8 ตุลาคม 2547 18:47 น.
prajanyimm
หมู่เมฆมิได้เรียกผลตอบแทนจากต้นหญ้าสำหรับค่าน้ำฝน...
ต้นไม้ย่อมไม่ได้เป็นหนี้ต่อดวงอาทิตย์สำหรับแสงแดดและไออุ่นนั้น...
พระจันทร์และหมู่ดาวล้วนไม่ชื่นชมต่อสายตานับแสนนับล้านที่ห่างไกลออกไป...
ฝ่ายหนึ่งให้ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน อีกฝ่ายหนึ่งจึงเป็นผู้รับ โดยไม่เป็นหนี้ต่อสิ่งใด...
ชายหญิงจึงคู่กัน...จึงรักกัน...จึงอิสระซึ่งกันและกัน...
...ให้.......จึง.......รับ.......จึง......ให้.......
4 ตุลาคม 2547 23:24 น.
prajanyimm
สว่างพุทธ สว่างธรรม สว่างสงฆ์
จิตแจ่ม จ้องจง จึ่งแจ้ง
โน้มกาย โน้มเฝ้า โน้มพุทธะ
อิสระ ลอยล่อง สู่สวรรค์
ข้าเฝ้าขอ ถ่อใจกาย ถวายใจจิต
ละที่ผิด คิดเพียงชอบ ครอบตัณหา
ห่มผ้าเหลือง เรืองรองศีล รินศรัทธา
ห่มชีวา พาจิตใจ ใฝ่สู่ธรรม
ขอให้ทุกๆคนมีจิตใจที่สงบ รู้จักใฝ่หาธรรม ศึกษาธรรม ให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานกันทุกๆคนครับ
พระจันทร์ยิ้ม
( รูปภาพวาดโดยอจ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ )
4 ตุลาคม 2547 01:15 น.
prajanyimm
ผีเสื้อน้อยกระพือปีกโผบิน...โบยบิน
ทิวไผ่ไหวโยนโอนเอน
ลมเย็นพัดโชยมาแผ่ว...แผ่ว
สายน้ำไหลคดเคี้ยวหลบภูผา
ชายชรานั่งตกปลาถือคันเบ็ดรอคอย...รอคอย
เสียงฟ้าฝนลอยแว่วแว่วมาตามลม
สว่างวาบสายฟ้าฟาด คำราม...ครืน
ทันใด..คันเบ็ดไม้ไผ่ใยไม่อยู่คู่ชายชรา
สว่างวับ ตวัดควับสองครา..โค้งดาบวงพระจันทร์...วงพระจันทร์
ไร้คันเบ็ด ไร้ชายชรานั่งตกปลา ย่อมไร้ปลา
ชายชราใยไม่นั่งตกปลา...ตกคน
ครืน..ครืน..ครืน...
สายฝนหล่นเป็นสายประปราย...โปรยปราย
สายน้ำยิ่งเชี่ยวไหลไร้จุดหมายปลายทาง
เหม่อมองหนทางข้างหน้าพร่างพราย...พร่าใจ
พายุยังโหมกระหน่ำ ในใจกลับอ้างว้างเดียวดาย
เจ้าอยู่แห่งใด...แห่งใด
2 ตุลาคม 2547 13:40 น.
prajanyimm
ดอกไม้ในคืนหลังฝน ปลิดปลิวล่วงหล่นลงดิน
กลิ่นหอมความงามสูญสิ้น รวยรินรอวันโรยรา
ใครจะมาสนใจใยดี ดอกไม้ไร้ชีวีสีหม่น
เป็นเพราะเจ้าพายุลมฝน หอบอนาคตล่วงหล่นตามไป
เจ้าพายุฝนคนใจร้าย ไร้ใจโหดร้ายแล้วหายหนี
จากนี้ไปไร้จันทร์งามยามราตรี ฟ้ายามนี้สีโศกาพาอาดูร
หยาดย้อยหยดฝนบนตัวข้า ดั่งน้ำตาจากฟากฟ้าหลั่งมาให้
ไม่นานนักจักเหือดแห้งเหือดหายไป เหลือเพียงซากดอกไม้ไร้วิญญา
1 ตุลาคม 2547 18:16 น.
prajanyimm
...ฝากหัวใจ....
พี่ฝากหัวใจเอาไว้ในดิน เพื่อให้โฉมยุพินได้เหยียบได้ย่ำ ย้ำจนพอใจ
พี่ฝากหัวใจเอาไว้ในน้ำ เพื่อให้น้องได้เย็นได้ฉ่ำ เมื่อยามอาบน้ำ จริงนะทรามวัย
พี่ฝากหัวใจไว้กับความร้อน เพื่อโฉมบังอรได้อบได้อุ่น ซึ้งในดวงใจ
พี่ฝากหัวใจเอาไว้กับลม เพื่อให้น้องได้สูดได้ดม แล้วกลายเป็นลมหายใจ
พี่ฝากหัวใจไว้ที่บนหมอน เมื่อไรน้องหนุนนอน ได้ผ่อนอารมณ์สุขสมฤทัย
พี่ฝากหัวใจไว้ในผ้าห่ม เพื่อให้เจ้าชวนชม เป็นสุขอารมณ์ มิต้องผิงไฟ
พี่ฝากหัวใจไว้จมในเสื้อ ที่เจ้าสวมแนบเนื้อ เพื่อปกเพื่อปิดปทุมไฉไล
พี่ฝากหัวใจไว้ที่ตัวน้อง ทั้งนอกทั้งในหัวใจทุกห้อง โอ้แม่นวลน้องโปรดรู้ความใน
...ขอฝากเพลง...ฝากหัวใจ....ให้เพื่อนๆพี่ๆ สตรีงามแลทรามวัย ให้สำราญใจ ให้สุขอุรา
( คัดมาจาก เพลง ฝากหัวใจ เนื้อร้องทำนองโดย ครูสุรพล โทณวนิก ขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ )