10 ตุลาคม 2548 20:40 น.
sun strom
ป้าใจจ๋า ช่วยซื้อมะม่วงอมเปรี้ยวมาให้ด้วยนะคะ เอาซักสองสามลูกก็พอค่ะอยากทานมะม่วงน้ำปลาหวานค่ะ ป้าใจรับคำแล้วก็ขับรถไป ตลาด วันนี้ก็เป็นอีกวันซินะที่ใกล้จะถึงวันนั้นของเดือน อยากทานอะไรที่เปรี้ยว ๆ ไม่นานเสียงรถของป้าใจก็ดังผ่านเข้าบ้านให้ได้ยิน น้ำลายมานไหลยืดดดด แล้วจ้า.....
.....
ป้าใจ เป็นคนที่มาจากต่างจังหวัด ป้าใจมี 2 สายเลือด พ่อเป็นคนอิสานแท้ ๆ แต่ไปเติบโตทำมาค้าขายที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนแม่เป็นคนประจวบ ทั้งสองทำมาค้าขายจนมีฐานะ .....
.....
ป๊าเจอลุงสำลีตั้งแต่ยังหนุ่ม สมัยนั้นป๊ากำลังเป็นวัยรุ่น มีสาว ๆ หลายคน มาชอบ และป๊าเองก็เป็นคนเจ้าชู้ จึงมีเรื่องให้ต้องเขม่นกับนักเลงบ่อย ๆ ป๊าโดนกลุ่มนักเลงดักตีหัวตอนเย็นวันหนึ่ง หากไม่ได้ลุงสำลีนำส่งโรงพยาบาล ป๊าคงเสียชีวิตไปตั้งแต่วันนั้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ป๊ากับครอบครัวของป้าใจสนิทสนมกันเรื่อยมา.....
.....
หลังจากที่ป๊าเรียนจบชั้นมัธยมก็เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ย้ายตัวเองมาอยู่กับพี่สาวคนโตที่เข้ามาตั้งร้านตัดเสื้อผ้าแถว ๆ พาหุรัดตั้งแต่ยังเป็นสาว ทำให้ป๊าจำเป็นต้องห่างเหินกับครอบครัวของป้าใจ แต่หากมีเวลาได้กลับประจวบ ป๊ามักจะแวะไปไหว้ลุงสำลีเสมอ ๆ.....
.....
อายุ 18 ปี ป้าใจก็เรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 5 และสมัครเรียนต่อครู เพื่อจะออกไปเป็นแม่พิมพ์ของชาติอย่างที่ป้าใจเคยใฝ่ฝัน แต่ทุกสิ่งที่ป้าใจฝันก็มีอันต้องสลายไป เนื่องจากมีอุบัติเหตุทำให้ป้าใจ สูญเสียทั้งพ่อและแม่ ยังดีอยู่บ้างที่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยขัดสนเรื่องเงิน ลุงสำลีทิ้งทรัพย์สินไว้ให้ส่วนหนึ่ง เป็นทุนให้ป้าใจเรียนจนจบอนุปริญญา และได้ตัดสินใจแต่งงานมีครอบครัวไปหลังจากที่เรียนจบ.....
.....
ชีวิตของป้าใจน่าจะสะดวกสบายเนื่องจากยังพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง ป้าใจตัดสินใจลงทุนทำมาค้าขายโดยเปิดร้านขายของชำ แต่ชีวิตคนเรา หาความแน่นอนไม่ได้ อยู่ ๆ สามีป้าใจก็หอบหิ้วเด็กหญิงอายุ 3 เดือน พร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งป้าใจไม่รู้จัก เข้ามาอยู่ในบ้าน .....
.....
ชีวิตป้าใจคงไม่ต้องทุกข์ทนหากตัดสินใจทำตามที่ตัวเองเคยฝัน หากแต่เพราะความรักป้าใจจึงทิ้งฝัน สุดท้ายสิ่งที่ป้าใจได้รับ เกินกว่าจะเยียวยา ด้วยวัยที่ยังไม่ถึงเพญจเพศประกอบกับเกิดความเสียใจอย่างใหญ่หลวง ป้าใจจึงตัดสินใจทิ้งถิ่นฐานที่อยู่ เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯโดยอาศัยอยู่กับป้าใหญ่ซึ่งเป็นพี่สาวของป๊า ตอนนั้นป๊าแต่งงานกับม๊าได้หลายปีแล้ว มีลูกสาวอายุ 13 หนึ่งคน และอีกหนึ่งคนกำลังอยู่ในท้องม๊า แต่ป๊าก็มีเรื่องราวกับญาติคนใหญ่คนโตที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองกรุง จนต้องอพยพตัวเองไปอยู่ต่างจังหวัด ป้าใจจึงขอตามไปด้วย .....
.....
ชีวิตป้าใจดีขึ้นหลังจากที่ทำใจได้ แต่น่าเสียดายที่ป้าใจไม่เปิดโอกาสให้ตัวเอง ป้าใจเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ว่า ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ดูอย่างป้าใจซิ ไม่คิดว่าจะได้มาอาศัยป๊าอยู่ ก็มีเหตุทำให้ต้องมาอยู่ด้วย คงเป็นบุญกรรมที่ป้าใจทำร่วมกับครอบครัวของพวกเรา ป้าเคยบอกเสมอว่าการจะเลือกใครมาเป็นคู่ครองขอให้ดูให้ดูดีดี อย่าด่วนตัดสินใจเพราะความรัก (....แต่เรามักจะเถียงป้าใจในใจเสมอ ๆ ว่า หากไม่รักแล้วจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร ป้าใจไม่ได้ยินเราเถียงหรอกน่า.....) ป้าใจทราบเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในครอบครัวเรา ป้าใจรักพวกเรา รักเด็กผู้หญิงตัวดำ ๆ ที่อายุห่างกัน 10 ปี รักคนตัวโย่งสูง ๆ ขาว ๆ ที่อายุห่างกัน 21 ปี และรักเด็กผู้หญิงตัวดำ ๆ อีกคนที่อายุห่างกับป้าใจ 25 ปี .....
.....
เราดีใจที่มีป้าใจมาอยู่ด้วย หากไม่มีป้าใจพวกเราคงโดดเดี่ยว ด้วยป๊าต้องเทียวไป เทียวมา ทำงานหนัก ส่วนม๊าก็ต้องดูแลร้าน อีกทั้งต้องทำงานเพื่อสังคม พวกเรารักป้าใจ เราจะดูแลป้าใจไปจนกว่าชีวิตจะสิ้น สัญญานะคะป้าใจคนดี .....
.....
ไม่นานป้าใจก็มาเรียกให้ไปทานมะม่วงน้ำปลาหวาน อื้อออออออออ ถูกใจจริง ๆ อาหยอยจริง ๆ กุ้งแห้งตัวโตโต โรยมาบนน้ำปลาที่
เคี่ยวใส่พริกใส่น้ำตาล และกะปิ มะม่วงอมเปรี้ยวลูกโตโต ถูกปอกเปลือกและหั่นเป็นแว่นบาง ๆ สำหรับใช้ซ่อมจิ้มเข้าปากได้พอดีคำ เป็นสิ่งที่ไม่เคยลืม ด้วยได้รับสิ่งเหล่านี้จากป้าใจตลอดมาตั้งแต่เป็นสาวจนอายุถูกเหวี่ยงขึ้นไปอยู่บนคาน ......รักป้าใจจ้า............