23 กุมภาพันธ์ 2547 05:22 น.
sun strom
ตีสามกว่ากลับจากนนท์มาถึงบ้าน
เข้ามาอ่านคำกลอนวอนจากเพื่อน
สองวันก่อนไม่ได้อยู่ออกจากเรือน
ไปแวะเวียนดูปะป๋าเพราะห่วงใย
กลับมาแล้วจะต่อกลอนวอนสักหน่อย
มาเรียงถ้อยร้อยคำรักที่เราได้
ปรนนิบัติวัฐฏากปะป๋างัย
สุขหัวใจ ได้กระทำ อิ่มหนำใจ
ตื่นตอนเช้า ข้าวต้มมา หาถึงที่
เคียงคู่ดี ด้วยหมูหยอง นั่งมองหมาย
อ้าปากหน่อย ปะป๋า จะป้อนงัย
นั่งหลับใน ใยกัน หรือว่างอน
พอสายหน่อย พาปะป๋า ไปท่องเที่ยว
ขับรถเดี๋ยว มุ่งสู่ ดูเมืองสวย
ผ่านแม่กลอง เขาย้อย.......
วันก่อนค้างไว้พาปะป๋าไปเที่ยว
รีบมาเชียวมาต่อกลอนเรื่องรักรัก
ผ่านแม่กลอง เขาย้อย ที่รู้จัก
เลยแวะพักทานข้าวร้านประจำ
ปะป๋าจ๋า สบายใจ ขึ้นบ้างเปล่า
ไร้เรื่องราว รบกวน ไร้ถ้อยคำ
พาเดินสาย เที่ยวไป แสนชื่นฉ่ำ
ฟังน้ำคำ หนูบ้าง อย่าอับเฉา
วันนี้หนู มาเป็นเพื่อน ของปะป๋า
รับปากว่า จะดูแล ไม่ให้เหงา
จะปรนนิบัติ ห่วงใย ทุกค่ำเช้า
จนกว่าเรา จะตาย หายจากกัน
ด้วยความรัก ที่ยิ่งใหญ่ มีให้พ่อ
ไม่รั้งรอ รีบทำ ไม่คอยฝัน
มีเวลา ห่วงหา คอยดูกัน
นับแต่วัน เติบใหญ่ ใต้ชายคา
23 กุมภาพันธ์ 2547 05:06 น.
sun strom
มาต่อกลอนอีกบทอดไม่ได้
ด้วยว่าใจ มันสุข สมองวิ่ง
แต่งต่อจากข้างบนให้นิ้งนิ้ง
โลดลิ่วลิงค์ ผ่านเน็ตให้อ่านกัน
เจ้าความรัก ตอบชัดเจน ว่าอย่างนี้
ยามเจ้ามี ความรัก เจ้าแค่ฝัน
ยามเจ้ารัก ทำไม ไม่บอกกัน
ตัวของฉัน ก็จรดิ เจ้าช้าเอง
มันก็จริงของเจ้าน่ะ เจ้าความรัก
เรายึกยัก ไม่บอกกล่าว เลยหงายเก๋ง
เราเป็นหญิง หากบอกเขา อายเจงเจง
กลัวโดนเพ่ง ว่าเป็นหญิง ไม่รักดี
เออแล้วไป งั้นเอาใหม่ ก้อได้น้ะ
เอาเป็นว่า ต่อไปเรา จะไม่หนี
เจ้าความรัก หากมาหา เราอีกที
เราจะตี ด้วยกระบอง ให้ม่องเลย ....อิอิ
23 กุมภาพันธ์ 2547 05:03 น.
sun strom
โอ้อนิจา ความรัก เหมือนน้ำไหล
เร่งรี่งัย ไม่เคยทัน มันซักหน
สุดแสนเซ็ง ตามหารัก เฮ้อ..เหนื่อยกมล
นี่เราคน อาภัพ มากหรือไร
วันนี้มา ต่อกลอนว อนเรื่องรัก
ที่เรามัก ถูกมัน ทำหวั่นไหว
ถูกเจ้ารัก มันเตะ จนจุกไง
เราจึงได้ แต่งกลอน วอนมันดูอะ
นี่เจ้าความรัก มามะ มานั่งข้าง ๆ
เราจะอ้าง บอกเจ้า เล่าเรื่องหละ
ทั้งจะถาม เจ้าดู ไมร้ายนัก
ทำเรารัก แล้วทิ้งไป ไม่ใยดี
ไหนลองเล่า เรื่องเราว ที่ทิ้งข้า
ไปซิว่า ไมใจดำ ทำลงนี่
บอกเหตุผล มาหน่อย ให้ดีดี
ไม่งั้นมี ของแถม เป็นค้อนปอนด์
23 กุมภาพันธ์ 2547 04:59 น.
sun strom
แวะมาแต่งกลอนเรื่องรักไว้ซักหน่อย
แต่งไว้คอยคนอ่านหวานมันหนอ
แต่งไปอ่านไปใจทดท้อ
แต่งตัดพ้อใครบางคน เท่านั้นนา
อันความรักในวัยเรียนตอนเขียนอ่าน
มันช่างหวาน สดใส ใจฝันหา
ผ่านเวลา เหล่านั้น เนิ่นนานมา
ยังโหยหาไม่ลืมแสนปลื้มใจ
ตื่นตอนเช้า ไปโรงเรียน ป๋าไปส่ง
ไม่พะวง เรื่องไร ให้หมองไหม้
จุ๊บแก้มป๋า ทุกวัน แสนอุ่นใจ
หากเป็นได้ อยากมีแฟน เช่นป๋าเรา
โตมาหน่อย อยู่มัธยม ยังมีรัก
ได้รู้จัก ว่ารักจริง เป็นสิ่งเขลา
หลงเมามัว ช้ำใจ หนอตัวเรา
หลงรักเขา เฝ้าถนอม ตรอมใจตัว
ขึ้นอุดมศึกษานั้นหนอยังมีรัก
ให้ประจักษ์ รักนั้น ไม่ใช่ชั่ว
หากไม่หลง งมงาย ไม่เมามัว
รักด้วยตัว ด้วยหัวใจ ทั้งหมดเลย
เกือบจะพลาด กับคำรัก เป็นคนชั่ว
หากว่าตัว ยังมีบุญ มาหนุนเกื้อ
เจอพระธรรม แสงสว่าง มาจุนเจือ
ในยามเมื่อ อกช้ำ ระกำใจ
มาวันนี้ ยังมีรัก มาทักบ้าง
ความอ้างว้าง ห่างหาย แต่เราไซร์
ไม่จีรัง ไม่มั่นคง ด้วยเพราะใจ
คิดว่าได้ ผ่านพบ มามากมาย
ความรักดี หรือเลวนั้น ไม่ขอกล่าว
คงความสาว เก็บไว้ กับใจกาย
แม้จะแก่ ขึ้นคาน ไม่ว่าไร
หากตายไป จะได้ชื่อ ว่ารักเป็น.........เอย อิอิ
23 กุมภาพันธ์ 2547 04:50 น.
sun strom
เป็นความรัก เกิดขึ้นใน ใจส่วนลึก
ไม่ได้ปรึกษาใครให้เย้ยหยัน
เป็นความรักออกมาจากใจนั้น
เป็นความฝัน อันเลือนราง ยามเพ่งมอง
เป็นความรักที่บริสุทธิ์ดุจน้ำค้าง
แต่ก็วางตัวเองไว้ ไม่มัวหมอง
คิดถึงเขา เช้าค่ำ น้ำตานอง
แต่ก็ต้องทำใจ ให้มั่นคง
คงเป็นกรรมเกิดมาให้เป็นแบบนี้
ด้วยว่ามี รักคราใด ใจไหลหลง
รักคนที่ มีเจ้าของ ใจเที่ยงตรง
คอยพะวง ห่วงหา และอาวรณ์
แม้จะเป็นรักแท้แต่แทรกไว้
ตรอมตรมใจลึก ๆ นึกสังหรณ์
ตัวเรานั้น คงนั่งคาน น่ะแน่นอน
จึ่งได้วอน ผ่านกลอนมา หาคนดี