5 พฤษภาคม 2547 20:56 น.
sun strom
ความสุขคำนี้ดีมีความหมาย
แม้ต้องตายก็ไม่วายจะหยิบฉวย
ความสุขแท้เป็นฉันใดใช่ความรวย
หรือความสวยหยดย้อยหรือว่าใจ
หากจะคิดถึงความสุขทีแท้แล้ว
ล้วนมีแนวความคิดตรงจิตใส
แม้มีสุขจากกายชายหญิงใด
ล้วนไม่ใช่สุขจริงทุกสิ่งไป
สุขที่แท้เกิดจากใจใช่ที่อื่น
เงินเป็นหมื่นจะซื้อสุขนั้นหาได้
มีสองบาทหากใจสุขไม่ทุกข์ใด
ล้วนซื้อได้ จากใจตัว ที่คิดวาง
มีเวลาเหลือน้อยนิดในโลกนี้
โปรดได้มีใจคิดหาสุขมาฝากบ้าง
อยู่ที่ใด ไกลสุดหล้า ฟ้าสุดทาง
ไม่อ้างว้าง คิดถึง คอยห่วงใย
หากวาสนา เรามี คงได้พบ
ประสบพักต์ ซักวัน ใจหวั่นไหว
หากไม่มี แม้วันนั้น ไม่หวั่นใจ
ด้วยในใจ ของเรา จะเฝ้ารอ
แม้เป็นได้แค่น้องก็ไม่หวั่น
สิ่งสำคัญ นั้นเรา มีไมตรีหนอ
เป็นเหมือนเพื่อน พี่ชาย ที่งอนง้อ
เราเพียงขอ แค่นี้ ยังสุขใจ
5 พฤษภาคม 2547 07:20 น.
sun strom
แดนนี้นามมธุรส
วจีพจน์ดูสดใส
สุมิตรามาเอาใจ
ขวัญฤทัยเปี่ยมพลัง
สัพเพ แลสัตตา
อเวรา โหตุขลัง
สุขขีอัตตานัง
ปริหะรันตุ
เราร่วม แผ่เมตตา
สรรพสัตว์ได้บรรลุ
สุขารมณ์เป็นเอกอุ
สิ่งยั่วยุมลายไป
เพื่อนเอ๋ย เราเคยสร้าง
บุญมาบ้างจึงสดใส
มีเพื่อนพ้องที่รู้ใจ
มีเภทภัยได้ช่วยกัน
มีสุขเราร่วมเสพ
มีภัยเราร่วมต้าน
ทุกข์ภัยไม่เทียมทาน
เราสมานสามัคคี
ไม่มีแบ่งหญิงหรือชาย
เป็นมิตรได้เต็มศักดิ์ศรี
ถึงต่างวัยก็ยินดี
เราเป็นพี่เป็นน้องกัน
แต่งกลอนversion 2
ขอเพื่อนพ้องจงสุขสันต์
จงมีสุขอยู่ทุกวัน
ขอเพื่อนฉันจงฝันดี
กลอนไปใจเป็นห่วง
ถึงพุ่มพวงมัทนี
งานก็หนักภาระมี
ไม่เคยหนีสักหนเดียว
ห่วงใยยามเงียบเหงา
นั่งเศร้าๆทำตาเขียว
อมยิ้มขำอยู่คนเดียว
ส่งใจเที่ยวไปในคอมฯ
5 พฤษภาคม 2547 07:00 น.
sun strom
วันนี้ว่างเว้น จากงาน ซักวันนะ
เลยแวะมา ที่ได ใคร่ขีดเขียน
เพื่อผ่อนคลาย อารมณ์ และคลายเครียด
ในยามเกลียด บางอย่าง ติดตามมา
สิบนาที ที่แล้ว น้องแก้วอยู่
ที่ยาฮู กับเพื่อน ๆ กันพร้อมหน้า
ทั้งร้องเพลง พูดคุย เสียงดังนา
แต่ทว่า เจ้ากรรม เสียงหายไป
ทุกคน บ่นกันอู้ หมู่นี้นะ
ยาฮูจะ แกล้งเรา หรือไฉน
ทำให้เสียง เออเร่อ บ่อยๆ ใป
มันทำให้ อรรถรส หมดไปเลย
แต่ละคน ไม่บ่น กันเปล่าๆ
เดย์ยังก้าว ไปก่อน ตอนเราเฉย
จูก็ก้าว ตามเดย์ไป อย่างเช่นเคย
เราก็เลย ได้แต่มอง ห้องโล่งดี
ซักพักเดี่ยว พี่เตี้ย ก็ไปจาก
บอกว่าอยาก ไปธุระ แบบด่วนจี่
รอเขาหน่อย เดี๋ยวมา อีก 7 นาที
แล้วมัดหมี่ จาอยู่กับใคร หละพี่ยา
ไม่เอาแล้ว น้องแก้ว ตามไปบ้าง
ไม่มีทาง กลับเข้าห้อง ก่อนใครหนา
นางยาฮู ปล่อยเรือน ให้พังพา
เพื่อนๆ หา ไม่เจอ เลยซักคน
ไว้ตอนเช้าเข้ามาใหม่ดีกว่าน่า
เจอยักษาคงได้ถามคลายสับสน
นางยาฮูเดี๋ยวนี้มันชอบกล
น้องหน้ามล เบื่อ ๆ มันแล้วเอย
5 พฤษภาคม 2547 05:53 น.
sun strom
รุ่งเช้าวันที่ 1 ต้องไปแล้ว
หาน้องแก้วคนดีที่จันทร์หนอ
คิดถึงเขาเคยพูดจาอย่างเพียงพอ
ตอนนั้นก้อเบื่อขี้หน้าเขาเสียจริง
พอไม่อยู่ร่วมชายคาก็มาคิด
น้องมิ่งมิตรจะอยู่ดีหรือไฉน
คืนวันผ่านหลายวันแสนห่วงใย
คงจะได้เจอหน้ากันนั่นสุดดี
ขึ้นทางด่วนสายกรุงเทพฯ-ชลบุรี
ขับเร็วรี่ 140 วิ่งเหมือนหนี
คุณตำรวจหรือโจรร้ายเบาหน่อยดิ
ลดมาที่ 100 ก็แล้วกันนาป๋านา
ถึงชลบุรีเมื่อเวลาสองโมงเช้า
แวะทานข้าวที่แกลงแหล่งอาหาร
ทั้งดู๋ดีชักธง ต้มยำ นำมาทาน
อาหารหวานก็ตามมาน่ากินจัง
เสร็จจากทานอาหารรถวิ่งต่อ
เห็นต้นตอแหล่งพฤกษาน่าพิศมัย
ทั้งทุเรียน เงาะ ลองกอง มากมายไป
เราอยากได้เสียทุกอย่างเพื่อฝากคน
สามโมงครึ่งเข้าเมืองจันทน์อันอบอุ่น
ทำหัวหมุนขับหลงทางอันวกวน
เอ...ดูท่าข้างหน้าจะมีฝน
แวะถามคนหน่อยละกันคงได้การ
ไปหน้าหน่อยก็จะเจอป้อมตำรวจ
เดี๋ยวเขาตรวจก็ถามเอาแล้วกันหลาน
ลุงแก่แล้วจำไม่ได้จึงได้วาน
แล้วหลาน ๆ มาทำไมในเมืองจันทน์
ขอบพระคุณในน้ำใจของลุงค่ะ
ที่ยังมาโต้ตอบให้อุ่นใจหลาน
ไม่เป็นไรหลานจะไปถามเอาแล้วกัน
อีกไม่นานก็คงได้ในเรื่องราว
ถึงมอบูรพาก็ตะวันโด่ง
สิบเอ็ดโมงนั่นแหละป๋าพาหลง
เป็นไรไปนะป๋าเหมือนพะวง
ทำเป็นงง หรืออยากแกล้งคนข้างเคียง
ดีใจจังนั่งรวมทั้งพี่น้อง
ป๋าก็มองหน้าแล้วยิ้มอิ่มเต็มเปี่ยม
ป๋ากับพี่คิดถึงเลยมาเยี่ยม
เป็นไงเรียนถึงไหนแล้วบอกป๋าที
เป็นความสุขของครอบครัวที่หายาก
ด้วยลำบากเรื่องเวลามาสุขขี
นานนานครั้งกว่าจะได้เอ่ยวจี
ร่วมทั้งพี่ น้อง ป๋า กับแม่ไม่แน่นอน