8 ตุลาคม 2550 11:25 น.
sonax0651
นายคำปันมีอาชีพรับจ้างทั่วไป บ้านอยู่ที่อำเภอหนึ่งใน
จังหวัดอุดรธานี แก่มีภรรยาชื่อบัวริน ทั้ง2คนความรู้น้อยก็อาศัยทำงานรับจ้าง
และก็ทำนาเลี้ยงชีพตนเองมาตลอดด้วยดี ทั้คู่มีบุตร1คนชื่อคำตัน ทั้งคู่มีนิสัยคล้ายกันคือชอบเล่นการพนัน จึงทำให้ไม่ค่อยมีเงินเก็บออมแถมบางครั้งยังมีหนี้สินอีกต่างหาก จนเมื่อคำตันเรียนจบชั้นประถมปีที่6แล้ว ทั้งคู่ก็ให้มาทำงาน
เป็นกรรมกรเหมือนกัน และจะได้ช่วยทำนาตามประสาคนชนบท เพื่อจะได้มี
ข้าวเก็บไว้กินกันตลอดปี แต่นายคำปันยังชอบเสี่ยงดวงอยู่เป็นประจำ โดยจะหา
ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลทุกงวด งวดละ2คู่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น
ปีนี้แทบบ้านแก่ฝนแล้งทำนาไม่ได้ผล งานรับจ้างแถวบ้านก็น้อยลงเพราะ
เศรษฐกิจย่ำแย่ จากผลของการรัฐประหาร ทำให้นายคำปันต้องเดินทางเข้ามารับจ้างทำงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ร่วมกับเพื่อนๆที่อยู่บ้านเดียวกันและลูกชายแก่ด้วย นายคำปันมาทำงานอยู่แถวๆถนนสายไหมเป็นหมู่บ้านจัดสรรฯ ที่นี้แก่ได้
รับค่าแรงวันละ250บาทรวมกับลูกชายอีก220บาท ทำให้แก่มีรายได้ดีขึ้นกว่าตอนอยู่บ้าน แก่จึงปรึกษากับบัวรินว่าควรมาทำงานด้วยกันในกรุงเทพฯ เพื่อ
จะได้เก็บเงินไปใช้หนี้ที่กู้มา นายคำปันเริ่มมาทำงานตั้งแต่ตอนปีใหม่ จึงทำให้
แก่เก็บเงินไว้ได้บ้าง แม้จะซื้อลอตเตอรี่ทุกงวดๆละ2ฉบับ แถมเคยถูกเลขท้าย
2ตัวถึง2ครั้ง ทำให้แก่ยิ่งเชื่อว่าดวงกำลังดี แต่แก่ไม่เคยทิ้งใบล๊อตเตอรี่ที่ซื้อมาเลย แก่บอกทุกคนว่าจะสะสมไว้ดูเป็นของที่ระลึก และด้วยสิ่งแวดล้อมในสังคม
ของคนหาเช้ากินค่ำ จึงต้องมีการดื่มเหล้าสรวลเสเฮฮากันประจำ นายคำปันก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นด้วย ยิ่งเป็นวันเงินเดือนออกวันที่16และ1ของทุกเดือนก็ยิ่ง
ครื้นเครงมากกว่าเดิม เพราะได้หยุดงานอีกหนึ่งวัน
และวันนี้คือวันที่1ที่เหมือนทุกเดือนนายคำปันได้ซื้อล๊อตเตอรี่ไว้ แก่ก็เก็บไว้ในห้องของแก่ วันนี้เป็นวันหยุดด้วย แก่จึงมาร่วมกับเพือนซื้อกับข้าวมาทำกินก
กัน และก็ต้องมีเหล้ายาปลาปิ้งเพื่อจะได้สนุก พวกเขาเริ่มตั้งวงเหล้าตั้งแต่เช้า
พวกผู้หญิงก็ไปจ่ายตลาดเอย ไปหาซื้อของใช้เอย บัวรินกับคำตันก็ไปด้วย ปล่อย
ให้คำปันนั่งกินเหล้ากับเพื่อน จนกระทั่งบ่าย4โมงเย็นบัวรินและคำตันได้กลับมา
ก็พบว่ามีงานเลี้ยงเสียงดังอึกทึกไปหมด ตามหาตัวนายคำปันก็ไม่เจอ จึงสอบ
ถามเพื่อนร่วมบ้านเดียวกัน ได้ความว่านายคำปันถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่1
จึงสั่งของมาเลี้ยงเพื่อนๆเต็มที่เลย และนายคำปันก็กำลังไปซื้อข้าวของที่ตลาด
อีก หมดไปคงหลายหมื่นบาท แถมนายคำปันยังเอาเงินที่เก็บไว้มาแจกจ่ายกับ
เพื่อนๆอีก บัวรินและคำตันได้ยินก็ดีใจกันใหญ่ โทรศัพท์บอกญาติพี่น้องและ
แม่ของบัวริน วันนั้นจึงมีแต่ความสุขกันถ้วนหน้าด้วยรางวัลที่1ของนายคำปัน
รุ่งเช้ามานายคำปันพร้อมกับเพื่อนก็ไปที่กองสลากเพื่อจะรับรางวัลที่1 แก่ไป
ถึงก็สอบถามเจ้าหน้าที่และยื่นล๊อตเตอรี่รางวัลที่1ใบนั้นให้ หลังจากเจ้าหน้าที่ดู
แล้วก็ส่งคืนแก่พร้อมกับบอกแก่ว่า "ล๊อตเตอรี่ใบนี้เป็นของงวดวันที่31ก.ค
นะค่ะ"พี่หยิบใบผิดหรือเปล่าค่ะ
เหตุเกิดเพราะดีใจเกินไปและดื่มเหล้าจนขาดสติยั้งคิด
ทำให้นายคำปันหมดเงินไปหลายหมื่นบาทเลยที่เดียว
7 ตุลาคม 2550 10:43 น.
sonax0651
พวกผมเข้าเรียนกันแบบสนุก เริ่มเรียนวันแรกก็ได้รับ
การทักทายด้วยระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เย็นวันนั้นกำลังต่อรถเมล์กลับบ้านที่
ตรอกจันทร์ รถเมล์สาย62มาช้ามาแป๊บเดี๋ยวก็ดังตูม แล้วก็ตูม ผมตกใจวิ่งหนีขึ้นรถอื่นเลยครับ แล้วยังมีเหตุการณ์หลากหลาย แต่วันนี้จะเล่าเรื่องไปเรียน ร.ด
ให้ฟังครับ
พวกผมเรียนหนังสือก็หวังว่าจบมา จะได้ทำงานช่วยครอบครัวกัน ก็เลยลงสมัครเรียน ร.ด(รักษาดินแดน)ปีที่1พวกผมเรียนที่ศูนย์ฝึกฯแถวสุทธิสาร ที่นี่ครู
ฝึกใจดีมากครับ จากที่เคยได้ยินว่าฝึก ร.ดโหดมาก ครูฝึกเขาบอกว่าพวกเราเหมือนน้องๆลูกๆเขา มีอะไรก็สอนพวกผมให้ฝึกดีๆ จนจบปีที่1แบบสบาย พอขึ้น
ปี2พวกผมได้ย้ายมาเรียนที่กองพันทหารม้าที่2 ที่อยู่ติดกับสถานีโทรทัศน์ช่อง5นะครับ ปีนี้โชคยังดีครูฝึกที่นี่เป็นกันเองมาก เพราะที่นี่ต้องต้อนรับนายที่จะมา
ใช้เฮลิคอปเตอร์บ่อยมาก ก็เลยเรียนแบบสบายๆเหมือนปี1 แต่เพื่อนที่รู้จักกัน
ไปเรียน ร.ด ที่กองพันทหารราบที่11แถวพหลโยธิน บ่นว่าเรียนหนักมากบางคน
ถึงกับเป็นลมก็มีครับ แต่ปีที่2นี้ผมโชคร้ายหน่อยถูกฝ่ายตรงข้ามยิงถูกที่ข้อมือ
วันนั้นนั่งรถกลับบ้านผ่านไปหน้าโรงพยาบาลศิริราช ไม่รู้นักเรียนที่ไหนตีกัน
เขายิงกันผมเลยซวยถูกลูกหลงเข้า รักษาอยู่เดือนกว่าไปเรียนที่โรงเรียนอา
จารย์ก็ให้นั่งดูเพื่อน วิชาเขียนแบบก็ให้เพื่อนเขียนให้ ไปเรียน ร.ด ครูฝึกก็ให้นั่งดูเพื่อนฝึก นี่แหละครับทุกข์ที่มาพร้อมกับสุข ปีที่2นี้จบกันแบบน้ำตาเพราะพวกผมรักครูฝึกมาก ก็เลยชวนกันซื้อของฝากให้ครูฝึก ครูฝึกบอกว่าตั้งแต่สอนมามีพวกผมนี้ที่พูดรู้เรื่อง เวลาฝึกก็ไม่เคยบ่น ผมเสียที่จำชื่อครูฝึกไม่ได้จะได้เอ่ยนาม
ยกย่องท่านที่ป็นทหารเสียสละ เพื่อบ้านเมืองที่จิตใจอ่อนโยนเข้ากับเด็กๆอย่าง
พวกผม
ที่มาพอขึ้นปีที่3ก็ได้กลับมาเรียนที่กองพันทหารม้าที่2อีกครั้ง แต่เปลี่ยนครูฝึกครับ ยังเหมือนเดิมครับครูฝึกใจดีครับ แต่ปีนี้เรียนหนักขึ้นเพราะต้องฝึกเพื่อไปออกสนามจริงที่เขาชนไก่ มีการเรียนถอดอาวุธ เรียนการใช้อาวุธ ฯลฯ
ประมาณปลายปีทางกรมฯจัดให้นักศึกษาวิชาทหารมี การไปอยู่ที่สนามจริงที่เขาชนไก่ 1 สัปดาห์ ลำบากเหมือนกันครับตื่นตี4ออกมาวิ่ง ฝึกการอยู่ป่า ฝึกหนักครับแต่ก็สนุก มีการใช้ปืนเอสเค33ยิงจริงๆ หลังฝึกได้1สัปดาห์ก็กลับบ้าน แต่ทุกคนที่ไปได้ประสบการณ์มากมาย แต่ที่โรงเรียนมีอาจารย์วิทยาเป็นผู้ดูแลผู้ที่เรียน
ร.ด อาจารย์มีบ้านอยู่ที่จ.เชียงราย เลยมีโครงการอยากพานักเรียนที่เรียน ร.ด
ไปพัฒนา โรงเรียนในชนบทแถวจ.เชียงราย เลยปรึกษากันว่าไปเดือนธันวาค
คม ได้เที่ยวด้วยหน้าหนาวพอดี วันที่ไปคือ20ธันวา-27ธันวา ขึ้นรถไฟจาก
ฝั่งธนฯไปลงที่จ.ลำปางแล้วต่อรถบัสที่เหมาไว้ไปยังอ.พาน ตอนที่นั่งรถไฟสนุกมากครับพวกผมไปกันประมาณ35คน ก็เฮฮาประวัยรุ่นกันตลอดทาง พอถึงลำปางตอนเช้าเห็นสาวเหนือมีแต่คนสวยๆทั้งนั้น ไปถึงที่อ.พานก็มีชาวบ้านมาต้อนรับ
พวกเขารู้ว่ามาพัฒนาก็จัดสถานที่ให้พัก ที่โรงเรียนในอำเภอ วันแรกทีไปถึง
พวกเพื่อนๆเดินสำรวจบริเวณใกล้ๆที่พัก พวกผมก็ทำอาหารกินกัน จนเย็นๆ
ชาวบ้านผู้ชายก็เอา ส.ร.ถ มาฝากเป็นแกลลอนเลยครับ(สุราเถื่อนครับ)ดีกรีก็
แค่จุดไฟติดครับ ก็สรวลเสเฮฮากันไป คราวนี้พวกที่ออกไปสำรวจก็หายไปที่ละคน ที่ละคน มารู้ที่หลังว่าที่นั้นมีบ้านโคมแดงด้วย
ที่นี้ที่จะไปพัฒนาอยู่บนเขาอาจารย์ไม่ได้บอกว่าไกลไหม แต่เดินขึ้นเขาเป็นโรงเรียน ก็เติมเดินทางกันแต่เช้า อาจารย์บอกแต่ว่าถ้าเดินประมาณ4-6 ช.ม
พวกเราก็เดินกันไปจากตอนแรกเกาะกลุ่มคุยกัน เล่นกัน ค่อยๆแตกออกยิ่งสายก็ยิ่งกระจายตัวกัน ที่จะขึ้นไปรถไปไม่ได้ เดินกันเริ่มเหนื่อย ชาวบ้านก็ไม่มีมี
มีแต่ต้นไม้2ข้างทาง ได้เจอชาวเขาเดินสวนมาเลยถามว่าหมู่บ้านอยู่ไกลไหม
เขาก็ตอบเป็นสำเนียงชาวเหนือว่า "อยู๋ปุ๊นน" พวกผมก็เดินกันต่อไปอีกจากเวลาเกือบ10โมงเช้าคำว่า"คำว่าปู๊นน"ของเขา พวกผมเดินจนบ่าย2โมงยังไม่เจอ
บ้านคนเลยครับ ก็เดินไปเรื่อยๆจนเจอชาวบ้านอีกก็ถามว่าอีกไกลไหมคนนี้
ตอบว่าไงรู้ไหมครับ
เขาตอบว่า"อยู่ปู๊นนนนนน"คิดแล้วกันครับว่าจะไกลแค่ไหน
วันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนครับ แล้วจะมาเล่าตอนจบให้ฟังที่หลังครับ
ยังมีเรื่องตื่นเต้นอีกครับระหว่างที่อยู่ในหมู่บ้านบนเขา