๏ เนิ่นนานปลิวปรายสายลมหนาว กรีดร้าวเกินกั้นความหวั่นไหว ปลิดเถิดปลิดปล่อย..ล่องลอยไป โหยไห้เก็บกล้ำกับคำนึง ๏ อิงแอบหม่นว้างอยู่อย่างนั้น เงียบงันเหมือนสิทธิ์เพียงคิดถึง ล่วงรอยเวลาอันตราตรึง ให้หนึ่งคืนหนาว..ช่างยาวนาน ๏ ซ่อนหน้าผ่านคืนอันขื่นขม โบยบ่มวิญญาณ์ด้วยพร่าผลาญ เหลือเพียงเศษฝันจากวันวาร โลมรานคืนเหงาที่เปล่าดาย ๏ แอบหยดน้ำตาที่บ่าไหล อย่าให้ใครเห็นหล่นเป็นสาย อาบรินดวงตาจนพร่าพราย เกินหมายคืนมา..ร่วมฟ้าเดียว..
18 มีนาคม 2550 08:35 น. - comment id 672320
ฟ้าก็มืด ใจคน ก็หม่นหมอง น้ำตา จึงหลั่งนอง ทั้งสองสาย ไม่อาจซ่อน ความเหงา อันเปล่าดาย บอกไม่อาย ด้วยคิดถึง จึงรำพัน อยากส่งใจ ข้ามฟ้า ไปหาเธอ จึงพร่ำเพ้อ เหม่อลอย พลอยโศกศัลย์ อีกแสนนาน คอยนับ เดือนและวัน เมื่อไรกัน จะได้พบ เพื่อสบตา สวัสดีค่ะ กลอนก็เพราะ เพลงก็เพราะค่ะ
18 มีนาคม 2550 08:39 น. - comment id 672321
น้องนาง ๐ การเวกหอมหวนเมื่อจวนค่ำ พรมพร่ำสายเสน่ห์กลิ่นเกสร คราเมื่อตะวันอับจะลับรอน จะเหนี่ยวเหลี่ยมสิงขรเข้าผ่อนพิง ๐ ผืนน่านน้ำไล้ลมที่พรมแผ่ว ก่อลำแนวแถวขวางระหว่างวิ่ง ทยอยไล่ริ้วแนบเข้าแอบอิง ฟายฟองทิ้งกลางแผ่นผืนอันตื่นตัว ๐ ลำแสงสุดท้ายของปลายฟ้า สาดทอดลงมาก่อนฟ้าหลัว แตะลำคลื่นลำน้อยอันคล้อยมัว ฝากมืดนั้นเพียงชั่วครู่ให้รู้ไว้ ๐ ลำแสงเรื่อรุ้งของรุ่งสาง เปลี่ยนเลือนรางบริบทเป็นสดใส ค่ำคืนเจ้าจงปองจันทร์รองไร และม่านดาวผืนใหญ่อันไกลตา ๐ ต่อลำแรกสุริยันขึ้นชั้นสรวง จะปล่อยช่วงโชติรงค์ผ่านลงหา แลครานั้นละอองขาวจะพราวตา จะเริงร่าเย้ยฝั่งอยู่ยังวัน ๐ การเวกเก็บกลิ่นแต่สิ้นสาง จืดจางสร้อยเสน่ห์มาเหหัน ลมโบกเบาแผ่วย้ำเหมือนรำพัน ว่าแม้นกลิ่นมะลิวัลย์...ควรฉันทา.
18 มีนาคม 2550 09:14 น. - comment id 672323
ตะกี้เรนอยากเป็นที่หนึ่ง.. ตั้งใจเขียนกลอนซึ้งๆ..เก๊าะตั้งนาน.. จดปากกาหาคำหวาน.. แต่พี่ปราณก็แซงเรน.... ไม่ร้อกเรนไม่ว่า.. พี่ปราณฯเขียนมา..บทกลอนเด่น.. บทกวีก็ท๊อปเท็น.. พี่ๆทุกคนเป็น..ยอดนักกวี.... ... พี่นางคะ.. บทกลอนไพเราะที่สุดในโลกด้วยดิคะ.... ..
18 มีนาคม 2550 11:02 น. - comment id 672336
เศร้าไม่วางพร่างน้ำตาก้มหน้าร้อง ใจหม่นหมองฟ้องความเหงาเศร้าไม่หาย ความรูรูลึกร้าวใจไม่เคยคลาย ใจหล่นหายคล้ายเปล่าว่างอ้างว้างตรม จมความคิดลิดรอนตนจนอ่อนล้า จนสองขาพาอ่อนแรงแฝงขื่นขม ท้อไม่สิ้นกินน้ำตาไหลมาพรม คอยสั่งสมอารมณ์เปลี่ยวนอนเดียวดาย มันเศร้าจริง ๆๆ เนอะ ๆๆ
18 มีนาคม 2550 12:12 น. - comment id 672353
ฟ้ามีดาว แต่เราก็ไม่มอง เนอะ เรื่องมันเศร้า....
18 มีนาคม 2550 13:37 น. - comment id 672397
18 มีนาคม 2550 16:29 น. - comment id 672461
คืนหม่นคนเหงาเศร้าดวงจิต เส้นชีวิตเดินคลานผ่านร้อนหนาว มีมืดมนกระจ่างใสพร่างพราว ขอผ่านคราวตกอับเพื่อรับชัย
18 มีนาคม 2550 17:42 น. - comment id 672481
ภาพสวย เพลงไพเราะ กลอนซึ้งมากค่ะ ประทับใจจริงๆ
18 มีนาคม 2550 20:44 น. - comment id 672527
สบายดีนะ คงจะหม่นเฉพาะบทกลอนหรอกนะ
18 มีนาคม 2550 23:05 น. - comment id 672605
คืนหม่นปนเศร้าเหงาจิต ชีวิตแทบสิ้นดับสูญ ร่ำร่ำอุราอาดูร พอกพูนความเศร้าเนานาน
19 มีนาคม 2550 08:21 น. - comment id 672698
เศร้า.. จับใจ
19 มีนาคม 2550 08:23 น. - comment id 672701
เศร้าจังนะคะ
19 มีนาคม 2550 15:31 น. - comment id 673029
ท่ามกลางหม่นเงาอันเศร้าโศก โบยโบกบ่มย้ำกรายกล้ำหา เงียบง่ายว่ายวนดุจมนตรา ทาบมาสู่ห้วงแห่งดวงใจ
20 มีนาคม 2550 14:26 น. - comment id 673617
เงียบเหงาร้าวรานผ่านคืนค่ำ ลำนำอดีตพาย้อนหาฝัน เคยมีเคยใกล้เคยเคียงกัน สุขนั้นเลยลับกับเวลา หม่นหมางร้างรอยในคืนหมอง เฝ้ามองรำพึงและโหยหา เลยแล้วเลยลับในสายตา ไม่อาจคืนมาเป็นเช่นเดิม ...ภาษาสวยจัง ไม่เคยผิดหวังเลยกับงานของน้องนาง
21 มีนาคม 2550 00:02 น. - comment id 673799
ราตรีนี้แก้วสิ้นกลิ่นหอม การะเวกตรอมจำปีช้ำร่ำโหยหา โมกค้อมดวงร่วงพราวดั่งหยาดน้ำตา ให้เหว่ว้าสับสนสิ้นหนทาง โอ้ใจคนดั่งมหาสมุทรสุดลึกหยั่ง ยากหวังฝังฝากใจอ้างว้าง พบเพื่อพรากจากลาจืดจาง บนเส้นทางวิบากรักทาสภักดี..