29 มิถุนายน 2549 22:07 น.
Silky
สายฝนหล่นพรมพร่างดั่งสายรัก
ปานทอถักร่ายระบำบนยอดหญ้า
เมฆสีขาวส่งยิ้มหวานผ่านสายตา
ลมพัดพาหอมกลิ่นดินฟุ้งกระจาย
ไม่รู้จะพบความหวานหรือพานขม
ปะทะโดนลมร้อนปะทุพายุกล้า
หรือเพียงดื่มกระแสฝันธารธารา
หรือมีค่าเพียงดอกไม้ป่าตามปลายทาง
ไม่รับรู้ระยะทางถึงฝั่งฝัน
เพียงคุณเคียงกันทุกวันในใต้หล้า
มอบแขนหนุนรอยจุมพิตก่อนนิทรา
แม้หลับตาทุกครั้งยังมีคุณ
แต่เป็นได้เพียงธุลีผงคงไร้ค่า
คุณหายหน้าเหลือเพียงฝันอันหอมกรุ่น
เจ็บร้าวลึกทุกห้วงใจไม่มีคุณ
อ้อมแขนอุ่นเหลือเพียงรอยให้ร้าวราน
25 มิถุนายน 2549 21:26 น.
Silky
ทุกครั้งที่หลับตา .........ทุกเวลาที่หายใจ
ทุกครั้งยังหวั่นไหว.........คิดถึงใครใจร้าวรอน
คนของความทรงจำ........คอยมาย้ำทำใจอ่อน
ภาพเธอยังคอยซ้อน.......ให้อาวรณ์ตลอดมา
อ้อมอกเคยโอบกอด.......คอยพร่ำพรอดปรารถนา
จุมพิตก่อนนิทรา.............ปิดเปลือกตาให้ฝันดี
สัมผัสที่เคยคุ้น................ความอบอุ่นใจดวงนี้
โหยหาทุกนาที.................จนชีวีต้องร้าวราน
ทุกครั้งที่หายใจ................โอ้ไฉนน่าสงสาร
ระทมต้องซมซาน.............สุดเหว่หว้าแสนจาบัลย์
หายใจเข้าหรือออก...........ใจมันบอกว่าหวาดหวั่น
ครานี้ไม่มีกัน....................เหมือนว่าฉันหยุดหายใจ
ทุกครั้งที่หลับตา...............ทุกเวลาแอบหวามไหว
แม้วันผันผ่านไป................ทุกลมหายใจมีเพียงเธอ
22 มิถุนายน 2549 12:06 น.
Silky
ขนมถุงน้อยอร่อยดีไหม
ฉีกซองส่งให้พร้อมเทใส่ถ้วย
นั่งเรียงริมทางสร้างความงงงวย
ส่งยิ้มเขินขวยพร้อมด้วยสายตา
กระมิดกระเมี้ยน แต่เพียรนั่งขอ
ขณะนั่งรอไม่ท้อรอท่า
สองศรีพี่น้องหรือสองลักพา
สองถ้วยตรงหน้าตั้งท่าขอทาน
ผีเสื้อสดใสที่ลายเสื้อ
ขณะผิวเนื้อไร้เกลือจับกร้าน
หรือนึกสนุกนั่งขลุกทำงาน
ขายความสงสารแลกทานย่านนี้
พ่อแม่อยู่ไหนเป็นใจหรือเปล่า
ชีวิตแสนเศร้าหรือเจ้าสุขขี
สองข้างทางเท้าอาจเศร้าเหลือดี
หนึ่งใจไหวถี่นี่หรือชีวิต
ขนมถุงน้อยอร่อยดีไหม
ฉีกซองส่งให้พร้อมไมตรีจิต
เธอคือขอทานหมายการอุทิศ
ขนมถุงนิดเธอคิดแบ่งทาน
แม้คือผู้ขอใช่รอเพียงรับ
แต่ในมุมอับเธอกลับอีกด้าน
เป็นผู้แบ่งให้ด้วยใจเจือจาน
ขณะเดินผ่านเผยทานผ่านพบ
14 มิถุนายน 2549 17:03 น.
Silky
ฟ้าพลบค่ำ
สุรีย์ล่ำลาโลกพาให้ใจแสนหนาว
ผืนฟ้าฟากกากเพชรสะเก็ดดาว
ทอแสงพราววาววับระยับตา
เผลอเอื้อมมือหมายดาวไปสาวเก็บ
พอรู้ตัวแสนเจ็บใจเหน็บหนา
เพียงภวังค์ยังเหลื่อมเอือมระอา
ต้องก้มหน้ามองดินอาจิณไป
ยิ่งดึกดึกอ้างว้างน้ำค้างโซม
กระพือโหมลมพาน้ำตาไหล
ดั่งหิ่งห้อยคอยรักเฝ้าปักใจ
จุดโคมไฟตามหานางลำภู
หนาวลมหนาวใจไร้ใดเปรียบ
สงบเงียบเก็บกดความอดสู
หมายความฝันโรมรันเข้าพันตู
ยังไม่รู้จุดหมายและปลายทาง
ถอนหายใจรันทดสะกดจิต
รออีกนิดหลับตารอฟ้าสาง
พอมลทินสิ้นซานภาพางค์
ขอหนึ่งหยดน้ำค้างมาล้างใจ
11 มิถุนายน 2549 23:17 น.
Silky
เหมือนภาพช้าฉายช้าอยู่ซ้ำซ้ำ
แต่ละคำยังค้างคาอยู่ทุกหน
แต่ละเรื่องปวดร้าวเฝ้าเวียนวน
แต่ละคนทำร้ายไม่รู้ตัว
น้ำตาไหลรินหลั่งสองฝั่งแก้ม
แกล้งยิ้มแย้มแต่แพ้พ่ายพิษร้ายทั่ว
ความรู้สึกอ่อนล้าอย่างน่ากลัว
เหมือนฟ้าดินขมุกขมัวทุกตาราง
พริบตาเดียวภาพช้าก็ล้มพับ
พริบตาเดียวก็แหลกยับลงทุกอย่าง
พริบตาเดียวดั่งแส้ฟาดบาดครวญคราง
พริบตาเดียวที่สรรค์สร้างลาญมลาย
ยังคงรอคอยใคร ณ. ที่เก่า
ม่านน้ำตาร่วงพราวราวใจสลาย
คนที่เคยปกป้องผองอันตราย
มาห่างหายหลีกเร้นไม่เห็นเงา