11 กรกฎาคม 2547 14:34 น.
Snowflake*
"สิ่งที่เราเลือก ไม่สำคัญเท่ากับการรับผลของสิ่งที่เราเลือก"
ความเชื่อเช่นนี้ของฉันแสดงออกมาให้หลายคนเห็นในต่างกรรม...ต่างวาระ
วันนี้...ฉันยังคงเชื่อเช่นนี้อยู่ ไม่เปลี่ยนแปลง (แม้ว่าวันหนึ่งมันอาจจะเปลี่ยนไปราวกับพลิกฝ่ามือก็เป็นได้ แต่อย่างน้อย ในตอนนี้ฉันก็เชื่อเช่นนี้)
.
.
.
วันนี้ ฉันยืนอยู่นอกรั้วเหล็กหน้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
วันนี้ เป็นวันที่มีการพระราชทานปริญญาบัตร
วันนี้ วันที่แปดกรกฎาคม พุทธศักราชสองพันห้าร้อยสี่สิบเจ็ด ขณะนี้เวลาเจ็ดนาฬิกาสามสิบสองนาที
.
.
.
น้ำตาของฉันไหลริน...ในเวลานี้ ไม่มีน้ำตาให้เห็นอีกแล้ว แต่หากเป็นเมื่อสองชั่วโมงก่อน ถ้าคุณเดินมาที่นี่ ตรงนี้ คุณจะพบผู้หญิงผมซอยสั้น ยืนร้องไห้อย่างสุดจะกลั้น ท่ามกลางดอกไม้และของขวัญนานาที่วางขายอยู่ริมทางเท้า...
กล่าวกันตามจริงแล้ว ฉัน...ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับงานพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนี้เลยสักนิด สาเหตุเดียวที่ทำให้ฉันต้องมายืนอยู่ตรงนี้ คือ ดอกไม้และของขวัญต่างหากเล่า
ใช่แล้ว...ฉันเป็นคนขายดอกไม้และตุ๊กตาธรรมดาๆคนหนึ่ง
คนขายดอกไม้ไม่น่าและไม่ควรจะมาร้องไห้อยู่หน้ามหาวิทยาลัยใช่ไหมนะ?
.
.
.
ผู้คนมากมายเดินสวนกัน เบียดเสียดกัน บ้างก็หกล้ม บ้างก็เดินชนแล้วรีบเดินหนีไปโดยไม่ขอโทษ บางคนก็หยุดดูดอกไม้ที่ฉันจัดเป็นช่อแล้ว ชั่งใจว่าจะซื้อดีหรือไม่...บางคนก็ซื้อ บางคนก็เดินต่อไปโดยไม่หันกลับมามองร้านของฉันอีก ฉันมองภาพเหล่านั้นจนชินตามาทุกปี ปีละหนึ่งครั้ง...สิ่งที่ภาพของพวกเขาสะท้อนออกมาให้ฉันเห็นนั่นล่ะที่ทำให้ฉันร้องไห้ ฉันร้องไห้ให้กับการเลือก โดยไม่รู้แม้ว่าควรจะรับผลของสิ่งที่เลือกอย่างไร
ฉันจบการศึกษาจากสถาบันนี้เมื่อเจ็ดปีก่อน สภาพของฉันในตอนนั้น ไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่ปรากฎแก่สายตาของฉันในเวลานี้ ...คนคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าตัวเองเรียนจบไปแล้วจะ"ภูมิใจ"กับวิถีชีวิตที่จะต้องเป็นเพราะการอยู่ในระบบสังคมของการทำงาน รับเงินเดือน ไปเที่ยว พักผ่อนหรือไม่, ไม่รู้ว่าการ"เลือก"ชีวิตแบบนี้เหมาะกับตัวเองหรือยังและไม่รู้...แม้กระทั่งว่าจะรับทั้งสิ่งที่ผิดและชอบอันเกิดจากสภาวะที่เลือกไปแล้วได้อย่างไร...ไม่รู้เลย
.
.
.
หลังจากที่จบการศึกษา ฉันก็เข้าทำงานในสายงานที่ใกล้เคียงกับที่เรียนมา ฉันกลายเป็นคนที่ดำรงชีวิตอย่างค่อนข้างสบายตามครรลองของมาตรฐานกลางในสังคมเมืองใหญ่คนหนึ่ง วิถีชีวิตเป็นไปอย่างที่ทุกคนรอบตัวฉันพอใจ รอยยิ้มฉาบอยู่บนหน้าของพ่อแม่ทุกครั้งที่ฉันพาพวกเขาไปทานข้าวนอกบ้าน ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ดูเหมือนว่าคนรอบข้างฉันจะพอใจกับสิ่งที่ชอบที่พวกเขาได้รับ ...ส่วนตัวฉันนั้นกลับรู้สึกเฉยเฉยกับสิ่งที่ชอบ ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้น สำหรับสิ่งที่ผิดในกรณีของการตัดสินใจเลือกของฉันนั้นเห็นได้ชัดเจน...นั่นคือ ฉันไม่อาจจะเป็นตัวของตัวเองได้... ความอึดอัดเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน กองสุมกันราวกับภูเขาของความรู้สึกทึมเทาที่ก่อตัวอย่างช้าช้าแต่มั่นคง...ท่าทางว่าฉันจะรับในสิ่งที่ผิดจากการตัดสินใจนี้ได้ไม่ดีเอาเสียเลย...ตั้งแต่ผลของการตัดสินใจแสดงตัวและสำแดงฤทธิ์ของมันออกมาให้เห็น ฉันกับที่บ้านก็เป็นอันต้องมีเรื่องทะเลาะกันเสียทุกทีไป บ่อยครั้งขึ้นเรื่อยเรื่อยเสียด้วย...
.
.
.
ฉันตัดสินใจใหม่อีกครั้ง...
ฉันลาออก
.
.
.
และแน่นอน ผลของการตัดสินใจเลือกแสดงตัวให้เห็นในเวลาไม่นาน
สิ่งชอบที่ฉันได้รับจากการเลือกครั้งนี้ คือ ชีวิตที่อิสระ การรู้คุณค่าของตัวเองอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิต มุมมองใหม่ใหม่ที่หลากหลายเกินที่ฉันจะคาดเดา...โลกดูกว้างขึ้น ฉันรู้สึกเหมือนถอดแว่นตาทิ้งไปเลยล่ะ
สิ่งผิดที่ฉันได้รับจากการเลือกครั้งนี้ คือ ความเฉยชาอย่างที่สุดจากคนรอบข้าง พ่อแม่ของฉัน เพื่อนของฉัน คนรักของฉัน...ต่างพากันนิ่งเงียบและกล่าวคำว่าเสียใจกับฉัน เสียใจที่ฉันเป็นแบบนี้...ฉันรู้ดีว่าที่พวกเขาพูดอย่างนั้นก็เพราะว่าไม่เข้าใจในการตัดสินใจของฉัน...แต่มันก็ทำให้ฉันทรมานใจแสนสาหัส ฉันเลือกที่จะตั้งร้านขายดอกไม้ขึ้นที่ปากคลองตลาด แล้วตั้งร้านขายของนอกสถานที่ตามงานรับปริญญาทุกปี ฉันพอใจที่ได้อยุ่กับดอกไม้ แต่ทุกครั้งที่กลิ่นแสนหอมของดอกไม้โชยมากับสายลม ความคิดของฉันก็ลอยล่องไป ...จบลงด้วยการเสียน้ำตาด้วยเหตุแห่งการรับผิดเสียทุกครั้งไป แว่นตาที่ฉันเคยมี มันถูกถอดมันทิ้งไปแล้วนี่นา สายตาของฉันก็ย่อมพร่ามัวไปบ้าง เป็นธรรมดา...
.
.
.
ฉันยังคงหวั่นกับหนทางข้างหน้า
แต่ในวันนี้ ฉันรู้ว่าฉันสามารถรับ/ผิด/ชอบกับเส้นทางที่ฉันเลือกเองได้
.
.
.
สาวน้อยหน้าหวานคนหนึ่งเดินมา หยุดมองที่ช่อดอกไม้ชั่วครู่ เธอหันมามองหน้าฉัน แล้วเอ่ยถาม "พี่คะ...ดอกนี้ดอกอะไรคะ สวยจังเลย" รอยยิ้มที่ฉาบบางบางอยู่บนใบหน้าดูแสนบริสุทธิ์..."ดอกวิหคสวรรค์จ้ะ ภาษาอังกฤษเรียกว่า bird of paradise น่ะ" ... ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอจะซื้อดอกไม้ช่อนี้หรือไม่ แต่ ณ วินาทีนี้ หยาดน้ำตาในใจจากฉันไปอย่างไร้ร่องรอย
ฉันมีความสุขกับสิ่งที่ฉันเลือก
:)