19 กันยายน 2548 19:59 น.

เหตุผลที่ทำให้ฉันมาเป็นหมอ...เพราะหมอใจร้าย!!

SonyaBeauty

 ว้ายยยยยยยย...ไม่ใช่หมอดูคู่หมอเดาที่ปูเสื่อใต้ต้นมะขามแขกสนามหลวงนะคะ..... 
อ๊ะ ๆ ๆ  รู้นะคิดอะไรอยู่ แล้วที่แน่ ๆ ก็ไม่ใช่หมอนวดสังกัดเฮียชูวิทย์ด้วยค่ะ !! 
และก็ไม่ใช่หมอผีน้ำมันพราย เลี้ยงกุมารสะกดวิญญาณผีตายโหงที่ไหนด้วย !!
 ... เป็นเรื่องสั้นที่ยาวไปนิด อาจเพราะเขียนไปบ่นไประบายความอัดอั้นตันใจ
ไป เลยยาวขึ้นยาวขึ้น.... ทน ทน อ่านกันหน่อยนะคะ................

ตอนเด็ก ๆ เคยถูกถามมั้ยคะว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร?? บางคนอยากเป็น
ทหาร ตำรวจ นักบินอวกาศ คุณครู พยาบาล และ หมอ  เยอะเหมือนกันนะที่
ตอบว่าอยากเป็นหมอ .... ถามต่อ ว่าอยากเป็นหมอเพราะอะไร.... ส่วนใหญ่ตอบ
ว่าอยากเป็นหมอเพราะจะได้ช่วยรักษาคนไข้ให้หายป่วย

แต่สำหรับเด็กหญิงซอนย่า

เหตุผลที่ทำให้ซอนย่ารู้สึกอยากเป็นคุณหมอกับเค้าขึ้นมา..... 
เนื่องจากทิฐิมานะ ที่ดันไปเจอหมอใจร้ายคนนึงที่ฝังใจมาจนถึงปัจจุบัน....... !!


           สมัยเด็ก ๆ ซอนย่าไม่ชอบโรงพยาบาลเลย ไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาล
ไม่ชอบกินยา เพราะเวลากินยาเราโดนบังคับให้กิน แล้วมันขมมาก 
หรือไม่ก็กลิ่นแปลก ๆ ไม่อร่อย นอกจากนั้นยังเป็นโรคกลัวหมอ  
กลัวนางพยาบาล กลัวเข็มฉีดยามากกกกก ........ ก็เวลาฉีดมันเจ็บนี่
มันเลยฝังใจเลยว่าเวลาไปโรงพยาบาลเจอหมอ จะต้องเจ็บตัว 
เชื่อเลยค่ะ ว่าไม่ได้เป็นแค่ซอนย่าคนเดียวหรอกน่า... หลาย ๆ คนก็เป็นใช่ม๊า..
ตอนซอนย่าอายุประมาณ สิบกว่าขวบเนี้ยแหละ อยู่ชั้น มัธยมต้น
ตอนนั้นเริ่มโตแล้ว  ความกลัวแบบไร้เหตุผลแบบเด็ก ๆ ก็เลยหมดไป
จำได้ว่าซอนย่าเจ็บคอมาก ๆ เลยค่ะ เริ่มจากเป็นหวัดก่อน แล้วก็เริ่มมีไข้
ปวดหัวตัวร้อน พอไข้ลดก็เจ็บคอ แต่เจ็บมากไม่หายซักที จนทานข้าว
แทบไม่ได้ แต่ก็ไม่ไปหาหมอ เจ็บจนไข้จะกลับมาใหม่คุณพ่อทนไม่ไหว
เลยจับไปโรงพยาบาล  โรงพยาบาลก็คนเยอะสิคะ ซอนย่าก็นั่งรอกับคุณพ่อ
ตอนแรกนั่งรอหน้าห้องคุณหมอ  พอใกล้ ๆ คิวเรา เค้าก็จะเรียกเราเข้าไป
ในห้องหมออีกที เพื่อรอตรวจเป็นคิวต่อไป  ตอนที่อีกหนึ่งคิวจะถึงคิวตรวจ
ของ ดญ.ซอนย่า  มีน้องคนนึง เล็กกว่าซอนย่าค่ะ น่าจะประมาณห้าหกขวบ
รายนั้นเค้าร้ายน่าดู  ..... คุณหมอจะตรวจคอ ซึ่งต้องใช้ไม้กดลิ้นส่องไฟฉาย
น้องเค้าก็ไม่ยอม ทั้งเตะทั้งถีบหมอ  หมอก็สั่งพยาบาลกับคุณแม่ช่วยจับ
ปรากฏพอ จับอ้าปากเอาไม้กดลิ้นปุ๊บ  เจ้าเด็กนั่นก็ดิ้นอย่างรุนแรง จนมือ
พลาดไปฟาดหน้าหมอเปรี้ยง ไม้กดลิ้นกระเด็นหลุดจากมือ..........

ทราบมั้ยคะ?? ว่าคุณหมอท่านนั้นพูดว่าอย่างไร
คุณหมอหันไปทำหน้ายักษี ใส่ทั้งแม่ ทั้งพยาบาลทันที พร้อมตวาดเสียงดัง
ด้วยน้ำเสียงโกรธสุดขีดว่า

" บอกให้จับดี ๆ ไง....... ไม่รู้เรื่องเหรอ??  มันยากนักเหรอให้ช่วยจับแค่เนี้ย?    
แล้วเด็กเนี้ย !!  ทั้งดิ้นทั้งร้องขนาดนี้ ฉันจะตรวจได้ยังไง... ไม่ต้องต่งไม่ต้อง
ตรวจมันแล้วถ้ายังไม่หยุดดิ้นหยุดร้อง......  ไปเลย.....ไปนั่งตรงนู้นก่อนเลย
ทั้งแม่ทั้งลูก รอให้สงบสติให้ได้มากกว่านี้ซะก่อน แล้วค่อยมาตรวจกับชั้น!!..."

" คิวต่อไปเชิญค่ะ..... !! "

แล้วหล่อนก็มองมาที่ฉัน

ตอนนั้นซอนย่าจำได้ว่ากลัวมากกกก  ตกใจมากกก  พอ ๆ กับ ทั้งแม่ลูกคู่นั้น
แหละค่ะ  คุณแม่ทำหน้าไม่ถูก  อีตาลูกก็ยิ่งแผดเสียงร้องให้ดังเข้าไปใหญ่
				
19 กรกฎาคม 2548 18:45 น.

ปกิณกะความงามบทที่1(ขมิ้นเพื่อผิวสวย)

SonyaBeauty

ภาคต่อจาก http://www.thaipoem.com/forever/story.php?storyid=5409 ปกิณกะความงาม
จึงขอต่อด้วย 
ปกิณกะความงามบทที่1(ขมิ้นเพื่อผิวสวย)
ขมิ้นเป็นพืชสมุนไพรที่ใช้ทาผิวมาตั้งแต่โบราณ
นอกนั้นยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคมากมาย
ชื่อไทย     ขมิ้น   
ชื่อสามัญ     CURCUM,TERMARIC  
ชื่อวิทยาศาสตร์     Curcuma domestica Valeton

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องขมิ้นกับความงามค่ะ
ด้วยความที่เป็นหญิงสาวสวยสุดเซ็กส์ซี่ส์ผู้มีธุรกิจรัดตัวติ้ว ๆ  ต้องมีงานเดินแบบถ่ายแบบเป็นประจำทำให้ไม่ค่อยมีเวลาจะเข้าครัวทำกับข้าวกับปลาให้สมกุลสตรีเท่าไหร่  ทำให้ซอนย่าต้องฝากท้องกิ่ว ๆ ไว้ที่ ข้าวตามสั่งร้านเจ๊เพิงหมาแหงนหน้าปากซอยทางเข้าหมู่บ้าน  .. แต่ว่าไม่ได้เลยนะคะ  เพราะเจ๊แกฝีมือจวักกวักลูกค้าเป็นเลิศ รสมือเยี่ยมผัดข้าวโช้งเช้งควันโขมงหัวเหม็นได้ใจเลยทีเดียว เป็นร้านที่คนทั้งซอยสามารถฝากท้องหิว ๆ ใส้กิ่วและเลี้ยงชีวิตให้รอดตายไปได้หลายมื้อ ...........เกี่ยวอะไรกับขมิ้นเหรอคะ??  ใจเย็น ๆ สิคะดิฉันกำลัง อารัมภบทอยู่หน่ะค่ะ...				
23 มิถุนายน 2548 00:40 น.

ปกิณกะความงาม

SonyaBeauty

 
เป็นเรื่องธรรมดานะคะ ที่ผู้หญิงก็ต้องคู่กับความสวยความงามส่วนตัวของซอนย่าเองแล้วเนี้ย  อู้ยยย อย่าให้said เลยค่ะ
กับไอ้เรื่องกุ๊กกิ๊ก ปกิณกะ ความสวย ความงาม เนี้ยนะคะ
มันเป็นของคู่กันค่ะ  ใช้ครีมทาตัวมาตั้งแต่จำความได้ค่ะ
คุณแม่ยังเคยบอกว่า ตอนคลอดออกมาเนี้ย ได้สำแดงฤทธิ์
ปาฏิหารโดยการถือลิปสติกออกมาตอนคลอดค๊า.
ประมาณกำลิปทาปากไว้ในมือเป็นอาวุธตั้งแต่อยู่ในท้องคุณแม่
เลยนะคะสำหรับดิชั้น..อู้ยยย อย่าทำเป็นเล่นไปเชียวนะคะ!!
พอหมอทำคลอดจับตีก้น แหกปากปุ๊บ ก็อภินิหารกุมารหญิง
เอาลิปสติกขึ้นมาทาปากจนสวยเกินหน้าเหล่าบรรดาทารกใน 
โรงพยาบาลร่วมคลอดเดียวกันเลยค่ะ  ทำเป็นเม้าท์ไปสิ..
ดิฉันค่ะ แต่งหน้าเป็นตั้งแต่อยู่อนุบาล 2 มั้งคะ  
				
17 มกราคม 2548 20:40 น.

อุบัติเหตุรักกลางซอยบ้านดิฉัน...เช้าวันก่อน

SonyaBeauty


ด้วยเหตุว่า เป็นคนสวย แต่งหน้านาน   เลือกชุดหวาน คู่กระเป๋า รองเท้านั่น
กินเวลา เป็นชั่วโมง เกือบหมดวัน        ว่าแล้วพลัน  สตาร์ทรถ  ในทันที
เครื่องกระหึ่ม ดังแรง สำแดงเดช          เหตุอาเพศ ดันมาเกิด ได้เสียนี่
พลันรถดับ ขยับนิ่ง ทำไงดี                    คงต้องมี การไล่ออก หากไม่ทัน
                         %%%%%%%%%%%%%%%%%

กรี๊ดดด กรี๊ดดดด กรี๊ดดดดดด         คุณพ่อขา ช่วยหนูด้วย
เกิดอะไร ขึ้นไม่รู้ หนูงง งวย            ซังกะบ๊วย ไอ้รถบ้า มาดับไป                   
หนูต้องรีบ ไปประชุม ด้วยค่ะพ่อ       อย่ารีรอ รีบมาดู ว่าไฉน                          
รถของหนู ไม่รู้มัน เป็นอะไร            ว่าทำไม  วิ่งแล้วดับ ขยับเดียว
                        %%%%%%%%%%%%%%%%%%
                                                             
                                                   ...พ่องัวเงีย ออกมา ทำหน้ามู่...                     
ว่าแล้วเปิด ฝากระโปรง รถออกดู    ขมวดคิ้ว  ทำหน้ามู่  ในทันที
แล้วเดินมา ที่นั่งหน้า  ด้านคนขับ    ค่อยขยับ สตาร์ทเครื่อง เช็คดูที่ 
แล้วส่ายหน้า หันมามอง  ยายตัวดี    ตัวพ่อนี้  พูดไม่ออก  ในทันใด 
                   %%%%%%%%%%%%%%%%%%
                                                      
                                                   คุณลูกคะ   คุณลูกขา  แม่แสนสวย           
มีแต่เรื่อง ให้พ่อได้  เป็นงงงวย      ว่าลูกสวย  แต่ยังขาด  ฉลาดไป               
อย่าได้บอก ว่าพ่อ มิสั่งสอน            ไอ้ทีตอน ขับรถ   นั้นขับได้                     
แต่น้ำมัน รถยนต์ ที่หมดไป           ทำได้ไง ไม่เคยเช็ค ดูให้ดี                     
เกียร์น้ำมัน ตั้งอ้าซ่า อยู่หน้ารถ      อย่าสบถ  ให้ดังไป  อายเจ้าที่                      
แม้แต่คน ปัญญาอ่อน ยังรู้ดี          รถไม่มี  น้ำมัน วิ่งได้ไง??
          %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%   

กรี๊ดดด กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด        คุณพ่ออ่ะ  แสนใจร้าย
ไม่ได้ช่วย อะไรเลย ยังมิวาย          ต่อว่าให้  หนูอับอาย  ดั่งแกล้งกัน
หมดเวลา มาต่อล้อ และต่อเถียง     หากมัวเอียง คอต่อความ  ตามคำนั่น
คงได้สาย หมดสวย ซวยทั้งวัน        เจ้านายนั่น  มันคงไล่  หนูออกงาน
ว่าแล้วจึง ใส่ตีนหมา  ในทันใด      จุดมุ่งหมาย หน้าปากซอย  ไกลจากบ้าน
กว่าจะวิ่ง ไปถึง คงต้องคลาน          รีบลนลาน  ออกบ้าน  ในทันที
          %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

                                                      ....ด้วยปราด้า ส้นเข็ม อันสุดหรู.....       
คัดเลือกสรร เข้ากับชุด แม่โฉมตรู    แสนงามหรู คู่กระเป๋า หลุยส์วิกตอง

เสือกมาหัก ส้นเข็มคา เอากลางซอย   คงชรอย ถึงคราวเคราะห์ แม่งามผ่อง
ฉันจะทำ ยังไงได้  คงต้องลอง            หักส้นสอง  แล้วห้อวิ่ง   กันต่อไป
ฟ้าสวรรค์ คงมีตา หาใช่ที่                  มิได้มี  ใจโหดร้าย  เกินไปไม่
เทพบุตร  ส่งลงมา ในทันใด             มอเตอร์ไซด์  บิดออกมา  จอดหน้าเธอ
              %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

เมื่อถอดหมวก  กันน๊อคมา  ตาประสาน	    ตะลึงลาน  ซ่านใจ   ให้ไผลเผลอ
ด้วยนัยน์ตา  แสนหวาน  ปานละเมอ	       คิ้วคางเธอ  ดูรัญจวน  ป่วนหัวใจ
รอยยิ้มกว้าง  แถมลักยิ้ม ที่มุมปาก		       ฟันสะอาด ขาวสวย  เรียงสดใส
ใบหน้างาม หล่อเหลา เร้าฤทัย		          ทั้งอกผาย ไหล่ผึ่ง ตะลึงลาน
แถมสูงโปร่ง  ขาวตี๋   ดูดีนัก		            แอบนึกรัก  สมัครใจ  ใฝ่ประสาน
ลูกชายใคร ใยโคตรหล่อ เหลาเอาการ	    อยากสมาน สานสมัคร หลงรักเธอ

สวัสดีครับ ผมเห็นคุณ รีบวิ่งมา		          อยากบอกว่า ตัวผมเอง ใคร่เสนอ
หากว่าคุณ ไม่รังเกียจ  แล้วนั่นเออ		       อยากเสนอ ให้ซ้อนท้าย ไปด้วยกัน
ไม่ทราบว่า ตัวคุณ รีบไปไหน		         แล้วทำไม รองเท้าหัก อยู่ตรงนั้น
หากอยากกลับ บ้านไปเปลี่ยน ไม่ว่ากัน	    ผมขอขัน อาสา จะพาไป


  กรี๊ดด กรี๊ดดดด กรี๊ดดดด วี๊ดดด ว๊ายยยยยย กรี๊ดดด กรี๊ดดด กรี๊ดดดดด
ใส่จริตมารยา  เข้าสาไถย             ดีเหรอคะ?  ดิฉันเอง แสนเกรงใจ 
                               เพราะมิได้ คุ้นเคย รู้จักกัน

ไม่เป็นไร หรอกครับ ผมยินดี		    ตัวผมนี้  สุดปรีเปรม เกษมสันต์
ใช่ไม่คุ้น เคยบ้าน ซอยเดียวกัน		    ทางเดียวกัน  หารสอง น่าลองดี
กลัวแต่คุณ  แหละครับ จะดูถูก		    มอเตอร์ไซด์  ลูกคนจน  ผมคนนี้
หากอยากนั่ง  รถเก๋ง เกรงไม่มี		    แต่ผมนี้  จริงใจ  ให้กับคุณ

ต๊ายตายแล้ว ปฏิเสธ คงน่าเกลียด		    หากทำเรียก เล่นตัว กลัวเคืองขุ่น
สุขุมวิท  สี่สิบสาม เลยค่ะคุณ		    ขอนั่งลุ้น  แปดโมงครึ่ง ถึงทำงาน
เมื่อว่าแล้ว เทพบุตร พ่อสุดหล่อ		    ก็รีบห้อ บิดไป  ไม่กล่าวขาน
ปานจรวด  พุ่งฉิว  ปลิวมิปาน		    ซอนย่านั้น กอดเอวแน่น กลัวตกจริง

เอวช่างคอด กล้ามท้องเกร่ง แรงมิตก 	    หลังน่าซบ  กอดแล้วหลับ กระชับยิ่ง
อันกลิ่นกาย  หอมกรุ่น เสียจริงๆ		    อยากประวิง เวลากาล ให้นานไป
สิบห้านาที เลยไปนิด ลืมคิดถึง		    ตกตะลึง ถึงออฟฟิส คิดแล้วไซร้
พ่อกามนิต เทพบุตร สุดไฉไล		    ทำยังไง จึงจะได้  ตอบแทนคุณ

        %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%


ถึงแล้วครับ ผมรีบ อย่างที่สุด                       หวังว่าคุณ คงไม่สาย ไม่ต้องลุ้น
อย่าได้เกรง อกเกรงใจ เลยครับคุณ               อย่าว้าวุ่น อย่ากลุ้มใจ อะไรเลย
แต่ว่าหาก ใคร่อยาก มาตอบแทน                 ผมมีแผน มาบอก มาเฉลย
ให้มารับ ตอนเลิกงาน ได้ไหมเอย                อยากคุ้นเคย  อยากรู้จัก  ให้ดีพอ
ว่าแต่ว่า  เลิกงานตอน กี่โมง                         สักหกโมง รอผมหน่อย ได้ไหมหนอ
ผมเลิกเรียน  ก็ตอนเย็น อยากให้รอ              แค่อยากขอ มารับ กลับด้วยกัน

ตะลึงหก  ตกใจ อะไรนี่??                             นี่คุณยัง ร่ำเรียนอยู่ จริงหรือนั่น??
เรียนที่ไหน  เรียนอะไร ปีไหนกัน?              ทำเอาฉัน นั้นงงงัน จนงงงวย

ผมเรียนอยู่  ปวช  ก็ปีหนึ่ง                            ทำไมถึง จะต้องงง ครับคนสวย??

ตายต๊ายตาย!! แค่สิบหก  จริงๆ ด้วย             ฉันคงซวย  พรากผู้เยาว์  เข้าซังเต
เอาอย่างงี้ ดีกว่า มั้ยคะน้อง                           อยากให้ลอง เป็นพี่น้อง ไม่ขวนเข
พี่ไม่อยาก ทำให้น้อง ต้องรวนเร                  อยากให้เท ทุ่มใส่ใจ ในการเรียน

น้ำตาตก  ช้ำหัวอก ฟกเข้าไป                      จึงทำได้  ได้แต่มา นั่งขีดเขียน
ลงเป็นกลอน ในเรื่องสั้น ฝันเพี้ยนๆ            นั่งนอนเขียน ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน
คิดยังไง  กับอายุ ที่ดูห่าง                              ก็ผู้ชาย เขาเด็กกว่า  ตั้งปานนั้น
ห่างกันเกือบ สิบปี  ดูข้ามขั้น                       ต้องรอวัน  น้องเรียนจบ  พบอีกที
(เศร้า...)                        

เสียงเพลงจากวิทยุข้างห้องทำงาน ดั๊นน ดังมาตอกย้ำให้ช้ำอีกว่า

อายุเป็นเพียงแค่สายลม ผ่านพัดไป ก็เธออย่าคิดมากได้ไหม ความรักเป็นเรื่อง
ของหัวใจ ไม่ใช่เรื่องใด..อยากให้รู้ว่าเด็กกว่าแล้วไง??  :: AB Normal

-จบบริบูรณ์ค่ะ-				
5 มกราคม 2548 22:05 น.

ผู้ชายเลวกว่าหมา&ไม่ได้มาจากดาวอังคารผู้หญิงแรดกว่าชะนี&ไม่ได้มาจากดาวศุกร์

SonyaBeauty

ฟัง ๆ ชื่อหัวข้อแล้วคงคุ้นหูกันดีใช่มั้ยคะ เพราะแหม..ออกจะดังขนาดนั้นกับหนังสือเล่มนี้  จริง ๆ แล้ว ไอ้หัวข้องเรื่องเนี้ยนะคะ มันเป็นหนังสือจากเมืองนอกเมืองนานู้นนนค่ะ เล่มแรกเปิดศักราชเนี้ยเขียนโดยนักเขียนชาวฝรั่งนายนึงชื่ออีตา  Jonh Gray เขียนหนังสือชื่อว่า  Men are from Mars, Women are from Venus  แปลได้ว่าผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์ ซึ่งเนื้อหาในหนังสือก็เกี่ยวกับพฤติกรรมสามัญทั่วไปรวมทั้งนิสัยแลกมลสันดานพื้นฐานและความแตกต่างความต้องการของทั้งสองเพศ  ที่ใช้ชื่อเนี้ยเพราะอ้างมาจาก เรื่องราวของเทพกรีกโบราณ  ว่ากันว่า ดาวอังคาร์ มีเทพผู้ปกป้องเป็นผู้ชาย  เชี่ยวชาญชำนาญด้านการรบทัพจับศึก เป็นชายชาติอาชาไนย เกริกก้องเกรียงไกรด้านความดิบเถื่อนเข็งแรง ได้เป็นตัวแทนผู้ชายไป  ส่วน  วีนัส  อันนี้คงรู้จักกันดีว่าเป็นยี่ห้อ ด้าย ไหมพรม มีชื่อยี่ห้อหนึ่ง  กรี๊ดดดดดดด  ไม่ใช่ค่ะ  เจ้าหล่อนอยู่ดาวศุกร์นู้น เป็นหญิงที่มีความงามเป็นเลิศ ในปฐพี เป็นเทพเทพีแห่งความงามประมาณนั้น เจ้าหล่อนก็สวยฉลาดเก่งอ่อนไหวละมุนหวาน ตามอารมณ์แนวหญิง ๆ เทือกนั้นหล่ะค่ะ   นับเป็นความแตกต่างกันคนละขั้วเดียวกัน จึงทำให้ ข้อแตกต่างทั้งสองข้อนี้ เปรียบเหมือนด้านขาวและด้านดำ หยินหยาง อ่อนแข็ง  ทำให้เกิดความแตกต่างในมุมมองทัศนะคติ นิสัย   หลัก ๆ ก็จะแบบว่า ผู้หญิงละเอียดอ่อนกว่า ใส่ใจกับรายละเอียดกว่า ผู้ชายหยาบกระด้าง ทำอะไรห่าม ๆ   แต่ผู้ชายเด็ดเดี่ยวกว่า ตัดสินใจรวดเร็วกว่า  ผู้หญิงแบบว่าเชื่องช้ากว่า ไม่กล้าตัดสินใจขาดความเป็นผู้นำ   .............   ยุคสมัยเปลี่ยนไปค่ะ  ดิฉันไม่ค่อยเห็นด้วยกับข้อนี้เท่าไหร่นัก   เอาหล่ะ สรุปว่ามันเป็นเหมือนสงครามระหว่างเพศเชียวค่ะ  หนังสือ ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์ ขายดิบขายดีไปทั่วโลก แปลออกมาหลายภาษา ได้รับความนิยมมากมาย จนทำให้มี สตรีนางนึง ออกอาการคันปากเหมือนดิฉัน  เพราะอีตาจอนห์เนี้ยเค้าเป็นผู้ชาย เค้าจะมี ไบแอส หรืออคติเล็ก ๆ ที่ได้กลิ่นจากหนังสือเค้า  เจ้าหล่อนนาม Amanda Newman จึงออกมา พะหน้าหนังสือเล่มใหม่ด้วยไตเติลเฉิดไฉไลที่ว่าWomen are from Venus, Men are from Hell  หรือ  แปลได้เก๋ ๆ ว่า ผู้หญิงหน่ะ มาจากดาวศุกร์เนี้ย ถูกแล้ว แต่ผู้ชายเนี้ยนะคะ ขอโทษ มันมาจากนรกค้า.....!!!   เอาซี้.... เอากับหล่อน  แล้วไอ้ที่หล่อนเขียนมาเนี้ย คือเอามาต้าน อีตาจอนห์ เกรย์ แบบเห็น ๆ ทั้งชื่อหนังสือและเนื้อความ  ก็ได้รับการตอบรับจาก พลังหญิงเป็นอย่างดี ติดอันดับ เบสเซลเล่อร์ไปนะเจ้าคะคุณผู้ชม เนื้อความก็แบบว่า ถูกใจดิฉันมากกกก คืออ่านแล้วแบบว่า ต๊ายยตายยย จริง 99.99 % เหมือนทองสวิส เชียวนะค๊าาา  ถูกใจซอนย่ามากมั่กเลยค่ะ  ขอบอก!!   แต่แหม.....มันก็แบบว่า....นะคะ.... อีทั้งสองเล่มเนี้ยมันก็เป็นแนวคิดแบบฝรั่ง ๆ อ่ะค่ะ  ไหนเลยจะดุเด็ดเผ็ดมัน พริกขี้หนูกระเทียมน้ำปลามะนาว แบบคนไทยหล่ะคะ??  คุณกะละแมร์  ก็มาเลยค่ะ ด้วยหนังสือ แรงแห่งปีค่ะ  "ผู้ชายเลวกว่าหมาและไม่ได้มาจากดาวอังคาร"   กรี๊ดดดดดดดดดดดดด สลบ  แรงได้ใจ แรงชนิด ยัย อแมนด้า นิวแมน ต้องเรียกแม่ค่ะ  และเนื้อหาก็ถูกใจสาวไทยยิ่งนัก 


หนังสือพ้อคเก็ตบุคของสาว "คุณกาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ" 
เธอเขียนว่า... 

" "หมา" เป็นสัตว์ที่ได้รับเกียรติให้อยู่เคียงข้างมนุษย์ (เพศผู้) เสมอ ไม่ว่าจะเรื่องกิน ก็บอกว่า "กินมูมมามอย่างกับหมา" กินเหล้า ยังบอกว่า "เมาเหมือนหมา" พอทะเลาะกันก็ "กัดกันอย่างกับหมา" เมื่อถึงกับเลือดตกยางออกก็พูดกันว่า "ตายเหมือนหมา (ข้างถนน)"

เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกอะไร ถ้า "ผู้ชายจะเลวกว่าหมา" และก็ไม่ได้ดีเด่ขนาดว่า "มาจากดาวอังคาร" อย่างที่ทฤษฎีฝรั่งเชื่อกัน..." 


เอาซี้... เอากับหล่อนสิคะ คือประมาณว่าถ้าทำอะไรได้สุดโต่ง ขนาดนี้ แน่นอนค่ะ ย่อมมีเสียงวิพากวิจารณ์ตามมาให้กระหึ่มแน่นอน อยากรู้มั้ยคะว่าเจ้าหล่อนโดนอะไรบ้าง  ขอบอกว่าโดนแบบเยอะมากค่ะ อันดับแรกเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่สมาคมคนรักสัตว์ และสมาคมคนเลี้ยงสุนัขแห่งประเทศไทย ค่ะ  อู้ยยยย  คุณพระคุณเจ้า  เหล่าบรรดาท่าน ๆ  ออกมาโวยกันลั่นว่า  หมา  มันผิดอะไรคะ?? หมามันเลวร้ายอะไรขนาดนั้น? ทำไมต้องว่าหมาขนาดนั้น? หมามันรู้เรื่องอะไรด้วยเหรอ? แล้วก็ตบท้ายการด่าคุณกาละแมร์ว่า "นังปากหมา!!"  เอาซี้ เอาสิคะ นี่ขนาดเถียงแทนหมาอยู่โท่ง โท่ง   ยังดั้นนน มาตายตอนจบ ด้วยการเอาสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองมาเป็นโจกย์จนได้ และบรรดาชายหนุ่มหล่ะคะ อู้ยยยยย  ออกอาการทันทีค่ะ ทนม่ายด้ายยย มันหยามศักดิ์ศรีดูหมิ่นเกียรติยศ ลูกผู้ชายยิ่งนัก มาว่าตูว่าเป็นหมาได้ยังไงฟ๊ะ ทนไม่ได้เฟ้ยย ยอมตายซะดีกว่าจะโดนลูบเหลี่ยมให้เสียคม หรือดูถูกจนศักดิ์ศรีไม่เหลือ และ นี่ก็คือตัวอย่างของชายหนุ่มท่านหนึ่งนะคะที่ออกมาโต้เจ้าหล่อนค๊าาา เชิญรับชมค่ะ


"หัวปิงปอง" (ในฐานะตัวแทนของหมา) ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าเจ้าสัตว์สี่ขา สองตา หางเดียว นี้ มันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ (อาจจะมีบ้างที่มันมีเพศสัมพันธ์ไม่เลือก แม้แต่กับบรรดาพี่สาว น้องสาว หรือญาติๆ ของมันที่เป็นตัวเมีย รวมทั้งไล่กัดคนแปลกหน้าที่มันรู้สึกผิดกลิ่น รวมไปถึงเจ้าของเท้าที่วางอยู่บนหางมัน แต่นั่นก็เพราะธรรมชาติและสัญชาติญาณของการป้องกันตัว)  



ที่เรารับรู้กันก็คือ หมาเป็นสัตว์ที่น่ารัก ฉลาดแสนรู้ ซื่อสัตย์ รักเจ้าของเป็นที่หนึ่ง และได้รับการยกย่องว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีของมนุษย์  



คุณสมบัติแบบนี้ แล้วมันเลวได้อย่างไร? 



"กินมูมมามอย่างกับหมา" สุนัขถูกอออกแบบมาให้มีสรีระที่ไม่อำนวยในการใช้ช้อนส้อม เพราะฉะนั้นมันจึงต้องใช้ปากก้มลงไปรับประทานอาหารอาหารโดยตรง แต่ถึงให้มันกินอย่างที่เรียกกันว่า "มูมมาม" แต่ก็ใช่ว่าอาการ "มูมมาม" ที่เกิดขึ้นทั้งกับคนและหมาจะเป็นเรื่องที่ควรจะตัดสินว่าผู้ชายคนนั้น หมาตัวนั้น "เลว" 



"เมาเหมือนหมา" สารภาพเลยว่า "หัวปิงปอง" ไม่เคยเห็นหมาเมา จึงไม่รู้ว่ามันแสดงอาการอย่างไร? เมาแล้วมันหาเรื่องตัวอื่น มันแล้วมันหอนแซวหมาตัวเมีย เมาแล้วมันหลับ หรือว่าเมาแล้วมันเห่าหอนเสียงดัง แต่ทั้งหมดก็ไม่น่าจะถึงกับที่เรียกว่า "เลว" 



"กัดกันอย่างกับหมา" การกัดกันโดยส่วนมากจะเป็นเรื่องของคนสองคน หมาสองตัว หรืออาจจะมากันเป็นกลุ่มๆ ถ้าหากไม่ทำให้ใครอื่นเดือดร้อน คนหรือหมาที่ไม่ได้เข้าไปกัดกับเขาจะไปตัดสินว่าสิ่งมีชีวิตที่ประพฤติกิจกรรมดังกล่าว "เลว" เป็นการบังควรแล้วหรือ?  



"ตายเหมือนหมาข้างถนน" เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกอะไร ถ้า "ผู้ชายจะเลวกว่าหมา"...ตรรกะข้อนี้ ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะการตายในลักษณะดังกล่าว เป็นการตายที่แสดงให้เห็นถึงความน่าสมเพช ความไม่น่าดู ตายอย่างไร้ค่า ตายแบบไม่มีใครเหลียวแล ใครที่มาตัดสินว่าการตายเช่นนี้เป็นเรื่องที่ "เลว" คนๆ นั้นนั่นแหละอาจจะเป็นคน "เลว" แทนก็ได้ 



ทั้งชื่อหนังสือ ทั้งชื่อรายการโทรทัศน์ที่สาว "กาละแมร์" เธอเคยเป็นพิธีกรมาก่อน อย่าง "ผู้หญิง ผู้หญิง" พิจารณาตามทฤษฎีและตรรกะของผู้ชายที่เลวกว่าหมา เอ๊ย...ผู้ชายที่ดีๆ อย่าง "หัวปิงปอง" แล้ว ดูเหมือนว่าผู้หญิงที่จะคิดเช่นนี้ได้น่าจะต้องเป็นคนที่มีอดีตที่ช้ำชอกมีประสบการณ์เลวร้ายที่ซ้ำซากกับบรรดาผู้ชายเลวๆ มาก่อนเป็นแน่แท้ ถึงทำให้เธอเกิดมีความรู้สึกกับผู้ชายเช่นนี้  


เธออาจจะอกหักเพราะผู้ชายที่รักมากหนีไปอยู่กับกะเทย, ถูกผู้ชายยืมเงินแล้วไม่ใช้คืน, ขึ้นรถเมล์ผู้ชายไม่ลุกให้นั่ง, เข้าแถวซื้อข้าวโพดคั่วแล้วผู้ชายแซงคิว, รำคาญพนักงานขายที่เป็นผู้ชายในร้านเซเว่นฯ ที่มักจะพูดว่ารับขนมจีบ ซาลาเปา เพิ่มมั้ยครับ, ชวนผู้ชายไปดูหนังแต่ผู้ชายจะดูบอล ฯลฯ 



หรือไม่แน่ว่าประสบการณ์ของเธอกับบรรดาหมาๆ ก็อาจจะไม่ดีด้วยเช่นกัน อาทิ ถูกหมาคาบแฟนไปรับประทานโทษ...ถูกหมาแย่งลูกชิ้นไปรับประทาน, ถูกหมาบ้ากัดจนต้องฉีดยารอบสะดือ, หมาที่เลี้ยงไว้ไม่รักดี แอบไปมีอะไรกับหมาข้างบ้าน (ที่เผอิญไม่ถูกกัน), โยนของไปแล้วหมาไม่ยอมไปคาบ, แฟนชอบเล่นกับหมามากกว่าที่จะมาเอาใจใส่ตนเอง (อันนี้เลยไม่ค่อยชอบทั้งผู้ชายและหมา) ฯลฯ 


คฑาชายอีกนายหนึ่งกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า

"อย่าลืมนะครับว่าผมหน่ะ เพศเดียวกับ พ่อ!! คุณ  หลังจากคุณพูดคำว่า ผู้ชายเลวกว่าหมาออกมาแล้วหน่ะ  อย่าลืมกลับไปดูแลพ่อคุณที่บ้านด้วย"



เอาซี้.......... เอากับเค้าสิคะ............ ต้านได้ถึงพริกถึงขิงถึงเครื่องแกงเผ็ดเห็ดสดกันซะจริง จริ๊งงงง  ให้ตายเหอะ พระเจ้าจอร์จ++

เป็นยังไงบ้างหล่ะคะ??  สะใจ !!  คุณผู้ชายหล่ะในไทยโพเอ็มหล่ะซี้  คงพยักเพยิดหน้าเห็นด้วยกันเป็นการใหญ่  เชอะ! เชอะ!! เชอะ!!!  

เอาหล่ะค่ะ สำหรับ คุณผู้หญิงในนี้ คิดกันว่าไงบ้างคะ  ว่ามาเลยค่ะ แสดงทัศนะได้  แต่สำหรับซอนย่า คิดอย่างงี้นะคะ ........

"หมา!!" เป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก ค่ะ แน่นอน ซอนย่ายังชอบเลยค่ะ บางทีน่ารักกว่าผู้ชายบางคนอีกนะคะ  เวลาเลี้ยงหมาเนี้ย หมาจะรักเจ้าของมากค่ะ มันจะจำเจ้าของได้อย่างเม่นยำ เดินกลับบ้านห่างจากบ้านเกือบร้อยเมตร มันนอนอยู่ในบ้าน มันก็กระโดดโลดเต้นอย่างดีใจสุดขีดแล้ว มันรู้แล้วว่าเสียงเดินที่ห่างออกไป กลิ่นตัวที่มันคุ้นเคยที่ไกลออกไปนอกบ้านนั้นคือเจ้าของมันกำลังมา มันจำได้ขนาดนั้น  ผิดกับผู้ชายบางคน  ลืมง่าย  และ  เลว!!   อ๊ะๆๆ ขอเน้นว่าบางคนนะคะ คุณผู้หญิงหลายคนเห็นด้วยกับซอนย่ามั้ยคะ  ไม่ต้องถามก็รู้คำตอบว่าพยักหน้ากันหมดแน่นอน    ฉะนั้นเนี้ย  ไอ้คำด่าเปรียบเปรยความเลวของคนบางคนกับหมาเนี้ย   มันเป็นแค่  คำเปรียบเทียบเท่านั้นค่ะ  ภาษาไทยอ่ะค่ะ ไม่เข้าใจเหรอคะ??  คำเปรียบเทียบเปรียบเปรย อ่ะค่ะ  มันไม่ได้ต่อว่าหมาจริง ๆ หรอก แต่มันตั้งใจจะว่าคน ๆ นั้น  ถูกมั้ยคะ  แล้วทำมั๊ยยย เข้าใจอะไรกันยากนักก็ไม่รู้ แล้วไอ้ที่บอกว่า ผู้ชายเป็นเพศพ่อ ก่อนว่าผู้ชายกลับไปดูพ่อที่บ้านก่อนหน่ะ ยิ่งปัญญาอ่อนที่สุด  พ่อก็พ่อ ค่ะ  พ่อดิฉัน ดิฉันก็รักก็เทอดทูน พ่อใคร ใครก็รักอยู่แล้ว จะเอามาเบี่ยงประเด็นว่า คุณเป็นเพศพ่อ แล้วคุณจะทำเลวจนดิฉันด่าคุณไม่ได้หน่ะ  กรุณากลับไปคิดใหม่นะคะ ถ้าคุณเลวจริง ยิ่งกว่าด่าดิฉันก็ยังทำเลย   ทำไรดีคะ ถอดส้นสูงตบหน้าสักที จะดีมั้ย  รับรองว่าทำแน่ค่ะ แล้วก็ไม่ต้องไปขออนุญาติคุณพ่อที่บ้านด้วย  เข้าใจนะคะ!!   อีกอย่างนึงที่อยากบอกคือ เรื่องพวกนี้มันปัจเจกบุคคลค่ะ  ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนต้องเลวววว เหมือนกันหมด  ถ้าคุณไม่เป็นอย่างนั้น  คุณก็เสียวสันหลังอย่างเดียวก็พอค่ะ ไม่ต้องร้อนตัววัวสันหลังหวะ กินปูนแล้วต้องเอาน้ำเย็นมาลูบพุงก็ได้นี่คะ!! ซอนย่าพูดถูกมั้ยคะ??

ที่ผู้หญิงอย่างเรา ถูกด่าถูกว่ามาตั้งแต่สมัยโบราณ ว่า กากี บ้างหละ สุวรรณมาลี หรือ อีดอกทองบ้างหล่ะ  ถูกกดขี่ข่มเหงมาสารพัด ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไรใหญ่โต ไม่เห็นเราจะโวยวายจะเป็นจะตายเลย   ถามจริง ๆ  นางพิม หรือนางสุวรรณมาลี เธอผิดตรงไหนคะ??  ทำไมเธอต้องถูกประนามขนาดนั้น  แล้วที่เธอต้องรับกรรม ไม่ใช่เกิดจากความชั่วของผู้ชาย เหรอ   อีตาขุนแผน นั่นก็ไปที่ไหน เอาเมียที่นั่น  ไม่เห็นมีคนว่ามัน กลับเทอดทูนบูชาว่าเท่ห์ เสน่ห์มหานิยม  ได้เมียเป็นสิบ ทั้งคนทั้งผี  คิดดูแล้วกัน  นางพิม มีแค่สองคน กลับถูกประหารชีวิต ตราหน้าว่า มักมาก หลายใจ    กรี๊ดดดดดดดดดดดด    ดิฉันอ่านเรื่องนี้แล้วขัดใจ

ปัจจุบันค่ะ  ผู้หญิงได้รับการยกย่อง เปรียบเปรย กับสัตว์ ไม่แพ้กันค่ะ 

อาทิ เช่น   แรด !!    และ   ชะนี!!

แรดตัวเมีย เวลาต้องการผสมพันธุ์เมื่อถึงฤดู เค้าจะแสดงอาการโดยสัญชาติญาณโดยไล่ขวิดตัวผู้เพื่อบอกว่าพร้อมแล้วที่จะได้รับการผสมพันธุ์ แต่อาการไล่ขวิด ไม่ได้ไล่แบบ วัวกระทิงที่ไล่ขวิดกันให้ตาย  เพียงแค่ยกนอเข้าสัมผัสฝ่ายตรงข้ามเป็นการบอกสัญญาณเท่านั้น......... เมื่อได้รับการผสมพันธุ์เสร็จ เจ้าหล่อนก็ต้องอุ้มท้องต่อไปหลายเดือน และดูแลลูกอีกเป็นปี

แค่นี้แหละค่ะ  เอามาเปรียบเทียบกับผู้หญิง ว่า  อีแรด


ส่วนชะนี   รู้ใช่มั้ยคะ ว่า มันร้องยังไง  มันร้องออกเสียงคล้ายคำว่า ผัว ผัว  ผัว
ก็อุตส่าห์ตีความว่า มันร้องเรียกหาแต่ตัวผู้  จ้องจะจับแต่ตัวผู้  ผู้หญิงก็ไม่วายจะโดนเรียกโดนเปรียบว่า เป็น อีนังชะนีอีก ( ส่วนมาก คำว่าชะนี  นี้นะคะ ผู้หญิงเรามักจะถูกเรียก โดยพวก เกย์ ตุ๊ด กะเทย อีแอบ ทั้งหลาย เพราะเราเป็นศัตรูคู่อาฆาตในการที่แย่งความสนใจจากผู้ชายไปจากพวกหล่อนค่ะ )  แต่ตัวดิฉันเองก็มีเพื่อน ๆ ที่น่ารัก กลุ่มนี้อยู่เยอะค่ะ เวลาพวกมันเรียกดิฉัน ก็จะเรียกแบบ ซอล์ฟ ๆ หน่อยฐานะเพื่อนรักกัน ว่า  "คุณน้องนี"  แต่เมื่อไหร่มันวีนใส่ดิฉันจะเปลี่ยน wording ทันทีค่ะ เป็น  ว่าไงย๊ะ??  อีนังชะนี!!!   กรี๊ดดดดดด
อีพวกใจร้ายยยย.........

แต่เห็นมั้ยคะว่าผู้หญิงเราก็ไม่ค่อยได้ออกมาร้องแร่แห่กระเชิงกันซักเท่าไหร่ ก็ทนถูกเรียกดูถูก ดูหมิ่น กดต่ำ มาตั้งน๊านน นานนน  พอคุณกาละแมร์เธอเอาเรื่องจริงมาพูดเข้าหน่อย  อู้ยยยยย ทำเป็นรับไม่ได้กันเป็นแถว ๆ 

แล้วคุณกาละแมร์เธอแคร์เหรอคะ???   ขอสบัดผมบ๊อบใส่หน้าคุณผู้ชายอย่าง แรง ๆ ว่า  ไม่!!  ไม่!!!   ไม่ค่ะ!! NoNoNo!!!  ไม่แคร์!!  อยากด่าอยากว่าอะไรก็ว่าไปสิค๊ะ  ดีซะอีก  ยิ่งโดนด่า ยิ่งดัง  ยิ่งโดนวิพากย์วิจารณ์ ยิ่งดียิ่งเด่น แสดงว่าเป็นที่สนใจ  หนังสือเธอถึงได้พิมพ์ขาย ปาไป รอบที่ยี่สิบ   รวยรับทรัพย์ ไปไม่รู้เท่าไหร่!!   เชิดใส่อย่าแรง ๆ 


นี่ไม่นานมานี่ มีคฑาชายนายนึง  จากนิตยสารผู้ชายปากจัด ออกมาเขียนคอลัมน์หวังต้าน และฆ่า คุณกาละแมร์เธอสุดริด ให้ชื่อเก๋ไก๋ว่า

" ผู้หญิงแรดกว่าชะนีและไม่ได้มาจากดาวศุกร์"

เอา ซี้............  เอากับเค้า ซี้..............   ยอมกันที่ไหนหล่ะคะ??

To be continue
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟSonyaBeauty
Lovings  SonyaBeauty เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟSonyaBeauty
Lovings  SonyaBeauty เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟSonyaBeauty
Lovings  SonyaBeauty เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงSonyaBeauty