31 สิงหาคม 2552 20:07 น.
rachan
วันนี้ฝนตก เราเดินไปตามถนน เสื้อผ้าที่ใส่ชื้นไปครึ่งตัวแล้ว
วันที่มองขึ้นไปเห็นฟ้าหม่นสี มีหยดน้ำร่วงพรายไม่ขาดสายอย่างนี้ เรารู้สึกเหมือนไร้จุดหมายปลายทาง อยากจะเดินไปเรื่อยๆท่ามกลางสายฝน
เม็ดฝนเหมือนหยาดน้ำตา เหมือนว่าใครคนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่เงียบงัน
..อยากจะซึมซับความเศร้านั้นเอาไว้.. ..อยากจะอยู่เป็นเพื่อนคนคนนั้น..
เราเดินมาจนถึงบ้านแล้ว ต้นไม้ที่ปลูกไว้ดูชุ่มฉ่ำเหมือนยินดีกับสายฝน เราสะบัดร่มแล้วกางตากไว้ใต้ชายคา ก่อนจะเดินเข้าบ้าน
ในบ้านอบอุ่น อวลด้วยกลิ่นอายแห่งความรัก ไม้กระดานนิ่มเท้า กลิ่นข้าวที่กำลังหุงอบอวล มีข้าวของกระจุกกระจิกวางไว้ทุกมุม ทำให้รู้สึกว่าที่นี่มีชีวิต
เราเดินไปเกาะขอบหน้าต่าง มองฟ้าสีหม่นและสายฝนพราวพราย
..อยากจะขอ..ให้คนคนนั้นไม่อ้างว้าง.. หากแบ่งปันความอบอุ่นในบ้านนี้ให้ได้บ้างก็คงดี...
ได้เวลากินข้าวแล้ว เรานั่งมองหม้อข้าวที่ควันขึ้นขาวและมีหยดน้ำเกาะพราวเมื่อเปิดออก มองกับข้าวบนโต๊ะ
..ดีใจ.. ที่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้.. แต่ก็อดห่วงสายฝนข้างนอกนั่นไม่ได้.. ..หวังว่าคนนั้นจะไม่เดียวดาย.. หวังว่าคงไม่ต้องกินข้าวคนเดียวทุกวัน..
ดึกแล้ว เมื่อเราตื่นขึ้นมาฝนก็ยังไม่หยุดตก เราเดินไปเกาะขอบหน้าต่าง มองดูน้ำที่ร่วงหล่นลงไม่ขาดสายอยู่ในความมืด
..เวลานี้.. ..อยากจะปลอบคนคนนั้นเหลือเกิน..
..เป็นอะไรหรือเปล่า..ร้องไห้ไม่หยุดเลย.. ..ไม่เป็นไรนะ.. ไม่เป็นไร.. เดี๋ยวฝนก็จะต้องหยุดตก.. ดวงอาทิตย์จะโผล่พ้นมาจากหลังก้อนเมฆ.. ..เดี๋ยวเรื่องต่างๆก็จะผ่านไปเอง.. ไม่เป็นไรนะ.. ไม่เป็นไร..
เมื่อเราตื่นขึ้นอีกครั้งข้างนอกก็สว่างแล้ว ท้องฟ้าสีสดใสกระจ่าง ฝนหยุดตกแล้ว เรายืนอยู่ตรงขอบหน้าต่าง สัมผัสสายลมที่โชยมาแผ่วเบา
..ไม่เสียใจแล้วสินะ.. ..ดีจัง..
7 สิงหาคม 2552 00:08 น.
rachan
ดั่งว่า... เฝ้าค้นหาความหมาย
เท่าใด.. ก็ไม่เจอสักที
วันเวลาที่ว่างเปล่า ล่วงเลยไปทุกนาที
เรายังอยู่ตรงนี้ หยุด ณ ที่เดิม
ควรจะเดินต่อไปเช่นไรกัน..
ควรจะหลุดจากตรงนี้ไปได้อย่างไรกัน..
31 กรกฎาคม 2552 22:13 น.
rachan
ดวงใจเอ๋ย.. เราแทบมิเคยเข้าใจเจ้าเลยใช่หรือไม่..?
เราปล่อยเจ้าไว้ เดียวดายภายในความเงียบงัน..
ดวงใจเอ๋ย.. เรามิเคยรักเจ้าเลยหรือไรกัน..?
ทั้งที่เรานั้น.. ควรรักเจ้ายิ่งกว่าสิ่งใด..
ดวงใจเอ๋ย.. เราละเลยเจ้ามานานถึงเพียงไหน..?
แม้ยามเจ้าบอบช้ำเจีบนตาย เราก็มิได้เหลียวแล..
ดวงใจเอ๋ย.. เราควรทำเช่นไร..?
ต้องชดใช้ให้เจ้าเพียงใด.. ถึงจะสมควรกัน..
ดวงใจเอ๋ย.. เราควรรูดียิ่งนัก..
บาดแผลที่กรีดลึกจัก..
..มิมีวันสมานได้ง่ายเลย..
31 กรกฎาคม 2552 22:12 น.
rachan
อะไรเล่า.. จะดับไฟให้ใจเราได้ หากมิใช่ตัวของเราเอง
อะไรเล่า.. จะล้างความเจ็บปวดหลังดวงตาออกไปได้ หากมิใช่หัวใจของเราเอง
แม้ดั่งตกอยู่ในอเวจีไร้หวัง อยู่ตัวคนเดียวท่ามกลางเงาหมอกม่านมัวมากมาย ใครก็ช่วยเราไม่ได้ นอกจากตัวเราเอง
ทว่า.. การจะลุกขึ้นนั้นยากนัก ที่จะเดินไปด้วยตัวเอง
มิใช่ง่ายเลย ที่จะฟันฝ่าทุกเรื่องราวไปด้วยตัวเองคนเดียว
ทว่า.. ทว่าก็ต้องทำให้ได้มิใช่หรือ..?
แม้แลดูสิ้นหวังเท่าใด ก็มิใช่เป็นไปไม่ได้มิใช่หรือ?
และเพราะผ่านเรื่องดูซีดจางห่างจากความเป็นจริงไปได้ไม่ใช่หรือ หัวใจเราจึงแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม..
28 กรกฎาคม 2552 19:50 น.
rachan
จินตนาการเอย.. ความฝัน จงนำพาซึ่งความหวัง
แม้ล้ม จงอย่าท้อ
แม้เจ็บ อย่าหยุดฝัน
หวังนั้นเต็มเปี่ยมเสมอ ณ ที่แห่งนั้น
ลุกเริงแรง สุกสว่างไร้สิ้นสุด
แห่งหนนั้น ซึ่งจินตนาการและความฝันประคองไว้
ถักทอ ประสานกันเป็นหนึ่ง
แม้มิใช่หนึ่งเดียว แต่มิอาจแยกจากกัน
ที่แห่งนั้น....
..ฝันของเธอจะเป็นจริงสู่ทุกโลกอันเป็นจริง