สุดขอบฟ้า มองฟากฟ้าสายัณห์ประหวั่นคิด แลชีวิตจิตกระหวัดดั่งพลัดฝัน สัณห์สิ่งสร้างวางไว้ในกลางวัน ดุจวิมานอันบรรเจิดงามเลิศวิไล แต่ต้องมาลาลับเหมือนดับแสง หยุดการแสดงแฝงสิ่งอิงสดใส ครรลองปองสองสิ่งที่สิงหทัย สิ่งฝากไว้ไกลลับดั่งดับตะวัน แนวท้องทุ่งปรุงวิจิตรติดขอบฟ้า เดือนดาราผงาดส่องต้องโศกศัลย์ นึกถึงวันพลันมีรักต้องจากกัน นำใจฉันห่างหายคล้ายดวงเดือน ที่แยกตนหม่นหมางระหว่างเสี้ยว เงาลดเลี้ยวแปรเปลี่ยนแล้วเวียนเฉือน สิ่งกระจ่างร้างลงแต่คงเยือน แม้นแปดเปื้อนเตือนไว้สุดให้จำ อดีตกาลผ่านพ้นดุจฝนทั่ง ขอบฟ้ายังคงสภาพสร้างภาพซ้ำ วนเวียนกลมรมไว้คล้ายเวรกรรม เข้ากระหน่ำซ้ำซากช่างยากคลาย หยุดแล้วหนอพอกันทีสิ่งที่เกิด แม้นงามเลิศประเสริฐศรีมีที่ไหน โลกแปรเปลี่ยนเวียนวกตกภายใน จะฝากไว้ให้เป็นรอยร้อยวนเวียน ชีวิตนี้มีอะไรใครรู้บ้าง มีทั้งร้างสร้างสิ่งทุกข์สุขขีดเขียน เวียนกลับสลับไว้ดุจคล้ายเทียน ที่จะเพียรส่องสว่างต้องร้างลา ดุจความรักตักไว้ต้องคลายลับ ท้องฟ้ากลับเปลี่ยนสีที่เลิศหรา ขอบฟ้าคงหลงเหลือเจือจินตนา สร้างเวลามายาไว้สิ่งได้เยือน. *** แก้วประเสริฐ. ***
26 กุมภาพันธ์ 2550 09:55 น. - comment id 661311
คุณ ครูพิม จินตนาการของคนเราย่อมมีเสมอตั้งแต่ จำความได้ก็เกิดสุขทุกข์ปะปนในความฝันเสมอมา แต่สุดท้ายก็ย่อมลงตัวคือการสิ้นสุดแต่ไม่หมาย ความว่าตายนะครับ อุปมาดั่งขึ้นเขาสูงเมื่อขึ้นสูง แล้วจะอยู่ได้ไม่นานก็ย่อมจะต้องลงมายังพื้นเสมอ นี่แหละคือชีวิตที่หมุนเปลี่ยนเวียนไปแต่นั่นก็ต้อง แล้วแต่สิ่งที่เคยสร้างไว้ทั้งในปัจจุบันและอดีตเป็น ตัวชักใยอยู่ครับ ขอบคุณคุณครูมากนะครับขอบคุณยิ่ง แก้วประเสริฐ.
25 กุมภาพันธ์ 2550 09:48 น. - comment id 662409
สุดขอบฟ้าแสนไกลใช่ขีดคั่น จงบุกบั่นมั่นคงมิสงสัย ทางข้างหน้าไขว่คว้าอาจยาวไกล อยู่ที่ใจ..ของเรา..อย่าเศร้าเลย ไกลสุดตาฟ้ากว้างหนทางสู้ ยังคงอยู่ความจริงสิ่งเฉลย หยุดที่ใจ..ปรับจิตมิ่งมิตรเอย ดั่งที่เคยหวังไว้สมใจปอง....ฯ แวะมาเยี่ยมเยือนค่ะ...ห่างหายไปนานพอสมควร...ยังระลึกถึงเสมอค่ะ..ดูแลสุขภาพนะคะ....
25 กุมภาพันธ์ 2550 10:20 น. - comment id 662416
ฟ้าเปลี่ยนสีเพราะมีเมฆมากั้น สายลมพัดเมฆผ่านฟ้าสดใส แสงสว่างสาดส่องศิวิไล งามสดใสดังเดิมไม่เปลี่ยนแปร แต่ชีวิตผกผันหวั่นวิตก เดี๋ยวระกำช้ำอกเดี๋ยวฝ่ายแพ้ ทุกข์เรื่องนั้นช้ำคนมารังแก ยังอ่อนแอแพ้โรคอยู่เนืองเนือง ยึดพระธรรมค้ำจิตไว้ให้มั่น ยั่งยืนฝันฟ้าหม่นยังฟุ้งเฟื่อง จิตงดงามแสนสุขไว้ย้ำเตือน อรุณสาดประเทืองสุขหทัย รักษาสุขภาพด้วยครับ
25 กุมภาพันธ์ 2550 11:52 น. - comment id 662432
มีอะไรในชีวิตพินิจแล้ว ไม่มีแววจะได้ในคำตอบ ผ่านผิดถูกผูกพันทั้งรักชอบ จะสืบสอบเท่าไรไม่จัดเจน รักษาสุขภาพนะคะคุณลุง
25 กุมภาพันธ์ 2550 12:19 น. - comment id 662460
มีอะไรในชีวิตที่คิดฝัน มัอะไรมาแบ่งปันสุขสัตน์เหลือ มีความรักห่วงหามาจุนเจือ แต่สุดท้ายก็ไม่เหลือ ซึ่งผู้ใด ดูแลสุขภาพนะคะ
25 กุมภาพันธ์ 2550 12:22 น. - comment id 662462
ขอบฟ้าอยู่ทุกที่ ของฟ้า แค่มองคนละมุมก็จะเห็นครับ เหมือนอาทิตย์ มองที่ไหนก็เห็น
25 กุมภาพันธ์ 2550 13:00 น. - comment id 662479
25 กุมภาพันธ์ 2550 16:12 น. - comment id 662506
ฟ้าเปลี่ยนผันวันคืนฝืนยากยิ่ง สรรพสิ่งไม่จีรังดั่งความฝัน เป็นเช่นนี้นมนานแต่ปางบรรพ์ ตราบชีวันสิ้นสลายมิกลายแปร... สิ่งที่แน่นอนคือความไม่แน่นอน
25 กุมภาพันธ์ 2550 22:44 น. - comment id 662554
โลกเวียนวน ระคนทุกข์ ปนสุขเศร้า อยู่ที่เรา ยอมรับ ปรับได้ไหม เส้นขอบฟ้า แสนกว้าง อยู่ห่างไกล ไม่มีใคร ไปถึง ซึ่งเส้นนั้น เพียงมองกรอบ รอบกาย ที่ใกล้ชิด พบมวลมิตร ที่อยู่เคียง เพียงฝากั้น เหม่อมองสิ่ง ห่างไกล ทำไมกัน เพราะมีฝัน อยู่ข้างกาย มากมายเอย... สวัสดีค่ะคุณลุงแก้วประเสริฐ...คุณลุงสบายดีนะคะ..อย่าถือสากลอน ป. นะ กลอนพาไปค่ะ
25 กุมภาพันธ์ 2550 23:02 น. - comment id 662568
สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดีนะคะ
25 กุมภาพันธ์ 2550 23:13 น. - comment id 662576
เพราะสุดขอบฟ้าที่เห็นเป็นเช่นดั่งชีวิต
26 กุมภาพันธ์ 2550 06:14 น. - comment id 662616
สวัสดียามเช้า กาลเวลาเป็นผู้สร้าง หรือทำลาย เสมอมา.... แต่ธรรมที่อยู่ในใจ.... กาลเวลาแม้จะนานเพียงใด.... ก็ไม่สามารถมาอยู่เหนือธรรมได้.... "ธรรมอยู่เหนือขอบของกาลเวลา"
26 กุมภาพันธ์ 2550 08:54 น. - comment id 662639
สุดขอบฟ้า ห่างไกล อยากไปถึง พอได้ซึ่ง ที่หมาย ก็คลายฝัน มิมีสิ่ง อันใด ให้ชมกัน เพราะสิ่งนั้น ว่างเปล่า เหมือนเงาตัว.... ไม่มีอะไรเลยในครับ ในฟากฟ้าไกล ที่เราปรารถนาอยากจะไป นอกจากความว่างเปล่า นะครับพี่แก้วฯ
26 กุมภาพันธ์ 2550 09:40 น. - comment id 662660
คุณ ราชิกาเพื่อนรัก ผมเองไม่ค่อยสบายบ่อยๆสมองเลยเฉื่อยชา ไป จนทำให้นึกไม่ออก เช่นกันครับคุณเป็น คนที่ผมระลึกถึงเสมอๆไม่เคยลืมเลือนไปจาก ใจผมได้หรอกนอกเสียจากจะสิ้นลมไปเท่านั้น เองแหละครับ ผมลองรักใครแล้วมักจะรักเขา ตลอดไป อย่างเช่นเวปฯนี้เช่นกันทั้งๆที่มีตั้ง หลายเวปฯที่บอกให้ผมไปส่งผลงานผมก็ยัง ทำบ้างบางครั้งเพราะความเกรงใจกันและกัน แต่ที่สุดก็จะมาลงที่เวปฯนี้เสมอๆ เช่นผมเล่น อยู่หน้ากลอนตามใจคุณตั้งแต่เล่นครั้งแรก ก็ส่งอยู่เฉพาะหน้านี้ตลอดกาลครับ ขอบคุณยิ่ง ในความห่วงใยผมเสมอมาครับแฝดเพื่อนที่รัก แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 09:46 น. - comment id 662662
คุณ ติดตามเสมอครับ ครับพระธรรมเป็นสิ่ยึดน้อมนำจิตใจของเรา ให้อยู่ในกรอบแห่งความดีครับ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 09:50 น. - comment id 662664
คุณ เพียงพลิ้ว หนูกานต์โลกเรานี้มีอยู่สองขั้วหากมองเห็น คือขั้วเหนือและขั้วใต้ และส่วนที่สำคัญคือขั้วแห่ง ความดีคือขั้วบวกกับขั้วแห่งความชั่วคือขั้วลบ หาก เราทำจิตใจเราให้อยู่กึ่งกลางได้ก็จะเป็นสูญญกาศ นี่คือความคิดอ่านของผมนะหลานรักแต่มักจะถูก กระแสร์ขั้วดึงไปเสียมากกว่าเพราะจิตใจเรามัก จะไม่เป็นกลางจ๊ะ รักหลานเสมอ แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 09:58 น. - comment id 662666
คุณ อัสสุ การมองของคนเรานั้นย่อมแตกต่างกันไปเช่น ดวงอาทิตย์จันทร์หรือดารา หากส่องแสงแล้วย่อม มองได้แตกต่างกัน ความชั่วดีก็เหมือนกัน หากเรา อยู่ในสถานะที่เหมือนๆกันย่อมมองคล้ายๆกันหาก แตกต่างสถานะย่อมมีเมฆบดบังกันมากหรือน้อยครับ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 10:01 น. - comment id 662668
คุณ nig ขอบคุณมากในกุหลาบแดงสื่อแห่งความรัก เมตตาครับขอบคุณยิ่ง แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 10:04 น. - comment id 662669
คุณ ฤกษ์ฯ ขอบคุณพ่อรูปหล่อนะครับที่แวะมาเยี่ยมคน รูปร่างอัปลักษณ์เช่นผม ตอนนี้ฟ้าเปลียนสีชีวีของ ผมเสมอๆครับ ที่แน่ๆคือเปลี่ยนสภาพร่างกายไป เสียเกือบหมดแล้วครับ เพราะวิ่งมาเหนื่อยนาน มองเห็นเส้นชัยแล้วครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 10:15 น. - comment id 662673
คุณ ปราณรวี หามิได้ครับคุณปราณกลอนคุณไพเราะมาก ทั้งถูกต้องตามหลักทุกประการส่วนการดำเนินนั้น ย่อมแตกต่างกันแต่ละบุคคลไม่ผิดฉันทลักษณ์ที่ วางไว้ย่อมถือว่าถูกต้องหมดครับ หากเราไม่รู้วิธี การดำเนินให้แตกต่างบ้างดำเนินไปตามที่วางไว้ กลอนย่อมจะเหมือนๆกันหมดความเจริญของการ เล่นกลอนย่อมจะสูญหายไปคุณดูอย่างฝรั่งซิครับ กลอนโบราณกับสมัยใหม่แตกต่างกันอย่างหน้ามือ เป็นหลังมือไปแต่เขาก็ดำรงไว้ได้รับความนิยม เสมอแต่จะขาดไปคือความไพเราะเพราะเน้น แต่เนื้อความมากไปครับ กลอนของเราก็เหมือน กันแต่ยังรักษาไว้ซึ่งครูบาอาจารย์วางไว้จึงวน อยู่แบบนี้แหละ ไม่กี่ปีนี้มีกลอนอยู่สองประเภท คือกลอนเก่ากับกลอนใหม่ที่เขาเรียกว่ากลอน เปล่ายังไงครับ เพราะผู้ริเริ่มอยู่ถิ่นภาคเหนือ ดำเนินไปในทางฝรั่งผสมผสานกับจีนเข้ามา สู่ในไทยยังได้รับความนิยมแต่เพียงเล็กน้อย ไม่ยั่งยืนไปจึงผันแปรไปเป็นเพลงใหม่ๆหมด ครับ นี่คือความคิดของผมคนแก่นะครับ แต่ เราควรอนุรักษ์ของเก่าไว้ให้มากจะแปรเปลี่ยน ไปเป็นสิ่งที่ดีแต่ต้องไม่ผิดฉันทลักษณ์นั่น แหละคือสิ่งดีงามครับ ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา ไว้ครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 10:17 น. - comment id 662674
คุณ นางฟ้าซาตาน ไม่ค่อยสบายครับ แต่ยังรักษาเท่าที่จะรักษา ได้ครับ เหมือนผมแหละที่หายไปนานแต่ไม่ลืม ครับขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 10:19 น. - comment id 662675
คุณ เปเป้ซังฯ ครับทุกๆคนย่อมอยากไปสุดปลายฟ้ากันทุกคน แต่สิ่งนั้นคือสิ่งในความปรารถนาจะได้หรือไม่ย่อม แล้วแต่ความฝันของแต่ละคนเปรียบคล้ายดั่งชีวิต คนเราครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 10:23 น. - comment id 662677
คุณ วิภาวดี/บิ๊ก ขอบคุณที่ให้ชื่อเล่นมาครับ ถูกต้องคุณ ธรรมย่อมอยู่เหนือสิ่งอื่นใดแม้แต่กาลเวลา แต่ ทว่าใครบ้างล่ะที่จะซึ้งถึงแก่นอันแท้จริงได้ เหตุใด รึก็คือตัณหาคือความอยากเป็นกำแพงกั้นอย่าง มหึมายากจะฝ่าทะลุออกไปครับ หากตัดเจ้าตัวนี้ ได้กาลเวลาย่อมสิ้นสุดการเดินทางของมันครับ ขอบคุณมากครับ
26 กุมภาพันธ์ 2550 10:26 น. - comment id 662679
คุณ เบรฟฮาร์ท ครับความใฝ่ฝันของคนเราย่อมเปรียบเสมือน เข้าสู่ขอบฟ้าไกล ขอบฟ้านั้นเปรียบดั่งจินตนาการ ของมวลมนุษย์ครับได้ไปได้ใกล้แค่ไหนย่อมอยู่ ที่ความพยายามหรือทางพระว่าวิริยะ ขันติครับ ขอบคุณมากครับในความรักที่มีให้ผมเสมอมาครับ แก้วประเสริฐ.
26 กุมภาพันธ์ 2550 13:16 น. - comment id 662784
แวะมาชมผลงานครับ.........
26 กุมภาพันธ์ 2550 14:04 น. - comment id 662809
ลุงแก้วจ๋า พึ่งตามมาทันลุงแก้วค่ะ ฝีมือไม่มีตกเลยนะคะ คิดถึงค่ะ
26 กุมภาพันธ์ 2550 16:50 น. - comment id 662873
แวะมา "สวัสดี" ค่ะคุณลุงแก้ว.....
26 กุมภาพันธ์ 2550 16:51 น. - comment id 662875
มองธรรมชาติ ย่อมเห็นธรรมค่ะ :)
26 กุมภาพันธ์ 2550 23:48 น. - comment id 663010
ตอนนี้มืดมิดค่ะ ไม่เห็นเส้นขอบฟ้าเลย ง่วงด้วยดิคะ
27 กุมภาพันธ์ 2550 11:07 น. - comment id 663186
ึคุณ ก่องกิก ขอขอบคุณมากที่กรุณาผ่านมาแวะชมผลงาน ของผมซึ่งเป็นผลงานตามอารมณ์มากไม่เน้นไปใน ทางอื่นใดๆสร้างความเดือดร้อนนอกจากตัวผมเอง ครับ ซึ่งเป็นผลงานแสนจะธรรมดาๆครับขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
27 กุมภาพันธ์ 2550 11:12 น. - comment id 663188
คุณ sun strom สวัสดีครับคุณมัดหมี่ เราไม่ได้เจอกันนาน แสนนานแล้วนะครับ เมื่อเห็นคุณผมดีใจมากที่ เพื่อนเก่าๆยังรำลึกนึกถึงเสมอ ใช่แล้วระยะนี้ ผมห่างเหินไปนานเหมือนกันเกี่ยวกับสุขภาพ แต่นับวันจะถอยหลังดั่งนาฬิกาเสียแล้วล่ะ แต่ ช่างเถอะชีวิตก็คือชีวิตย่อมเปลี่ยนสภาพไป ฝีมือหรือก็แสนจะธรรมดาเพราะจะดีไปกว่านี้ คงไม่ได้แล้วมีแต่เสื่อมถอยไปตามกาลเวลาครับ แต่ผมหาคำนึงไม่เพียงแต่คิดว่าเป็นสิ่งที่ผมใช้ ระบายอารมณ์ในยามอัดอั้นตันใจเท่านั้นครับ หากว่างๆแวะมาเยี่ยมเพื่อนเก่าด้วยนะครับ ขอบคุณอย่างลึกซึ้งรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 กุมภาพันธ์ 2550 11:15 น. - comment id 663191
คุณ whitelily สวัสดีครับคุณ whitelilyผู้น่ารัก คนแก่ดีใจ ยิ่งที่ยังได้รับน้ำใจเหล่านี้ เป็นสิ่งประโลมใจผม ดีกว่าสิ่งที่เป็นวัตถุเสียอีก เพื่อนย่อมเป็นพลังใจ ที่ให้ก่อเกิดพลังงานอย่างหนึ่ง ขอบคุณมากสวัสดี ครับ แก้วประเสริฐ.
27 กุมภาพันธ์ 2550 11:21 น. - comment id 663193
คุณ กุ้งหนามแดง เป็นความคิดเห็นที่ถูกต้องที่สุดครับกุ้งเพื่อนรัก ศาสนาทุกๆศาสนาย่อมมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น แม้กระทั่งศาสนาพุทธที่เราเคารพนับถือศรัทธา ก็มาจากธรรมชาติ ดังความบทหนึ่งในพระไตรปิฏก เคยลงไว้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยให้สาวกของ พระองค์สังเกตุอาการเคลื่อนไหวของใบไม้แล้วน้อม จิตเข้าสู่ร่างกายเราเพื่อค้นหาธรรม อันได้แก่ อนิจจัง ทุกขังและอนัตตา เป็นเครื่องปลงจิตให้ อ่อนลงเพื่อใช้ในการตัด โลภะ โทสะ โมหะ เมื่อ จิตสามารถรู้แจ้งเห็นจริงก็สามารถตัดกิเลสทั้ง อ่อนและแข็งได้ นี่ผมอธิบายตามความนะครับ ไม่สามารถนำมาลงทั้งหมดได้ครับ ขอบคุณ เพื่อนรักมาก แก้วประเสริฐ.
27 กุมภาพันธ์ 2550 13:06 น. - comment id 663250
คุณ เฌอมาลย์ ก็เจ้าหญิงมองกลางคืนก็แบบนี้แหละจ๊ะ หากไปแถวท้องทุ่งหรือแถวทะเลก็จะเห็นจ๊ะ อีกอย่างที่เห็นคือเห็นภายในใจเรา อิอิ แก้วประเสริฐ.