24 กุมภาพันธ์ 2547 18:24 น.
The sun
เราอาจใช้ความฝันก้าวถึงสิ่งที่หัวใจปรารถนา
เราอาจคว้าฝัน ในวันที่เรามีความตั้งใจ
แต่เราอาจจะพลาดฝัน หากหัวใจไม่กล้าพอ
แม้วันที่เราอาจยืนคอยรถในวันอากาศดี
เราอาจได้เห็นความหลากหลายของผู้คน
ที่ไม่เคยรู้จัก เห็นแต่สิ่งภายนอก
อาจมีหลายสิ่งที่เรายังไม่ได้เห็นจากตัวเขา
หากไม่ได้มีโอกาสได้รู้จักกันมาก่อน
สิ่งที่จำเป็นของวันนี้
อาจไม่ใช่เรื่องสำคัญในวันพรุ่งนี้ก็ได้
คิดให้ชีวิตเป็นบวก หัวใจก็จะบวกไปด้วย
วันนี้มีอะไรที่ตัวเองไม่รู้สึกดีเท่าไหร่
กับการที่ต้องพูดถึงคนอื่นลับหลัง
ไม่แฟร์สำหรับเขาเลย ต้องขอโทษด้วย
ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้หัวใจเจ็บ
เกินกว่า เมื่อพูดถึงใครในแง่ร้าย
หัวใจเราก็ได้รับสิ่งร้าย ๆ ไปด้วย
ก็ตั้งความหวังไว้ว่า
จะหันมุมมองกับเขาเสียใหม่
แม้จะยังไม่เข้าใจในตอนนี้
ก็น่าจะไม่สายจะพยายามต่อไป
วันนี้หัวใจแข็งแรงดี
6 กุมภาพันธ์ 2547 18:11 น.
The sun
รายละเอียดของความใส่ใจ
เป็นสิ่งที่บันทึกความประทับใจ
กับใครสักคนได้
ฉันยกหูโทรศัพท์กล่าวคำว่า สวัสดี
สนทนากับบุคคลในสาย
เสียงบอกกล่าวถึงความห่วงใย
เราห่างกันกว่า 10 ปี
แนวความคิด ก็ย่อมแตกต่างกันไป
สิ่งหนึ่งที่ดูเป็นทางสายกลางคือ
เราอาจช่างคุยต่างกัน
เมื่อฉันพูด ก็ย่อมที่จะพูดไปเรื่อย ๆ
โดยอีกคนก็ย่อมเป็นฝ่ายฟัง
กว่า 10 นาทีที่เราสนทนา
เราส่งเสียงหัวเราะ เย้ากันไป
เพื่อต้องการให้ชีวิตไม่เครียด
และส่งเสียงห่วงใยอีกครั้ง
ก่อนวางสายลง
คงเคยยิ้มที่มุมปากกันบ้าง
ก็คงสุขแบบเฝ้ารอคอย
ก็อาการสุข ๆ ดิบ ๆ
เป็นอาการอะไร ก็ยังยืนยันให้ตัวเองไม่ได้
ปล. อย่าเดาเลย
คงไม่มีวันถูกหรอกจ้า
5 กุมภาพันธ์ 2547 18:17 น.
The sun
เรามีความทรงจำกับเพื่อน
แรงกดดันกับคู่กัด
และพลังกับการต่อสู้กับจิตใจ
ใจแข็งกับเข้มแข็งมันมักจะต้องต่อสู้
กับความอ่อนระอาใจ
ดึกแล้วคืนนี้ฉันตั้งใจว่า
จะไม่มีความทรงจำกับใครบางคน
ที่ได้แต่เพียงเป็นแค่ภาพฝัน
แต่ยิ่งคิด ก็ยิ่งตอกย้ำ
จนต้องเลิกความสนใจ
ไปกับการร้องเพลงก่อนนอน
เพลงที่ฉันร้องฝากไป
บอกได้เพียงว่า
ทุกอย่างเป็นความฝันที่
คิดแล้ว ไม่มีเลยที่จะเป็นไปได้
เขามาและก็ไป
ฉันไปแล้วก็จากลามา
ทางวกสำหรับเรา
มันวนไม่มีทางออกได้
แต่ฉันกำลังจะออกจากทางไปแล้ว
ต้องปล่อยให้เขาหาทางออกเอง
ไม่ใช่เพราะฉันทิ้งเขา
แต่เราไม่มีทางเดินทางร่วมกันได้
ไม่สักวันก็ต้องมีวันนี้
วันที่ต้องลา
ฉันจึงตอบลาด้วย
การเป็นเพียงเพื่อนใจกันและกัน
และอยากฝันต่อไปอีกสักประเดี๊ยว
แล้วจะเดินต่อไปเอง
ตามลำพังอย่างเงียบ ๆ
4 กุมภาพันธ์ 2547 17:57 น.
The sun
ชีวิตก็มีเผลอเลอไปบ้าง
แต่อย่างน้อยกลับให้ถูกทาง
ก็ไม่แปลกใช่ไหมหล่ะ
เช้านี้ฉันซุกตัวกับผ้าห่ม
นาฬิกาปลุกแล้ว แต่หัวใจยังไม่ตื่น
ถึงเช้าของวันใหม่ จะส่งเสียงขับขาน
แต่อาการง่วงนอนยังคงไม่อยากดีดตัวเอง
จากที่นอนสักเท่าไหร่
จากวานที่ผ่านไป
ฉันเฝ้าสังเกตอาการ
ตอนที่ฉันได้พบกับเขาอีกครั้ง
มันแปลสิ่งที่เห็นเป็นหลายอย่าง
มีความไม่แน่ใจปนความระอาใจ
แต่ฉันรู้สึกว่า มันไม่ได้มีผลกระทบรุนแรงเท่าไหร่
เพียงแต่ว่า โทษตัวเองกับชีวิตที่เผอเลอไปบ้าง
เท่านั้นเอง
คนเราเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ได้คิด
เราก็มักเห็นตัวเอง ในสิ่งที่ครั้งหนึ่งทำไมฉันจึงได้เลือกทำ
จะมารู้สึกว่า ทำไปทำไม
นั่นเป็นอาการตอนคิดได้ คิดเป็น
ก็แบบหัวใจมันมีบ้างที่หวั่นไหว
ก็อภัยให้บ้าง โกรธตัวเองจะเป็นไรไป
ระหว่างวัน ฉันพบความสุขได้ไม่ยาก
หากยิ้มได้ ก็สู้ได้ ..มีกำลังใจไม่ท้ออยู่แล้ว
2 กุมภาพันธ์ 2547 18:05 น.
The sun
เมื่อเราวางความคิดของการใช้ชีวิต
ลึก และ กว้าง สักหน่อย
มองสิ่งที่เกิดขึ้น
มองความเป็นไปได้ที่เราสร้างเอง
มองบุคลิกตัวเรา
มองสิ่งแวดล้อม
และมองที่หัวใจ เพราะเห็นจะเป็น
สิ่งที่สำคัญที่สุด
สำหรับเรา และไม่ลืมมอง
ไปที่สมองอันช่างคิดของเราด้วย
ที่ให้เราได้มอง ๆ มานี้
แง่คิดที่ได้กับตัวเองก็คือ
เรามอง เราเห็น
ตัวเรา ปัจจุบัน การดำเนินไป
และบางวันเราก็ร้องไห้
เพราะมีสิ่งใหม่มา มันจากไป
สิ่งเก่ามี มันไม่พัฒนา
แต่เอาแต่มองข้างหน้า
จนไม่รู้ว่า เดินมาได้ไกลแล้ว
คนเรามักกลัวใช่ไหม
กลัวสารพัด เราตั้งใจบอกเลิกรา
แต่พอนึกถึงความสัมพันธ์ของเรา
กลัวมิตรภาพ กลัวจะเหงา
กลัวสารพัด แต่ไม่กลัวที่หัวใจจะเจ็บต่อไป
แล้วเราก็ลองมานั่งนึก นั่งคิดอย่างที่บอก
คำตอบที่ฉันเองได้วันนี้
มันเป็นการใช้ขีวิตในแบบปกติ
ที่มีเรา ตัวเรา ชีวิตเรา
ดำเนินไป เมื่อวันหนึ่งมีอะไรแปลกใหม่มา
เราก็ยึดติดจนคิดว่า
มันต้องอยู่ และเมื่อเราคิดจะลา
ผลที่กลัวก็คือความเจ็บ นั่นเอง
สิ่งที่ทำให้ฉันเผยยิ้มได้ก็คือ
สิ่งนี้แหล่ะ
การใช้ชีวิตในแบบที่ฉันเป็นได้ทุกวัน
แบบปกติ ที่เข้มแข็งเองได้
ดูแลตัวเองได้
แล้วหัวใจก็จะลิ้มรสความแกร่งขึ้นอีกวัน