12 พฤษภาคม 2549 15:19 น.
Silky
ต้องมนต์เมืองกระบี่ กับการเดินทางครั้งนี้มีทั้งความทรหดสนุกสนานการเดินทางเริ่มขึ้นช่วงประมาณหนึ่งทุ่มตรงล้อเคลื่อนออกจากสถานที่ทำงานในรถมีผู้คนนั่งไปประมาณ38ชีวิตไกด์ครั้งนี้ของเราเป็นชายหนุ่มรูปงามชาวใต้ชื่อนายประทีปซึ่งจบทางด้านแผนและนโยบายมาพร้อมพลพรรคคือนายอรรถนิติกรจะเรียกคุณก็ใช่ที่เรียกประทีปเป็นนายแล้วนี่เดี๊ยวมีงอนรถเริ่มออกความร้อนเริ่มเยือนอาการไกด์จะกลายเป็นไก่ให้ได้เมารถสะบัดสะโบกต้องให้เปิดแอร์ให้เย็นทีนี้ล่ะ.....แม่เจ้าโว๊ย....เย็นจับใจหัวโลกเหนือกันทีเดียวนั่งกันไปคุยกันไปหลับกันไปเล่นอะไรกันบ้างรอเวลาจุดมุ่งหมายแรกก็มาถึงเขื่อนเชี่ยวหลานซึ่งได้ชื่อว่ากุ้ยหลินเมืองไทยสำหรับอาหารเช้ามื้อนี้ล่องเรือชมรอบๆๆสวยงามนักเที่ยวกันสักพักก็เคลื่อนย้ายไปอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณีสวยงามน้ำเขียวใสรากไม้แปลกตาทำให้ผู้เขียนหลงอยู่ในนั้นเพราะมัวเพลินกับธรรมชาติสุดท้ายต้องออกมากลัวตกรถคงไม่มีปัญญากลับเองหรือไปต่อได้ไม่รู้เพราะนายแกล้งเราหรือเราไม่รู้ว่ามีทางออกอีกทางกันแน่
ทีนี้ก็ไปกันต่อที่การพิชิตบันได1200ขั้นมนัสการหลวงพ่อจำเนียรต้องใช้เพียรพยายามอย่างล้ำเลิศเพราะเจ้าน้องชายตัวดีไม่ให้ถอยเราเลยขึ้นไปแบบหืดขึ้นคอนึกถึงสังขาร...เอ้อ....สงสัยถ้าไม่ขึ้นคราวนี้คราวหนาคงหมดเวลาเพราะอายุไม่ให้มีเด็กที่ทำงานขึ้นมากลางทางถอดใจหลายคน...เจ้าโอ๋....ครูกุ้ง....น้องจา....น้องสาวซ่าๆๆอีกคนคนสวยที่เหลือน้อยอย่างเราไม่ยอมแพ้ถูกเจ้าตัวดีลากขึ้นไปจนถึงข้างบนจนได้สวยสมใจค่ะ....หายเหนื่อย...เห็นเมืองกระบี่ทั้งเมืองเหลียวหาไกด์จะถามไรหน่อยโน่นมันฝอยอยู่ข้างล่างไม่ขึ้นมาสะงั้น
มีหน่วยป้องกันเจ้ามนตรีดันขึ้นหนีมาถึงก่อนเราพอถามตอบได้เด็ดขาดจริงๆๆ....แค่ป้องกันชีวิตผมเองก็จะไม่รอดแล้ว...ฟังดู
แต่ละคนพูดเค้ามันน่าเศร้าใจ...เฮ้อ.....
กระบี่กลับการเดินทางฝนตกทุกวันอากาศร้อนอบอ้าวชาวคณะเราไปกันต่อที่ทะเลแหวกรอให้แหวกไม่แหวกสักทีทีนี้ชาวคณะเราเลยดำน้ำแหวกว่ายสายธาราดูประหลาดุปะการังฝ่ายเสบียงคลังน้องเพ็ญ น้องเสาวนีย์คอยหาของกินให้อย่างดีแต่แม่เสวนีย์ตัวแสบดำน้ำไม่ถอดรองเท้าสะงั้นกลัวหอยแม่นตำแถมชูรองเท้าสีชมพูให้ดูว่าใส่มาจริงลอยคอชูดูหรูหรามันน่านัก
ส่วนนายประทีปไกด์เหรอร้องบอกใครกับใครลอยตัวไว้ระวังหอยครับแต่เจ้าตัวโดนเองครื้นเครงกันไป
ดำกันไปดำกันมาผุ้เขียนจากผิวขาวจากขาวเป็นดำจากผิวดำเปลี่ยนเป็นเขียวนายเราใจดีย้ายทีให้ดำก็ไปดำที่ใหม่เลยโดนแตนทะเลต่อยสิทีนี้พวกพี่ๆๆเจ้วรรณ เจ้ไกร เจ้นา นั่งทำซ่าส์ซักฟอกนายท้ายเรือแหล่งใต้กันใหญ่ไม่ยอมลงน้ำส่วนหนุ่มๆเรอะมองหาฝรั่งสาวสวยเป็นอาหารตาสำบายใจ
แล้วเราจากเย็นก็ไปร้อนแช่น้ำพุร้อนสบายใจหายปวดเมื่อยนึกๆๆไปชาวคณะเราเหมือนปลาแหวกว่ายไปมาขึ้นน้ำลงน้ำดำน้ำแช่น้ำไม่พ้นน้ำสักที
ปิดท้ายการการที่แวะสวนโมกพระธาตุไชยาร่มเย็นสวยงามกับบทกลอนธรรมมะสอนใจ
ชาวคณะเดินทางกลับแบบสนุกสนานออกบ่าย2โมงถึงเที่ยงวันอีกวัน ล้อแตกยางระเบิดรถเอียงก็เสี่ยงชีวิตกันไปรอดกันมาได้หายใจโล่งอกถึงที่ทำงานใครใคร่ทำทำใคร่ๆลาลาใคร่ใคร่ไม่มาก็ว่ากันตามสบาย