
สิ้นสลาย...กลางดิน...เมื่อสิ้นใจ


จารไว้เมื่อเริ่มย่างเข้าวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘
ครบ ๔๐๐ ปีวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
 (พุทธศักราช ๒๑๔๘ ตรงกับ วันจันทร์ เดือน ๖ ขึ้น ๘ ค่ำ ปีมะเส็ง)
ทิกิ_tiki				
13 พฤษภาคม 2548 11:18 น.

ใดฤๅ..เรียกกลอน..งาม?

tiki


         ขออย่าว่าเขียนหาสังฆราช
ใช่อุกอาจแอบมองห้องกลอนอื่น
เห็นวิธีเขียนงานแต่วานซืน
รอยแห่งฝันนั้นกลืนท่วมอุรา    

.....
............
.......................
.............................

             ขออย่าว่าข้าฯถามวรรณปราชญ์
ฤๅว่าสังฆราชทางภาษา
ฤๅท่านครวญงานเสนาะเพราะปัญญา
พลิกฝ่ามือวันทา..หากลอนงาม

ทิกิ_tiki
ครวญหา...งานงาม..ถามสังฆราช
ใดฤๅ..เรียกกลอน..งาม?  				
12 พฤษภาคม 2548 12:57 น.

ห้อย...โหน

tiki

ห้อย...โหน

     คอยไปดูคนโกงผูกโยงไว้
วิญญาณไปเสียบยอดตึกคูหา
เป็นเปรตหวนชวนยะเยือกเหลือคณนา
ร่ำร้องหาทรัพย์ที่ตนขนเมื่อยัง

    ณ  เมื่อวันสิ้นชีพเขาถีบส่ง
ร่างนั้นลงโลงให้เห็นมัดตราสังข์
แต่วิญญาณยมพบาลยังสุดชัง
โยนยืนนั่งห้อยแขวนแดนตึกราม

   ที่ห้อยโหนโจนทะยานระร่านริก
มือต้องจิกเกรงจะหล่นคนเกรงขาม
เทวดาหลบหลีกกันทุกยาม
เปรตวิสัยใจมันห่าม..ห้ามมิฟัง

   ฤา*มนุษย์สุดประเสริฐเลิศคุณค่า*
ไร้ศีล พา หิริ หาย..สุดปลายฝัง
โอตตัปปะ ไม่มี...มรณัง
เลยแขวนยังตึกที่โกง..โยงแสนปี

สมเขาละพวกโกงๆๆน่ะ ร้องโหยหวนอยู่บนยอดตึก
กันเป็นแถว ใครก็ช่วยพวกท่านไม่ได้นะ พวกจอมโกง
วายร้ายชาติ..ยมพบาลยังเมินหน้า ปล่อยไปเป็นเปรต
ห้อยโหน แหกตาหลอกมนุษย์ ไม่มีจะกิน อดหยาก
ปากแห้ง เพราะต้องกินอิฐ กินปูน บนตึก แทนน้ำแทนข้าว
......

    หิริ คือ  ความอายชั่ว
โอตตัปปะ คือ ความกลัวบาป

     ก็ไม่มี....แล้วยังมาสอนสั่งให้คนอื่นเขา
เตรียมไปเกิดเป็นเปรต เหมือนตนอีก อนิจจา
มนุษยสเปโต โกงชาติ ชาติหน้าได้กิน อิฐหินปูนทราย
คาบเหรียญเต็มปาก อดหยากปากแห้ง เพราะไม่มีสิทธิ์
กินข้าวกินน้ำ.....

      โน่นเลย ยอดตึกโน่น เตรียมไปโหน สักหมื่นปี แสนปี 
อยู่บนโน้น ใครเขาจะพูดถึง ธรรม ก็ไม่ได้ยิน เพราะมัว
แต่ร้องโหยหวน  ว่า หิววววววววววววววววว
                  หิววววววววววววววววว
             หิวววววววววววววว

ความอยาก ละโมบ โลภมาก นี้มันน่ากลัว 
เสียวสยองจริงท่าน
แต่อย่างว่า
มนุษยสเปโต มักไม่รู้จักธรรมะ 

      อุเบกขา อีกแล้ว

หมายเหตุ *มนุษย์สุดประเสริฐเลิศคุณค่า*
มาจากบาทกลอน 
*เป็นมนุษย์สุดประเสริฐเลิศคุณค่า*.....ฯลฯ
บทกลอน ครบอักษร ก-ฮ สำนวนกลอนที่มีการประกวดของ
นักกลอนท่านหนึ่งตอนนี้จำชื่อมิได้แล้วชนะเลิศ
ได้เป็นกลอนประจำ สมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย
ขออนุญาตหมายเหตุไว้ ณ ที่นี่
: tiki_ทิกิ  - [ 12 พ.ค. 48 11:05:30 ] 
ป.ล. ไปเขียนตอบกระทู้เกี่ยวกับโกงกินอย่างมีบุญคุณแก่ชาติ 
เลยอดไม่ได้ต้องเขียนค่ะ
 กระทู้ไปตอบไว้ห้องไม่ใกล้ไม่ไกลเว็บอื่นน่ะ
ทิกิ_tiki				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟtiki
Lovings  tiki เลิฟ 0 คน
  tiki
ไม่มีข้อความส่งถึงtiki