13 พฤษภาคม 2547 14:30 น.
sun strom
ฉันเป็นแค่เพียงผู้ชายธรรมดา ............. คนหนึ่ง
ไม่ได้วิเศษ .................. มาจากไหน
ฉันเป็นแค่เพียงผู้ชายธรรมดา ............... ทั่ว ฯ ไป
อย่าคาดหวังอะไร อะไร กับตัวฉันเลย
ฉันเป็นแค่เพียงผู้ชายธรรมดา ............. คนหนึ่ง
ที่เคยผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย
แม้วันนี้ เธออาจจะไม่เข้าใจ ........... ทุกอย่าง
ว่าฉันมีอะไร อะไร เก็บไว้ภายในใจ
---------------------------------------------------
**************************************
อยากให้เธอมองฉัน ........... ในวันนี้
ว่าฉันนั้นมีอะไร ให้คาดหวัง
อยากให้เธอมองฉัน ........... ในวันนี้
ว่ายังมีสิ่ง ดี ดี พอเหลือ .......... เพื่อเธอไหม
เพื่อวันนี้และวันต่อไป ได้มีเธอ
11 พฤษภาคม 2547 12:14 น.
sun strom
เจ็ดโมงแล้ว เตรียมตัว ไปงานค่ะ
คิดถึงนะ รู้เปล่า เช้า ๆ นี้
เมื่อคืนนอน หลับสนิท ฝันไม่มี
ตื่นตีสี่ เข้ายาฮู ไปฮู้กัน
เมื่อวานนี้ งานมัดหมี่ มันยุ่งนัก
ไม่ได้ทัก พูดจา ภาษาหวาน
วันนี้มัท มีประชุม ต่ออีกวัน
ใคร่ขอวาน ผ่านโพเอม ดังนี้นา
คิดถึงพี่ มัดหมี่ มีให้นะ
รักหนักหนา มากมาย จากใจค่ะ
ยามไม่อยู่ หวงห่วง ทุกเวลา
ไม่พบหน้า ไม่เป็นไร ใจต้องกัน
พี่พายุ งานหนัก โปรดพักบ้าง
ตัวน้องนาง อยู่ไกล ได้แต่ฝัน
ถนอมกาย ใจไว้ เผื่อเจอกัน
คงซักวัน แม้จะนาน น้องจะรอ
ขอแค่รัก ไม่ได้หวัง จะเคียงข้าง
ใยบาง ๆ ถนอมไว้ กับใจหนอ
สายใยรัก ที่สองเรา ช่วยถักทอ
มีมากพอ สำหรับเดิน ไปด้วยกัน
แม้สองเรา จะห่างกาย ใจไม่ห่าง
หมดหนทาง จะร่วมเรียง ไม่เคยฝัน
แต่ความรัก ความหวังดี มีให้กัน
มากมายนั้น เกินค่า ราคาใด
มัทประชุมนะคะพี่พายุ อาจจะทั้งวันค่ะ
ว่างๆ แล้วจะเรียกหานะคะ
11 พฤษภาคม 2547 07:23 น.
sun strom
วันก่อนเจอหนังสือเล่มหนึ่งที่มัทเคยรับมาจากหลวงพ่อ
ช่วงที่ไปปฏิบัติธรรม ในนั้นมีกลอนให้คติข้อคิดหลายอย่าง
จึงได้นำมาลงให้ได้อ่านกันนะคะ
มีตา มีทุกข์ ไม่มีตา ไม่มีทุกข์
มีหู มีทุกข์ ไม่มีหู ไม่มีทุกข์
มีจมูก มีทุกข์ ไม่มีจมูก ไม่มีทุกข์
มีปาก มีทุกข์ ไม่มีปาก ไม่มีทุกข์
มีกาย มีทุกข์ ไม่มีกาย ไม่มีทุกข์
มีใจ มีทุกข์ ไม่มีใจ ไม่มีทุกข์
มีอะไร มีทุกข์ ไม่อะไร ไม่มีทุกข์
ยึดถือ มีทุกข์ ไม่ยึดถือ ไม่มีทุกข์
ยึดมาก ทุกข์มาก
ยึดน้อย ทุกข์น้อย
ไม่ยึด ไม่ทุกข์
เมื่อยึดถือ มันหนัก
เมื่อปล่อยวาง มันเบา
ความเกิด เป็นทุกข์
ความไม่เกิด ไม่มีทุกข์
เมื่อหนัก จง....ปล่อยวาง
เก็บมาจาก หลวงพ่อกิตติศักดิ์ กิตติสาโร
วัดป่าช้าหนองหลุบ ตำบลแดงใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
5 พฤษภาคม 2547 21:32 น.
sun strom
ฟ้าสุกใส ใจสว่าง เมื่อว่างเว้น
งานที่เป็น เช่นเครื่อง พันธนาการ
ขับรถท่อง เที่ยวไป แสนเบิกบาน
ดูเรื่อนชาน ภูเขา ป่าพงไพร
ดูทะเลที่ เวิ้งว้าง ไกลสุดกู่
ให้อดสู เหมือนเงา เจ้าอยู่ไหน
มองท้องฟ้าจ รดน้ำ ปวดที่ใจ
คิดถึงใคร คนหนึ่ง ที่ตรึงทรวง
นั่งเล่นทราย มองปูลม มันวิ่งลิ่ว
เหมือนใจ ปลิวลอยไป แสนเป็นห่วง
สุข ทุกข์ หรือไรบ้างนะคู่ควง
น้ำตาร่วง คิดถึงเขา ทุกเช้าเย็น
โลกใยกว้างใหญ่ไปสุดกู่
เขามีคู่ เคียงกาย มองไม่เห็น
ยามห่างไกล ใจคน มักจะเป็น
เหมือนดั่งเช่น นุ่นลอย ตามสายลม
ยามท่องเที่ยว มีป๋า อยู่เคียงข้าง
แม้อ้างว้าง แต่ใจ ล้วนสุขสม
แวะนั่นบ้าง โน้นบ้าง ใจภิรมณ์
หายเศร้าตรม ลงบ้าง มากมายเอย
5 พฤษภาคม 2547 21:09 น.
sun strom
มัทจ๋ามัท ทำอะไร อยู่เหรอลูก
แม่มาปลุก ตอนที่เรา โก่งคอขัน
เหมือนเป็ดร้อง ให้เพื่อนฟัง อย่างเมามัน
เราก็พลัน shut down ไม่รั้งรอ
แล้วโผล่หน้า หามารดา พร้อมรอยยิ้ม
เหมือนยายซิ้ม ยิ้มหวาน นั่นแหละหนอ
แม่ฟาดเปี๊ยะ(เบา ๆ )1ที ที่ต้นคอ
ทำหน้างอ เรียกตั้งนาน ไม่ตอบมา
แม่คิดว่า ละเมอ แล้วเผลอร้อง
ตะโกนก้อง เสียงดัง เหมือนคนบ้า
อยู่คนเดียว ยังได้ยิน เสียงพูดจา
อยากรู้ว่า พูดกับใคร บอกแม่ที
ได้แต่นั่ง ทำตา หน้าละห้อย
บอกเสียงค่อย พูดกับเพื่อน จากเน็ทดิ
มัทขอโทษ หากเสียงดัง โปรดอย่าตี
หนึ่งนาที จะไม่ดัง อีกแล้วนา
ฝากกลอนมา ขอโทษ เหล่าผองเพื่อน
ที่มาเยือน แล้วจาก ไปให้กังขา
ที่หลุดไป โดยบังเอิญ ไม่ได้ลา
ขอโทษมา ณ ที่นี้ โปรดเข้าใจ ....
คุยเพลินอะ...โดนมามี้ดุเอา อิอิ