12 ตุลาคม 2551 05:24 น.
Salukphin
เขียนไม่ออกบอกไม่ถูกปลูกเหน็บหนาว
มันเจ็บร้าวระบมซมหวั่นไหว
อเนจอนาถบาดลึกผลึกใน
ภาพคนไทยเข่นฆ่าพร่าผลาญกัน
ไร้สำนึกตรึกตรองผยองอำนาจ
ทำลายชาติอย่างฮึกเหิมเหี้ยมหุนหัน
ทั้งกระบองบอมบ์ปืนโหดโปรดฟาดฟัน
ใจอาธรรม์ไร้เมตตาและปรานี
นี่นะหรือผู้ยึดถือมือกฎหมาย
ไร้ละอายบิดเบือนหนักสิ้นศักดิ์ศรี
เกียรติยศบดศรัทธาค่าความดี
ณ วันนี้พลีตนปล้นดีงาม
คุณธรรมทั้งหลายถ่ายเก็บกระเป๋า
ด้วยมิเอามาใช้ให้ใครหยาม
บูชาค่าของเงินเดินติดตาม
โฉดชั่วทรามคือนิยามความศรัทธา
อีกนานไหมใจสำนึกตรึกตรองได้
กอปรกรรมใหม่ให้ตนนี้มีคุณค่า
ผดุงซึ่งชาติศาสน์กษัตรา
คงคำว่าลูกไทยใจกตัญญู.
4 ตุลาคม 2551 16:33 น.
Salukphin
เสียงคลื่นสาดซัดซ่าเข้าหาฝั่ง
ต้องยับยั้งชั่งใจมิให้ร้อง
ต้องหักห้ามปรามน้ำตาที่บ่านอง
ต้องปิดป้องน้ำตากับฝ่ามือ
ทะเลเป็นเช่นจุดก่อปลูกหน่อรัก
เป็นที่พักถักทอใจโยงใยสื่อ
เป็นจุดหลอมรวมใจยากใครยื้อ
เป็นถิ่นถือสัญญาภาษาใจ
ภาพเด็กน้อยด้อยเดียงสาวาจามั่น
จะมีกันและกันมิหวั่นไหว
จะร้อยรักถักใจเรียงเคียงคู่ไป
ขอบฟ้าใหญ่เป็นพยานขานสัญญา
รักเด็กน้อยหมุนเวียนเปลี่ยนหนุ่มสาว
เหมือนผ้าขาวที่ร้อยใจใยเสน่หา
อยู่ในกรอบศีลธรรมล้ำจรรยา
ซึ้งคุณค่าตระหนักรักผูกพัน
อีกสองปีที่สัญญาวิวาห์รัก
เหมือนถูกผลักลงเหวห้วงบ่วงความฝัน
ชีพคนรักกลับร้างห่างไกลกัน
ดั่งสาปสรรสวรรค์โกรธลงโทษรัก .
4 ตุลาคม 2551 15:57 น.
Salukphin
กลัวนะกลัวหัวใจจะไหวอ่อน
เจอะรักซ้อนย้อนใจให้เกิดแผล
กลัวประณามหยามชังซ้ำรังแก
กลัวพ่ายแพ้กลลวงรัดบ่วงใจ
กลัวน้ำคำพร่ำวอนฉาบอ่อนหวาน
แท้ประหารห้ำหั่นรักเพื่อผลักไส
กลัวนิยามถามซ้ำซ้ำรักทำไม
กลัวรู้ไหมกลัวใยรักหักแบ่งปัน
กลัวนะกลัวคนดีมีคนอื่น
กลัวเธอยื่นหยิบเจ็บเหน็บมอบฉัน
กลัวเจอหญิงคนใหม่ยามไกลกัน
ทิ้งให้ขวัญผวาเศร้าอาดูร
กลัวเธอลืมสัญญาใจในวันนี้
กลัวรักที่กลับกลายถ่ายเป็นศูนย์
กลัวคนดีเปลี่ยนใจหนีทวีคูณ
มันเพิ่มพูนความกลัวนักน่าหนักใจ
กลัวเธอแสร้งสร้างกลไกให้หลงรัก
แล้วผันผลักพลิกขวัญร้างคว้างหวั่นไหว
กลัวอกหักรักตรอมตรมห่มอาลัย
กลัวร่ำไห้โหยหาน้ำตาคลอ.
4 ตุลาคม 2551 08:19 น.
Salukphin
หนาวสายลมห่มใจในคืนนี้
ด้วยไม่มีคนของใจในอ้อมกอด
ไม่มีถ้อยร้อยหวานล้ำคอยพร่ำพรอด
และอ้อนออดเอ่ยรำพันชมจันทรา
หนาวน้ำค้างกลางใจใช่เหน็บหนาว
ไร้ดวงดาวพราวแสงทองจากท้องฟ้า
เป็นสายใยไล้ไออุ่นกรุ่นฝากมา
คอยปลอบว่าอย่าก่นก้องร้องนะใจ
เหงา เหงา เหงา เหงาว้าเหว่เร่นะขวัญ
ยามตะวันลับลาท้องฟ้าใหญ่
ใจสะอื้นตื่นช้ำอยู่ร่ำไป
อีกนานไหมใจสงบจบคำรอ
อยากวานหมู่เมฆน้อยที่ลอยผ่าน
สื่อผสานสายใจไปเกี่ยวก่อ
ทั้งสมานมั่นภักดิ์ใยถักทอ
เพาะปลูกหน่อฟูมฟักรักคงเดิม
ขอจันทร์เจ้าเย้านวลอวลแสงส่อง
สู่หอห้องหัวใจไปส่งเสริม
รินพลังโลมไล้ใส่ต่อเติม
ประหนึ่งเพิ่มเรี่ยวแรงแกร่งศรัทธา
ใจจะหยุดโศกเศร้าลบเหงาหงอย
ใจจะปล่อยทุกอย่างว่างห่วงหา
ใจจะชื่นตื่นจากช้ำร้างอำลา
ใจจบล้าระทมขมเพราะรอ.
2 ตุลาคม 2551 06:21 น.
Salukphin
ฝากความรักถักอาลัยไว้ปลายฟ้า
ฝากเสน่หาสายใจใยคิดถึง
ผ่านลมพลิ้วหวิวไหวในคำนึง
ฝากซาบซึ้งซึ่งห่วงใยมอบให้เธอ
ขอตะวันปันแสงทองส่องไล่เหงา
ปลอบปัดเป่าเงาทุกข์ห่างร้างเสนอ
ขอเมฆน้อยคอยลบเศร้าเย้าเผอเรอ
ย้ำเสมอหมดใจรักพร้อมภักดี
วอนใจจันทร์ปันนวลอวลสายแสง
ลบเว้าแหว่งแต่งใจให้สุขศรี
วอนน้ำค้างพร่างพรมห่มราตรี
ค่ำคืนนี้นอนแย้มยิ้มอิ่มเอมใจ
วานดวงดาวพราวระยิบวะวิบวับ
คลี่ขยับปีกแสงแจ้งสุกใส
โอบกอดขวัญคนดีที่แดนไกล
อย่าหวั่นไหวในรักฉันขอสัญญา
เรียบเรียงถ้อยร้อยบุปผามาลาอักษร
เป็นกานท์กลอนวอนขอฝากข้ามฟากฟ้า
ด้วยรักร้างห่างไกลในสายตา
ขวัญเหว่ว้าว่างเปล่าเหงาเพราะรอ
ปลอบใจตนก่นเศร้าเหงาจับจิต
ดื่มด่ำพิษคิดถึงซึ้งจริงหนอ
ยินเสียงโทรเข้ามาน้ำตาคลอ
ใจเหี่ยวห่อก็อาบอิ่มยิ้มมีแรง
โชคชะตาตีตรวนครวญเพลงรัก
ทำนองหลักร่ายโศลกโศกแอบแฝง
สุขทุกข์เศร้าเคล้าน้ำตาล้าโรยแรง
ต่างเติมแต่งดนตรีใจให้ก้าวเดิน
สัจธรรมนำชีวิตลิขิตสร้าง
ตามเส้นทางถนนใจไร้ขวยเขิน
ทุกชนชั้นชื่นชอบชิดติดหลงเพลิน
รักชวนเชิญชายหญิงวิ่งว่ายวน.