23 เมษายน 2548 03:36 น.
silver valentine
แสงแดดของฟ้าที่ส่องมาของยามบ่ายในวันปีใหม่ส่งท้ายปีเก่า เราจะจัดงานเลี้ยงกันที่สำนักงานแห่งหนึ่ง
ไพรกว้าง>> เฮ้ย!! มาช่วยทางนี้หน่อยสิ หนักจะตายอยู่แล้ว
เสียงของเด็กชายคนหนึ่งตะโกนขึ้น ขณะที่เขากำลังยกถังพลาติกใบใหญ่
องอาจ>> เออๆๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ โหแค่กระติกน้ำแข็งใบเดียวทำเป็นบ่นนะแก
ไพรกว้าง>> เออสิ ใครจะไปแข็งแรงเท่าแกล่ะ แหมเป็นนักมวยตัวโรงเรียนแล้วทำเก่งนะ
องอาจ>> พล่ามอยู่ได้ รีบยกไปกันเหอะ เพื่อนๆ รออยู่นะ
ไพรกว้าง>> อืมๆ ไปสิ
และแล้วทั้งสองคนก็หิ้วกระติกน้ำแข็งไปที่ห้องจัดงานเลี้ยง
นกน้อย>> ทำไมมาช้าจังล่ะ
องอาจ>> ก็ไอ้ไพรกว้างน่ะสิ กระติกน้ำแข็งใบเดียวยังยกคนเดียวไม่ได้เลย
ไพรกว้าง>> อ่า... เผาทับเลยนะแก ไอ้องอาจ
นกน้อย>> ช่างเหอะๆ มา!! ไปสนุกกันดีกว่า เพื่อนๆ กำลังร้องคาราโอเกะกันอยู่เลย
งานในวันนั้นสนุกสนานกันมาก อิ่มหนำ เต้นมันเถิดเทิงกันถ้วนหน้า และแล้ว... ตกเย็นของวันนั้นเอง
องอาจ>> เฮ้ย ไพรกว้าง แล้ววันนี้ออนเอ็มไว้ด้วยน่ะ จะได้เคาน์ดาวน์กัน
ไพรกว้าง>> อืมๆ แล้วจะพยายามถ่างตาให้ถึงเที่ยงคืนล่ะกัน - -"
องอาจ>> หืม...พูดไรอย่างงั้นวะ นกน้อยของแกอะ จะไม่โทรไปหาเหรอ
ไพรกว้าง>> ของกง ของแกอะไร นกน้อยเขาไม่สนใจข้าหรอก ว่าแต่แกเหอะ เมื่อไหร่จะบอกรักเขาบ้างวะ
องอาจ>> โห มันยากอยู่นา ไอ้การบอกรักเนี่ย
ไพรกว้าง>> อะไร! มันยากตรงไหนวะ แค่พูดว่า ผมรักคุณ แค่นั้นก็จบ
องอาจ>> เหรอ อืม...แล้วแกไม่โกรธข้าเหรอ ที่ชอบนกน้อยเหมือนแกอะ
ไพรกว้าง>> ไม่หรอก คนเรามีสิทธิเท่าเทียมกันโว้ย ข้าให้โอกาสแกด้วยไงแกก็ให้โอกาสข้าเหมือนกัน มันอยู่ที่ตัวนกน้อยมากกว่า
องอาจ>> อืม...
ทั้งสองคุยกันอยู่ ไม่ทันระวังตัวว่ากำลังเดินข้ามถนน และมีรถยนต์วิ่งมาด้วยความเร็วสูง
เอี้ยดดดดดดดดดดดด โครม!!!!!
นายองอาจผลักไพรกว้างออกไปได้ทันท่วงที แต่ตนเองก็ต้อง...
ไพรกว้าง>> เอ้ย เอ้ย!!! แกอย่าตายนะโว้ยไอ้องอาจ เฮ้ย!!! คุณๆ ตามรถพยาบาลมาหน่อยสิ
หว๋อ หว๋อ หว๋อ... รถโรงพยาบาลก็มา ส่งโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉิน
ไพรกว้างรออยู่ด้วยความกระวนกระวายใจ และแล้วหมอออกมา...
ไพรกว้าง>> หมอ... หมอครับหมอ เพื่อนผมเป็นไงบ้าง
หมอ>> (ส่ายหน้า) ยากอยู่นะ เขาเสียเลือดไปมาก กระดูกซี่โครงหัก เกิดหัวใจบอบช้ำอย่างรุนแรง ถ้าเปลี่ยนหัวใจทันก็คงจะรอดแต่จะให้รอเขาส่งมาก็ไม่ทันแล้ว... ทำใจนะ หมอช่วยได้แค่นี้
ไพรกว้างวิ่งเข้าไปดูองอาจ ที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเดียง
ไพรกว้าง>> โถ่เพื่อนรัก ไม่น่าเลย ฮือ ฮือ ฮือ...
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของไพรกว้างก็ดังขึ้น
นกน้อย>> อยู่ไหนน่ะ นกน้อยโทรไปบ้านก็ไม่มีใครรับ
ไพรกว้าง>> นกน้อยๆ องอาจมันถูกรถชน
นกน้อย>> หา! จริงอะที่ไหนล่ะ เดี๋ยวไปเยี่ยม แล้วสาหัสมากไหม
ไพรกว้าง>> (เงียบไปครู่หนึ่ง) ไม่เป็นไรมากหรอก เอาไว้วันหลังเดี๋ยวเราจะพามาเยี่ยมนะ
นกน้อย>> หรอ ตกใจหมดเลย แล้วไพรกว้างเป็นไรเปล่า
ไพรกว้าง>> ไม่เป็นไร องอาจพลักเราทัน
นกน้อย>> อืมๆ งั้นแค่นี้นะแล้วพรุ่งนี้มาหานกน้อย พามาเยี่ยมองอาจด้วยล่ะ
ไพรกว้าง>> อืม... ได้ๆๆ แค่นี้แหละ บาย
นกน้อย>> บาย
ไพรกว้างนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินไปที่ห้องน้ำของโรงพยาบาลพร้อมกับเชือก......
เช้าวันรุ่งขึ้นพนักงานทำความสะอาดก็มาพบศพของนายไพรกว้าง มีจดหมายทิ้งไว้ 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งเขียนว่า "หมอครับ เอาหัวใจผมให้นายองอาจทีนะครับ และขอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะครับ ขอบคุณมากครับ" ส่วนอีกฉบับหนึ่ง "ไงองอาจ หัวใจเราให้นายแล้วนะ อย่าลืมบอกรักนกน้อยล่ะ ดูแลเขาให้ดีด้วยล่ะรักมากนะคนเนี่ย โชคดีโว้ยเพื่อนรัก ลาก่อน..." ในวันนั้นหมอก็ได้เปลี่ยนหัวใจให้กับองอาจทันที และแล้วองอาจก็ฟื้นขึ้น
หมอ>> เป็นไงบ้างครับ คุณนอนไป 3 วันเต็มๆ เลยนะ
องอาจ>> หรอครับ แล้ว...เพื่อนผมล่ะครับ
หมอ>> นายไพรกว้างน่ะหรอ เขาทิ้งจดหมายไว้ให้แน่ะ
องอาจ>> หือ? จดหมาย
หมอยื่นจดหมายให้นายองอาจอ่านดู ทำให้องอาจน้ำตาไหลพราก...
หมอ>> เพื่อนคุณเป็นคนดีมากนะ เขาจะอยู่กับคุณตลอดไป
องอาจ>> ฮือ ฮือ ไอ้ไพรกว้าง ไอ้ไพรกว้างงงงงง
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา องอาจก็ออกจากโรงพยาบาล แล้วไปหานกน้อย
กริ๊งงงงงงง กริ๊งงงงงง (เสียงออดดัง)
นกน้อย>> ค่า ค่า เดี๋ยวจะไปเปิดให้
องอาจ>> ว่าไงนกน้อย สบายดีเปล่า
นกน้อย>> อ่าว องอาจไม่เจอตั้งนาน หายดีแล้วเหรอ
องอาจ>> อืม... หายดีแล้วล่ะ
นกน้อย>> แล้ว...ไพรกว้างล่ะ
องอาจ>> มันน่ะหรอ ไปไหนแล้วก็ไม่รู้
นกน้อย>> อ่าว
หนึ่งเดือนผ่านไป ทำให้นกน้อยรักองอาจมากขึ้น แต่ก็ทำให้เกลียดไพรกว้างมากขึ้นด้วย
นกน้อย>> วันนี้เราไปไหนกันดี
องอาจ>> เดี๋ยวเราจะพาไปที่ที่หนึ่ง แต่นกน้อยต้องปิดตาก่อนนะ
นกน้อย>> จะทำสไพร์อะไรนกน้อยหรอ อิ อิ
องอาจ>> อืม...
องอาจเอาผ้ามาปิดตานกน้อยไว้ แล้วพาไปหน้าหลุมศพของนายไพรกว้าง
องอาจ>> อะ ลืมตาได้แล้ว
นกน้อย>> หืม...นี่มันที่ฝังศพนี่นา พามาทำไมเนี่ย
องอาจ>> นกน้อยดูป้ายหลุมที่อยู่ข้างหน้าสิ
เมื่อนกน้อยเห็นว่าเป็นชื่อของไพรกว้างก็ตกใจมาก
นกน้อย>> อะไรเนี่ย ทำไม ทำไมไพรกว้างตายแล้วล่ะ ทำไมนกน้อยไม่เห็นรู้เรื่องเลย
องอาจจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง
องอาจ>> นกน้อย ไพรกว้างเขายังอยู่นะ เขายังอยู่ในตัวของเราตลอดมา นกน้อยก็ใกล้ชิดกับไพรกว้างด้วยนะ
นกน้อย>> ฮือ ฮือ ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้ไพรกว้าง...
เมื่อนกน้อยหันไปมององอาจ ก็เห็นเป็นหน้าของไพรกว้าง แล้วโถมเข้ากอดองอาจด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง....
2 สิงหาคม 2547 20:20 น.
silver valentine
เราคือ "เยาวชนปลายฟ้า"
ผู้นำแสงสว่างให้คุณ นักบุญแห่งกิจกรรม
ผู้กำกับแห่งเวลา สู่ปลายฟ้าไปพร้อมเรา
ในเย็นวันศุกร์ ประมาณ 4 โมงเย็น....
???: "เอาล่ะเราได้ชื่อกลุ่ม กับสโลแกนเรียบร้อยแล้ว"
เด็กชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ต่อหน้าเพื่อนๆอีก 3 คน เขามีนามว่า "อาร์ม" เด็กหนุ่มชั้น ม.5 (หัวหน้า) ผู้มีความใฝ่ฝันว่าเขาจะเป็นนักจัดกิจกรรมที่ดีให้ได้
ปอย: "นี่อาร์ม นายคิดว่าจะมีคนเข้าชมรมเราเหรอ?"
นายปอย เพื่อนสนิทของอาร์ม (รองหัวหน้า) หน้าตาดี หุ่นดี เป็นคนที่ใจบุญมากๆ
ตรี: "อย่าพูดอย่างงั้นสิวะ เราทำได้อยู่แล้ว"
ตรี หนุ่มน้อย (เหรัญญิก) คนนี้อยากเรียนเตรียมทหาร ผู้มีความเชื่อมั่น
ฟ้า: "ใช่ๆ ตรีพูดถูกนะ เชื่อมั่นในตัวเองหน่อยสิปอย"
ฟ้าใส สาวน้อยน่ารัก (เลขานุการ) สาวน้อยผู้ซื่อสัตย์ เป็นคนตรงต่อเวลา แบ่งเวลาเป็น และเรียนเก่งที่สุดในหมู่เพื่อนๆ
ปอย: "ถ้าเพื่อนๆ มั่นใจขนาดนี้ งั้นเราไปลุยกันเลยดีกว่า"
อาร์ม: "อืม... เดี๋ยวๆ เราต้องโฆษณาทางประชาสัมพันธ์ในตอนเช้าที่โรงเรียนก่อนสิ แล้วทำใบสมัครด้วยนะ ใครจะอาสาออกแบบใบสมัครล่ะเนี่ย"
ปอย:"..."
ตรี: "...."
ฟ้า: "เอ้าๆๆ ฟ้าทำเองก็ได้ค่ะ แหมพอให้งานออกความคิดเกี่ยงกัน ทีจะชวนน้องๆ เข้าชมรมนี่เร็วเชียวนะพวกนายเนี่ย"
อาร์มหัวเราะขึ้นมาทันที
ปอย: "ก็เราถนัดพูดมากกว่านี่นา..."
ตรี: "เราก็ไม่ถนัดออกแบบด้วยสิ กลัวไม่สวยอะ แหะ แหะ แต่ถ้าให้ช่วยวิ่งเอกสาร แจกเอกสาร ล่ะก็เราจัดการเอง"
ฟ้า: "สวย ไม่สวยไม่เป็นไรหรอก ตั้งใจทำก็พอแล้ว"
อาร์ม: "เอาล่ะๆ พอแล้ว ตกลงว่าวันนี้พอแค่นี้นะ สรุปเลยล่ะกัน อาร์มคิดคำกล่าวออกฝ่ายประชาสมัพันธ์ ฟ้าออกแบบใบสมัคร ตรีนายทำบัญชีงบประมาณนะ และปอยทำตารางรายชื่อของสมาชิกมานะ วันจันทร์เจอกันนะ บาย"
และทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านไป...
เป็นไงบ้างครับเพื่อนๆ สนุกเปล่า แล้วค่อยมาอ่านกันใหม่ในวันพฤหัสนะครับ
28 มีนาคม 2547 09:13 น.
silver valentine
~เพื่อนๆ ที่กำลังจะอ่านกันขอให้อ่านอย่างตั้งใจ และนึกภาพตามไปด้วยนะครับ~
@ มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเขาไม่มีอะไรเลย.......
บ้านก็ไม่มีให้อยู่ เงินก็ไม่มีให้ใช้ เพื่อนก็ไม่มี ชีวิตแสนจะเศร้าT-T
เขามีเพียงแต่ต้นไม้... ต้นไม้ต้นเดียวเท่านั้นที่เขามีเป็นเพื่อน
วันหนึ่งเด็กคนนั้นเห็นพวกเด็กๆ มีของเล่น เล่นกันอย่างสนุกสนาน และมีขนมกินกันอย่างท่าทางอร่อยด้วย เด็กผู้ชายคนนั้นอยากมีเพื่อนกับขนมทานบ้าง จึงวิ่งไปปรึกษากับต้นไม้ของเขา
เขาถามต้นไม้ว่า "ต้นไม้จ๋า ฉันอยากมีเพื่อน กับขนมอร่อยๆ ทาน ฉันจะต้องทำยังไงบ้างจ๊ะ"
ต้นไม้ตอบเด็กชายด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า "เอาอย่างงี้สิ เธอก็เอาผลไม้ที่ตัวฉันเนี่ยนะ ไปขาย ให้ได้เงินมาแล้วก็เอาไปซื้อของเล่นกับขนม เสร็จแล้วก็เอาไปแบ่งเพื่อนๆ ของเธอไงล่ะ"
เด็กชายคนนั้นก็ทำตาม*-* .. เขามีเพื่อน มีเงิน มีขนมทาน เด็กชายได้วิ่งกลับไปหาต้นไม้แล้วบอกว่า "ขอบใจมากนะจ๊ะต้นไม้จ๋า"
อยู่มาวันหนึ่ง เด็กชายเห็นเพื่อนๆ ของเขาต่างมีบ้านเป็นของตัวเอง เด็กชายคนนั้นก็อยากจะมีบ้านของเขาบ้าง จึงวิ่งไปปรึกษากับต้นไม้ของเขา
เขาถามต้นไม้ว่า "ต้นไม้จ๋า ฉันอยากมีบ้าน ฉันต้องทำยังไงบ้างจ๊ะ"
ต้นไม้ตอบไปว่า "ก็เอาอย่างงี้สิ เธอก็เอากิ่งก้านของฉันเนี่ยนะ ไปทำเป็นบ้าน ให้เธออยู่ยังไงล่ะจ๊ะ"
เด็กชายคนนั้นก็ทำตาม... ทีนี้เขาก็มีทั้งเงิน บ้าน ของกิน ทุกอย่างครบหมดแล้ว... แต่เขาก็ยังไม่มีความสุข
เด็กชายคนนั้นคิดว่าตัวเองยังขาดอะไรไป เขาได้ไปหาต้นไม้ของเขาแล้วถามด้วยน้ำเสียงออกจะเศร้าๆ ว่า "ต้นไม้จ๋า ฉันมีเงิน ฉันมีบ้าน ฉันมีอาหารครบหมดแล้ว แต่...ดูเหมือนฉันยังไม่มีความสุขเลย ฉันยังจะต้องทำอะไรอีกล่ะจ๊ะ"
ต้นไม้ยิ้มเล็กๆ แล้วบอกกับเด็กชายคนนั้นว่า "เอาอย่างงี้สิจ๊ะ เธอก็ตัดลำต้นของฉันเนี่ยนะ ไปทำเป็นเรือ แล้วเธอก็เดินทางไปเที่ยวรอบโลก หาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ยังไงล่ะจ๊ะ"
เด็กชายได้ยินดังนั้นก็ทำตาม ลงมือตัดลำต้นของต้นไม้โดยทันที จากนั้นเขาก็นำไปทำเป็นเรือ.....
ต้นไม้ ซึ่งตอนนี้เหลือแต่ตอแล้วบอกกับเด็กชายก่อนไปว่า "ถ้าเธอไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้ว เธอก็กลับมาหาฉันได้ทุกเมื่อนะจ๊ะ"
เขาออกเดินทางไปเที่ยวรอบโลก ทุกหนทุกแห่งเขาได้ประสบการณ์มามากมาย..
เวลาผ่านไป.. ปีแล้ว.. ปีเล่า.. เด็กชายคนนั้นก็แก่ตัวลงๆ ตอนนี้เขามีครบหมดทุกอย่างแล้ว มีทั้งเงิน บ้าน อาหาร ประสบการณ์ความรู้... เขามองดูทะเลที่มีพระอาทิตย์กำลังตกดินอยู่ข้างหน้า แล้วเขาก็กลับไปนึกถึงต้นไม้ เพื่อนของเขา เขาจึงรีบกลับไปหาต้นไม้ของเขาโดยทันที...
และแล้ว... เขาก็กลับมาหาต้นไม้ของเขาอีกครั้ง เขามองเห็นต้นไม้ของเขาซึ่งตอนนี้ก็คงเหลือแต่ตอ เขาไปนั่งกอดและบอกกับต้นไม้ว่า "ต้นไม้จ๋า... ฉันกลับมาแล้วนะ และฉันก็ไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว" เขาพูดด้วยเสียงที่เศร้าๆ
ต้นไม้ตอบไปว่า "ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ ซักวันหนึ่งเธอต้องกลับมา กลับมาหาฉันยังไงล่ะ เธอรู้ไหมว่าฉันรอมานานขนาดไหน ฉันเหงามากเธอรู้บ้างหรือเปล่า..."
เด็กชายคนนั้นบอกกับต้นไม้ไปว่า "ต้นไม้จ๋าฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ตอนนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ต้นไม้จ๋าฉันไม่อยากจะทำอะไรอีกแล้ว" เด็กชายคนนั้นน้ำตาเริ่มซึม...
ต้นไม้บอกกับเด็กชายคนนั้นว่า "เอาอย่างงี้สิ เธอก็มานั่งลงบนตอไม้ของฉันนะ แล้วเธอก็เล่าสิ่งที่เธอได้พบ ได้เจอมาให้ฉันฟัง"
เด็กชายคนนั้นเล่าทุกๆ เรื่องที่เขาได้ไปพบมา........
ต้นไม้บอกกับเด็กชายว่า "ตอนนี้เธอโน้มตัวลงนอนบนตอของฉันเถอะ หลับให้สบายนะ เธอจะอยู่กับฉันตลอดไปใช่มั้ย?"
เด็กชายคนนั้น ได้ร้องไห้ออกมาพร้อมบอกกับต้นไม้ว่า " ~-~ จ๊ะ..ใช่จ๊ะต้นไม้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอดไป" T-T
@ และแล้วเด็กชายคนนั้นก็สิ้นลม ณ ต้นไม้แห่งนั้น......
28 มีนาคม 2547 08:34 น.
silver valentine
"ทำไมล่ะ ฉันทำอะไรผิด ทำไมเธอต้องมาทิ้งฉันอย่างนี้ด้วย... เธอรู้ไหมว่าฉันหนาวเวลาที่ฝนตก ฉันร้อนเวลาที่แดดออก ทำไมไม่มีใครสนใจฉันเลย ฉันมันมีค่าแค่นี้ใช่มั้ย... ใช่สิฉันมันหมดค่าแล้วนี่...."
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตก หนาวสั่นไปทั่วตัว T-T
"ฮือๆๆ... แม่จ๋า แม่อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ แม่จะต้องหาย แม่จะต้องไม่ตายนะ ถ้าแม่ตายแล้วหนูจะอยู่กับใครล่ะ..*-* แม่ แม่...หนูรู้แล้วว่าหนูจะทำยังไงดี หนูจะเอากระป๋องเนี่ย ไปขายให้ได้เงินมา มันคงพอที่จะซื้อยามารักษาแม่ได้ เดี๋ยวนะจ๊ะแม่ เดี๋ยวแม่ก็จะหายแล้ว.. แม่อดทนหน่อยนะจ๊ะ แม่คอยหนูก่อนนะเดี๋ยวหนูจะรีบกลับมา" T-T
เพื่อนๆ ครับ เข้าใจเรื่องนี้หรือเปล่า ตอนแรก ที่พูดเลยนั้นคือกระป๋องใบหนึ่ง กระป๋องที่มันไม่มีค่าอะไรแล้วอะ... มันโดนทิ้ง อยู่ข้างถนน โดยไม่มีใครสนใจ และก็มาถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงคนนี้แม่ของเขาเนี่ย กำลังป่วย... ป่วยเป็นโรคอะไรก็ไม่รู้แหละ*-* เสร็จแล้วเนี่ยเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ไปเจอกระป๋อง เขาจะเอามันไปขายให้ได้เงินมารักษาแม่ของเขา....
เพื่อนเห็นมั้ยว่า..กระป๋องเดิมที่มันไม่มีค่าอะไรแล้วอะ แต่มันกับมีค่าให้คนเด็กคนนี้ และไม่ใช่คนเดียวด้วย ยังมีคนอีกมากมายที่ยังมองดูกระป๋องใบนี้มันยังมีค่าอยู่ เพราะฉะนั้นอย่าทิ้งขยะโดยที่ไม่คิดตริตรองก่อน ทิ้งน่ะ ควรทิ้งให้มันถูกที่....ทิ้งให้มันลงถังขยะด้วยนะครับ T-T
28 มีนาคม 2547 07:29 น.
silver valentine
~ ซ่า.... ซ่า.... ซ่า.... ~
เสียงฝนเริ่มตกหนักขึ้นๆ กายได้ออกเดินทางไปยังเมืองอีกแห่งหนึ่ง....
เขากำลังมองหาบ้านพักที่มีราคาเช่าไม่แพงมากนัก
กาย: เฮ้อออออ ทำไมเราถึงได้มาลำบากขนาดนี้นะ...
กายเห็นบ้านพักหลังหนึ่ง ซึ่งดูไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก แล้วเขาก็เข้าไปขอเช่าบ้านหลังนั้นโดยไม่รีรอ
กาย: อืม... ดูไปก็ใช้ได้เหมือนกัน(เอาเหอะมีที่ให้อยู่ก็ดีแล้วนี่)
กายวางสัมภาระลง แล้วเริ่มจัดห้องของเขา
กาย: อึบ.... อึบ..... ฟู่!!! เสร็จสักที
กายในตอนนี้หมดแรง และเหนื่อยมาก เขาอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จก็ล้มตัวลงนอนทันที
@คุณแม่: เป็นไงบ้างจ๊ะกาย... คนนี้สวยไหม อุ๊ย! คนนี้ก็น่ารักนะ
@กาย: ไม่นะครับผมไม่เลือก...
@ขณะที่กายกำลังวิ่งหนี คุณแม่ก็ดักเอาไว้ทุกๆ ทาง หนีไปไหนไม่ได้
@คุณแม่: หนีไปไหนกาย... หนีแม่ไม่พ้นหรอก ฮ่าๆๆๆๆๆ
@กาย: ไม่นะ!! ไม่....ไปให้พ้นนนนนนนนนนน
และกายก็ตื่นขึ้นมา ตัวของเขา เต็มไปด้วยเหงื่อและเสียงหายของเขาที่แรงเพราะความกลัว.......
กาย: เฮ้ออออ ฝันไปเหรอเนี่ย หืม!!!
~ แอ๊ก... อี๊แอ๊กๆ .......~
ไก่ขันยามเช้า นั้นแสดงให้รู้ถึงว่าแสงอาทิตย์กำลังจะส่องแสง
กาย: *-* เช้าแล้วนี่นา... อืม เราควรหางานทำดีกว่าไม่งั้นน่ะ เงินเราต้องหมดแน่ๆ เอ...แล้วเราจะทำงานอะไรดีล่ะเนี่ย?
กายได้อาบน้ำ แต่งตัวดูเรียบร้อยออกไปหางานทำข้างนอก เขาเดินไปตามร้านอาหารต่างๆ เพื่อขอสมัครเป็นพนักงานเสริฟ แต่เขาก็ต้องสิ้นหวัง ในเมื่อไม่มีร้านไหนที่จะรับพนักงานเพิ่มเลย จนมาถึงเวลาเย็นมากแล้วตะวันเริ่มรับขอบฟ้า....
กาย: ทำไมงานมันหายากอย่างงี้นะ....
กายนั่งเหมือนคนสิ้นหวังอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง และแล้วก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่เป็นมิตร
???: สวัสดีครับ กำลังมองหางานทำอยู่ใช่ไหมเอ่ย
กาย: หือ!! ครับใช่ครับ แล้วคุณ....
???: อ๋อ ขอโทษทีครับทีลืมแนะนำตัว ผมชื่อซิล เป็นคนขายพวกเบเกอรี่ครับ คุณสนใจที่จะช่วยร้านของผมมั้ยครับ......
กายได้ยินดังนั้นก็ดีใจมาก กายลุกขึ้นยืนพร้อมส่งมือไปข้างหน้า
กาย: ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับคุณซิล
ซิล: ครับ หวังว่าเราคงร่วมงานกันได้ดีนะครับ
ทั้งสองคนจับมือกัน แล้วซิลก็พากายไปดูร้านเบเกอรี่ของเขา
กาย: โห!!! ร้านสวยมากเลยนะครับเนี่ย
ซิล: ขอบคุณครับ แต่คุณลองดูสิลูกค้าไม่ค่อยเข้าร้านของผมเลยอะ
กาย: อืม.... เอางี้สิ ผมว่าคุณลองทำโปสเตอร์โฆษณานะ เอารูปแบบน่ากินๆ น่ะนั้นแหละ แล้วก็เอาไปติดตามเมือง...
ซิล: อื้อ...ความคิดดีนี่นะ งั้นก็ลงมือกันเล้ยยยยยยย
กาย: เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ...
กายกับซิลลงมือทำแผ่นโปสเตอร์ไว้หลายๆ แผ่น และมีใบปลิวสำหรับแจกอีกด้วย...
ซิล: เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะดึกมากแล้ว
กาย: อื้อ..
ซิล: เอ่อ... แล้วคุณชื่ออะไรล่ะผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย
กายครุ่นคิดอยู่ในใจแปปนึง แล้วก็บอกไปว่า
กาย: ผมชื่อกายครับ
ซิล: ok ครับ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เราเจอกันนะ แล้วก็ผมมีจักรยานสองคันผมให้คุณยืมไปก่อนแล้วกัน
กาย: ขอบคุณมากครับ*-*
กายได้ขี่จักรยานไปที่บ้านพักของตนเอง พอจะขึ้นห้องก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากห้องของเขา กุกๆ กักๆ ตึงๆ .....