28 สิงหาคม 2552 16:19 น.
satan_lucus
16.25 12/12/08
สายฝนที่ร่วงโรยจากฟากฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีครึ้มทำให้เด็กนักเรียนหญิงม.ปลาย2คนต้องเร่งฝีเกท้าไปยังร้านขายขนมร้านเล็กๆ
ที่พวกเธอมักจะไปประจำเสียงกระดิ่งร้องดังกรุ๊งกริ๊งทันทีที่ประตูถูกเปิดออกโดยนักเรียนหญิง2คนนั้น
ก่อนที่พวกเธอจะเดินสาวเท้าไปยังโต๊ะตัวในทีสุดที่ติดกับตู้หนังสือขนาดใหญ่ ก่อนที่หญิงสาวคนนึงจะบ่นออกมาเบาๆ
"โอย ฝนตกอีกแล้ว เปียกๆๆ"
"นิด เธอก็พูดแปลกๆ นะ นี่มันหน้าฝนนะ ไม่ใช่หน้าร้อน"
"เหอะๆ บางทีไม่ใช่หน้าฝน มันก็ยังตกเลย เอาอะไรกับฤดูกาลสมัยนี้ ห๊ะ พริม" หญิงสาวเจ้าของร่างผอมบางสมชื่อนิดผิวขาวซีดและดวงตาใสๆ ที่บ่งบอกชัดว่าเธอเป็นลูกหลายผู้มีเชื้อสายจีนเอ่ยบอกคนที่นั่งข้างกาย
"ก็จริงแฮะ แล้ววันนี้จะกินอะไรดี พริมเอาโอวันตินร้อนกับขนมปังเหมือนเดิมนะ"
"อาฮะ งั้นเดียวนิดสั่งให้" ว่าแล้วเจ้าตัวก็ลุกเดินไปยังหน้าเคาเตอร์ของร้านนี้ตามที่เคยทำประจำและเจ้าของนามพริมก็ทำสิงที่ทำเป็ฯประจำคือ หยิบหนังสือจากตู้มาอ่าน ก่อนที่จะละสายตาจากหนังสือขึ้นมาเมื่อเพื่อนสนิทกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม
"รอแปปนึง วันนี้ฝนตกลูกเค้าเยอะ เฮ้ออ หิวชะมัดเลย" เสียงบ่นของเพื่อนทำให้นัยน์ตากลมโตสีดำสนิททอประกายเล็กน้อย
ดวงหน้าขาวใสดูกระจ่างทันทีที่รอยยิ้มปรากฏ
"เอาน่า เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว" เจ้าตัวว่า แล้วนำหนังสือที่อยู่ในมือเก็บไว้เข้าที่ นิ้วเรียวไล่ไปตามหนังสือก่อนที่จะไปสดุดกับสมุดสีขาว
สะอาดตาเล่มหนึ่งที่เขียนว่า "เรียงร้อยถ้อยคำของเหล่านักเดินทาง..." สายตาของหญิงสาวไล่มองไปยังหน้าหนังสือสีครีมอ่อน
ที่มีแต่ความว่างเปล่าราวกับรอคอยให้ใครบางคนมาแต่งแต้มสีสันลงไป เธอตัดสินใจเปิดไปยังหน้าสุดท้าย และกลับด้านหนังสือและเขียนข้อความสั้นๆไว้ว่า
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
เธอเขียนไว้เพียงเท่านี้ก่อนที่จะปิดหนังสือลงเก็บเข้าที่เดิม และหันไปจัดการกับของอร่อยตรงหน้าให้เรียบร้อยก่อนที่เดินออกจากร้านไป
16.15 15/12/08
"พริมวันนี้เอาเหมือนเดิมใช่ไหม" นิดเอ่ยถามเพื่อนพลางเปิดเมนูไปเรื่อยๆ
"จ้าาเหมือนเดิมแหละ" พริมเอ่ยยิ้มๆ พลางมองตามเพื่อนที่ลุกไปหน้าเค้าเตอร์อย่างที่ทำประจำแล้วหันไปหยิบสมุดเล่มสีขาวสะอาดตามาเปิดดู คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยก่อนที่จะริมฝีปากบางสวยจะถูกแต้มด้วยรอยยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นลายมือของผู้ชายที่ใครบางคนเขียนทิ้งเอาไว้ เจ้าตัวติดสินใจจรดปากกาลงไปบนกระดาษสีครีมอ่อนอีกครั้ง
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไป
เธอเขียนไว้เพียงเท่านี้ก่อนที่จะปิดหนังสือลงเก็บเข้าที่เดิมและจัดการกับของอร่อยตรงหน้าก่อนที่จะเดินออกจากร้านไป
16.20 16/12/08
"เหมือนเดิม" พริมพูดออกมาเบาๆ ก่อนที่เพื่อนจะเอ่ยปากถาม แล้วคนตัวเล็กก็เดินไปที่เคาเตอร์อย่างเคยเจ้าของนัยน์ตากลมสวยหยิบหนังสือเล่มเดิมขั้นมาเปิดดู ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มและจรดปากกาลงไปอีกครั้ง
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
16.28 19/12/08
"เหมือนเดิม" พริมพูดออกมาเบาๆ ก่อนที่เพื่อนจะเอ่ยปากถาม แล้วคนตัวเล็กก็เดินไปที่เคาเตอร์อย่างเคยเจ้าของนัยน์ตากลมสวยหยิบหนังสือเล่มเดิมขั้นมาเปิดดู ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มและจรดปากกาลงไปอีกครั้ง
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
กาลเวลาเปล่ยนคืนและวันให้ขับเคลื่อน
16.16 23/12/08
"โอวันติน หนมปังค่ะ" วันนี้หญิงสาวมาเพียงคนเดียว เจ้าตัวเลยเดินไปสั่งออเดอร์เอง และสาวเท้าไปนั่งยังโต๊ะตัวเดิมก่อนที่จะหยิบสมุดเล่มเดิมออกมาและจรดปลายปากกาลงไปอีกครั้ง
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
.อะไรไม่รอยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
กาลเวลาเปล่ยนคืนและวันให้ขับเคลื่อน
แต่มิอาจบิดเบือนความคิดของท่านได้
แล้วสายตาท่านมีอะไรที่เฝ้ามอง
16.38 25/12/08
"โอวันติน หนมปังค่ะ"
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
กาลเวลาเปล่ยนคืนและวันให้ขับเคลื่อน.
แต่มิอาจบิดเบือนความคิดของท่านได้
.แล้วสายตานมีอะไรที่เฝ้ามอง
ขอท่านลองมองไปที่เส้นขอบฟ้า ต่ำลงมาจากทีเคยเห็น
ก็ไม่ได้ยากเย็นหากจะมองไปที่ตรงนั้น
17.05 28/12/08
"โอวันติน หนมปังค่ะ"
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
กาลเวลาเปล่ยนคืนและวันให้ขับเคลื่อน
แต่มิอาจบิดเบือนความคิดของท่านได้
แล้วสายตาท่านมีอะไรที่เฝ้ามอง
ขอท่านลองมองไปที่เส้นขอบฟ้า ต่ำลงมาจากทีเคยเห็น
ก็ไม่ได้ยากเย็นหากจะมองไปที่ตรงนั้น
สิ่งใดก็ไม่สำคัญ เท่ากับว่าท่านเห็นอะไร
ข้าเห็นเส้นสายที่ปลายฟ้า ข้าเห็นสายลมล้อเกลียวคลื่น ข้าเห็นความเปลี่ยนแปลงของวันคืน เห็นผืนฟ้ากลายเป็นราตรี
แล้วตอนนี้ท่านเห็นสิ่งใดหนอ
17.29 31/12/08
"โอวันติน หนมปังค่ะ"
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
กาลเวลาเปล่ยนคืนและวันให้ขับเคลื่อน
แต่มิอาจบิดเบือนความคิดของท่านได้
แล้วสายตาท่านมีอะไรที่เฝ้ามอง
ขอท่านลองมองไปที่เส้นขอบฟ้า ต่ำลงมาจากทีเคยเห็น
ก็ไม่ได้ยากเย็นหากจะมองไปที่ตรงนั้น
สิ่งใดก็ไม่สำคัญ เท่ากับว่าท่านเห็นอะไร
ข้าเห็นเส้นสายที่ปลายฟ้า ข้าเห็นสายลมล้อเกลียวคลื่น ข้าเห็นความเปลี่ยนแปลงของวันคืน เห็นผืนฟ้ากลายเป็นราตรีแล้วตอนนี้ท่านเห็นสิ่งใดหนอ
ข้าเห็นคนที่เฝ้ารอมาเนิ่นนาน ใครที่จะมาเติมความอ่อนหวานให้กับชิวิต ใครที่ทำให้หัวใจคิดถึง ใครที่บัดนี้ลอยเข้ามาอยู่ในห้วงคำนึง
และใครคนนั้นที่คิดถึงคือ...
(31 ธันวา ห้าโมงห้าสิบ ผมจะรอที่ตรงนี้นะครับ)
***********************************************************
18.25 13/12/08
สายฝนที่ร่วงโรยจากฟากฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีครึ้มทำให้ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงต้องรีบวิ่งเข้าไปในร้านขายขนมร้านเล็กๆ
เสียงกระดิ่งร้องดังกรุ๊งกริ๊งทันทีที่ประตูถูกเปิดออกโดยชายหนุ่มคนนั้น เขาเดินสาวเท้าไปยังโต๊ะตัวในทีสุด
ที่ติดกับตู้หนังสือขนาดใหญ่ ก่อนที่จะรับโทรศัพท์ คุยกับปลายสายแล้วปิดท้ายคำพูดที่ทำให้รู้ว่าเขากำลังเรียนอยู่ในชั้นอุดมศึกษา
"แล้วพรุ่งนี้เจอกันที่ม."
ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปสั่ง กาแฟกับหนมปัง ก่อนที่จะเดินมานั่งทีโต๊ะตัวเดิม สายตาคมกวาดไปตามชั้นหนังสือ
ก่อนจะไปสะดุดตากับสมุดปกสีขาวสะอาด ที่เขียนไว้ว่า "เรียงร้อยถ้อยคำของเหล่านักเดินทาง..."
สายตาของชายหนุ่มไล่มองไปยังหน้ากระดาษสีครีมอ่อนที่มีแต่ความว่างเปล่า ก่อนที่เขาจะไปหยุดอยู่ที่หน้าสุดท้าย
ที่มีลายมือที่บ่งบอกว่าเป็นของผู้หญิงเขียนเอาไว้ในสภาพที่ทำให้เค้าต้องกลับด้านหนังสืออ่าน
ชายหนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วจรดปลายปากกาลงไปต่อข้อความนั้น
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
เขาเขียนไว้เพียงเท่านี้ก่อนที่จะปิดหนังสือลงเก็บเข้าที่เดิม และหันไปจัดการกับของอร่อยตรงหน้าให้เรียบร้อยก่อนที่เดินออกจากร้านไป
17.15 15/12/08
"กาแฟ หนมปังครับ" ชายหนุ่มสั่งเจ้าของร้านก่อนที่จะไปนั่งยังโต๊ะตัวในสุดที่เดิม...
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้เจ้าตัวต้องกดรับอย่างเสียไม่ได้
'เฮ้ย ลม คืนนี้ไปเปล่าวะ' เสียงจากปลายสายทำให้เขาต้องตีหน้าเบื่อ
"ไม่ไป ไม่อยาก แค่นี้นะ พรุ่งนี้เจอกัน" ชายหนุ่มว่าแล้วตัดสายทิ้งทันที
มือใหญ่หยิบหนังสือเล่มเดิมขึ้นมา รอยยิ้มน้อยๆ แต่งแต้มที่เรียวปากสวย แล้วเจ้าตัวก็จรดปากกาลงไปอีกครั้ง
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
เขาเขียนไว้เพียงเท่านี้ก่อนที่จะปิดหนังสือลงเก็บเข้าที่เดิมและจัดการกับของอร่อยตรงหน้าก่อนที่จะเดินออกจากร้านไป
19.42 16/12/08
"กาแฟ ขนมปังครับ"
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
17.22 21/12/08
"กาแฟ ขนมปังครับ"
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
กาลเวลาเปล่ยนคืนและวันให้ขับเคลื่อน
แต่มิอาจบิดเบือนความคิดของท่านได้
20.12 24/12/08
"กาแฟ ขนมปังครับ"
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
กาลเวลาเปล่ยนคืนและวันให้ขับเคลื่อน
แต่มิอาจบิดเบือนความคิดของท่านได้
แล้วสายตาท่านมีอะไรที่เฝ้ามอง
ขอท่านลองมองไปที่เส้นขอบฟ้า ต่ำลงมาจากทีเคยเห็น
13.06 27/12/08
"กาแฟ ขนมปังครับ"
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
กาลเวลาเปล่ยนคืนและวันให้ขับเคลื่อน
แต่มิอาจบิดเบือนความคิดของท่านได้
แล้วสายตาท่านมีอะไรที่เฝ้ามอง
ขอท่านลองมองไปที่เส้นขอบฟ้า ต่ำลงมาจากทีเคยเห็น
ก็ไม่ได้ยากเย็นหากจะมองไปที่ตรงนั้น
สิ่งใดก็ไม่สำคัญ เท่ากับว่าท่านเห็นอะไร
19.54 30/12/08
"กาแฟ ขนมปังครับ"
ที่สุดปลายขอบฟ้ามีอะไรอยู่
อะไรไม่รู้อยู่ที่ปลายขอบฟ้า
สายตาทอดมองออกไกลไป
สิ่งใดกันที่ท่านเฝ้ามอง
ลองเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ข้าไม่เห็นสิ่งใดที่บนนั้น
กาลเวลาเปล่ยนคืนและวันให้ขับเคลื่อน
แต่มิอาจบิดเบือนความคิดของท่านได้
แล้วสายตาท่านมีอะไรที่เฝ้ามอง
ขอท่านลองมองไปที่เส้นขอบฟ้า ต่ำลงมาจากทีเคยเห็น
ก็ไม่ได้ยากเย็นหากจะมองไปที่ตรงนั้น
สิ่งใดก็ไม่สำคัญ เท่ากับว่าท่านเห็นอะไร
ข้าเห็นเส้นสายที่ปลายฟ้า ข้าเห็นสายลมล้อเกลียวคลื่น ข้าเห็นความเปลี่ยนแปลงของวันคืน เห็นผืนฟ้ากลายเป็นราตรีแล้วตอนนี้ท่านเห็นสิ่งใดหนอ
ข้าเห็นคนที่เฝ้ารอมาเนิ่นนาน ใครที่จะมาเติมความอ่อนหวานให้กับชิวิต ใครที่ทำให้หัวใจคิดถึง ใครที่บัดนี้ลอยเข้ามาอยู่ในห้วงคำนึง
และใครคนนั้นที่คิดถึงคือ...
(31 ธันวา ห้าโมงห้าสิบ ผมจะรอที่ตรงนี้นะครับ)
ชายหนุ่มปิดสมุดลงและวางไว้ที่ก่อนจะค่อยชิมรสกับอาหารตรงหน้าแล้วก้าวเท้าออกจากร้านไป โดยที่ริมฝีปากมีรอยยิ้มแต้มอยู่ตลอดเวลา
********************************************************
17.32 31/12/08
หญิงสาวปิดสมุดลง และมองเวลาที่ข้อมือด้วยหัวใจเต้นแรง ริมฝีปากบางสวยฉาบไปด้วยรอยยิ้มเธอค่อยๆ ลิ้มชิมรสความหอม หวาน ของโอวัลตินและขนมปังอย่างช้าๆ เข็มนาฬิกายังคงขับเคลื่อนตัวเองไปเรื่อยๆตามหน้าที่ของมันเสียงฝีเท้าที่หยุดอยู่ที่โต๊ะตัวในสุด ณ เวลา 17.50 ทำให้คนที่นั่งอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มร่างสูงทันทีที่นัยน์ตาสองคู่สบกัน กาลเวลาทั้งมวลพลันหยุดเดิน............