2 ธันวาคม 2552 10:53 น.
Saran
แรกพบได้เจอดั่งฝัน
เธอนั้นเหมือนที่มาหา
คนที่คอยนั่งสบตา
ยิ้มหวานเมื่อฉันละเมอ
รู้จักเธอแต่เธอไม่รู้จัก
ก็เธอนั้นไม่เคยฝันถึง
จึงได้แต่ฝันเฝ้าคอยคำนึง
คิดถึงแต่เธอข้างเดียว
พร่ำบอกคิดถึงห่วงใย
เพราะใจมันร้องโหยหา
แต่มันไม่เคยมีค่า
ให้เธอหันมาเหลียวมอง
ปลอบใจตัวเองทุกครั้ง
ทุกวันที่ใจหม่นหมอง
คำว่ารักที่ทับเป็นกอง
เธอต้องได้เห็นสักวัน
เมื่อครั้งได้เคยโทรหา
วาจาสดใสแรกเห็น
คุยกันทุกเช้าทุกเย็น
ก็เห็นแต่เธอยิ้มมา
แต่เมื่อวันนี้โทรหา
ไม่มีเสียงเธอรับสาย
ไม่แม้คำทักทาย
ไม่มีแม้ใจไมตรี
เหตุผลของฉันคิดถึง
ห่วงใยจึงคอยเฝ้าถาม
เหตุผลของเธอรำคาญ
อย่ามาเซ้าซี้กวนใจ
ไม่รู้ด้วยเหตุอันใด
ที่ทำให้เธอแปรผัน
เฝ้าถามตัวเองทุกวัน
ใจฉันมีค่าเพียงใด
เพิ่งรู้ว่าความคิดถึง
ห่วงใยละเมอเพ้อหา
มีค่าอยู่ในสายตา
แค่คำว่าน่ารำคาญ
แน่นอนว่าฉันต้องเศร้า
กับเงาที่คอยห่วงหา
เป็นเพื่อนปลอบใจกันมา
เหมือนครั้งที่ยังไม่เจอ
ฝากกลอนนี้ด้วยความคิดถึง
ถึงมันไม่มีความหมาย
แต่อยากให้เธอเข้าใจ
กับสิ่งที่ฉันเฝ้าทำ
ดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน
เหมือนฉันที่คอยเฝ้าถาม
ห่วงใยที่เธอรำคาญ
คิดถึงที่ไม่อยากฟัง
ขอฝากทุกคำที่เอ่ย
ที่ฉันให้ไปหมดนั้น
ฝากคนที่เธอรักกัน
ฝากให้เขากล่าวมันด้วย...ความจริงใจ
30 พฤศจิกายน 2552 08:57 น.
Saran
คำว่ารักไม่อาจซึ้งความหมายได้
หากหนึ่งใจไม่ออกเดินทางหา
เพื่อค้นพบอีกใจที่คอยมา
เติมคำว่าความรักให้สวยงาม
แน่นอนว่าปัญหานั้นรออยู่
ใจหลายคู่จึงพบกับขวากหนาม
คอยขวางกั้นรักแท้ที่งดงาม
ให้ชอกช้ำเศร้าตรมระทมใจ
หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสองไว้ตอบโจทย์
เพื่อแก้โจทย์ปัญหาความสงสัย
แต่โจทย์รักคำถามของหัวใจ
หนึ่งบวกหนึ่งควรกลายเป็นหนึ่งเดียว
หนึ่งใจเธอมาพบหนึ่งใจฉัน
หนึ่งใจนั้นมีเธออยู่เสมอ
หนึ่งใจฉันมีเพียงหนึ่งใจเธอ
หนึ่งใจเธอมีเพียงหนึ่งใจใคร
ไม่สำคัญใจของเธอให้คนไหน
มอบให้ใครหรือให้ฉันนั้นเก็บไว้
สิ่งสำคัญคือใจเธอที่มอบไป
ขอเพียงให้อยู่กับใจที่รักจริง
ขอให้ใจดวงนั้นมีเพียงหนึ่ง
เป็นใจซึ่งรักเธอกว่าสิ่งไหน
และใจเธอก็รักมากกว่าสิ่งใด
ขอให้ใจคนนั้นมีเพียงเธอ
ใจของฉันยังห่วงใยอยู่เสมอ
แม้ใจเธอจะห่วงใครไม่ไปไหน
จะเฝ้าคอยหวังดีอยู่ร่ำไป
อยู่ไม่ไกลตราบเธอยังไม่ลืมเลือน...
25 พฤศจิกายน 2552 13:28 น.
Saran
ดวงจันทร์ลอยสูงขึ้นไปมากแล้ว...
อาบไล้ทุกสรรพสิ่งแฝงไว้ด้วยความเหงาวังเวง
ฉันแหงนมองบนท้องฟ้าที่หม่นหมอง
หากแต่ยังมีรอยยิ้มจากเงาจันทร์เจือจางอยู่
ทว่ามันช่างเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้าระทม
ฉันนอนไม่หลับ...
ไกลออกไปมีนกกลางคืนบินตัดฟ้าไปมาอยู่อย่างเดียวดาย
ความสงสัยถามฉันว่า...
ทำไมนกกลางคืนจึงบินอยู่เพียงตัวเดียว
หรือธรรมชาติกำหนดมันให้ต้องเดียวดายในราตรี
หรือมันรักที่จะบินเพียงตัวเดียว
บินชมแสงจันทร์ เพื่อดื่มกินความเปลี่ยวเหงา
ฉันถามกับตัวเอง...
แล้วตัวฉันมีอะไรที่ต่างจากมัน
ไม่มีเลย
หัวใจฉันตอบ
หรือบางทีธรรมชาติได้กำหนดให้ฉันเป็นดั่งเช่นนกตัวนั้น
ฉันก็ไม่รู้ว่ามันพยายามที่จะบินหนีไปจากความเดียวดาย
หรือพยายามที่จะบินเข้าหา
ฉันรู้เพียงแต่ว่า ยิ่งฉันบินห่างจากมันมากเท่าใด
ก็ยิ่งรู้สึกว่าฉันยังคงบินอยู่ที่เดิมและทำได้เพียง
เฝ้ารอให้แรงที่จะบินหมดไป
...เท่านั้นเอง
25 พฤศจิกายน 2552 11:29 น.
Saran
คำห่วงใยใยจึงพูดเพียงคนรัก
พูดว่ารักมิพักต้องคิดถึง
คิดถึงแล้วต้องคอยครุ่นคำนึง
ถึงคนซึ่งห่างไกลหัวใจกัน
หากบอกรักไปแล้วไร้คำตอบ
ถึงอยากมอบเพียงใดไร้ความหมาย
หากเก็บรักที่มีในหัวใจ
คงไม่ได้สิ่งใดนอกจากรอ
แต่ให้ทำอย่างไรมิอาจรู้
รู้แค่เพียงห่วงใยและเพียงขอ
เป็นแรงใจจนกว่าเจอคนที่รอ
แค่นี้ก็มากเกินจะเอ่ยคำ
แค่ได้ห่วงมากเกินกว่าคนไหน
แค่ได้เป็นคนนึงที่เคียงใกล้
ได้คิดถึงมากที่สุดกว่าใครใคร
ถึงไม่ได้ใจจากเธอก็จะยอม
อย่าถามเลยว่าห่วงจริงหรือปล่าว
เธอคงเดาใจฉันได้ถูกเสมอ
มีสิ่งหนึ่งคงไม่รู้อยากบอกเธอ
ให้รู้ว่านานเพียงใดฉันก็รอ...
24 พฤศจิกายน 2552 13:37 น.
Saran
ลมหนาวหวนมาปีนี้
ทุกทีที่ใจเปลี่ยวเหงา
มีเพียงตัวเองกับเงา
ไว้กอดคลายหนาวอุ่นใจ
เย็นเยือกจนใจเหน็บหนาว
ความเศร้าคอยพัดโบกหา
เรไรกรีดร้องแว่วมา
เงียบเหงาเหว่ว้าวังเวง
ทุกคืนข่มใจไม่หลับ
สายตากลับคอยเฝ้าหา
คืนวันสดใสผ่านมา
แม้ว่าไม่เคยมีจริง
เหมือนใจจะเริ่มอ่อนล้า
เหมือนตาจะพร่าสลัว
เหมือนวันที่ฉันเคยกลัว
กลับมาให้ฉันกลับไป
หมดแรงที่จะไขว่คว้า
อ่อนล้าเดินต่อไม่ไหว
คล้ายกับจะหยุดหายใจ
เหมือนตายไปแล้วทั้งเป็น
ความมืดเกาะกินความฝัน
คืนวันแสนเศร้าตามหา
ความเหงาเฝ้าคอยเรื่อยมา
ตามฆ่าก่อนคว้าหัวใจ
คมเคียวความเหงาวาววาบ
คมดาบความหนาวพุ่งใส่
ทรงจำสุดท้ายของใจ
ที่เห็นก่อนวูบดับลง...