http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น พี่พุดครับ ที่หนาวเหน็บเจ็บช้ำเกินรำพัน คือคืนวันฝันสลายกลายเป็นตรม รักเคยชื่นกลับกลายเป็นขื่นขม เคยภิรมย์สมรักกลับพังภิณท์... รำลึกถึงพี่สาวที่แสนรักครับ... จากรอยหมึก...ทราบว่าพี่พุดกลับบ้าน เป็นอย่างไรบ้างครับ กับการไปชาร์จแบตครั้งนี้ หาก.. ไม่เป็นการรบกวนพี่สาวที่แสนดี เล่าให้น้องชายที่ทุกข์ตรมคนนี้ฟังบ้างสิครับ ผมรักมาลัยรักอักษราของพี่พุดครับ ................ น้องชายคนดีที่แสนน่ารัก พี่พุดเพิ่งกลับจากพะงันค่ะ และ.. เที่ยวนี้ดวงชีวีพี่พุดก็อิ่มเต็ม ค่ะ มาตรแม้น.. ดวงจันทราที่นั่นยังไม่เต็มอิ่มพูนดวง พาลอยล่วงพ้นผืนน้ำทะเล..ระยิบระยับ ยามอาบด้วยพรายแสงจากสายธารน้ำผึ้งพระจันทร์ผ่องพรรณราย เหนือฟากฟ้าทะเลฝัน อันพร่างพราวด้วยมวลหมู่ดารารายดาระดาดแสนสุกใส ดูใกล้แสนใกล้จนแทบเอื้อมมือคว้าไขว่ได้เลยค่ะคนดี พี่พุด..เดินริมชายหาด ที่ลมพัดแรงราวแกล้งให้หนาวเนื้อ...หนาวนวลค่ะ แล.. โลกของพี่พุดที่ชอบสวนกระแสโศกสุข.. ก็... กลับแสนสงบเงียบงาม ในท่ามปาร์ตี้ริมหาด ที่กำลังอึกทึกครึกโครม ด้วยความเมามันส์ น่ากลัวเสียจนขวัญจะหาย หาก.. นี่คือธรรมดาชีวิต ธรรมดาชีวี แห่งวัยวันของการเสาะแสวงหาความสุขของคนรุ่นใหม่ ที่มาจากต่างแดนแสนไกล*เมืองศิวิไลซ์วัตถุ* คนละทิศคนละทาง บ้าง.... อาจจะกำลังค้นหาเส้นทางแห่งประสบการณ์เพื่อสร้างตัวตน ตราบจนกว่าจะค้นพบว่า *สุขใดเกินกว่าความสงบเป็นไม่มี* พี่พุดปูเสื่อเหนือเนินทรายสวยแล้วก็ปล่อยร่างระทวย นอนดูดาววะวาววับ แสนสุกใสสกาว เห็นดาวพระรัตนตรัย แสนไสวเกษมเลยค่ะ พร้อมนั่งทานข้าวฝีมือน้องสาวคนดีที่มีครัวเคียงทะเล แกล้มเสียงเกลียวคลื่นซัดฝั่ง ดังเป็นระลอกระลอก... ค่อยๆทะยอยทอยทอดเคลียเเคล้า เล้าโลมปลอบปลุกผืนทราย หมายมั่นสัญญาจะไม่มีวันทิ้งทอด และจะ.. โอบกอดอย่างสัตย์ซื่อถื่อมั่น.. ไปตราบ... จนอนันต์นิรันดร์โลกมลาย.... พี่พุด..ได้ปีนเขาขึ้นไปสู่*วิมานลอย* ที่ดินพี่พุดที่ลอยละลิบ ให้แลลอดทอดทัศนาเห็นเวิ้งอ่าวสามด้าน ปานวิมานเมืองแมนแม่นแล้วค่ะ ............... และ.. พี่พุด... ได้ไปนั่งนิ่งนิ่ง..เหนือที่ดินอีกที่ของพี่พุดค่ะ ชื่อ*วิมานวนา*ในท่ามฟ้าโพล้เพล้ แล้วก็ ตกอยู่ในภวังค์ฝัน ฝัน ฝัน แสนหวาน ไปกับดวงตะวันสีแดงแช๊ด ที่กำลังอ้อยอิ่งอ้อนอำลาผืนน้ำทะเลตรงหน้า ระหว่างเกาะแตนอกกับแตใน ในท่ามมนต์ม่านเมฆวิเวกสงบหากแสนงดงาม ด้วยรัศมีสีรุ้งแสนจรุงจรัสใจ ณ..ลานศิลาวัดเขาถ้ำ ที่มีต้นลั่นทมโผล่อยู่ในแง่งหินงาม บานสล้าง ระร่ำรินมาชั่วนาตาปี เป็นดอกไม้รักอมตะนิรันดร์ ที่เปรียบประดุจดั่งตำนานฝันพะงันงามมานานช้าแล้วค่ะ พาให้หยาดน้ำตามาคลอครองเต็มนัยน์ตา เมื่อโหยหาหวนไห้ รำลึกนึกถึงอดีตยามวัยเยาว์ ที่.. เคยพาร่างมานั่งเงียบเหงาอย่างเหว่ว้า เพื่อรอท่าดูดวงตะวันลา ดูทะเลกว้างใหญ่จรดขอบฟ้าแลละลิบ เบื้องล่าง อย่างอ้างว้างดายเดียว..เดียวดายเป็นที่สุด และ.. กับฉากสุดท้าย ท้ายสุด ที่.. พี่พุดนั่งมองฟองคลื่นสีขาว แตกพรายกระจายไปรายรอบลำเรือ ที่.. ค่อยๆพาร่างพี่พุด ให้พรายพลัดพรากจำจากลา มาไกลบ้านอีกคราและอีกครา และ.. คงนานเนา.. ตราบจนกว่า...คำอธิษฐานภาวนาจะเป็นจริง.! กระท่อมไพรบนเนินผาท้าสรวงสวรรค์ มีทะเลฝันตรงหน้าให้คว้าไขว่ มีดาวสวยทรายขาวหาดยาวไกล มีน้ำใจมีความรักมีดวงตะวัน.... ยามเช้านอนดูดวงดอกไม้มาทายทัก หวังยอดรักคืนอ้อมใจในอ้อมฝัน ลมทะเลเห่ครวญรำพึงรำพัน ดุจสวรรค์บนดินถิ่นรักเรา รอเรือหาปลาลำน้อยค่อยคืนฝั่ง ฝากใจหวังพรานทะเลคงไม่เหงา ใครบางคนเฝ้ารอมานานเนา คืนว่างเปล่าเขากลับมาหาเสียที ใจดายเดียวดูตะวันผันเรี่ยน้ำ ฟ้าสีครามงามดั่งทองอาบแสงสี จุดตะเกียงเขียนกลอนฝันมอบวันดี กระท่อมไพรนี้มีใจภักดิ์เฝ้ารักรอ แสงพริบพราวราวไฟในทะเลกว้าง แสนอ้างว้างห่างแค่ไหนใจไม่ท้อ กี่คืนฝันกี่วันปีที่รักรอ กระท่อมซอมซ่อผุพังฝังร่างนี้ที่รอรัก ..รอพรานทะเล! ท่ามกลางจันทร์ลอยดวง ดึกดื่นดายเดียว.. นะกระท่อมน้อยเชิงผา ในราตรีหนึ่งที่ระดะดาวพราวพร่างสุกใสแสนใกล้ ราวกับจะเอื้อมคว้าไขว่มาประดับใจได้ พุดพัดชานั่งฟังเสียงคลื่นสะท้อนจากก้อนหินริมฝั่งทะเล ราวกับเหว่ว้าเสียเต็มประดากับการรอคอย..พรานทะเล..ที่พรากไกล.. ก้อนหินได้ยินได้ฟังก็เพียงแค่รับฟัง ดั่งเพื่อนใจปลอบประโลม.. ................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song346.html เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง มัน คลุ้ม คลั่ง ฝัง รอย สวาท ใจ มันซุก มันไซร้ มันซบทรวงทราย แทรก ซึมไม่มีวันวาย มันเคลิ้ม มันคลุก มันเคล้า มิคลาย รสทรายรื่นรมย์ เสียง กระ ซิบ แผ่ว ฟัง หวาน แว่ว พริ้ว ตามเกลียวคลื่น มา เรารัก กันหนา มาหา มาชม คลื่น คอยติดตามเกลียวลม มาร้อย รอยรัก มาทัก คลื่นชม ภิรมย์เพียงฝั่ง ฟัง ซิคลื่น มันละ เมอ ฝาก สวาท เหมือน เธอ ละเมอเพ้อให้ ฟัง เห็น ใจฝั่งบ้างหรือ ยัง ฝั่ง รัก จี รัง เหมือนคลื่น ยืนใจ เสียง คลื่น ซัด ฝั่ง กระ ซิบ สั่ง ฝัง รักตลอด ไป มันซุบ มันซิบ กันชื่นใจ มันซบ มันหนุน จนอุ่นไอ กระซิก กระซี้ กันเรื่อยไป จะรัก กันไว้ ตลอด กาล เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล กระซิบ ว่ารัก ตลอด กาล เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล เสียง กระซิบ กระซิบ ตลอด กาล...
18 มีนาคม 2550 00:01 น. - comment id 672276
..เรนแอบมาฟัง..เสียงกระซิบของเกลียวคลื่น.. อ่อนนุ่ม..และอ่อนโยน.. ดูดิคะ.. เกลียวคลื่น..คุยกัน.. อ่อนโยนในความรู้สึกของเรนด้วยดิคะ.... ..
18 มีนาคม 2550 10:54 น. - comment id 672335
เงี่ยหูฟังหวังยินเสียงสำเนียงคลืน คละครืนครืนจากผืนน้ำที่ฉ่ำใส่ ในส่วนลึกนึกอ่านประสานใจ คล้ายเสียงใครร่ำไห้ร้องนองน้ำตา หวัดดีครับ พี่พุด
18 มีนาคม 2550 20:52 น. - comment id 672532
อยากไปทานข้าว ที่เรือนครัวอยู่ริมทะเล จัง
19 มีนาคม 2550 15:16 น. - comment id 673010
ยิน เสียง เกลียว คลื่น ซัด ฟั่ง ดุจ มนต์ ขลัง ให้ ห่วง หา ความ หลัง ครั้ง เก่า สุด เหว่ ว้า คนึง หา น้ำ ตา ร่วง ริน ลืม สิ้น กลิ่น...เล กลิ่น เก่า เหลือ ใจ กับ เงา ขาด วิ่น เจ็บ ลึก เจ็บ นาน ไม่ ชิน อยาก ลืม สิ้น ใจ ช้ำ น้ำ ตา...เล