13 ตุลาคม 2549 21:48 น.
Silky
เออ...เสมอนภางค์พะพร่างวสันต์ ชโลมสมัยฤทัย
ก็บรรลุฉ่ำเย็น
อกก็คล้ายตะลึงประหนึ่งเห็น วิ มานละลิบกระพริบ
ณ เพ็ญกระจ่างพราว
กล้ามิกลัวจะเจ็บ จะเหน็บจะหนาว ละเมอละม้าย
ตะกายดุจดาวตะวันเดือน
จิตมิวายคนึง ประหนึ่งเสมือน อุบัตินรกอกสะเทือน สะท้อนดัง
กล้ามิกลัวเพราะรักจะกักฤขัง กระเจิดกระเจิงระเริง
และยังทะยานไป
รัก ฤ เป็นฉะนี้ฤดีไฉน พยศมิหยุดมนุษย์มิใย
จะควบคุม
บทจะร้อนมิผ่อนก็ร้อนและรุม ประมาณพระเพลิงระเริง
และสุมประกายเพลิง
บทจะเย็นประมาณทะยานเถลิง สวรรค์ไสว ณ ใจกระเจิง
กระหยิ่มใจ
รักเสมือนมิรู้ ฤ ดู ฤ ใด จะเย็นจะฉ่ำจะน้ำหรือไฟ
ประลัยกัลป์ ฯ
28 กันยายน 2549 03:12 น.
Silky
นัยต์ตาเธอดั่งแม่น้ำลำลึก
เปี่ยมความรู้สึกเคลื่อนเคลือบแสง
เคลื่อนฉายแววอารมณ์คลื่นเปลี่ยนแปลง
ตามชีวิตปรุงแต่งที่บันดาล
เธอผู้เติบโตด้วยไอกลิ่น
ของแผ่นดินทะเลสาบและฉ่ำหวาน
ด้วยลิ้นได้ดื่มจากกระบอกตาล
ท่ามตำนานท่านพะโคลูกแก้วงู
เธอผู้อบร่ำด้วยรสสุคนธ์ยามเช้า
และกลิ่นดอกสาวเหล้าตรลบอยู่
จากพลบค่ำดาวเฝ้าดู
จวบจนรู้ห้วงรักล่องรัญจวน
เมื่อเขาฝ่าฝ้าหมอกแห่งตำนาน
ผ่านเข้ามาในชัวิตเธอทุกส่วน
จนเธอมอบวัยหวานอันก่อนควร
ทั้งมวลให้เขานำพาไป
เธอใช้ชีวิตกับเขาทั่วแผ่นดินรูปขวาน
ทั้งเหนือ กลาง อีสาน ท้องถิ่นใต้
ด้วยความซื่อสัตย์คอยรับใช้
จนได้ลูกหญิงชายมาร่วมวัย
เธอพร้อมทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงชีพ
ทั้งปากกัดตีนถีบร่วมคว้าไขว่
เพื่อการอยู่ดีกินดี ด้วยหัวใจ
ทั้ง ดิน น้ำลม ไฟเธอขายค้า
ขายน้ำจากน้ำเย็นค้าน้ำยาง
ก่อนขายน้ำดื่มกว้างขวางเสื่อมถ้อยค่า
ขายที่ดินครั้งที่ดินเฟื่องราคา
แล้วแก๊สหุงต้มดุจว่าค้าขายไฟ
จนเขานำพาทุกอย่างให้ล่ม
จนเธอต้องขายลมเริ่มต้นใหม่
โดยขายประกันชีวิตประกันภัย
ขายบัตรเครดิตสมัยการฟุ่มเฟื่อย
เมื่อล่วงเลยวัยหวานเริ่มโรยรา
เขาปล่อยหมอกฝ้าตำนานให้ผุเปื่อย
พร้อมความลับของเขาถูกเผยเปลือย
ด้วยมีรักใหม่เรื่อยมิซ้ำกัน
ด้วยฤดูกาล ฤดูกาลสร้างบาดแผล
ลึกลงแก่เนื้อในจากเปลือกนั่น
ด้วยฤดูกาล ฤดูกาลสมานสัมพันธ์
กลืนบาดแผลเหล่านั้นเป็นเนื้อเดิม
ด้วยตำนานทำนองแห่งท้องถิ่น
ด้วยอ้อมเนื้อแผ่นดินการุณย์เสริม
จากในส่วนอันพร่องเพื่อเต็มเติม
ได้รับอิ่มปริ่มเพิ่มน้ำเลี้ยงคืน
ผิวพรรณเรือนร่างเธอจึงอวบอิ่ม
แลสองแก้มแย้มยิ้มดูชุ่มชื่น
ด้วยวัยประณีตหวามหวานกลมกลืน
ชวนให้ตาไหวตื่นเพลิงแสงดาว
นัยน์ตาเธอดั่งแหล่งน้ำล้ำลึก
เคลื่อนไหวความรู้สึกแห่งหญิงสาว
อันเปี่ยมด้วยอารมณ์กลางครู่คราว
ในเรื่องราวแสนสุขอันลึกซึ้ง
26 กันยายน 2549 02:05 น.
Silky
เธอมีสิทธิ์รักใครไม่จำกัด
ไม่ผูกมัดใช้สิทธิ์ความคิดได้
เพราะเยื่อใยส่วนตัวเธอหมดไป
ทำอะไรถูกผิดสิทธิ์ของเธอ
จะรักใครชอบใครได้ทั้งนั้น
จะคิดฝันอะไรได้เสมอ
จะต้องการสาวใดใครปรนเปรอ
ต้องการให้ใครเก้อเธอจงทำ
จะมีสักกี่คนมาแนบข้าง
จะก้าวอ้างลวงใครให้ชอกช้ำ
จะลืมใครไม่สนคนใจดำ
ฉันขอย้ำถูกผิดสิทธ์ของเธอ
แต่ที่รักปักจิตคือสิทธิ์ฉัน
จะรักมั่นนิรันดร์นานเสมอ
แม้หยามเย้ยเยาะหยันฝันละเมอ
สักวันเถอะ...ฉันใช้สิทธิ์..จะคิดลืม...
8 กันยายน 2549 12:31 น.
Silky
อยากจะจัดดอกไม้เป็นช่อใหญ่
นำมาใส่กระเช้าสลับสี
ผูกโบสีขาวหรูดูงามดี
แต่งแต้มสีภู่พันวาดหัวใจ
อยากจะหยิบการ์ดสวยมาเรียงร้อย
กระซิบค่อยบอกเธอยังมีฉัน
อยากจะตักน้ำทะเลใสใส่แจกัน
เก็บตะวันแต้มฝันบนพื้นทราย
แม้จะมีเพียงเขาในเงารัก
แนบตระหนักคนดีมิเลือนหาย
มองท้องฟ้าห่อห้อมล้อมพื้นทราย
เปล่งประกายพราวแสงแห่งสายตา
แม้นิทราคราฝันหรือพลันตื่น
ยังสะอื้นครวญคร่ำพร่ำเรียกหา
เงาใจมาเลือนหายใยร้างลา
วานลมพาเงารักใครมาให้ที
17 สิงหาคม 2549 06:57 น.
Silky
ฤดูฝนหล่นร่วงจากห้วงฟ้า
นำรักพาให้ใจคลายหมองหม่น
ทุกคืนอยากมีใครเพียงสักคน
ปลอบโยนราตรีนี้มีเพียงเรา
เสียงใบไม้พริ้วไหวอย่างอ่อนหวาน
สกุณาร้องผสานผ่านความเศร้า
กล่อมบรรเลงเพลงรักแห่งสองเรา
ประสานเคล้าสองกายหนึ่งหายใจ
มอบความรักพันไม้คล้ายถักทอ
ร่วมเกิดก่อผูกพันธ์ดั่งสายใย
ถึงคนดีแม้อยู่ห่างณ.ที่ใด
อย่าหวั่นไหวเพราะใจมีแต่เธอ
ทุกครายามนิทราหลับตาฝัน
ทุกคืนวันโหยหาพาพร่ำเพ้อ
ทุกลมหายใจชีวิตมีเพียงเธอ
อยากพบเจอร้อยรักทักสายใย