19 กุมภาพันธ์ 2548 22:46 น.
SoftWriting
"เจ้าคิดเหมือนที่ข้าคิดหรือเปล่า กอมา....!!!"
"ข้าก็คิดเหมือนที่ท่านคิดนั้นแหละ ชู จะมาถามทำไม เหอ๋ย..."
หนึ่งราชา กับอีกหนึ่งบ่าวคู่ใจ กำลังตกตะลึงถึงกับก้าวขาวิ่งไม่ออก
แย่แล้ว ตอนนี้พวกนางโกรธจัดที่แอบดูโดยไม่ขอกันก่อน
ว่าแล้ว นางก็จับตัวทั้งสอง มัดมือมัดเท้าแล้วใส่กระเป๋าหลุยวิกตอง กลับบ้านไป
"ฮือๆๆ ทำอะไรสักอย่างซิท่าน ข้ากลัว...."
"เอ่อ ข้ากำลังช่วยตัวเองอยู่นี่งัย..."
"หา...ยังจะมีเวลาทำเรืองน่าเกลียดอย่างนั้นอีกเหรอท่านโธ่ๆๆ..."
"ไอ้บ้า.... กำลังแก้มัดอยู่ โว้ย....
เงียบไปเลย ปัย...คนเขาต้องการสมาธิ"
"ครับๆ ท่านแก้ได้เมื่อไหร่ ปลุกฉันด้วยน่ะ....คร่อก.....ZZZ"
พระองค์ไม่ยอมแพ้ กัดฟันตัวเอง พยายามต่อไป
"โอ้ย!...โดนลิ้นน่ะ"
และแล้วก็สำเร็จ พระองค์แก้มัดตัวเองได้แล้ว
จากนั้นก็ค้นนามบัตรของใครคนนึงในกระเป๋าตังค์โดยไม่ปลุก กอมาให้รำคาญใจ
"อ่า...เจอแล้ว"
"ปัญหายักษ์ กำลังกวนใจท่านเหรอมั้ย ท่านรู้สึกแย่มั้ยเวลา ยักษ์ลักพาตัวไป
รับจ้าง กำจัดยักษ์ ติดต่อ 07-24698....."
แล้วพระองค์ก็กดเบอร์ ตามที่ปรากฎบนนามบัตรนั้นด้วยสีหน้า มีความหวัง...
"ดุน...เหรอ..."
"ตุ๊ด..."
"ว่างมั้ย อ่ะ..."
"ตุ๊ด..."
"มีอะไรให้ช่วยครับ..."
"ตุ๊ด..."
"พอดี เราโดนลักพาตัวนิดหน่อยน่ะ..."
"ตุ๊ด..."
"โอ้ย..รำคาญ เดี๋ยวอั๋วโทรไปเองก็ได้..."
"ตุ๊ด.."
เป็นคุณจะโมโหมั้ย สถาณการณ์อย่างนี้ยังจะมาเล่นวิ อีก...
เสียงโทรศัพย์ของราชาดังขึ้น
"ฮัลโหล.....รับกำจัดยักษ์ครับ..นั่นใครเหรอ"
"เราเอง ชู งัย ไม่คุยกันนานจนจำเสียงเราไม่ได้เลยหลอ..."
"ออ นึกว่าใคร ขอโทษด้วยน่ะ พอดีช่วงนี้ยุ่งๆอยู่ น่ะ"
"อื่อ ตะเองเห็นงานสำคัญกว่าเค้าแล้วหลอ..."
แล้วมันจะได้เรื่องมั้ยเนี่ยะ....
เวลาผ่านไป.....
"เออ ...ที่จริงเค้าโดนลักพาตัวด้วยแหละ"
"เนี่ยะ ไม่รู้พาไปถึงไหนแล้ว....
โดนยัดใส่กระเป๋าน่ะ..."
"อ่าว..อย่างนี้ก็แย่ซิ....แล้วเราจะไปช่วยได้งัยล่ะ
ลองนึกดูดีๆซิ เผื่อได้ข้อมูลอะไรบ้างน่ะ...."
"ก้อ เราโดนมันจับไปที่แม่น้ำโออิชิน่ะ..
แล้วก้อ...อืม ได้ยินเสียงแปลกๆด้วยแหละ...เดี๋ยวน่ะ มีสายเรียกซ้อนน่ะ"
"ซุบซิบ.... ซุบซิบ....ซุบซิบ ตกลงตามนี้น่ะ บาย....."
"เอ่อ ...ขอโทษน่ะ พอดีเพื่อนโทรมาซุบซิบนิดนึง...
ถึงไหนน่ะ เมื่อกี่อ่ะ..."
"ท่านได้ยินเสียงอะไรน่ะ?"
"อืม ...เสียงเหมือน ผู้ชายคนนึงกำลังบอกอะไรบางอย่างอยู่น่ะ...ลองฟังซิ"
ราชาเงียบเพื่อให้ ดุน ฟังเสียงนั้น
"....จอ..แจ...เมื่อกี้ซ่อม อีกเดี๋ยวจะสร้าง อีกหน่อยก็เสีย แล้วเรามาซ่อมใหม่อีก...
พี่น้อง ต้องเลือกผมตลอด เลยน่ะคร้าบบบ....เฮ้ๆๆๆๆๆ"
"ว่างัย พอจะรู้ยังว่า ไปทางไหน..."
"อืม เข้าใจละ จะหาคนประเภทนี้ได้ ที่เดียวเท่านั้น
แล้วเจอกันที่เก็บกดมหานครน่ะ .."
"อืมๆ...โอเค ...แอบคิดถึงน่ะ หวัดดี...."
"ตุ๊ด..."
และแล้วสายตา ทุกสายตาในบริษัทก็จ้องมา โฟกัสที่ ดุน คนเดียว....
"ทำงัยดี..."
ดุนเริ่มวิตก เมื่อต้องไปช่วยราชา คราวนี้
คุณอาจจะไม่ทราบ ว่ายักษ์ที่ร้ายกาจที่สุด ก็ที่เมืองเก็บกด เนี่ยะแหละ
ที่ผ่านมา ดุน เคยฆ่ายักษ์ แถวรอบนอก ของเมืองลิงถือลูกอม เท่านั้น
แม้ลูกน้องเขาจะบอกว่าศึกครั้งนี้ เขาไม่ควรแลก...
แต่เมื่อจะส่งใครไปก็ไม่มีคนไหนอาสาเลย...
"เอาวะ....สู้โว้ย..."
พนักงานทั้งบริษัท อดไม่ได้ที่จะลุกคนยืนปรบมือ
ดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมด้วยไว้อาลัยให้อีก 3นาที
"นี่เธอ ..เขาเป็นลูกผู้ชายตัวจริงเลยน่ะ"
เสียงชื่นชมของพนักงานสาวสวยคนนึง พูดกับเพื่อนร่วมงาน
ดุน คือใคร มาจากไหนล่ะครับ ? โอเค เรามาฟังจากคุณเมี่ยว เอนท์ไม่ติด แม่ของเขากันเลย
"ดุน น่ะหรอ...แหม กล้าหาญตั้งแต่เด็กแล้ว
เมื่อครั้งที่ฉันตั้งท้องได้เก้าเดือนแล้ว สมัยนั้นยักษ์ท่องเที่ยวเข้ามาในวิกตอเรียมาก
ยักษ์พวกนี้ไม่กินคนหรอกค่ะ ใจดีจะตาย
วันก่อนหน้านั้นยังจะซื้อซุปสัตร์ป่าสงวนมาฝากเลย
แต่แล้ว จู่ๆ ก็มียักษ์ดมกาวตัวนึงออกอาละวาด
ตอนนั้น ไม่มีใครอยู่บ้านเลย สามีฉันไปคุมปัญหา สามจังหวัดภาคใต้ ของวิกตอเรีย
ในขณะที่มันกำลังจับตัวฉันเป็นตัวประกันอยู่ ลูกฉันก็แหวกออกมา แล้วก็คลานหนีไปเอง
ช่างรู้จักเอาตัวรอดตั้งแต่เด็กเลย....คิดว่าลูกจะหนีไปไม่กลับแล้ว
ก็เห็นเก็บข้าวของ เครื่องใช้ที่จำเป็นไปด้วยอย่างงั้น......
แต่ด้วยความรักที่มีต่อแม่ตั้งแต่อยู่ใน คัน...เฮ้ย..ครรภ์
เขาก็กลับมาพร้อมกับพ่อเขาในสิบแปดปีต่อมา
เฮ้ย ปล่อยให้ฉันเป็นตัวประกันนานเลย...แต่เขากล้าหาญมากๆ...."
ขอบคุณ.. คุณเมี่ยว เอนท์ไม่ติด ครับ
หลังจากที่ลูกมาช่วยแม่แล้วยังจะฆ่ายักษ์ตัวนั้นด้วย
มันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันมาก ดุนเลยฆ่ามันได้สบาย
เหตุนี้เอง ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับยักษ์ก็มีอันต้องขาด
วิกตอเรียงดการส่งออกบะหมี่สำเร็จรูปตรา ปะป๋า ทุกรส ไปยังประเทศยักษ์ทั้งหมด
ราชา ชู สั่งถอนทหารออกจากการซ้อมรบร่วมกัน
ปิดพรมแดน วิกตอเรีย-ลิงถือลูกอม และวิกตอเรีย-เก็บกด โดยไม่มีกำหนด
เจ้าหญิงแห่งวิกตอเรียซิตี้ เองก็ถอนหมั้นกับเจ้าชายแห่งลิงถือลูกอมแลนท์เป็นการถาวร
นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ที่มาพร้อมกับตัวเขา
บุคคลที่มีนามว่า ดุน ผู้ฆ่ายักษ์
"ว้าว...ท่านคุยกับใครเหรอ...อิอิอิอิ"
"กอมา เจ้าตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยะ...."
"อ่ะๆ หน้าแดงเชียวน่า..."
ชะตากรรมของทั้งสองจะเป็นเช่นไร
ดุน จะตามหายักษ์สาว ที่จับตัวกษัตริย์ของตนได้เหรอมั้ย
ติดตามกันต่อไป
กับ ดุนผู้ฆ่ายักษ์ (3) ตำนาน เก็บกดมหานคร
อาจจะใช้เวลานิดนึง ก็ยังไม่มีไอเดียเขียนเลย เพราะตอนนี้ใกล้สอบแล้วครับ
เป็นกำลังใจให้ผมด้วยน่ะครับ
19 กุมภาพันธ์ 2548 16:29 น.
SoftWriting
"อ่ะๆ ข้าเห็นแล้ว..."
หลังจากที่ราชา ชี้ไปทางแม่น้ำโออิชิแล้ว...
"มันช่างงามมากเลยน่ะ ชู..."
"ใช่..โอกาสที่จะเห็นมัน ก็ฤดูทิ้งทารก ของแม่ใจร้ายนี่แหละ เจ้าว่างั้นมั้ย..."
"เฮ้ย...ไม่อยากเชื่อเลยว่ะ..ชู"
ราชาเงียบ พร้อมกับไตร่ตรองว่า จะเขกหัวมันสักที แม่มันจะด่ามั้ย...
บ่าวผู้ติดตาม ชื่อว่ากอมา คนนี้มาจากไหน...
เมื่อย้อนไปอีกยี่สิบปี เท่าอายุมันพอดี
หญิงนางหนึ่งกำลังร้องสุดเสียง เมื่อเธอเบ่งสิ่งที่ไม่ควารจะออกมาจากท้องเธอในตอนนี้
"โอ้ย.....อ้าา...อ้าว....วู้"
"อุแหวๆๆๆๆๆ"
ทารกตัวดำ ก็ถูกคลอดออกทามกลางสงครามกลางเมืองในวิกตอเรีย
ราชาเกรงว่าพรรคกบจะก่อรัฐประหาร
ส่งสารไปยังหมู่บ้านเธอ ให้ส่งเด็กชายมาเกณทหารให้หมด
เตรียมการโจรตีครั้งใหญ่
ลูกเธอเกิดมาได้สามวันก็ถูกนำไป
และเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย เป็นเวลาสิบห้าปี
กอมา ไม่เคยได้รบกับเขาหรอก
อะไร คุณคิดเหรอว่า ราชาจะเอาเด็กตัวแดงๆ ไปรับใช้ชาติทันที
บ้าอะป่าว....ต้องเอาไปเลี้ยงให้มันโตก่อนซิ
แล้วพออายุสิบห้า สงครามก็สงบพอดี
ราชาเลยพา กอมา ไปทำบัตรประชาชน
อืม....ประวัติของมันผมย่อมาหมดแล้วน่ะ...
"โป้ก.." ราชาเขกหัวมันทีนึง แรงๆ เพราะเข้าใจว่ามันไม่เคยเห็นหน้าแม่....
"อ่ะ...อ่า ถึงตอนสำคัญซะแล้ว"
"เอาแล้ว เอาแล้ว ถอดเลย..."
ทั้งสองคน มันลุ้นระทึก เมื่อฉากที่อยู่เบื้องหน้าคือ.....
ลูกสาว ของเมืองยักษ์ที่มีชื่อว่า เมืองเก็บกด
ในแม่น้ำโออิชินี้ จะมียักษ์สวยๆมาอาบน้ำเป็นประจำทุกปี
พวกเธอจะอาบ เพื่อชะล้างความเป็นเด็กออกไป
จึงไม่แปลกเลย หากชาวบ้านละแวกนั้นจะเจอตะกอนคราบยักษ์บ่อยเมื่อตักมาดื่ม
"บางครั้งก็ สีไม่เหมือนกันด้วยแหละ...."
ชาวบ้านคนนึงร้องเรียน
"เฮ้...จะได้โตเป็นสาวซะที่เนอะ เธอ อิอิอิ"
"นี่ๆ รีบเข้าซิ หนุ่มๆคงรอพวกเราอยู่ที่บ้านนานมากแล้วนะ"
"ใช่ๆ สงสัยกำลังเตรียมอาหาร ต้อนรับเราเพียบแน่เลย"
"คงจะมี ไข่ทีเรคส์เจียว ผัดภูเขาเนื้อช้าง และก็น้ำตกไซโยค โอ้...แซ่บอย่าบอกใคร"
"และที่ขาดไม่ได้ น้ำประปานครหลวงผสมยาเสียตัวน่ะเธอ...เขาฮิตกันน่ะ"
สาวๆกรี้ดกร้าวกันโดยไม่ทันสังเกตุเห็นมนุษย์น๋อยๆ สองคน.........
"กอมา ข้าว่าเราไปดูใกล้กว่านี้ดีกว่า สงสารเจ้าที่สายตาสั้น"
"ดีเลย งั้นข้านำก่อนเลย"
ว่าแล้วกอมา ก็วิ่งเข้าไปหาพุ่มไม้เหมาะๆ
ราชาก็ตามมาติดๆ
ภาพที่เกิดขึ้น ไม่ต่างเท่าไรกับชายหื่นทั่วไปตามห้องน้ำหญิง....
"ชัดเหรอยัง....."
"เดี๋ยวๆ หมุนทางซ้ายอีกนิดซิ ชู.."
"เอ่อๆ นั้นแหละชัดแล้ว...."
"อ่าว มัวทำอะไรอยู่ รีบๆมาดูซิ ชู"
ขณะนั้น ราชายืนหน้าซีด นิ่งอยู่กับที่
"กะ ก่ะ ก้ะ ก๋ะ ก๊ะ กอมา นายเห็นอย่างที่เราเห็น อ่ะป่าว...."
ราชาเสียงสั่นครบห้าเสียงเลย เมื่อสิ่งที่เห็นคือj
ยักษ์นางหนึ่ง รู้ตัวแล้วว่า มีมนุษย์สองคน กำลังแอบดูพวกเธออาบน้ำ
"อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
ติดตามชมได้ แล้ววันนี้
ดุน ผู้ฆ่ายักษ์ (2) ตำนาน เปิดตัวดุน
เย้
18 กุมภาพันธ์ 2548 14:47 น.
SoftWriting
"นีโอ....นีโอใช่มั้ย"
เสียงเรียกของเด็กผู้หญิงคนนึง กำลังแทรกเข้าไปในความคิดของผู้ชายคนนึง ที่กำลังเบลอๆอยู่
"นี่เราเอง จำได้มั้ยจ้ะ"
"อืม เรียกผมเหรอครับ....เมื่อกี้คุณว่าอะไรน่ะ?"
สติเขายังมาไม่เต็มที่
"เอ้....แล้วชื่อนีโอมั้ยล่ะค่ะ"
"ใช่ครับ"
แล้วเธอก็ยิ้มให้อีกครั้ง พร้อมทำน่ารักน่าชัง อย่างภาพเก่าๆที่เขาเคยเจอ
"อ่า....เธอคือ ด.ญ.สาวดะห์ อามาซ่า ใช่มั้ย"
"แหม นีโอก้อ จนเดียวนี้ยังเรียกชื่อเต็มอีกน่ะ"
"บอกแล้วงัยว่าเพื่อนกัน เรียกชื่อเล่นก็พอ"
"เอ่อ ....คือว่า"
"ไม่เป็นไรจ่ะ เธอนี่ก็ยังเป็นนีโอคนเดิมน่ะ อิอิอิ"
ไม่ยักจะรู้ว่าเธอมีลักยิ้มด้วย
"นี่ ไม่เป็นไรจริงๆ อย่าไปคิดมากอีกล่ะ เราไม่ถือหรอกน่ะ"
เธอเงียบสักพัก ทำท่าว่าจะรอเขาพูดก่อน
"อืม เอางี้ ไปส่งเราที่ม.หน่อยซิ....ได้มั้ย..?"
"คือว่า เราไม่มีรถน่ะ.....ต้องขอโทษจริงๆน่ะ แบบว่า..."
"นี่ บอกแล้วงัยว่า อย่าคิดมาก"
นิสัยเขาไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ
"เอางี้น่ะ เราจะเดินเป็นเพื่อนเอามั้ย"
"โห ได้ซิ ..."
แล้วทั้งคู่ก็เดินบนฟุตบาท ห่างจากมหาลัยของเธอ 300 เมตร
นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาจะได้เหยียบที่แห่งนี้
ครั้งแรกเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา นี้เอง
เพราะเป็นที่ๆเขาไม่คุ้นเคย เลยหลงในนั้นตั้งนาน
แล้วตัดสินใจเดินออกมาตั้งตัวใหม่ข้างนอก
คิดเท่าไหร่ก็ไม่ออก ก็เลยกะว่าจะเดินกลับแล้ว
เดินได้สักพัก
จนมาเจอเธอคนนี้แหละ ด.ญ.สาวดะห์ อามาซ่า
อ้าวเหรอ ผมไม่ได้บอกเหรอ ว่าเขาไม่ได้เรียนที่นี่
โอเค เล่าใหม่น่ะ
ไม่ต้องเหรอ....... อืมต่อละกัน
"แล้ว...ตอนนี้นายเรียนที่ไหนล่ะ"
"สถาบันเทคโนฯ แถวๆนี้แหละ"
แล้วบรรยากาศก็เงียบอีกหน......
"อืม ฉันเรียนคณะวิทยาการจัดการน่ะ.....อ่ะแหะ......"
เขาไม่ได้แสดงความอยากรู้อยากเห็น หรือสนใจตัวเธอเลย
"อืม นายไม่สบายเหรอ...ท่าทางจะแย่น่ะ"
"อ่อ ไม่หรอก ที่จริง เรามีเรื่องอยากให้เธอช่วยหน่อย"
"ว่ามาเลย เพื่อนกัน ช่วยได้อยู่แล้ว"
"พอดี เรามานี่ก็เพราะมีธุระ กับรุ่นพี่คนนึงน่ะ"
"รู้สึกว่า จะเรียนวิศวะเอกเคมี ชื่อ ....เอ่อ ชื่อเล่นยาร์ดน่ะ"
"เหรอ งั้นเดี๋ยวเราเรียนเสร็จจะช่วยหาให้น่ะจ้ะ"
"อืม ขอบใจเธอมากน่ะ ด.ญ.สาวดะห์ อามาซ่า..."
"นี่ นาย...เดี๋ยวไม่ช่วยให้หรอก"
"พูดถึงเมื่อเราเรียนประถมด้วยกัน...นายก็เรียกยังงี้ตลอด"
"จริงๆแล้วเราก็ไม่เคยสนิทกันเลยน่ะ นายจะชอบอยู่กับกลุ่มเด็กเรียนนี่น่า"
"ไอ้ฉันมันหัวไม่ดี อ่านอะไรก็ไม่ออก....คิก"
แต่เธอก็เขามหาลัย...กลับกันกับเขา
"ที่ผ่านมา ฉันเจอเพื่อนๆเยอะมากน่ะ"
"อ่าว เอา คุณ คุ้ณ"
ไม่ทันขาดคำแม่ค้าคนนั้นเตือน เขาก็ซุ่มซ่ามเดินชนเข่งมะนาวที่ว่างขายริมฟุตบาท
กระจัดกระจาย บนถนน บ้างก็โดนรถเหยียบทับ.....
"ขอโทษค่ะป้า เพื่อนหนูเขาไม่สบายน่ะค่ะ"
"จะจีบกัน ก็ดูถนนหนทางด้วยซิหนู...แล้วดูซิ ของป้าเสียหายหมด"
"ค่ะๆ เท่าไหร่ค่ะป้า หนูจ่ายเอง"
"เอ่อ....ด.ญ.สาวดะห์ อามาซ่า....เธอไม่ต้อง"
"อ่ะ นี่ตังค์ทอน"
"หวัดดีค่ะป้า..."
เธอไหว้เสร็จก็รีบพาเขาออกจากที่เกิดเหตุในทันที
"ทำไมต้องซวยซ้ำซากด้วย ไม่เข้าใจ"
เขาบ่น
"อ่อ นายโดนงี้บ่อยซิน่ะ"
"รู้มั้ย นายต้องหาแฟนได้แล้วน่ะ จะได้เป็นคนเตื่อน ระวังนายน่ะ"
"แต่เมื่อกี้ เธอไม่ควรจ่ายแทนเราเลยน่ะ"
"เราไม่เคยสนิทกันถึงกับ ทำเพื่อเราขนาดนั้นเลย"
"ไม่เป็นไรหรอก งัยซะเราก็เคยรู้จักกัน"
เวลาผ่านไปนานมาก เธอพยายามเดินให้ช้ามากที่สุด
เพื่อจะได้คุยอะไรในสิ่งที่เธอไม่เคยมีโอกาสได้คุยกันมา ตั้งแต่รู้จักกัน
"ถามหน่อยซิ...."
เธอเงยหน้าถามเขา
"ถ้าฉันซุ่มซ่ามเหมือนนายบ้าง นายจะช่วยฉัน แบบเดียวกันมั้ย"
"ไม่รู้ซิ ถ้าเธอไปเดินส่งเราถึงหน้าเทคนิคด้วย ก็คงจะเหมือนกัน"
เธอได้เห็น เขายิ้มเป็นครั้งแรกในชีวิตเธอ
"แหม น่าดีใจจัง เอาไว้ว่างๆจะเดินแถวนั้นน่ะ คิก..."
เธอก็น่ารักอย่างนี้แหละ
เธอคนนี้ ดีกับเขามากๆ
จริงๆแล้วก็ดีกับทุกคนนั้นแหละ
แคร์ความรู้สึกเพื่อนๆ
เข้าใจความคิดเพื่อนๆ
ให้ความสุขแก่ทุกคนได้ทุกครั้งที่ได้คุยกัน
เธอก็คนปกติ ทั่วไปนี่แหละ
ไม่ใช่นางฟ้าสักหน่อย
แต่สิ่งที่เธอได้ทำ สิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งใหญ่นัก
กับเพื่อนคนนึง ที่ไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์
เธอได้ช่วยเป็นแรงบันดาลใจแก่เขา
ว่าให้ความสนิทสนมแก่คนอื่น เขาก็จะได้มันกลับมา
ความสุขใด จะเท่าความสุขของคนอื่นที่มาจากเรา
จากที่เธอเดินเคียงข้างเขามาตลอด 400 เมตร
เพราะเธอแกล้งเดินหลงสัก ร้อยเมตร
หลังๆ เขาคุยมากขึ้น จนบางทีเธอเองต้องเงียบเพื่อฟังเขา
เธอได้ทราบว่าทำไมเขาถึงไม่ได้เรียนมหาลัย
ซึ่งเป็นเรื่องที่เพื่อนๆเขาเป็นห่วงมากๆ
และแล้วก็.....
"โอเค ถึงแล้วน่ะครับ"
"ค่ะ...."
"งัยก็อย่าลืม ไปหากันมั้งน่ะ"
"อืม ได้ซิ นายต้องเลี้ยงฉันด้วย"
"โอเค ได้เลย..."
"แล้ว....."
"อ่ะ ....เอ่อ ต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ...ไปซิ"
"อิอิอิ..."
เธอหัวเราะ แล้วก็เดินจากเขาไป
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
เสียงโพลีโฟนิค จากเครืองโทรศัพย์เขาดังขึ้น
"นีโอเหรอ เจอรุ่นพี่คนนั้นแล้วน่ะ เดี๋ยวจะบอกเขาให้"
".....ขอบใจเธอน่ะ ด.ญ.สาวดะห์ อามาซ่า...."
แล้วเธอก็วางสาย ทำท่างอนเขา
จะให้ทำงัย.....ก็เขาจำชื่อเล่นเธอไม่ได้
จึงโทรไปถามเพื่อนดู
"ออ คนนั้นน่ะเหรอ...อะไรว่ะ คนดีๆยังงี้จำชื่อเธอไม่ได้"
เพื่อนกระแทกเสียงใส่หูเขา
" ชื่อเล่นเธอก็คือ....เพื่อนแท้ งัย"
อ้อ จำได้แล้ว เธอคือ"เพื่อนแท้"จริงๆด้วย.....
ขอมอบเรื่องนี้ แด่เพื่อนๆที่อยู่ม.วลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช ณ โอกาสนี้ด้วย
สาว
ดะห์
อามา
ซ่า
และชู/อิง/ดุน/กอมา วันหน้าจะมีบทให้นายเล่น .....สัญญา
14 กุมภาพันธ์ 2548 20:05 น.
SoftWriting
....หลังวาเลนไทน์
วันที่ 14 กุมภา ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่เหมือนคนทั่วไป
กุหลาบ ช็อคโกแลต คำบอกรัก
สามสิ่งนี้ต้องเวียนเข้ามาหาชีวิตผมเพื่อให้คนคนหนึ่งทุก ๆ
ปีในวันนี้
ก่อนวันที่ 14 กุมภา
ผมเดินออกจากบ้าน
ในมือมีผ้าเช็ดหน้าสีชมพูที่ต้องการเอาให้แฟนของผม
เธอเป็นหญิงสวยมาก เป็นดาวคณะของมหาลัยของเรา
ก่อนผมจะออกไปพบเธอ เธอโทรมาหาผม
ผมจึงวางผ้าเช็ดหน้าที่ผมบรรจงพับไว้บนโต๊ะ
หลังจากการพร่ำบอกรักกันด้วยถ้อยคำหวานหูเป็นเวลานานทีเดียว
ผมปรี่ออกจากบ้านไปหาเธอ
โดยไม่ลืมผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น
ผมเห็นพ่อของผมถือมันออกมา ในผ้าผืนนั้นมีรอยเลือด
"พ่อ ทำอะไรหนะ" ผมโพล่งถามด้วยความโมโห
พ่อหน้าซีดทันที
" ไอ้เหมียวหนะ มันโดนกัด พ่อเลยเอาผ้าไปเช็ดเลือด"
"พ่อรู้ไหม ผมกำลังจะเอาไปให้แฟน ไ
พ่อเงียบ ผมเกลียดจริงๆ เวลาพ่อเงียบเมื่อจนกับปัญหา
ความโหโหสั่งผมให้ทำได้แม้กระทั่งจะตบหน้าพ่อ
พ่อเบือนหน้า
"พ่อขอโทษ มานี่....." พ่อยื่นมือมารับผ้าเช็ดหน้า
"พ่อจะเอาไปซักให้เอง"
ผมงอนพ่อถึงกับไม่ยอมคุยกับพ่อเป็นเวลานานพอควร ไม่ยอมลงจากบ้าน
เป็นเวลาเกือบทั้งสองวันที่ผมไม่เจอหน้า
ใคร หมกตัวอยู่กับห้อง มีเพียงแม่เท่านั้นที่คอยส่งข้าวให้ผม
ยามเมือ่ผมมองตาแม่ครั้งใดทุกครั้ง ดวงตาแม่จะแดงปรี่ด้วยน้ำตา
ผมเริ่มรู้สึกว่า บางทีผมอาจจะทำเกินไป
14 กุมภาพันธ์
ตั้งแต่ครั้งที่ผมเห็นแม่เสียใจ
ผมก็รู้สึกว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า
ผมยอมออกมาจากห้อง
ผมไม่เห็นพ่อ
เดินออกมาที่บริเวณลานซักผ้า กาละมังยังมีผ้าที่ยังไม่ซักหลายผืน
ข้างๆ มีกองเลือดอยู่ และที่ราวตากผ้ามี
ผ้าเช็ดหน้าของผม ถึงจะล้างรอยเลือดไม่หมด
ก็ยังดีที่พ่อยังห่วงใยผม ยังแคร์ผมอยู่
พ่อ ผมอยากขอโทษครับ
หันหน้าจะกลับเข้าบ้าน ก็พบกับแม่ แม่ร้องไห้มาแต่ไกล
วิ่งมากอดผม
" พ่อเสียแล้วนะ "
ผมอึ้ง
แม่ลำดับเหตุการณ์ และทำให้ผมทราบว่า
พ่อป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจติดเชื้อ
รอยเลือดที่เห็นนั้นคือเลือดที่พ่อจาม
ออกมา พ่อมองไม่เห็น
"พ่อกำชับแม่มาตอนที่ลูกโกรธว่า อย่าบอกลูกเด็ดขาดว่าพ่อป่วย "
"ทำไมล่ะครับ"
"พ่อกลัวเราจะเสียใจ แล้วไม่ได้ออกไปเที่ยวกับแฟน"
ผมอึ้งเป็นครั้งที่สอง
"พ่อบอกแม่ด้วยว่า ถ้าพ่อเสียวันนี้ อย่าเพิ่งบอกลูก
ให้ลูกไปเที่ยวกับแฟนก่อน พ่อไม่อยากให้ลูกเป็นทุกข์ พลาด
โอกาสอย่างนี้เพราะพ่อคนเดียว
พ่อบอกด้วยว่าพ่อซักผ้าเช็ดหน้าให้แล้ว มันไม่สะอาดหรอก
แต่พ่อบอกว่าพ่อของลูกทำ
ดีที่สุดแล้ว"
ผมกอดแม่ ร้องไห้
วันนี้จะเป็นวันวาเลนไทน์ที่อยู่ในความทรงจำตลอดไป
พ่อครับ ผมขอโทษ.......
เอามาจากปีที่แล้ว
forward mail 14/02/2004
โดย ใครก็ไม่รู้
14 กุมภาพันธ์ 2548 19:31 น.
SoftWriting
วันนี้วันแห่งความรัก วันแห่งความสุข
สำหรับเขาแล้ว คืออีกวันหนึ่งที่ต้องไปสอนหนังสือ
นักเรียนตัวน้อยๆที่ยังคงยิ้มรับเขาด้วยความสนิทสนม
เขาคือครูคนหนึ่งที่เพิ่งได้บรรจุเป็นปีที่สอง
งานการทุกอย่างทำท่าว่าจะดี
เพราะถึงแม้ปีที่ผ่านมาจะเกิดเหตุร้ายต่างๆ รายวัน
แต่ในชุมชนของเขา ไม่เคยมีข่าวอย่างนี้เลย
อาจเป็นเพราะไม่เคยปรากฎคนแปลกหน้าภายในหมู่บ้านเขา
ครูที่นี่ก็เช่นกัน ถ้าไม่นับครูแก่ๆที่เตรียมปลดเกษียณอีกไม่กี่ปีนี้น่ะ
ครูทุกคน คือคนในหมู่บ้านนี้แทบทั้งหมด
เขามุ่งมั่นกับการสอนของเขามาโดยตลอดหนึ่งปีที่ผ่าน
เขาเข้ากับผู้คนได้ดีมาก
ใครๆต่างก็รักเขา และชื่นชมในสิ่งที่เขาทำมาตลอด
ครั้นเมื่อยังเรียนอยู่ที่ วค.ภูเก็ต(ในสมัย ที่ยังเป็นสถาบันราชภัฏฯอยู่)
เขาต้องจากบ้านไกล เพราะสอบที่ไหนๆก็ไม่ติดเลย
ถึงเขาไม่หัวดี เหมือนใครเขา
แต่ความเพียรพยายามของเขา และชื่อเสียงของพ่อเขาเอง
ทำให้ใครๆต่างก็ยินดี และติดตามเรื่องราวเขามาตลอดสี่ปีที่เรียนเลย
ก่อนที่เขาจะเรียนจบ ปัญหาเรื่องเงินทอง เกือบจะทำให้เขาต้องทิ้งการเรียนไป
เป็นปกติอยู่แล้วที่ คนๆหนึ่งต้องเรียนต่างแดน (แถมยังเป็นจ.ภูเก็ตด้วย)
จำเป็นต้องใช้จ่ายสูงกว่าคนอื่น ที่ได้เรียนในมหาลัยเสียอีก
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ
ก็สามปีที่แล้วท่านคงจำได้
ผลไม้แถวสามจังหวัด ขายไม่ได้เลย
ถึงจะขายได้ ก็ได้มาไม่ดีเท่าไหร่
หักลบกับค่าใช้จ่ายที่ผ่านแล้ว ก็มีไม่พอกินอยู่แล้ว
คงไม่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขา ถ้าไม่ถูกพ่อค้าคนกลางเบี้ยวอีก....
จริงๆแล้วจะโทษพ่อค้าคนนั้นก็ไม่ได้ซะทีเดียว
ตัวพ่อค้าเองก็ล้มละลาย ติดหนี้เป็นแสนๆ
อืม พ่อของเขาเป็นคนดี เห็นใจผู้คน
เขาไม่ได้ทวงอะไรมากมาย มีเมื่อไหร่ก็จ่าย
ปัญหาคนอื่นเขา เรากลับต้องแบกเสียเอง
พ่อจึงไม่มีเงิน จ่ายค่าเล่าเรียนลูกที่ยังต้องรออีกปี
ถึงจะหารายได้ด้วยตัวเองบ้าง โดยไปเป็นพนักงานประจำห้างฯในเมือง
แต่ก็ช่วยได้ไม่มากนัก
ทางออกสุดท้าย ก็ต้องไปกู้เงินแล้วล่ะ
ก่อนจะรับปริญญาก็เหมือนกัน
เรียนจบพร้อมปริญญาหนึ่งใบ และหนี้สินอีกแสนกว่า
กลับมาเริ่มหางานทำทันที
แต่ช่วงนั้นสมัครเป็นครูที่ไหนก็ยากมาก
ก็เลยตัดใจ เปิดร้านขายผ้า
หางบเปิดร้าน กู้อีกแสน
แต่แล้ว ไปไม่รอด ต้องกลับไปทำสวนกับพ่อที่บ้าน
โชคชะตาของเขาตกต่ำอีกครั้ง
เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิต ด้วยโรคหัวใจ ที่เคยคร่าชีวิตแม่เขาแล้วสมัยเขายังเรียนอยู่ระดับมัธยม
ทิ้งมรดกส่วนหนึ่ง พร้อมหนี้สองแสน
โชคดีหน่อยที่เขาได้ประกอบอาชีพครูหลังจากนั้น
เขาจึงทุ่มเทกับมันมาก เพราะกลัวติดชื่อท้ายๆในโรงเรียน
ตามโครงการ เออลี่ไทร์ อะไรสักอย่างของรัฐบาล
เวลาก็ผ่านไปด้วยดี
จนเขาสามารถหารายได้พิเศษ จากความขยันของเขา
จ่ายหนี้หมดไปกว่าครึ่ง ภายในหนึ่งปี
และนี่คือปีที่สองของชีวิตการเป็นครูของเขา
วันวาเลนไทน์ นักเรียนก็ครึกครื้นกันเป็นพิเศษ
อาจเป็นอีกวันที่การสอนของเขา ไม่หนักเท่าไหร่
ยังพอมีแรงที่จะไปดูแลสอนในตอนเย็น
แต่แล้ววันนี้เองกลับเปลี่ยนตัวเขา
หลังจากไปในสวนได้ไม่นาน เขาก็กลับมาด้วยหน้าตาที่ซีดจัด
ถามไถ่ก็รู้ว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้ ตอนเขายังอยู่ในโรงเรียน
มีคนแปลกหน้าสามคนกำลังเดินสำรวจแถวๆสวนของเขา
มีชาวบ้านเข้าไปถาม ก็ได้คำตอบว่า
"จะมายิงกระรอก"
เป็นภาษาท้องถิ่นของคนที่นี่ แต่เพี้ยน!!!
และอีกอย่าง ในช่วงที่ต้นยังไม่ออกดอก ออกผล
ยังไม่ใช่ช่วงที่จะมาล่าสัตว์พวกนี้กัน
ไหนจะเป็นเรื่องเมื่อคืน ที่มีคนถามหาตัวเขา ตอนมืดๆค่ำๆ
ซึ่งจะรู้กันดีว่า ช่วงสถาณการณ์ยังงี้
ไม่มีใครกล้าไปไหน มาไหนเวลานี้หรอก
มันแปลกมาหลายวันแล้ว แต่เขาเพิ่งมาสังเกตได้
ตอนที่คนแปลกๆเข้าไปในสวนเขา
ผมเห็นความกลัวบนใบหน้าเขาได้อย่างชัดเจน
เพื่อนๆครูจากโรงเรียนในหมู่บ้านใกล้เคียงเพิ่งจะโดนยิงไป
ที่นี่สงบมานาน
ใครกันน่ะ ช่างโหดร้ายทำกับคุณครูอย่างนี้
โจรน่ะเหรอ.....
ใช่ ทุกคนคิดว่าเป็นฝีมือโจร
แต่ใครล่ะ คือบุคคลที่อยู่ภายใต้ชื่อนั้น
คนกลุ่มไหนกันที่เกลียดชังชาวบ้าน
ใครคนไหนกัน ที่ฆ่าได้แม้แต่พวกเดียวกัน!!
หากท่านคิดจะส่งทหารสามหมื่นนายลงมาแก้ปัญหา
หากท่านคิดได้แค่จะลงมากินน้ำชา แล้วจากไป
หากท่านคิดว่า ไฟจะดับด้วยไฟ
ท่านผิดแล้ว....
ถ้าท่านเป็นคนที่นี่
ท่านจะเห็นครูดังกล่าว นอนพักในห้องไอซียู
ทุกคนเฝ้าแต่จะเห็นเขารอด และรอคอยสันติภาพ
โดยไม่อยากรู้หรอกว่า
ใครคือโจรที่แท้จริง....