21 พฤษภาคม 2547 07:40 น.
sun strom
วันนี้ตื่น ตีสี่ แล้วหยิบฉวย
ผมเกล้ามวย ใส่หมวก เข้าห้องน้ำ
เนื้อตัวผ่อง สะอาด ร้องเพลงฮัม
จากนั้นพับ ผ่าห่ม เก็บที่นอน
มานั่งหน้า กระจก แล้วหวีผม
ประแป้งพรม ตามตัว ให้หอม ๆ
แต่งตัวงาม เรียบร้อย แล้วเปิดคอม
เพื่อนรุมล้อม ให้ร้องเพลง ครื้นเครงจัง
หกโมงเช้า รับอาหาร ป้าจัดให้
นวยนาดไป ใส่บาตร ด้วยใจหวัง
อธิฐาน ขอพร เพิ่มพลัง
ข้าน้อยหวัง จะเคียงเขา ทุกเช้าเย็น
หากชาติหน้า มีจริง ตัวข้านี้
เกิดที่ดี คู่เขา ให้มองเห็น
หากบุญกรรม ที่ทำ ของเนื้อเย็น
ข้าขอเป็น คู่ครอง ของเขาเอย
20 พฤษภาคม 2547 07:48 น.
sun strom
ตื่นตีห้า อาลัย ที่นอนนุ่ม
ใจฉ่ำชุ่ม มองผ้าห่ม แพรผืนนั้น
มองหมอนหนุน ก้มหน้า ซุกที่มัน
ใยตัวฉัน ไม่อยากตื่น ซักนิดหนึ่ง
อาลัยหนอ ใจจดจ่อ รอความหวาน
เมื่อวันวาน มีสุข หวนคิดถึง
อารมณ์ดี ผ่องแผ้ว ใจคอยซึ้ง
ยังติดตรึง โหยหา ใคร่พบเธอ
รักคิดถึง ทำตาซึ้ง ในกระจก
เจ้าหัวอก กระเพื่อม ยามหลงเพ้อ
ฝันหวานๆ ทำเอา เราอยากเจอ
นอนละเมอ เสียงอู้อี้ มัดหมี่เอย
19 พฤษภาคม 2547 08:19 น.
sun strom
ยอมรับว่า รักเขา เท่าท้องฟ้า
ยอมรับว่า สุขสม อารมณ์หวัง
ยอมรับว่า ยึดมั่น ไม่วายวาง
ยอมรับดัง สองเรา เคียงคู่กัน
ถามใจตัว ใจตอบ ชอบเค้ามาก
ถามใจจาก มากใจ ให้กับฝัน
ถามใจดู ใจตอบ ชอบทุกวัน
ถามใจนั้น มันตอบ รักทุกที
ใจเจ้ากรรม รับเขา เข้ามาเก็บ
ใจเจ้าเจ็บ จากเค้า ก็ไม่หนี
ใจเจ้าสุข จากเค้า อ้อนทุกที
ใจเจ้าดี มีเค้า มาเคล้าคลอ
ดูกันก่อน นานนาน นะเรานะ
ดูกันว่า รักนั้น มั่นคงหนอ
ดูกันจริง หากรัก ไม่ควรรอ
ดูให้พอ แน่แล้ว ลุยได้เลย.......อิอิ
19 พฤษภาคม 2547 07:25 น.
sun strom
วันนี้ตื่นมาตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ว่าจะลงเรื่องสั้นให้จบ ๆ ซักที แต่ไม่มีสมาธิ
อยากแต่งกลอนก็แต่งไม่ได้ สมองไม่ลื่นไหล จิตใจค่อนข้างเฉื่อยชา
อารมณ์คนเรามันช่างแปรเปลี่ยนได้ทุกโมงยามจริง ๆ
จะว่าเราเหงาก็ไม่ใช่หรอกนะ จะว่าเราทุกข์ก้อไม่ใช่อีก
เราเองก็แฮปปี้อยู่นี่นา มัทนั่งฟังเพลงหวานๆ เย็น ๆ
มาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไร้อารมณ์ที่จะแต่งกลอน
ในใจก็คิดไปด้วยเรื่องต่าง ๆ มากมาย
เงาของใครบางคนแว็บผ่านเข้ามาทางความคิด อยากตัดทิ้งไปจัง
แต่ใจเจ้ากรรม ไม่ยอมทำแบบนั้น ทำไมมัทต้องคิดถึงเค้าตลอด
ในช่วงที่เรามีความรู้สึกตัว หรือว่ามัท มัทคิดถึงเค้ามากไป
จนไม่มีใจจะทำอย่างอื่น หรือนี่เป็นความรัก ที่คนอื่น ๆ เค้ามีกัน
ผ่านมาหลายปีแล้วที่อารมณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเอง
เสียงเพลงช่างเพราะจับจิต ทำให้เรามีชีวิตชีวา อารมณ์อิ่มเกิดในใจ
อยากนั่งฟังแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ยอมรับว่าลึก ๆ ของจิตใจแล้วมีความสุข
สุขที่จะคิดถึงใครคนนั้น ไม่เบื่อที่จะคิด แล้วเค้าจะคิดถึงเราอย่างที่
เราคิดถึงเขาบ้างป่าวนะ ภาวนาให้จิตใจตรงกันบ้างเถอะ
อารมณ์ สุนทรี มีมาแล้ว
หวานเจื้อยแจ้ว ในใจ กับคนนั้น
ป่านนี้เขา อมยิ้ม กับใครกัน
คิดถึงฉัน บ้างป่าว เล่าพี่ชาย
เป็นความสุข เกิดใน จิตใจฉัน
ถามหาวัน เป็นจริง แล้วใจหาย
อนาคต ไม่แน่ เราอาจตาย
หรือเขาหาย จากเราไป ไม่รู้เลย
มีเวลา นิดหน่อย ขอคว้าแล้ว
พูดแผ่ว ๆ ผ่านโทร เราสุขเอ๋ย
หากเป็นได้ อยากโผ ซบอกเลย
แต่ทรามเชย ทำไม่ได้ ไม่ใจพอ
เราทราบอยู่ เต็มอก ชกไม่ได้
เขามีใจ แต่ตัว ไม่ว่างหนอ
ขอแค่รัก พูดคุย ได้หยอกล้อ
แค่นี้ก้อ สุขสม อารมณ์เอย
เป็นอารมณ์รักที่ก่อเกิดในใจ
เกิดด้วยความบริสุทธิ์
ไม่ได้แฝงอะไรไว้ซักอย่าง
แม้จะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า
มัทสัญญา จะรักตลอดไป
เราไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน
เพียงคนที่เรารักมีความสุข
ก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีไม่ใช่หรอ
รักพี่นะพี่พายุ ไม่เคยเปลี่ยน
ไม่ได้หวังจะอยู่ด้วยแต่หวังให้พี่
มีความสุขพร้อมครอบครัวลูกกับภรรยา
18 พฤษภาคม 2547 08:25 น.
sun strom
เรารวมพล คนเที่ยว ตั้งแปดสิบ
ยุ่งยากฉิบ แต่ละคน บ่นต่าง ๆ
ร้อนหนาวบ่น ฝนก็ตก น่าเบื่อจาง
แวะเข้าทาง แยกสู่ คลองเขาแดง
รถสองคัน จอดติด ชิดฝั่งซ้าย
คนทั้งหลาย ทะยอยลง ทำท่าแหยง
คนใจกล้า ก้าวลงเรือ ทะมัดทะแมง
คลองเขาแดง เป็นอย่างไร ได้รู้กัน
สองฟากฝั่ง มีปลาตีน ต้นแสม
ส่ายตาแล มองหา เฮ้ย...อะไรนั่น
ตัวยาวใหญ่ คืบคลาน ผ่านไปนั้น
บอกต่อกัน เขาเรียก ตัวเงินทอง
คนขับเรือ บอกว่า มันเยอะมาก
เพราะปราศจาก คนล่า นำไปฉลอง
เป็นแดนที่ มีชีวิต ที่คุ้มครอง
เจ้าตัวทอง เลยสบาย ไม่คล้ายเกรง
ผ่านไปหน่อย มองเห็น อยู่ลิบลิ่ว
รูปหน้ากิ่ว ตรงกลาง เต้นเหยง ๆ
ขนสีดำ คละขาว เจ้าครื้นเครง
ทำตัวเบ่ง ล้อเรา เจ้าค่างงัย
ต้นโกงกาง เติบโต ชูสะพรั่ง
ฝักที่หยัง หล่นร่วง ปักโคลนไป
อีกไม่นาน จะก่อราก และผลิใบ
เป็นแหล่งให้ สัตว์เล็ก หลบศัตรู
คลองเขาแดง น่าดู ไม่น้อยนัก
คนที่รัก ธรรมชาติ ควรจะรู้
ได้ศึกษา ระบบนิเวศ ล้วนน่าดู
อยู่อีกครู่ เราก็จาก ห่างเขาแดง