6 สิงหาคม 2547 13:18 น.
sun strom
รับปากรับคำไว้ตั้งแต่คราวที่เขียนเรื่องหิ่งห้อยสู่แสงแห่งธรรม ว่าจะนำรายละเอียดวิธีเจริญสติในอริยาบทยืน รวมไปถึงการเดินมาให้เพื่อนได้อ่านกัน ซึ่งก็นานมากแล้ว ต้องมาหยุดเขียนไปพักหนึ่งเนื่องจาก คอมเจ้ง อีกอย่างงานที่รับผิดชอบอยู่ก็รัดตัวเข้ามาจำเป็นต้องสางงานให้แล้วเสร็จก่อน
วันนี้ตลอดบ่ายเราว่าง จึงนึกขึ้นได้ว่าควรเขียนเรื่องอะไรที่ยังคั่งค้างอยู่ในใจให้เพื่อนได้อ่านบ้าง ให้ถือเสียว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังมากกว่า หากอ่านแล้วสนุก ถูกใจก็เม้นท์ให้กำลังกันบ้าง แต่หากอ่านแล้วไม่สนุกก็ให้ผ่าน ๆ ไปนะคะ
ตั้งชื่อไว้อย่างนั้น เพราะคิดแล้วว่าเหมาะ กับเนื้อหาที่จะเขียน เรื่องนี้มีตัวละครอยู่ 2 คนนะคะ คือพายุ กับ มัดหมี่
ให้เป็นนางเอกกับพระเอกด้วยอะ
ตุลาคม ปี2546 ประมาณบ่าย 2 โมง ณ .กองบัญชาการรัก ถนนแจ้งวัฒนะ เมืองนนท์
พายุเด๋วเข้าไปคุยกับเพื่อนซะหน่อยดีกว่า ว่างแล้วนี่ไม่มีงานต้องเซ็นต์ ออนไลน์ปุ๊บ
เวลาเดียวกัน ณ มุมหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง
มัดหมี่หลังจากสางงานเสร็จแล้ว ก็เข้าไปจ๊ะจ๋ากับเพื่อน ๆ ร่วมแกงค์ ตอนนั้น เพื่อนฝูงมากมาย ต่างก็ถ่ายทอดวิทยายุทธให้แก่กันและกัน ใครมีปัญหาอะไรที่เกี่ยวข้องกับการ chat ก้อสามารถไต่ถามได้ทุกเรื่อง บังเอิญว่า กำลังเล่นเพลิน ๆ ตัวหล่อนก็หลุดวุ๊บเข้าไปยังห้องห้องหนึ่ง โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว โอ้โหใครบ้างนะนั่น ไม่มีใครที่เรารู้จักซักคน เอ...ไม่ใช่ซิ คุณษา เราก็รู้จัก น้องบีเราก็รู้จัก ไปสะดุดที่ชื่อชื่อหนึ่งเข้า payu ชื่อนี้ทำให้เราสนใจ ใคร่รู้จักมาก ๆ อะ ในใจขณะนั้นไม่ได้คิดไรมาก ก็แค่สนใจใคร่รู้จักเท่านั้น ไหนลองทักทายไปหน่อยซิ จะคุยกับเราป่าว
มัดหมี่สวัสดีค่ะคุณพายุ ฮั่นแน่ตอนนั้นเรียกคุณนะคะ ก็ยังไม่สนิทนี่นา
พายุ.สวัสดีครับ
ต่อจากนั้นก็มีการพูดคุยกันมาเรื่อย ๆ ไม่รู้ หรอกนะว่าจะก่อเกิดสายสัมพันธ์ต่อกันและกัน แน่นแฟ้นขนาดนี้
ความสัมพันธ์ที่ดีของเราที่มี ต่อกันนั้น เป็นสิ่งที่ดี ต่างคนต่างคอยเป็นห่วงซึ่งกันและกัน ใคร่ขอเรียนให้ราบว่า เราพูดคุยกันทางเน็ท และทางโทรศัพท์ ไม่เคยได้พบเจอหน้าตากันจริงๆ ซักที มีก็แต่รูปที่คอยส่งให้กันและกันดูต่างหน้า วันไหนที่เราไม่ได้คุยกัน เหมือนกับขาดอะไรไปซักอย่าง ดูเหมือนว่า มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา
หากจะนับเวลาก็ 11 เดือนเข้ามาแล้วนะคะที่เรายังคบหากันมาด้วยดีตลอด ก็มีบ้างที่เรางอนกัน แต่นั่นก็เป็นการเข้าใจผิดเท่านั้น ตลอดระยะเวลาเหล่านั้น อะไรที่ดีดี เราจะถ่ายทอดสู่กันและกัน ความสุขเราก็เล่าสู่กันฟัง ความทุกข์เราก็ช่วยกันปลอบโยนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ณ. จุดนี้ตรงนี้ มัดหมี่บอกได้เต็มปากค่ะว่า รักพี่พายุนะคะ รักมากด้วยค่ะ เป็นรักที่ออกจากใจ ไม่เคยคิดอยากได้อะไรตอบแทน มัดหมี่รักพี่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้จะทราบว่า ความเป็นไปได้ที่เราจะอยู่ด้วยกันนั้นไม่มี มัดหมี่ก็ยังจะรักค่ะ
มัดหมี่เข้ามาที่ไทโพเอมหลังจากที่คุยกันได้ระยะหนึ่ง เราชอบอ่านกลอน แต่งกลอนด้วยกันทั้งสองคน มัทคิดว่าควรหาที่ ที่เราจะเจอกันได้ เป็นที่ที่เราทั้งสองจะถ่ายทอดความรัก ความผูกพันธ์ที่เรามีให้กันและกัน เป็นอนุสรณ์สำหรับความรักที่ก่อเกิดในโลกดิจิตอล มัทเลือกตรงนี้เพราะมีเพื่อน ๆ มากหน้าหลายตา และถือเป็นเว็บที่มีความเคลื่อนไหวตลอด ก็เข้ามาอ่านนานเหมือนกันกว่าจะสมัครเป็นสมาชิก แล้วชวนพี่พายุเข้ามาแต่งกลอน เราไม่เก่งในการแต่งกลอนหรอกนะคะ เพียงแต่เราชอบที่จะแต่ง และชอบที่จะอ่าน กลอนเป็นอะไรที่ยามเราอ่านแล้วเหมือนเข้าไปอยู่ในนั้น ขอบคุณคุณปีกฟ้า อย่างที่คุณให้สโลแกนไว้ว่า
ไทโพเอม ที่ที่ทุกบทกลอนจะมีความหมายกับใครซักคน
กับคนอื่นมัทไม่ทราบแต่กับมัท ที่นี่เป็นแหล่งพักพิง เป็นแหล่งที่มีความหมายกับมัทค่ะ
เราจะยังอยู่คู่ไทโพเอมตลอดไปค่ะ
มัดหมี่..สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่พายุ
พายุสวัสดีครับ เช้านี้ทานอะไรมาหรือยัง
มัดหมี่.ทานแล้วค่ะ แล้วพี่หละคะ ทานแล้วยัง
พายุพี่รับของเช้าพอดี ลูกน้องกำลังจัดให้ครับ
มัดหมี่.มัทคิดถึงพี่มากนะคะ
พายุ.พี่ก็คิดถึงมัดหมี่ครับ
มัดหมี่....พี่พายุจ๋า
พายุ....อ้อนอีกแล้วนะเรา
มัดหมี่...ก็อ้อนไปงั้นแหละ ไม่มีไรทำนี่นา
พายุ...งั้นมาให้กอดหน่อยดีไหม
มัดหมี่...อื้ออออออมะดีอะ
พายุ...มีงานก็ทำงานไปก่อนนะ คุยไว้ทีหลัง
มัดหมี่....ค่ะ
พายุ...พี่รักมัทนะ
มัดหมี่...ฮื้ออออออ
พายุ....พี่กลับบ้านก่อนนะ ขับรถดีดีนะมัท
มัดหมี่...ค่ะ แล้วคุยกันพรุ่งนี้นะคะ บายยยยยย
วันนี้ วันหน้า และวันต่อ ๆ ไป เรายังคงมีการพูดคุยด้วยความรักที่ก่อเกิดท่ามกลางโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว แม้เราจะก้าวไม่ทัน แต่ความรักของเราก็ยังก้าวไปอย่างสม่ำเสมอ..ตลอดกาลนาน