25 ตุลาคม 2548 09:00 น.
sodasasa
เมื่อความเงียบเฉียบเย็นเช่นสายน้ำ
ได้เคลื่อนตามหัวใจให้อ่อนล้า
จึงเกิดก่อความเหงาเคล้าน้ำตา
กับเวลาแสนเศร้าที่เรามี
แม้จะยิ้มปลอบใจให้ไออุ่น
แต่ความเหงาเเคล้ากรุ่นในวิถี
ฉันจะลืมให้ได้....นะคนดี
ฉันจะมีแต่ฉันทุกวันคืน
จะโอบกอดตัวเองในเพลงเศร้า
จะแนบเนาใจล้าให้กล้าฝืน
จะคงอยู่คืนสงัดอย่างหยัดยืน
จะรอตื่นอุ่นไอใต้แสงตะวัน
ให้น้ำตาพร่าพรมชโลมแก้ม
แล้วยั่วแย้มน้ำค้างกลางลมผัน
เจ้าดูซิ แก้มแกร่ง แห้งเหือดพลัน
พร้อมรอวันตะวันใหม่ด้วยใจงาม
จะอิงแอบแนบชิดความว่างเปล่า
จะเอ่ยกล่าวไร้ใจในคำถาม
ให้เพลงเหงาบรรเลงเป็นเพลงงาม
แล้วร้องตามปลอบใจ ..ไม่จำมัน
24 ตุลาคม 2548 09:04 น.
sodasasa
ผิดไหม
กับความจริงใจที่ฉันเปิดเผย
กับแววตาที่ไม่กล้าจะละเลย
กับความคุ้นเคยที่เพิ่ม...แต่เธอเริ่มชินชา
ผิดไหม
กับความจริงใจที่ฉันนั้นค้นหา
หวังจะให้เธอเข้าใจลึกลึกในแววตา
แต่การกระทำที่สร้างมา...กลับไม่มีคุณค่าใดใด
ผิดไหม
ที่ฉันทำลงไปนี้ผิดไหม
ที่ฉันเคยเอื้อนเอ่ยว่า...ฉันคิดกับเธออย่างไร
แต่เธอกลับนิ่งเฉยไป...อย่างไม่มีเยื่อใยเลย
ผิดไหม
ที่ฉันต้องทนต่อไปกับความนิ่งเฉย
ที่ฉันต้องทนทำใจ...ในสายตาที่คุ้นเคย
แต่ไม่มีสักครั้งเลย ที่เธอจะเอื้อนเอ่ยกลับมา
ผิดไหม
ที่ฉันบอกไปว่ารักเธอหนักหนา
รู้แล้ว...เข้าใจแล้ว...ว่ามันเป็นเพียงแค่วาจา
ที่ฉันเอ่ยบอกออกมา...แต่มันกลับไม่มีคุณค่าใดใด..ในใจเธอ
22 ตุลาคม 2548 12:50 น.
sodasasa
ณ คืนหนาวคืนนี้ที่รับรู้
ฉันยืนอยู่เคียงจันทร์อันสดสวย
มีลมหนาวเคล้าเคียงเสียงระรวย
กับอกด้วยไออุ่นกรุ่นสัมพันธ์
เขายื่นผ้าคลุมไหล่ด้วยใกล้ชิด
โอบกอดนิดใกล้ใกล้กลิ่นอายฉัน
ไออุ่นๆกรุ่นหวานในเงาจันทร์
ร่างชิดกันสัมพันธ์ซึ้งอย่างตรึงตรา
ณ คืนหนาวคืนนี้แสนดียิ่ง
เกินกว่าสิ่งใดใดให้ไขว่คว้า
เพียงเขานั้นมองฉันแล้วสบตา
ก็เกินกว่าหยาดฟ้ามาตรึงทรวง
โปรดเถอะจันทร์หยุดก่อนจะได้ไหม
อย่าเคลื่อนคล้อยลอยไปในแมนสรวง
ด้วยฉันนี้ขอใกล้ใจหนึ่งดวง
เพื่อแนบทรวงเนานานให้หวานพอ
ณ คืนหนาวคืนนี้ที่แสนหวาน
อยากขอจันทร์อยู่นานนานได้ไหมหนอ
อยากชิดกายอุ่นไว้ให้เพียงพอ
เพื่อลืมตา...ตื่นรอ...แสงตะวัน
18 ตุลาคม 2548 09:59 น.
sodasasa
จะยิ้มหวานทักทายปลายเกสร
จะออดอ้อนสายลมให้ชมสวน
จะเอ่ยคำแสนหวานกลั่นเชิญชวน
ให้ไม้มวลพลิ้วไหวในสายลม
จะชื่นชมดมกลิ่นถิ่นดอกไม้
จะโอบไอหมอกอุ่นกรุ่นสุขสม
จะร้องเพลงขับกล่อมไม้ในตม
จะชื่นชมฟ้าสวยด้วยแววตา
จะเอ่ยรักทักดินให้ยินรู้
จะควงคู่เมฆน้อยในรอยฟ้า
จะกล่าวคำรำพัน ณ จันทรา
ว่าฉันน่ะ สุขใจ ในวันคืน
ด้วยฉันรู้ตัวตนบนโลกนี้
ว่าเกิดมีสุขได้ไม่ครั่นฝืน
เพียงเรานั้นทำใจให้หยัดยืน
รับวันคืนโหดร้ายไม่เกรงกลัว
ฉันจะยิ้มสู้ต่อทระนง
ฉันจะคงจิตไว้ในเงาสลัว
ฉันจะกล้ายิ้มรับกับความกลัว
แม้ฟ้ามัวมืดพลันฉันจะทน
ฉันจะมองรอบร่างอย่างมีสุข
ฉันจะลุกจากพวังครั้งสับสน
ฉันจะเป็นคนดีที่อดทน
ฉันจะค้นพบสุขทุกปลายทาง
17 ตุลาคม 2548 11:14 น.
sodasasa
ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
แม้เวลาวารีจะแปลผัน
แม้บางใจร้ายเหลือไม่เอื้อกัน
แม้ดวงจันทร์มืดดับไม่กลับมา
ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
เพราะรู้ดีตัวฉันนั้นมีค่า
ฉันยังคงก้าวต่อไม่รอลา
ด้วยหวังว่าความฝันพลันเกิดจริง
ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
แม้ชีวีอาจมืดมิดปิดบางสิ่ง
แม้จะมีคำด่ามาเตือนติง
ฉันจะนิ่งและสู้อยู่ในใจ
ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
พร้อมยอมพลีแม้ฝันนั้นมอดไหม้
ฉันจะกอบฝุ่นฝันนั้นด้วยใจ
แล้วหลอมใหม่ให้เกิดฝันนั้นอีกครา
ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
ทุกเวลานาทียังมีค่า
ใครไม่เห็นว่าเป็นฉันกั้นสายตา
ช่างเค้าซ่ะ..มั่นไว้หัวใจเรา