26 มกราคม 2548 01:07 น.
sun strom
คนเมืองลิงVSท่านเรไร
ราตรีเพิ่ง เริ่มต้น ชอบกลนัก
หลบมาพัก สนทนา กับสหาย
หลากเรื่องราว เล่าขาน กันมากมาย
จนน้ำลาย เริ่มเหนียว เปรี้ยวปากจัง
ตามองกัน รู้ซึ้ง ถึงความหมาย
ชวนกันย้าย ที่ใหม่ อย่างใจหวัง
เลือกสถาน บรรเลง มีเพลงฟัง
ฟื้นความหลัง ครั้งเก่า เคล้าดนตรี
สั่งเหล้ามา พร้อมมิกเซอร์ นะเกลอเอ๋ย
เหมือนอย่างเคย เริงร่า ท้าแสงสี
วัยคะนอง ก่อนเก่า นั้นเข้าที
ชีวิตมี สีสัน ในวันวาน
สนทนา เข้าที เป็นปี่เป็นขลุ่ย
ยามได้คุย ลืมทุกข์ สนุกสนาน
ความหลังครั้ง ต่อยตี ตะลีตะลาน
ต่างซมซาน แทบชัก สะบักสะบอม
วีรกรรม ครั้งก่อน สะท้อนสะท้าน
ดั่งผสาน เหล้าอุ ทะนุถนอม
สุราลอย น่าดม ยิ่งกลมยิ่งกล่อม
โชยกลิ่นหอม คลายเครียด ละเมียดละไม
วิธีชง แนะนำ จำให้มั่น
ได้รู้กัน ลอยแก้ว แพร้วไฉน
น้ำแข็งลง โซดาน้ำ ตามเข้าไป
เหลือที่ใส่ เหล้าหนอ พอประมาณ
ผสมเสร็จ รีบยก กระดกดื่ม
แล้วอย่าลืม เขวี้ยงแก้ว แถวหน้าร้าน
เล็งให้มั่น จะจะ กะกบาล
อย่าอยู่นาน วิ่งไว้ ตัวใครตัวมัน...555 โกยแล้วจ้า....ตัวใครตัวมันว๊อยยยย
ได้ยินเสียงร้องให้ช่วย
ก็เลยรีบมาดู
แหม...เมื่อเย็นนี้มัทเห็นคนเมืองลิง(พี่อุ๊)
นั่งคุยกับท่านเรอยู่นี่นา เผลอแป๊บเดียว
ก็เป็นอย่างที่เห็นค่ะ
มองแต่ไกล ท่านเรไร นั้นวิ่งลิ่ว
คนถือสิ่ว ตามหลัง ใกล้แล้วหนอ
โป๊ก...เสียงดัง ฟังชัด ล้มตัวงอ
ยังไม่พอ เปรี้ยงปร้าง ดังตามมา
อ้าวนั่นใคร ผมยุ่ง ผ้าถุงหลุด
เฮ้ยอย่าฉุด ซิว้อย มันเหนื่อยหนา
เด๋วป๊าบ ๆ หลายที จากบาทา
อย่ายุ่งน่า จะหาว่า จ๋อไม่เตือน
โอ้..แม่เจ้า ท่านเรไร นิ่งสนิท
ปากก็บิด ตาเบี้ยว ทำท่าเหมือน
เห็นท่านยม ยิ้มแย้ม มาเยี่ยมเยือน
มองลางเลือน ตาค้าง น่ากลัวจัง
คนเมืองลิง มาถึง ไม่ชักช้า
แบกขึ้นบ่า ร้องเรียก ด้วยความหวัง
ช่วยด้วยค้า ช่วยด้วย คนหัวพัง
ไม่อยากฝัง ช่วยพา หาหมอที
อาทิตย์ส่อง ต้องตัว ตาขยับ
กระพริบปรับ สายตา หันหน้าหนี
ทำหน้างง เอตัวกู เป็นไรนี่
มานอนที่ ไม่ต้องการ ได้อย่างไร
สาวชุดขาว ถือเข็ม ยาวตั้งศอก
เอ่ยปากบอก อยู่นิ่งๆ ห้ามร้องไห้
โอ้ย...เบา ๆ เสียงท่านเร ร้องจากใจ
ต่อนี้ไป จะไม่เมา อีกแล้วเอย
20 มกราคม 2548 15:06 น.
sun strom
ด้วยได้เข้าไปอ่านกลอนของพี่แคร์
ชอบกลอนบทนี้มาก ๆ ขอนำมาลงให้อ่านอีกครั้ง ...
ขออนุญาติพี่แคร์ไว้ตรงนี้นะคะ
...โอ้แสงดาวพราวใสกลางใจฟ้า
...ดังดวงตาสุกใสใครคนหนึ่ง
...ใครคนที่มีเราเฝ้าคะนึง
...ฝากใจซึ้งแอบแฝงในแสงดาว
...ในคืนคราฟ้าหนาวปวดร้าวจิต
...ความใกล้ชิดช่วยคลายให้หายหนาว
...ความอาทรสอนสุขให้ทุกคราว
...รอนรวดร้าวให้หายมลายเลือน
...มีดวงใจใฝ่ถึงให้ซึ้งซาบ
...คิดถึงตราบสิ้นใจหาใดเหมือน
...ลมหายใจใฝ่ชิดย้ำติดเตือน
...ความห่วงใยย้ำเยือนมิเลือนลับ
...เดือนบรรเลงเพลงฟ้ามาให้ฝัน
...โลมคืนวันสดชื่นให้คืนกลับ
...ความห่วงใยใฝ่ถึงซึ้งเกินนับ
...รับแล้วรับสุขล้นท้นหัวใจ
...คืนแสงดาวพราวช่วงในห้วงฟ้า
...คืนที่หล้ารับรสความสดใส
...เป็นสัญญาณขานถามความห่วงใย
...คิดถึงใครคนนั้นทุกวันคืน
มาห้องนี้ มัดหมี่ซึ้งจริง ๆ อะ
ไม่อยากไปไหน
ขออนุญาตเรียกคุณแคร์ว่าพี่นะคะ
มัดหมี่ตามมาอ่านหลังเพื่อนแทบจะทุกคนค่ะ
จริง ๆ เวลาที่เป็นส่วนตัวก็ไม่ค่อยมี
กว่าจะได้เข้ามาอ่านก็ผ่านไปหลายวัน
อีกอย่างวันหนึ่ง ๆ มัทอ่านได้แค่คน
หรือสองคน บางครั้งรีบ ๆ ก็ไม่ได้ทักทายเลยค่ะ
บ่ายวันนี้มัทอยู่บ้านพี่แคร์ตอลดเลยค่ะ
พี่แคร์ทราบป่าวคะ
มัทชอบดูดาว นั่งนับดาวกับป๊าตั้งแต่เด็ก ๆ
ป๊าชอบสอนเรื่องเกี่ยวกับดวงดาว
จะชี้ให้ดูดาวเวลาที่ฟ้าสดใส
จะคอยบอกว่า นี่ดาวจระเข้นะ นั่นดาวลูกไก่
หากปีใดที่ดาวลูกไก่เข้าไปอยู่ตรงกลาง
ดาวคาง จะเกิดเหตุการณ์ผิดปกติขึ้นมา
ถ้าเป็นเรื่องดีก็จะดีตลอดทั้งปี
หากเป็นเรื่องร้ายก็จะร้ายตลอดทั้งปี
และต้องดูในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำด้วยค่ะ
มัดหมี่ผ่านร้อนหนาวมาได้ สามสิบกว่าปี
เวลาที่นอนคุยกับป๊า
ก็ยังคิดว่าตัวเองยังเด็ก ๆ อยู่ค่ะ
อ่านกลอนบทนี้แล้ว ทำให้คิดถึงเวลาที่ผ่านมาค่ะ
เหมือนสนิทกับพี่มานานนะคะ
ขอเป็นน้องในบ้านไทโพมด้วยค่ะ
ยามฟ้าใส ใจลอย สู่อดีต
ยามนอนชิด อกอุ่น คุณพ่อท่าน
หัวก่ายแขน แหงนมอง ฟ้าด้วยกัน
แล้วป๊าท่าน อธิบาย ความเป็นมา
นั่นดาวศุกร์ สว่างใส นะลูกรัก
น่าชมนัก ดาวงู คู่เวหา
นั่นดาวหมี ดาวช้าง ดาวนกกา
ตะวันลา ดาวโผล่ มาเย้ยจันทร์
ไม่นานนัก คนตัวจ้อย ก็ม่อยหลับ
ไม่ทันนับ ดาวลูกไก่ ก็นอนฝัน
ป๊าหาหมอน หนุนหัว ให้เร็วพลัน
ผ่านมานั้น ยังจำ ด้วยซึ้งใจ
19 มกราคม 2548 16:34 น.
sun strom
เท้าเกี่ยวเท้า หลังตรง ตาก็ปิด
ขยับชิด พนักพิง หมอนหนุนหลัง
มือประสาน วางลง ตรงตักมั่ง
ในท่านั่ง นอนหลับ ดับอารมณ์
เสียงหายใจ เข้าออก บอกว่านิ่ง
ไร้ทุกสิ่ง มากวน ความสุชสม
จุดสีขาว ก่อจิต ได้ชื่นชม
กายใจพรม รับนิมิต ที่เกิดมา
เมื่อไหร่เรา นั่งหลับ มักจะฝัน
บอกสิ่งอัน ละเอียด ที่โหยหา
สิ่งซ่อนอยู่ ในใจ เปิดเผยมา
ทุกท่วงท่า ล้วนผุด ประดุจเดือน
เสียงโทรศัพท์ ดังรัว อยู่ใกล้ๆ
โอ้ยต๊กใจ ใครหนอ โทรเชือดเฉือน
แหม..จะหลับ ซักหน่อย ยังโทรเตือน
หรือเงินเดือน ไม่ได้รับ จึงโทรมา
ฮาโหล โหล มัดหมี่ รับสายเจ้า
มีเรื่องเว้า หรอไร จึงโทรหา
ก็คิดถึง ส่งเสียง ตามสายมา
ยิ้มทั้งหน้า อารมณ์ดี กับการคุย
สวัสดีค่ะ ...มื้อแลงว่างบ่
อิอิ
12 มกราคม 2548 09:31 น.
sun strom
คำอ่อนหวานหว่านพรมหัวใจน้อย
ที่เฝ้าคอยเดียวดายให้หายเหงา
พี่บรรจงแบ่งปันฝันสองเรา
คอยวอนเว้าเอาใจให้สุขกาย
อิ่มน้ำคำ พร่ำออด อ้อนจากพี่
น้องคนดี น้ำตาร่วง ห่วงพี่หลาย
ต้องอดทน เพื่อให้ เบาใจกาย
ส่วนพี่ชาย ได้แต่ฝืน กล้ำกลืนลง
ขอคุณพระ คุ้มครอง สองเราด้วย
ขอให้ช่วย เราสอง ต้องประสงค์
จะอดทน เฝ้ารอ จนชีพปลง
จะซื่อตรง ด้วยใจ ไม่ผันแปร
อนาคต ยาวไกล ไร้จุดหมาย
แม้ความตาย มาพราก จากดวงแข
จะแน่วแน่ รักมั่น ในดวงแด
จะไม่แคร์ สิ่งใด ในโลกเลย
ทราบหรือเปล่า ความรัก ที่เกิดขึ้น
จะยั่งยืน สู้ทน อย่างเปิดเผย
สักวันหนึ่ง ฟ้าคง ไม่ละเลย
คงได้เชย เคียงข้าง อย่างทระนง
12 มกราคม 2548 09:25 น.
sun strom
ยามค่ำคืน ยืนมอง ดาวบนฟ้า
ในอุรา อิ่มอุ่น เต็มดวงหน้า
ดาวเจ้าขา อยากบอก ให้ทราบว่า
ตัวของข้า สุขใจกาย มากเสียจริง
มือกอดอก เดินช้า ๆ พาความคิด
อยากใกล้ชิด คนที่รัก พักทุกสิ่ง
มือเกี่ยวก้อย ตาเยิ้ม แล้วแอบอิง
หากเป็นจริง คงสุข กว่าสิ่งใด
ได้แค่คิด จิตประหวัด มัดหมี่เอ๋ย
จะได้เชย หรือเปล่า น่าสงสัย
อืมม...เถอะน่า เวลา ยังยาวไกล
ตอนนี้ได้ แค่คิด ก็เพียงพอ
ความคิดคน ไร้เขต จะขวางกั้น
แม้เพียงฝัน ยังสุข ในใจหนอ
คิดสิ่งดี ทำสิ่งดี ให้เพียงพอ
สักวันก้อ สมหวัง ดังใจเอย