18 มิถุนายน 2552 09:32 น.
Saran
ราตรีนี้แสงจันทร์นวลกระจ่าง
ทอสว่างเสน่หาน่าหลงใหล
มองดวงพิศชวนหลงเคลิบเคลิ้มไป
ราวอยู่ในภวังค์ฝันห้วงนิทรา
อ่อนโยนแฝงนุ่มนวลดุจดังแพรไหม
อ่อนหวานเย้าหัวใจคนึงหา
อ่อนโหยโรยแรงเมื่อร้างรัตติกาล์
ผ่านเวลากี่เดือนปีที่ย้อนคืน
บุหลันยามราตรีเหลืองสดใส
อัญมณีใดเลอเลิศหรือเทียมเท่า
แต่เมฆหมอกเลื่อนคล้อยคอยบังเงา
ชวนให้เศร้าอกตรม โอ้จันทร์งาม
8 มิถุนายน 2552 09:24 น.
Saran
เช้าวันใหม่ค่อนข้างวุ่นวาย
หากแต่เป็นความวุ่นวายที่ไม่เหมือนวันอื่นๆ
สำหรับพรุ่งนี้ของเมื่อวาน
ใช่แล้ว..วันนี้ มันคือวันเปิดเทอม
แน่นอน เพื่อนใหม่ๆมากมายที่ผ่านเข้ามา
ทั้งถูกใจดีร้ายน่าสนใจหรือไม่ก็ตาม
ฉันยังคงมีเพื่อนสนิทคนนึงที่รออยู่
เธอน่ารักในสายตาของฉัน
งดงามและอ่อนโยนด้วยหัวใจที่เธอครอบครอง
ฉันรอเธออยู่และมั่นใจว่าเธอคงรอคอยฉันอยู่เหมือนกัน
เธออาจอยู่สุดปลายฟ้าหรืออยู่ใกล้จนฉันหัวใจเต้นแรง
ฉันเองก็ไม่อาจรู้ได้
ฉันรู้เพียงแต่ว่า สักวันหนึ่งที่เรารอคอยคงมาถึง
วันที่เธอพ้นผ่านอุโมงค์แห่งกาลเวลามาสู่แสงสว่าง
และฉันปรารถนาที่จะยืนคอยเธอ ณ ปลายสุดของอุโมงค์...นั้น
2 กุมภาพันธ์ 2552 13:29 น.
Saran
เธอคือคำตอบของทุกอย่าง
สำหรับโจทย์ข้อใหญ่ที่ใจฉันถาม
ใช่แล้ว เธอคือคำเฉลยของหัวใจ
ฉันเฝ้าบอกกับตัวเองเช่นนี้
หากจะยกเหตุผลเอามาเมื่อโจทย์ถามหา
ใช่แล้ว ตัวของมันเองคือคำตอบ
ฉันเข้าใจดี
แต่สำหรับเธอแล้ว
ไม่มีแม้แต่เพียงเหตุผลสักคำ
หรือคำบรรยายอันน่าชวนให้หลงคล้อย
มันอาจดูไร้เหตุผล
ไม่รู้ทำไม
ฉันอาจจะไม่รู้
แต่ใจฉันรู้และโหยหา
ฉันไม่เข้าใจ
เมื่อคำว่ารักเดินทางมาพบฉัน
และกระซิบบอกฉันว่า
"รักอาจเป็นสิ่งเดียวที่มีเหตุผล
ท่ามกลางความไม่มีเหตุผล
และรักอาจเป็นสิ่งเดียวที่ไม่มีเหตุผล
ท่ามกลางความมีเหตุผล"
ฉันก็ยังคงไม่เข้าใจ
แต่ใจฉันรู้คำตอบนั้นแล้ว
ว่าจะหาคำตอบที่ต้องการได้เช่นไร
บอกฉันทีเถิด
ฉันพร่ำบอกอย่างคนบ้า
ฉันว้ำวอนขอต่อเสียงแห่งหัวใจ
จนใจฉันทนไม่ไหว...บอกว่า
หมดหน้าที่ของฉันแล้ว
ฉันเหนื่อยมามากแล้ว
จากนี้คือหน้าที่ของนาย
จงหาเหตุผลมาให้ฉันสิ
ฉันตะโกนดังๆว่า "ฉันแอบรักเธอ"
ใจฉันเผยรอยยิ้มแห่งความสุข
พลางจับมือฉันแล้วเอ่ยกับฉันว่า
เอาสิ "ช่วยพาฉันไปพบกับเธอเดี๋ยวนี้เลย"
26 มกราคม 2552 10:04 น.
Saran
พ่อนั่งนับเศษสตางค์
วันนี้ได้สามบาท
เมื่อรวมกับของแม่แล้วจะได้เจ็ดบาท
คนคงสงสารแม่
ที่มีลูกน้อยเดินจูงมือ
แต่แม่ต้องเมื่อยน่อง
ที่ต้องเดินย่องขอคนนี้บ้างคนนั้นบ้าง
บางวันเสียงแม่แหบ
เสียงพ่อแหบและพร่า
เพราะกว่าจะได้รับแต่ละสตางค์จากคนใจบุญ
สุดแสนจะลำบาก
ยังกับหาเพชรในทะเลทราย
หากจะรวมระยะทางที่ต้องเดินไปมานั้น
คงจะข้ามจังหวัด
ไม่!
คงจะข้ามประเทศ
ไม่สิ!
ข้ามทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่งได้
แสงอาทิตย์ของวันใหม่
ริบหรี่จนเกือบจะเท่ากับความหวัง
ที่จะพอให้ลูกได้สบายท้องบ้าง
แต่พ่อและแม่ก็เตรียมพร้อมที่จะทำงาน
แล้วก็ต้องผิดหวัง
คนบ้านตึกงามรวมหัวกันขับไล่
เพราะหาว่าสกปรก
แม่ปาดน้ำตาพลางหิ้วลูกน้อยตัวแดง
ที่ร้องไห้จ้าด้วยความตกใจ
เดินจากไป
โลกนี้ช่างกว้างใหญ่
แต่ใจมนุษย์กลับตรงกันข้าม
ทำไม ใจมนุษย์แคบ แคบเหลือเกิน
แคบเสียยิ่งกว่ารูเข็ม
แม่คิด
ฟ้ายังคงกว้าง
แสงอาทิตย์ยังสาดส่อง
แต่พ่อและแม่ไม่ท้อถอย
จูงลูกแบกของ
เดินต่อไป เดินต่อไป...
19 มกราคม 2552 10:06 น.
Saran
ฤดูแห่งการแข่งขันครั้งสำคัญ
กลับมาอีกแล้ว
มันมาพร้อมกับความเครียด
และความเฉยเมยไร้ใจใส่
ของแต่ละคน
กระดาษเปล่าใบนึง
กับกระดาษที่เต็มไปด้วยรอยหมึก
จะเท่าเทียมกันได้อย่างไร
ม่านหมอกแห่งความร้อนรน
แผ่สยายคลุมปกทั่วห้องสอบ
ไม่มีใครช่วยใครได้
นอกจากตัวเอง
และความรู้ที่ซึมซับ
ก่อนย่างก้าวเข้ามา
ผู้ที่เดินออกไปจากห้องนี้
อย่างมั่นใจ
แน่นอนว่า ความมั่นใจจะ
ปรากฎอยู่ที่ใบหน้าของเขา
และกระดาษคำตอบของเขา
และสองเท้าของเขา
ที่ก้าวออกไป
พร้อมกับรอยยิ้ม บางๆ...