18 กันยายน 2552 14:21 น.
Saran
There're only 2 mirrors in the world
that I can see everything in my heart
and would like to looking forever
I just telling you, that the little mirrors....
are within your eyes.
ในโลกนี้มีกระจกอยู่เพียง 2 บานเท่านั้น
ซึ่งสะท้อนตัวตนและเปิดเผยความรักที่ซ่อนเร้น
ในทุกๆมุมหัวใจของฉัน ให้ปรากฎออกมา
ฉันปรารถนาที่จะจ้องมองดูกระจกสองบานนั้น
ตราบนานเท่านาน
ฉันไม่อาจเห็นสิ่งใดเกินกว่าความงดงามที่สะท้อนมาสู่สายตาฉัน และจงรู้ไว้เถิดว่า กระจกเงาบานน้อยคู่นั้น.... อยู่ในแววตาของเธอ
17 กันยายน 2552 14:58 น.
Saran
เคยมีคนบอกไว้ว่า
รักทำให้คนลุ่มหลง
หัวใจทั้งดวงจมลง
ในห้วงความฝันของใคร
ก่อนนั้นฉันค้านเสียงหลง
มันคงไม่เป็นเช่นนั้น
แล้วใครเล่าใครคนนั้น
มาทำให้ฉันเปลี่ยนไป
ตั้งแต่แรกพบสบตา
มือขาก็พลันหวั่นไหว
ทั้งหน้าทั้งหลังหัวใจ
เหมือนใครดึงหล่นมากอง
ก็เธอน่ารักอย่างนั้น
ใครกันจะข่มใจไหว
หน้าต่างทั้งสี่ของใจ
ขอให้เธอได้เปิดดู
14 กันยายน 2552 11:54 น.
Saran
ค่ำคืนนี้แม้ดวงดาวจะทอแสง
หากเหมือนไร้เรี่ยวแรงคอยโหยหา
สายลมหนาวพัดโชยความเหงามา
สุดเหว่ว้าเศร้าตรมขมหัวใจ
หนึ่งชีวิตหนึ่งใจเหมือนไร้ค่า
วันเวลาผ่านไปไร้ความหมาย
ขอเพียงใครสักคนพาเหงาคลาย
ขอเพียงได้ไออุ่นคลุมหัวใจ
เปรียบความรักดังเช่นนกตัวหนึ่ง
ขาดอุ่นไอที่ในรังแห่งฝัน
โผบินผ่านข้ามขอบแสงตะวัน
แสนยาวนานความหนาวในหัวใจ
ขอเพียงพักให้รักได้อบอุ่น
กอดนอนหนุนหายเหนื่อยบินต่อไหว
บินมานานเหน็บหนาวถึงข้างใน
ขอที่ว่างในใจซุกไออุ่น
อ่อนล้าแรงเหลือเกินจะไปต่อ
หมดแรงท้อเกินกว่าจะบินไหว
สายลมหนาวกรีดกราวร้าวหัวใจ
มีบ้างไหมใครสักคนที่เฝ้ารอ
เฝ้ารอรักที่คอยในรังอุ่น
มีความรักห่มคลุมกลางลมหนาว
มีดวงตาสดใสแทนแสงดาว
ส่องสกาวให้เห็นทุกค่ำคืน
เมื่อหัวใจได้รักหมดความเหงา
เมื่อความหนาวพ้นผ่านหมดความหมาย
จะโบกโบยไปยังขอบฟ้าไกล
จะบินไปสู่ฟากฝันพร้อมกับเธอ
7 กันยายน 2552 13:11 น.
Saran
เธออยู่สูงเกินกว่าจะเอื้อมถึง
ที่คนหนึ่งเฝ้ามองอย่างใจหาย
ดังเช่นดาวที่อยู่บนฟ้าไกล
คว้ามาได้อย่างไรใจขลาดกลัว
ถ้าหากคว้ามาแล้วดาวดับแสง
คงอ่อนแรงหากมองแล้วไม่เห็น
ดาวสดใสประกายแสงดุจเดือนเพ็ญ
ไม่วาววับสดใสเหมือนดังเคย
ถ้าหากปีนขึ้นไปเพื่อเอื้อมหา
พลาดตกมาอาจเจ็บใจสลาย
หรืออาจมีดาวดวงอื่นอยู่เคียงกาย
คว้ามาได้ก็ลอยลับไม่กลับมา
ถ้าหากดาวดวงนั้นลอยมาหา
พร้อมแปรค่าเป็นพียงแค่ก้อนหิน
เพื่อมาเคียงเดินอยู่คู่ชาวดิน
แสงสกาวสูญสิ้นไม่หวั่นกลัว
ไม่ต้องลอยลงมาหรอกดาวเอ๋ย
อยู่ดังเคยเช่นดาวประดับฟ้า
แสงสดใสของเธอช่วยนำพา
ให้ดวงตาของฉันมองเห็นทาง
อยู่รอฉันบนนั้นได้ไหมเล่า
คนมองเฝ้าจะสร้างวันสดใส
วันที่เหินเวหาสู่ฟ้าไกล
จะบินไปเพื่ออยู่เคียงข้างเธอ
7 กันยายน 2552 13:08 น.
Saran
สายลมหนาวหยอกล้อกับกิ่งไม้
ท่ามกลางเหมันตฤดูอันเย็นยะเยือก
ฉันปิดบานหน้าต่างลง
ไปพร้อมๆกับหัวใจที่เย็นชา
นานมาแล้วที่หัวใจดวงนี้ยังคงว่างเปล่า
ณ นาทีนี้มันก็ยังคงว่างเปล่าอยู่
ความหนาวมันช่างโหดร้ายเหลือเกิน
หัวใจบอกกับฉันเช่นนั้น
เมื่อไหร่จะมีหัวใจสักดวงมาพร้อมผ้าห่ม
อ้อมกอดแห่งอุ่นไอรักนั้นอยู่ที่ไหน
อาจจะมีอยู่จริงหรือไม่มีเลย
ฉันก็ไม่รู้
ฉันบอกกับหัวใจเช่นนั้น
บางทีเธอคนนั้นอาจอยู่ในม่านหมอกแห่งลมหนาว
หรือกำลังดื่มด่ำกับน้ำค้างอันหอมหวานกลางไพร
หรืออาจจะขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนยาวเหมือนกับฉัน
หรือบางทีเธอคนนั้นอาจกำลังคิดเช่นเดียวกับที่ฉันคิด
หรือเธอไม่มีอยู่จริง
บางทีฉันอาจจะคิดไปเพียงคนเดียว
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนั่นแหละ
หัวใจบอกกับฉันเช่นนั้น...