9 กันยายน 2548 13:33 น.
tanors soloso
คำว่าเพื่อนหนึ่งคำล้ำคุณค่า
ไม่หรูหราเลิศเลอพร่ำเพ้อฝัน
ใจถึงใจส่งไปใส่สัมพันธ์
ใส่ความฝันก้าวเดินเผชิญทาง
ยามข้าล้มแก-ล้มก้มลงฉุด
หากสะดุดคอยประคองคล้องสิ่งหวัง
เพื่อนช่วยเพื่อนยามยากเมื่อยามพลั้ง
มีพลังหลั่งไหลถึงใจกัน
เมื่อแกทุกข์ข้าสนุกไม่ถนัด
มันขัดขัดขวางขวางไม่สร้างสรรค์
ครั้นข้าทุกข์แกสนุกไม่ค่อยมัน
จึงร่วมกันฟันฝ่าความทุกข์ไป
ช่วงเวลามีค่ารักษามั่น
อย่าลืมฝันเก็บมันรักษาไว้
ถึงเวลาแกกับข้าต้องลาไกล
คำว่า"เพื่อน"จะเตือนใจเมื่อไกลตา
20 สิงหาคม 2548 15:38 น.
tanors soloso
เอ้กอี๊เอ้กโวกเหวกเสียงแจ้แจ้ว
ยามเมื่อแนวแสงทองทับทาบฟ้า
ไก่แจ้น้อยลอยล่องลงพสุธา
จากชายคาเรือนเล้าสู่เงาดิน
น่าเอ็นดูเหลือหลายลวดลายสี
กระทบแสงพระสุรีย์ยามผกผิน
เช้าและเย็นย่างย่ำออกหากิน
ไปตามถิ่นพนาประสามัน
12 สิงหาคม 2548 14:31 น.
tanors soloso
อันป่าไม้ไพรเขาลำเนาป่า
สุดเหว่ว้าวังเวงวิเวกเหงา
ทุ่งหญ้าเขียวเดี๋ยวเดียวเปลี่ยนเพี้ยนเป็นเทา
จักหาเงาไม้เย็นเป็นไม่มี
ต้นไม้ว่าข้าเจ็บปวดเหลือแสน
ความเคียดแค้นชิงชังนั้นเต็มที่
สุมในอกคับในใจดั่งไฟมี
ดั่งนทีจะถาโถมโหมให้พัง
สัตว์ป่าร้องก้องดังฟังเกรี้ยวกร่าง
มึงจะถางพงไพรไปถึงไหน
สิ่งที่มึงได้ทำและได้ไป
มึงรู้ไหมว่ากูกลับขาดแคลน
ทั้งสัตว์ป่าต้นไม้และสายน้ำ
เริ่มเสื่อมทรามทรุดโทรมลงเหลือแสน
อีกทั้งคนอย่างเราเราบนดินแดน
จักยากแค้นหากไม่หยุดขุดทำลาย
11 สิงหาคม 2548 16:40 น.
tanors soloso
ล้มแล้วลุกอย่าท้อต้องต่อสู้
ให้มันรู้ว่าจะแพ้ซักแค่ไหน
แม้ไม่เดินก็แค่คลานพอผ่านไป
อาจจะถึงหลักชัยในสักวัน
ฟากฝั่งฟ้ากว้างใหญ่ไกลสุดหล้า
คนยังฝ่าขวากหนามเพื่อฝากฝัน
มีรอยยิ้มของนักสู้เป็นเดิมพัน
ฝันที่ฝากฟ้านั้นฝันเป็นจริง