อยู่สงัดวัดใจได้ฟังพระ วิริยะสะสมบ่มนิสัย อันหมู่มารราวีกดขี่ใจ เพียงขัดเกลาเราให้ได้พบธรรม ธรรมดา ธรรมดา นี่หนาโลก ! อุปโลกน์โศกสุขรุกกระหน่ำ กวัดแกว่งใจให้ไหวเอนเป็นประจำ พรรณนาพร่ำเพลงลวงบ่วงมายา หลงเวียนว่ายตายเกิด ประเสริฐแท้ ! ทุกข์ดวงแดแพ้มารประหารฆ่า ร้อยเลห์กลจนใจไร้สัจจา เสียเวลามามากลำบากตรม เนื่องเพราะเจ้าคือเงาข้าพญามาร ! สมัครสมานนานมาพาขื่นขม เจ้าคือข้า ข้าคือเจ้า ร้าวระบม ข้านิยมในเจ้าจึ่งเฝ้าเวียน......
10 มีนาคม 2550 14:50 น. - comment id 668461
อยู่ที่จิตค่ะ
10 มีนาคม 2550 19:15 น. - comment id 668518
ไม่ได้ไปวัดเกือบแปดปีแล้ว เฮ้อ
10 มีนาคม 2550 19:15 น. - comment id 668519
10 มีนาคม 2550 19:41 น. - comment id 668528
อย่าหลงบ่วงมารเลยค่ะ..มานั่งสมาธิกันเถอะค่ะ.. เสียงระฆังวังเวงวิเวกแว่ว แก๊ง.แก๊ง.แผ่วจากหนใดที่ไหนหนอ วิหกร้องขันคูกู่เสียงคลอ หอมละออกลิ่นมาลีคลี่ดอกบาน จิตวิญญาณลอยวนอยู่หนไหน โปรดจงช่วยกลับมาคืนผสาน เป็นหนึ่งเดียวกับเรือนร่างดั่งต้องการ อย่าซมซานเป็นกายทิพย์พเนจร แสงแห่งธรรมสาดส่องทั่วท้องหล้า ต่างจรมาน้อมรับฟังคำสั่งสอน กิเลสที่กลางฤทัยเริ่มคลายคลอน พนมกรน้อมรับภควันต์ เสียงธรรมะสะวะนะประสานก้อง ดั่งเสียงร้องบรรเลงเพลงสวรรค์ ขับกล่อมมวลเวไนยสารพัน ให้ยึดมั่นในศรัทธาค่าความดี จักษุได้รู้เห็นเป็นแก่นสาร ถึงความเจ็บปวดทรมานความบัดสี เห็นการเกิดแก่เจ็บตายบรรดามี ทั้งโลกีย์ตัญหาน่าเศร้าใจ ความดีไม่เคยทำเลยสักนิด ครั้นชีวิตใกล้จะลับดับสลาย กระเสือกกระสนดิ้นรนหนีความตาย เริ่มเห็นพระรำไรในสันดาน โสตสองข้างควรรับสดับบ้าง ทุกสิ่งอย่างล้วนนิจจังตามสังขาร ไม่มั่นคงจีรังยั่งยืนนาน ต้องแตกดับตามกาลกำหนดมา จะต้องการสิ่งใดอะไรเล่า เรามาเปล่าก็ไปเปล่านั่นแหละหนา สร้างความดีประดับไว้ในโลกา ดั่งผกาหอมระรินทั่วถิ่นไพร..
11 มีนาคม 2550 15:53 น. - comment id 668692
แสงแห่งธรรม ย่อมชนะอธรรมเสมอ....
15 มีนาคม 2550 17:38 น. - comment id 671282
แหม...เพื่อนๆน่ารักทุกคนเลย...โดยเฉพาะความเห็นที่ 4 ยิ่งสุดน่ารัก.... ธรรมทั้งหลายคล้ายพ่วงแพแค่พาหนะ เพียงลดละพาข้ามวัฏสงสาร เมื่อถึงฝั่งวางปล่อยค่อยนิพพาน มัวยึดยานมั่นหมายคล้ายผิดธรรม ทำความดีดีกว่าจะทำบาป เขาแช่งสาปหยาบช้าอย่าถลำ แต่บุญบาปทาบทางสร้างรอยกรรม คอยหนุนนำทำให้เฝ้าว่ายวน เหตุเพราะใจคล้ายวานรสั่งสอนยาก จึงลำบากตรากตรำจำฝึกฝน มีสมาธิสติรู้คู่ตัวตน หมั่นฝึกฝนจนเกิดเลิศปัญญา หากแต่ใจไม่ยึดมั่นในขันธ์ห้า ไร้อัตตาทิฐิวิจิกิจฉา จิตแจ่มแจ้งแถลงไขในตถตา มัวหลับตาสมาธิมิบังควร.......