22 กรกฎาคม 2547 08:42 น.
Priest
มีเรื่องเล่าระหว่างสาวสวยและหนุ่มรูปงามผู้ซึ่งรักกันมาก และสาบานว่า แม้ความตายก็มิอาจจะพรากรักอันแสนจะมั่นคงนี้ลงได้
และในครั้งนั้นยังมีแม่มดตนหนึ่งผู้ซึ่งไม่เชื่อว่า ความรักของทั้ง 2 จะมั่นคง จึงคิดหาทางพิสูจน์ขึ้นมา นางกล่าวว่า .. . . ..
"หากพวกเจ้ามั่นใจในรักของอีกฝ่าย ซึ่งยั่งยืนแม้ว่าความตายจะพราก
ดังนั้นข้าก็อยากจะลองดูว่ามันจะเป็นอย่างไร...
ข้าขอสาปให้นับแต่นี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเกิดใหม่อีกสักกี่ชาติ บุรุษนี้จะไม่มีทางจำเจ้าได้ เขาจะไม่สามารถจำได้ ว่าเคยรักเจ้า
และตรงกันข้ามกับเจ้า เจ้าจะเป็นคนที่จำทุกอย่างได้ เพราะเจ้าจะยังคงอยู่เช่นนี้ตลอดไป ไม่แก่ไม่เฒ่า ไม่มีวันตาย
จะอยู่อย่างนี้นิรันดร... เจ้าจะจำเวลาที่เคยรักเขา เคยเป็นที่รักและต้องเฝ้ารอการกลับมาของเขา ในชาติแล้วชาติเล่าตลอดกาล...
วันใดก็ตามที่เจ้าทำให้เขารู้ตัวว่ารักเจ้า ทำให้เขาจำเจ้าได้ วันนั้น...คือวันที่ความเป็นนิรันดร์ของเจ้าสิ้นสุดลง..
เจ้าจะแก่และตาย ตามสภาพของอายุขัยที่ควรเป็น.. . และคราวนี้ก็จะเป็นทีของเจ้าหนุ่มนั่นแทน... เขาจะต้องเป็นคนที่ค้นหาเจ้าบ้าง..."
หลังจากนั้นมาปีแล้วปีเล่าเวลาผ่านไปศตวรรษทบศตวรรษ ที่หญิงสาวเฝ้าตามหาชายหนุ่มคนรัก
และทุกครั้งที่เธอได้พบเขาในสภาพของใครคนหนึ่ง ที่ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่น้อย...
เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขา จำเธอได้ แต่มันไม่เคยสำเร็จชาติแล้วชาติเล่า...
หลังจากการเกิดและดับของเขาผ่านไปนับสิบครั้ง เขาก็ยังไม่อาจระลึกได้ ถึงความรักของเธอ...
ความทุกข์ทรมานของหญิงสาวถูกเฝ้าดูอย่างเย้ยเยาะ โดยนางแม่มดผู้รอคอยเวลาที่หญิงสาวจะยอมรับว่า...
รักแท้ที่แม้ความตาย ก็ไม่อาจพรากไม่มีจริง แล้วนางแม่มดก็ต้องประหลาดใจ
เมื่อพบว่า ในช่วงหลัง ๆ มา หญิงสาวไม่ได้พยายามที่จะทำให้ชายหนุ่มระลึกถึงตน ไม่พยายามให้ชายหนุ่มรักตน...
แต่กลับทำทุกอย่างที่คิดว่าจะทำให้เขามีความสุข และทำให้เขาเกิดรอยยิ้มแทน...
แล้ววันหนึ่งนางแม่มดก็เก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว จึงปรากฏตัวเพื่อเอ่ยถาม กับตัวหญิงสาวเอง...
"เจ้าได้ละทิ้งความพยายามของเจ้าเสียแล้วหรือ...
ความพยายามที่จะพิสูจน์ ให้ข้าเห็นอำนาจและพลังของรักแท้ที่เหนือกว่าอำนาจใด ๆ แม้กระทั่งคำสาปของข้า..."
"จริง ๆ แล้ว ข้าก็มีเหตุผลของข้า..." หญิงสาวตอบนางแม่มดกลับไป
"...ข้าไม่ได้ละทิ้งความพยายาม... เพียงแต่...ข้ากลัวว่าความพยายามของข้า จะสัมฤทธิ์ผล... แล้ว......."
"แล้วเจ้าก็ต้องแก่และตาย..." นางแม่มดต่อให้ด้วยเสียงเย้ยหยัน
"ที่แท้เจ้าก็กลัวที่จะตาย... เจ้ากลัวจะสูญเสียความเป็นอมตะของเจ้า... ....เฮอะ นี่หรือรักแท้ของเจ้า..."
หญิงสาวไม่ปฏิเสธ นางเผชิญหน้ากับนางแม่มดและรับคำกล่าวหานั้น
"อาจใช่...มันเป็นความจริงที่ข้ากลัวว่า หากข้าทำให้เขาจำข้าและรักข้าได้ ข้าจะต้องตายจากเขาไป..."
"และเจ้าก็ไม่เชื่อใจว่า เขาจะทำให้เจ้าจำได้เช่นนั้นหรือ?..."
หญิงสาวจ้องหน้าแม่มดนิ่งอยู่ ก่อนตอบ "สิ่งที่ข้าเกรงไม่ใช่เรื่องนั้น ท่านรู้อะไรไหม...
ตลอดเวลาอันยาวนานที่ข้าเฝ้าเดินทางตาม หาเขา เฝ้ารอคอยวันแล้ววันเล่า รอวันที่เขาจะกลับมาหาข้าอีกครั้ง
ตลอดเวลาที่ข้า เฝ้ามองการเกิดและการตายของเขา มันคือความทรมานอันยาวนานที่ดู เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด...
และสำหรับข้าความทุกข์อันแสนสาหัส คือการได้เห็น ความทรมานของผู้เป็นที่รัก โดยที่เราไม่อาจเอื้อมมือเข้าไปช่วยเหลือได้...
หลายครั้งที่ข้าอยากให้ตัวข้าเห็นแก่ตัว พอที่จะพยายามทำให้เขารัก ทำให้เขาระลึกถึงข้าได้อีกครั้ง
เพื่อที่ข้าจะได้เป็นอิสระต่อการพันธนาการนี้... แต่ทุกครั้งที่ข้าคิดถึงมัน...
ความทุกข์ทรมานที่ข้าได้รับ เนื่องจากการรอคอย ที่ไม่มีวันจบสิ้นก็ทำให้ข้าคิดได้
ข้าไม่อาจให้เขาต้องแบกรับความรู้สึกทรมานเช่นที่ข้าได้รู้สึก... สิ่งเดียวที่ข้าจะทำคือ
ข้าจะทำให้เวลาของเขามีแต่ความสุข เท่าที่พลังของข้า จะทำได้...
ข้าอาจไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาก็จริง แต่ข้าก็ยังอยากเห็น รอยยิ้มของเขา...
ข้าอาจเป็นคนอ่อนแอในสายตาของท่าน อย่างไรก็ตาม นี่ก็คือความรักของข้า คือสิ่งที่ข้าเป็น...
แม้ชีวิตของข้าจะต้องเดียวดายตลอดกาล แต่ข้าก็มั่นใจอยู่อย่างหนึ่งว่า คนที่ข้ารักจะไม่มีวันเดียวดายเช่นตัวข้า...
เพราะเขาจะมีข้าข้างกายเขาชั่วนิรันดร์..."
นิทานเรื่องนี้ไม่มีตอนจบ เพราะอยากให้คนที่อ่านจินตนาการถึงตอนจบเอาเอง
ในชีวิตของเรา มีหลายช่วงต่อหลายช่วงที่เราคิดว่า เรารักใครสักคนมากมาย เหลือเกิน
และหลายต่อหลายครั้งที่ความรักของเรา ก็ต้องการความรักตอบกลับมา
หลายคนฟูมฟายกับโชคชะตา ว่ารักที่ไม่ได้รักตอบ คือการสูญเวลาเปล่า...
แต่มีหลายต่อหลายคน... ที่ดีใจกับโชคชะตาที่เกิดมาสักครั้งแต่ยังได้รักใคร
สักคนอย่างเต็มหัวใจ... ทุกอย่างในชีวิตมีทางเลือก... ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือก
ทางไหนหรือคุณจะเลือกหรือไม่?'
คุณจะเลือกทางไหน... เปิดประตูรับความรักเข้ามาเพื่อเติมความอบอุ่น
ให้กับหัวใจแม้เพียงช่วงหนึ่งของชีวิต... หรือจะมัวแต่ฟูมฟายโทษตัวเอง
กับความรักที่ให้ไปแต่ไม่ได้รักตอบ...??
.. ..*. .. *. .. *. . . ทางเลือกเป็นของคุณ . . .*. . ..*.. ..*
19 กรกฎาคม 2547 10:14 น.
Priest
ในอดีตกาลนามมาแล้ว เค้าว่ากันว่า มนุษย์ทุกคนมีหัวใจด้วยกันจริง ๆ
แล้วทั้งหมดสองดวง
แต่ยังมีเทวดาน้อยอยู่องค์หนึ่งซึ่งไม่รู้จักสิ่งที่เค้าเรียกว่าหัวใจ
ด้วยความที่สงสัยว่าหัวใจนั้นมันเป็นอย่างไร
เทวดาน้อยจึงได้ไปถามนางฟ้าผู้ที่ดูแลทางเข้าออกของประตูสวรรค์
ท่านนางฟ้า โปรดบอกข้า หัวใจคืออะไร?
หัวใจก็คือสิ่ง บริสุทธิ์ สวยงาม ที่สุดของมนุษย์ยังไงเล่า
แล้วสิ่งที่เรียกมนุษย์อยู่แห่งใดล่ะ?
อยู่เบื้องล่างยังอีกฟากของประตูสวรรค์นี่ยังไงเล่า
เปิดประตูให้ข้าไปชมหัวใจของมนุษย์ได้มั้ย นางฟ้า?
มิได้หรอก มันผิดกฎของสวรรค์ เจ้ากลับไปซะเถอะ
แค่เจ้ามาสนทนากับข้าก็ผิดมากเท่าใดแล้ว เจ้ารู้ตัวมั้ย
เจ้าเทวดาน้อย
เทวดาน้อยทำทีว่าหันหลังกลับไป
แต่ด้วยความที่อยากได้หัวใจมาครอบครองไว้เป็นของตน
จึงได้นำคันศรธนูมา
แล้วยิงไปที่นางฟ้าผู้รักษาประตูสวรรค์หวังจะให้นางฟ้านั้นสลบไปในชั่วข้ามคืนนั่นเอง
เทวดาน้อยแอบเปิดประตูสวรรค์แล้วบินไปยังโลกมนุษย์
กลางดึกของคืนนี้เป็นคืนที่เงียบสงบ มนุษย์ทุกคนต่างหลับกันหมดแล้ว
เทวดาน้อยจึงแอบบินเข้าไปในบ้านของมนุษย์ทุกคน
แล้วไปเอาสิ่งที่เรียกว่า
หัวใจ ของทุกคนบนโลกมนุษย์ มาคนละหนึ่งดวง
แล้วนำลอยขึ้นไปบนสวรรค์
หวังจะขโมยกลับไปเป็นของตน แต่ระหว่างที่เทวดาน้อยกำลังกลับเข้าไป
ปากทางของประตูสวรรค์ได้มีนางฟ้าและเทวดาแห่งความรักยืนกั้นอยู่
เทวดาน้อยเห็นดังนั้นจึงบินหนี
แต่นางฟ้าองค์หนึ่งได้บินตามเพื่อมาแย่งหัวใจของมนุษย์ทั้งหมดมาไว้
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อหัวใจทั้งหมดได้เกิดกระจายออกแล้วร่วงโปรย
ปรายไปยังบนโลกมนุษย์และได้เกิดการสลับสับเปลี่ยนเจ้าของหัวใจกันในค่ำคืนนั้นเอง
เทวดาน้อยถูกลงโทษด้วยการเป็นเด็กตลอดกาล
และเปลี่ยนชื่อเป็นกามเทพให้อยู่บนโลกมนุษย์เพื่อตามหาหัวใจสองดวงของมนุษย์ที่ไปอยู่กับใครอีกดวงหนึ่ง ให้มาพบกันตลอดไป
ตอนนี้หัวใจของคุณอีกดวงหนึ่งก็คงอาจจะอยู่กับใครบนโลกใบนี้ก็เป็นได้
อย่ารอให้ กามเทพ เป็นคนหาหัวใจให้คุณ
ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องตามหาหัวใจของคุณคืนมา
และเมื่อคุณได้มันคืนมาแล้ว
จงดูแลหัวใจคุณให้ดี อย่าได้ปล่อยให้หัวใจมันจากคุณไปอีก
เพราะคุณอาจจะไม่มีวันเจอหัวใจอีกดวงที่แท้จริงของคุณตลอดชีวิต
หรือชั่วชีวิตก็เป็นได้ - - -
16 กรกฎาคม 2547 10:30 น.
Priest
เรื่องเล่าของ หัวใจ
ใต้ต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น มีโต๊ะหินอ่อนวางเรียงรายเป็นแนว
มีนักศึกษาจับกลุ่ม บ้างคุยกัน บ้างอ่านหนังสือ
บ้างหยอกล้อกินขนมกัน...
"เอ เย็นนี้แนนไปทำวิทยานิพนธ์กับเพื่อนนะ" แนนพูดพลางเก็บหนังสือ
"ไปทำวิทยานิพนธ์กับใคร" เอเงยหน้าขึ้นมองแนนทันที
"ไปกับกิ๊ฟกับฝนหนะ นะๆๆๆ" แนนพูดพลางเดินไปนั่งข้างๆเอ
เขย่าแขนเหมือนเด็กอ้อนวอนผู้ใหญ่
"ให้เอไปส่งมั้ย เอว่างนะ" เอพูดพลางยิ้ม ลูบผมแนนเบาๆ
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฝนเอารถมา" แนนพูดพลางซบหน้าลงบนบ่าของเอ
"นี่ แล้วกินข้าวเสร็จแล้วอย่าลืมกินยาล่ะ เข้าใจมั้ย
กลับถึงบ้านก็อย่าลืมโทรมาบอกด้วย"
เอพูดพลางจ้องหน้าแนนด้วยสีหน้าจริงจัง
"ค่ะ หัวหน้า สั่งจริงๆเลย" แนนพูดพลางยิ้ม
เอามือหยิกจมูกเอด้วยความเขิน
"กิ๊ฟๆ แฟนแกเป็นงัยบ้าง" ฝนเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถ
ขณะที่ตนอยู่หลังพวงมาลัย
"ปวดหัวสุดๆ เจ้าชู้เป็นบ้าเลย"
กิ๊ฟพูดปัดๆคล้ายกับไม่ค่อยพอใจในแฟนตัวเองนัก
"ทำไมไม่เลิกๆไปสิ จะได้ไม่กลุ้ม" ฝนเสนอความเห็น
มองหน้ากิ๊ฟผ่านกระจกมองหลัง
"หน่า.....ให้โอกาสสักครั้ง"
กิ๊ฟพูดพลางซบหน้าลงที่กระจกหันหน้ามองออกนอกรถด้วยอาการเอือมระอา
"โอกาสสักครั้ง รอบที่ล้าน" เสียงหัวเราะดังขึ้นเกือบพร้อมกันทั้งรถ
"แล้วแนนล่ะ แหม...เจ้าชายเธอเอาใจเธอดีนะ"
ฝนพูดขึ้นพลางหันไปมองแนนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
"โอ๊ย รายนั้นไม่รู้กี่ปีแล้ว
ยังจับไม่ได้สักทีว่ามีกิ๊กเก็บไว้ที่ไหน"
แนนพูดยิ้มพลางหันไปมองหน้าฝน
"แปลได้สองอย่าง...ถ้าแฟนเธอไม่รักเธอคนเดียว
เค้าก็เก่งมากที่หลอกเธอมานานหลายปี"
เสียงหัวเราะดังขึ้นแทบจะพร้อมกันทั่วรถ
"เอี๊ยยดดด......" เสียงเบรกลากล้อดังยาวจากด้านข้างตัวรถ
คนทั้งรถหันไปมองแทบจะพร้อมกัน
รถบรรทุกฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนรถเก๋งของฝนอย่างจัง
แรงอัดทำให้กระจกทุกบานแตกละเอียด
ห้องโดยสารด้านหน้าฝั่งคนนั่งยุบเข้ามาอย่างเห็นได้ชัด....
ร่างไร้สติของแนนยังคงสงบนิ่งติดอยู่ในรถเก๋งขาดสองท่อน
มัจจุราชอาจฉุดวิญญาณเธอออกจากร่างได้ทุกเมื่อ
"แนนๆ" เสียงกระซิบเบาๆดังข้างหู ทำให้แนนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา
"อยู่ไหน....โอ๊ย เจ็บ" แนนค่อยๆอ้าปากพูด แต่ไม่ชัดนัก
เฝือกขาวถูกแต่งแต้มตามร่างกายของแนนคล้ายกับเป็นเครื่องประดับ
"ใจเย็นๆ แนน เธอสลบไปสองเดือน" ......สองเดือน สองเดือน
แนนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง.
...ฝนค่อยๆอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แนนฟัง.....
"แล้ว สรุปว่าฉันเจ็บคนเดียวใช่มั้ย" แนนพยายามพูด
เสียงพูดของแนนแทบจะไม่ได้ยิน
"อืม..." ฝนพยักหน้าเบาๆ กำมือแนนไว้นิ่งๆ
"เอ ล่ะ เออยู่ไหน" แนนเพิ่งนึกขึ้นได้ แฟนเธออยู่ไหน
"เอมาหาเธอครั้งเดียว วันแรกที่ชน แล้วหายไปเลย"
ฝนพูดพลางลูบหัวแนนเบาๆ
"ไม่เป็นไรนะ ไม่มีเอ เราก็อยู่กันได้ จริงมั้ยเพื่อน"
ฝนพยายามพูดปลอบใจแนน
"อืม..." น้ำตาค่อยๆกลั่นตัวหยดลงมาจากนัยน์ตาของแนน
คำพูดของฝนตอนคุยกันในรถคงจะเป็นความจริง....เขาเก่งมากจริงๆ
เก่งมากที่หลอกแนนมาหลายปี
เก่งมากที่หลอกว่ามีแนนคนเดียว.....ทำไมผู้ชายทั้งโลกถึงนิสัยเหมือนกันหมดเลย
เสียดายเวลาที่อยู่ด้วยกัน เสียดายความรักที่มอบให้......เสียดาย
เสียดาย เสียดาย
"คุณแนน ค่อยๆก้าวนะครับ ช้าๆ" บุรุษพยาบาลพยายามพยุงแนนขึ้นเดิน
แนนยังคงไม่หายเจ็บดี ยังคงต้องทำการกายภาพบำบัดอีก
"ระวังล้มนะครับ จับผมไว้ดีๆ"
บุรุษพยาบาลเดินช้าๆเพื่อให้แนนเกาะแขนเดินตามช้าๆ.....ทำไมบุรุษพยาบาลถึงไม่ใช่เอนะ....ทำไม
ทำไม ทำไม
"คุณบุรุษพยาบาลค่ะ นี่ฉันสลบไปนานถึงขั้นต้องกายภาพบำบัดกันเลยเหรอ"
แนนถามด้วยความสงสัย
"โห คุณไม่ได้เดินสามเดือนนี่ มันนานนะครับ"
บุรุษพยาบาลตอบด้วยความสุภาพ
"จะว่าอะไรมั้ยค่ะ ถ้าจะถามชื่อเล่น คือถ้าเรียกว่าคุณบุรุษพยาบาล
เกรงว่ามันจะยาวไป" แนนพูดพลางยิ้ม
"ผมชื่อ กอล์ฟ ครับ" บุรุษพยาบาลตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
น้ำเสียงเรียบๆ
นับจากวันนั้น แนนและกอล์ฟเริ่มสนิทกัน
ทุกเย็นกอล์ฟจะพาแนนออกไปทำกายภาพบำบัด
ไม่นานแนนก็สามารถเดินเองได้และออกจากโรงพยาบาลในที่สุด....
"คุณแนนค่ะ น้ำดื่มค่ะ" พยาบาลชุดขาวเดินถือแก้วน้ำมาวางข้างๆเธอ
ขณะเธอนั่งรอกอล์ฟที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล
เธอได้แต่พยักหน้าและยิ้มให้ด้วยไมตรี
"กอล์ฟๆ ไปกินข้าวกัน" แนนพูดทันทีที่เห็นกอล์ฟเดินออกมา
มีพยาบาลหลายคนยกมือไหว้แนน แนนก็ได้แต่รับไหว้ด้วยสีหน้างงเล็กน้อย
"ไปสิครับ"
กอล์ฟพูดพลางค้อมตัวลงผายมือไปที่ห้องอาหารของทางโรงพยาบาล
ดูกอล์ฟค่อนข้างสุภาพและให้เกียรติแนนมาก.....มากจนน่าแปลกใจ
ท่าทางโรงพยาบาลนี้จะเข้มงวดเรื่องมารยาทกับพยาบาลมาก
แนนและกอล์ฟสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ.....จนบางครั้งแนนก็อยากให้กอล์ฟมาแทนที่เอ
บ่อยครั้งที่แนนคิดถึงเอ เอก็ไม่โทรมา
บ่อยครั้งที่แนนอยากคุยกับเอ เอก็ไม่ติดต่อมา
บ่อยครั้งที่แนนนั่งเหงา อยากให้เอนั่งเป็นเพื่อน แต่เอก็ไม่ปรากฎตัว
เอ....เอ....เอ เอหายไปไหน
ไหนล่ะ หัวใจที่เอบอกว่าจะให้แนน
ไหนล่ะ หัวใจที่เอเคยเขียนไว้บนฝ่ามือแนน
มันคงหายไปแล้ว.....หายไปพร้อมกับเอ
หายไปพร้อมกับผู้ชายโกหก....ผู้ชายเจ้าชู้
ทำไมผู้ชายเหมือนกันทั้งโลก.....ทำไม ทำไม ทำไม
ใกล้วาเลนไทน์เข้าไปทุกที ปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ
ไม่มีเอคอยให้ดอกกุหลาบแดง ไม่มีอีตาบ๊องทำท่าเขินอายให้ดู
"แนนๆ วาเลนไทน์ปีนี้ ว่างหรือเปล่าครับ"
เสียงกอล์ฟดังตามสายโทรศัพท์
"ว่างค่ะ ทำไมค่ะ" แนนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"พอดีผมมีของจะให้แนนนะครับ
เดี๋ยววันวาเลนไทน์บ่ายสามโมงเจอกันที่สยามนะครับ" กอล์ฟเสนอความเห็น
"ตกลงค่ะ" แนนพูดพลางกดวางสาย
สีหน้าแววตาเปี่ยมด้วยความหวัง.....หวังว่ากอล์ฟคงจะมาแทนที่เอได้เสียที
วันวาเลนไทน์ วันที่กุหลาบแดงบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วโลก
แม้ในลานที่สยามหรือที่วัยรุ่นเรียกกันสั้นๆว่า "เซนเตอร์พอยต์"
ยังถูกละเลงด้วยดอกกุหลาบสีแดง...นักเรียน
นักศึกษาต่างถือกุหลาบแดงในมือเดินกันขวักไขว่ทั่วลาน
"ขอโทษค่ะ มาสาย" แนนพูดพลางยิ้มก่อนดึงเก้าอี้ออกมานั่ง
"ไม่เป็นอะไรครับ" กอล์ฟพูดพลางยิ้ม
"อืม...ว่าแต่มีอะไรจะให้แนนเหรอ"
แนนพูดพลางจ้องตากอล์ฟ...หากกอล์ฟมีพิรุธ แนนจะจับได้ทันที
"อันนี้ของแนนนะครับ" ดอกกุหลาบสีแดงถูกดึงออกมาจากถุงอย่างช้าๆ
วางลงบนโต๊ะอย่างนิ่มนวล
"หมายความว่ายังไงค่ะ จะขอหัวใจแนนเหรอ" แนนพูดติดตลกพลางยิ้ม
เธอคิดว่าเธออ่านเกมส์ออกหมด
"ผมคงไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอก" กอล์ฟพูดพลางยิ้ม แต่กลับทำให้แนนงง
"อ้าว....แล้วกุหลาบสีแดงนี่..." ไม่ทันแนนจะพูดจบ
กอล์ฟต่อคำพูดของเขาทันที
"ผมไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอกครับ เพราะหัวใจของแนนไม่ใช่ของแนน"
ปั้ง...เหมือนมีแผ่นเหล็กหนาหลายฟุตทุบลงกลางศีรษะ
แนนเริ่มงงกับความหมายขึ้นไปทุกที...มันแปลว่าอะไร???
"หัวใจของคุณ คือเจ้าของกุหลาบดอกนี้"
กอล์ฟพูดต่อ....แนนทำหน้างงๆไม่เข้าใจความหมายแม้แต่นิดเดียว
"ตอนคุณประสบอุบัติเหตุเข้ามาที่โรงพยาบาล
คุณเสียเลือดมาก...หัวใจคุณเต้นอ่อนจนแทบจะล้มเหลว
พวกผมและหมอพยายามเยียวยาจนถึงที่สุด"
กอล์ฟเริ่มอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น.....เรื่องที่แนนไม่เคยรู้
"มีผู้ชายคนนึง วิ่งเข้ามาบอกว่าเป็นแฟนคุณ เขาบอกให้ช่วยคุณให้ได้
เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า...เขายอมจ่ายไม่อั้น ไม่ว่าทางเราจะขออะไร
เขาจะจัดหาให้หมด.....คำพูดของเขาทำให้ผมประทับใจมาก"
กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่...แนนรู้ทันทีว่ากอล์ฟหมายถึงเอ
"ผมยอมแลกทุกอย่างกับชีวิตเธอ - เขายอมแลกทุกอย่างกับชีวิตคุณ"
กอล์ฟพูดพลางจ้องหน้าแนนนิ่ง แต่แนนยังคงทำสีหน้างงอยู่
"เขายอมทุกอย่างจริงๆ ทีแรกหมอบอกว่าทางเราหาเลือดไม่พอให้คุณ
เขาวิ่งตามหาเลือดให้คุณไปทั่วทุกโรงพยาบาล
แต่กลับไม่พบว่ามีเลือดถุงไหนที่ตรงกับเลือดคุณ"
กอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงปกติ สายตามองไร้จุดหมาย
"สุดท้ายเราตรวจเลือดของเขา พบว่าตรงกับของคุณพอดี
เขาบอกให้ทางเราเอาไป เอาไปให้คุณ....ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะเป็นอย่างไร
ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ"
กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่พยายามกลั้นน้ำตา....แต่นัยน์ตาแนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำใสๆ
"ต่อมา....ตอนพวกผมถ่ายเลือดให้คุณ หัวใจคุณเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ
จนหมอต้องเดินออกไปบอกให้เขาทำใจ.....ทำใจว่าเขาจะต้องเสียคุณ"
กอล์ฟพยายามเล่าต่อไปเรื่อยๆด้วยน้ำเสียงปกติ นัยน์ตาแนนเริ่มแดงก่ำ
"เขาถามหมอว่า เธอต้องการอะไร....." ใช่ เอถามหมอว่าแนนต้องการอะไร
"เธอต้องการ หัวใจครับ หัวใจเธอเต้นไม่ปกติ การสูบฉีดล้มเหลว
เราหาเลือดให้เธอช้าไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่เธอต้องการคือ หัวใจ"
หมอหวังว่าเอคงจะเลิกหวังในตัวแนน...หยุดเล่นเกมกับมัจจุราชเสียที
"ตกลง ผมหาให้ - เขาตอบสั้นๆโดยไม่ลังเลเลย"
ตกลงผมหาให้....เอจะหาหัวใจให้แนน
ทั้งๆที่รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้...เขาไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อจะทำให้เธอ
"คุณรู้มั้ย ว่าคำพูดของเขาทำให้ผมและหมออึ้งกันไปหมด
โรงพยาบาลยังหาหัวใจให้คุณไม่ได้
เขาจะมีปัญญาที่ไหนหาหัวใจให้คุณได้"
กอล์ฟพูดพลางพยายามหลบสายตาแนน....ตอนนี้กอล์ฟเริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว
"เขาถามเลขบัญชีของโรงพยาบาลกับหมอ....เขาไม่ได้โอนเงินมาซื้อหัวใจเทียมให้คุณ
แต่เขาโอนมาตั้งมูลนิธิการกุศลให้โรงพยาบาล
มูลนิธิช่วยเหลือผู้ป่วยด้านหัวใจเทียม "นานา" คุณดูดีๆ คำว่า แนน
และ อ ถ้าเขียนติดกัน มันคือ "นานา" นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของเขา
-
เขาอยากให้ตัวเขาเองเป็นคนสุดท้ายที่ไม่ได้อยู่กับคนที่เขารัก...เพราะไม่มีหัวใจเทียมสำรอง"
เปี๊ยง....แนนโดนสะกิดต่อมความจำเข้าเต็มเปา...เธอเคยเห็นป้ายมูลนิธิขึ้นหราที่โรงพยาบาล
แต่เธอไม่เคยเฉลียวใจสักนิด...มิน่า
ทำไมหมอและพยาบาลต้องให้เกียรติและดูแลเธอดีเสียจนน่าแปลกใจ
ทั้งๆที่เธอไม่มีส่วนได้เสียกับโรงพยาบาลแม้แต่บาทเดียว
"ทันทีที่มีการยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีทางโรงพยาบาล
เขาก็ยิงตัวตายในห้องน้ำโรงพยาบาลครับ ทิ้งโน้ตไว้ว่า มอบหัวใจให้เธอ
- เขามอบหัวใจของเขาให้คุณ" ทันทีที่กอล์ฟพูดจบ
แนนปล่อยโฮออกมาเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างๆ
โต๊ะรอบข้างหันมามองแนนเป็นตาเดียว....เอคือเจ้าของหัวใจ
หัวใจที่อยู่ในร่างของแนน
"เขายอมแลกทุกอย่างกับคุณจริงๆ"
กอล์ฟพูดพลางวางของทั้งหมดที่เอเคยฝากไว้กับทางโรงพยาบาลคืนให้กับแนน
มีทั้งเครื่องเล่นเทป ม้วนเทป จดหมาย.....
"ผมคงไม่กล้าขอหัวใจคุณหรอก หัวใจคุณเป็นของเขา หัวใจเขาเป็นของคุณ"
ใช่ หัวใจเอเป็นของแนน
เป็นของแนนจริงๆ...ตอนนี้หัวใจแนนตายไปเรียบร้อยแล้ว ตายไปพร้อมกับเอ
ตายไปพร้อมกับผู้ชายที่ยอมทุกอย่างเพื่อเธอ
"กุหลาบดอกนี้ เขาบอกผมก่อนไปเข้าห้องน้ำว่า...วาเลนไทน์ที่จะถึง
รบกวนซื้อกุหลาบสีแดงให้คุณสักดอก
ขอแค่ดอกเดียวก็พอ...เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของเขา"
กอล์ฟพูดพลางเช็ดน้ำตา
นั่งนิ่งๆสักพักก่อนลุกจากโต๊ะไป....ทิ้งแนนนั่งนิ่งอยู่เพียงลำพัง
"เอรักแนนนะ" "เอรักแนนนะ" "เอรักแนนนะ"
คำพูดซ้ำๆดังมาจากเครื่องเล่นเทป
เป็นคำพูดเดียวกันที่พูดกันซ้ำโดยไม่มีการตัดต่อทั้งเทป......เทป 120
นาทีโดยมีเพลงประกอบเบาๆ
แนนค่อยๆคลี่จดหมายออกอ่าน....จดหมายที่มีเนื้อความเพียงบรรทัดเดียว
"หัวใจเอ...เขียนคำว่ารักไว้ เขียนให้แนนคนเดียว"