- วันทองสองใจ-

-ร้อยแปดพันเก้า-

image040.gif				
comments powered by Disqus
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    6 กุมภาพันธ์ 2550 09:04 น. - comment id 653419

    นางพิมเปลี่ยนชื่อมาเป็นวันทอง ไม่ใช่เพราะเธอสองใจ เป็นเพราะไม่สบายและหมอดูทำนายทายทักให้เปลี่ยน เป็นวันทอง 
    
    ถ้าอ่านเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน แล้วจะเห็นว่า นางวันทองไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงสองผัวอย่างที่เข้าใจในปัจจุบัน กว่านางวันทองจะยอมขุนช้าง เธอถูกบังคับ ตบตีจากผู้เป็นแม่ และที่สำคัญก็คือ เธอได้ข่าว(ลวง) ว่าขุนแผนตายแล้ว แต่จริง ๆ ขุนแผนอยู่กับนางลาวทอง
    นางวันทองตกลงอยู่กับขุนช้างเพราะเชื่อว่า สามีตาย ครับ
    
    นางวันทอง เป็นหญิงที่มั่นในรัก แม้ขุนช้างนอนหลับอยู่ข้างกาย ก็มิวายคิดคนึงถึง วิญญาณของขุนแผน แต่แม่เจ้าไม่รู้ว่า ขุนแผนนอนหลับอยู่ข้างหญิงอื่น 
    
    เออแน่ะ..แล้วยังมีอีก ที่มักจะเอ่ยว่า ขุนแผนดีกว่าวันทองตรงไหน
    
    อยากให้ผู้คนเข้าใจนางวันทองมากขึ้น และเลิกเรียกหญิงสองผัว สองใจ ว่า "วันทอง" เสียที เพราะนางวันทองน่าสงสารมาก 
    
    
    อยากเขียน ยอยศวันทอง  นะ แต่ยังเขียนไม่ได้เลยครับ
  • น้ำนมราชสีห์

    6 กุมภาพันธ์ 2550 11:11 น. - comment id 653460

    เรื่องวันทองสองใจนั้นเป็นเรื่องที่หลายคนพยายามถกเถียงกันมานาน ส่วนมากผู้หญิงมักจะเข้าใจวันทองดี( ผู้ชายบางคนก็เข้าใจนะ อ.ศักดา เป็นต้น) ว่าทำไมถึงกล่าวคำว่า " แล้วแต่พระองค์เถิดเพคะ" ออกไป คำว่าวันทองสองใจนั้น เป็นคำบริภาษของพระพันวษา ที่มีเหตุจากคำพูดของวันทองข้างต้นนั้นเอง 
    จริง ๆ แล้วดูผิวเผินก็เหมือนกับวันทองสองใจเหมือนกัน ที่เลือกไม่ได้ว่าจะอยู่กับใครดี แต่มองในเชิงลึกการที่วันทองตัดสินใจไม่ได้นั้น มันมีเหตุ มีปัจจัยมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ทั้งเรื่องการเลี้ยงดู ความรัก ความผูกพัน ความประหม่าตื่นเต้น ที่เข้ามารุกเร้านางพร้อม ๆ กับปัญหาที่อยู่ตรงหน้า ( ปัญหาไม่ใช่เล็ก ๆ ลองนึกว่าถ้าเป็นตัวเราที่ต้องตัดสินใจต่อหน้าพระพักตร์ และเป็นการเข้าเฝ้าครั้งแรกของชีวิตอีกด้วย สติสตังคงไม่จะเต็มสักเท่าไร) 
    ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้จะสนับสนุนฝ่ายวันทองแต่อย่างใด แต่ต้องการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้ว อยากให้ไปอ่านเองดีกว่า
    
    สิ่งที่น่าสงสารที่สุดของวันทองคือ เธอเป็นผู้หญิงที่ถูกกระทำตลอด ตลอดจริง และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเหตุให้วันทองตัดสินใจไม่ได้ เพราะไม่เคยตัดสินใจเลย 
    
    ขุนช้างขุนแผนเป็นวรรณคดีเล่มเดียว ที่มีลักษณะเป็นสัจนิยม และยังเป็นเรื่องของชาวบ้านอีกด้วย ความงดงามของขนบประเพณี ความเชื่อ ความรัก ความดุเด็ดเผ็ดมันของเนื้อเรื่อง ความสมจริง สุนทรียภาพ จึงทำให้ขุนช้างขุนแผนมีเสน่ห์ในตัวเองอย่างน่าพิศวง แม้จะผ่านพิภพมาหลายสมัยแล้วก็ตาม
    ( ตอนประหารวันทอง ได้อ่านแล้ว....... สุด ๆ)
    
    ดังนั้น หากเกิดเป็นคนไทย ไม่ควรละเลยเรื่องนี้ไป มีเวลาอ่านได้อ่าน .............เชื่อผมเถอะ แล้วคุณจะไม่เสียใจ
    ( เหมือนโฆษณาชวนเชื่อเลย )9.gif
    ด้วยความปราถนาดี
  • แมวคราว

    6 กุมภาพันธ์ 2550 11:15 น. - comment id 653463

    ผมมาชูจั๊กกะแร้เห็นด้วยอีกคนครับ...
    วันทองไม่ได้สองใจอย่างที่ว่า..
    เพราะแม่ของวันทองเห้นเงินตาโตอยากได้ขุนช้างมาเป็นลูกเขยจนตัวสั่นต่างหากเล่าครับ  
    อีตาขุนช้างก็เจ้าเล่ห์เพทุบาย..หลอกลวงวันทองต่างๆนาๆ..สุดท้ายก็เอามุ้งพันและข่มขืน..ไม่อยากจะพูด..ลองไปหาอ่านเอาเองนะครับและเลิกเข้าใจนางวันทองผิดๆซะที...
    ดีใจที่มีคนเข้าใจวันทองเหมือนผมอีกคน..
    เลยรีบเข้ามาแจมด่วนครับ....46.gif46.gif36.gif36.gif
  • ดอกบัว

    6 กุมภาพันธ์ 2550 14:39 น. - comment id 653557

    พี่พันเก้าค่ะ 
    บัวมาอ่านสุภาพบุรุษ พูดถึงวันทองค่ะ
    ต่างจิตต่างใจใครจะคิดนะค่ะ
    อิ อิ อิ36.gif46.gif
  • ศรรกรา

    6 กุมภาพันธ์ 2550 15:08 น. - comment id 653569

    เขานิยาม  วันทอง  ว่าสองจิต
    กล่าวหล่อนผิด  เป็นจำเลย  ดั่งเอ่ยว่า
    ด้วยขุนแผน  และขุนช้าง  ยื้อแย่งมา
    ไม่เคยถาม  ความปรารถนา  ที่นางมี
    หล่อนมีใจ  ให้ขุนแผน  แสนสวาท
    แต่มาพลาด  เพราะขุนช้าง  ทำบัดสี
    กอปรกับที่  ขุนแผน  ไม่ภักดี
    เลยเป็นที่  ครหา  ว่านางเลว
  • เฌอมาลย์

    6 กุมภาพันธ์ 2550 20:40 น. - comment id 653804

    สงสารนางวันทองมากกว่าใครเลยค่ะในเรื่องนี้ เฮ้อ เวลาขุนแผนมีหลายเมียมีแต่คนยกย่อง แปลกแท้ๆ48.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    6 กุมภาพันธ์ 2550 21:32 น. - comment id 653826

    ได้สาระดีครับ
    ขอบคุณมาก
  • ครูพิม

    7 กุมภาพันธ์ 2550 08:04 น. - comment id 653896

    36.gif36.gif  แด่วันทอง
    หญิงที่น่าสงสาร
    หญิงที่ไม่มีโอกาสเลือก
    หญิงที่มีใจรักมั่นคง
    หญิง..ที่ควรค่าแก่การยอยศ..ของนาง
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    7 กุมภาพันธ์ 2550 08:48 น. - comment id 653910

    สวัสดีครับ คุณน้ำนมราชสีห์
    
    
    ผมสนใจอย่างหนึ่งว่า เสภาขุนช้างขุนแผนเข้าลักษณะสัจนิยมอย่างไร 
    
    การอบรมเลี้ยงดู ชาติกำเนิด และอิทธิพลรอบข้างนั้นส่งผลต่อนางอย่างไร อาทิ
    
    อิทธิพลที่นางได้รับจากชาติกำเนิด คือ การถ่ายทอดลักษณะอารมณ์ทางพันธุกรรมมีส่วนทำให้นาง เป็นบุคคลเจ้าอารมณ์และแสดงพฤติกรรมในลักษณะที่ขาดสติและขาดการไตร่ตรองให้รอบคอบ จน เป็นสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้นางตกเป็นภรรยาของขุนแผน ก่อนการแต่งงานที่ถูกต้องตามประ เพณีนิยม 
    ในเรื่องของการอบรมเลี้ยงดูนั้นพบว่านางศรีประจันอบรมนางวันทองในลักษณะที่ไม่คงเส้นคงวา กล่าวคือ บางครั้งให้ความรักมากเกินไป บางครั้งก็เข้มงวดเกินไป รวมทั้งการอบรมให้เชื่อฟังคำ สั่งของผู้ใหญ่ และอบรมเลี้ยงดูแบบให้การพึ่งพา ส่งผลให้นางวันทองเป็นบุคคลที่ขาดความเชื่อ มั่นในตนเอง ยอมรับสถานการณ์ต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตซึ่งเกิดจากการกำหนดของผู้อื่น เช่น แม่ สามี และลูกรวมทั้งเป็นสาเหตุทำให้นางถูกตัดสินประหารชีวิต เนื่องจากไม่สามารถจะตัดสินใจ เลือกอยู่กับสามีคนหนึ่งคนใดได้ 
    
    ในการครองเรือนของสังคมไทยสมัยโบราณยึดถือว่าสตรีจะต้อง มีคุณสมบัติของกุลสตรีที่เพียงพร้อมด้วยกิริยามารยาท มีความสามารถในกิจการบ้านเรื่อง ประพฤติ ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบประเพณีและศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่มีคู่ครองแล้วนั้นจะต้องมีความ ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อสามี ไม่ประพฤตินอกใจสามี ถ้าสตรีใดประพฤติปฏิบัติตนไปในทางตรงกันข้าม ก็จะถือว่าเป็นเรื่องเสียหายที่ร้ายแรง ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นที่ยึดถือของสตรีไทยตลอดมา
    
    เหมือนคำกล่าวที่ว่า มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน ไม่ว่า จะอดีตหรือปัจจุบัน ค่านิยมเหล่านี้ก็ยังไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเรื่องรักนวลสงวนตัว อย่าชิงสุกก่อนห่าม ซึ่งถ้าเรามีลูกสาว ก็คงจะต้องอบรมไปในทำนองเดียวกัน แม้แต่คำเปรียบ ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ก็ยังพูดไปถึงชาติตระกูลอยู่ดี จนกระทั่งมีคำว่า เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก นั่นแหละครับ ยังไงก็เสียกับเสีย
    
    แต่วิถีเด็กหญิงในปัจจุบัน ถ้าเกิดกล่าวหาว่า เธอมีพฤติกรรม"ใจง่าย "ก็อาจจะโดนตอกหน้าหงายว่า ผมไปงมโข่งอยู่ที่ไหน ไม่เคยได้ยินหรือคำว่า " สิทธิเสรีภาพทางเพศ "ว่าเข้าไปนั่น
    
    ดังนั้น การยกอุทาหรณ์เปรียบเทียบผู้หญิงที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อสามีหรือต่อชายคนรัก ชื่อของนางวันทองจะถูกยกขึ้นเป็นตัวอย่างอยู่เสมอ ทั้งนี้เนื่องมาจากพฤติกรรมของนางวันทอง  เป็นที่ยอมรับในสังคมแล้ว คือตัวอย่างที่สตรีทั้งหมายไม่สมควรนำมาเป็นแบบอย่าง
    
    นางวันทองเป็นคนสวยมาก  บางคราวก็ปากร้ายแบบสุด ๆ เมื่อคราวด่านางลาวทอง แต่เรื่องแบบนี้ เคยคิดเหมือนกันว่า สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงได้ร้ายสุด ๆ ก็เหตุเนื่องจากพฤติกรรมของฝ่ายชายด้วย ผมไม่ได้เข้าข้างนางวันทองจนไม่ลืมหูลืมตานะครับ 
    
    บางครั้งการตัดสินใจอะไรต่อมิอะไรต่อหน้าพระพักตร์ เธอก็จำต้องตอบไปอย่างนั้น เป็นหญิงที่ถูกกระทำตลอดเรื่อง ไม่มีแม้แต่การตัดสินใจอะไรเองได้ เช่นที่คุณน้ำนมราชสีห์ยกตัวอย่างมา
    
    เชื่อมกับยุคสมัย หญิงเริ่มมีเสรีภาพมากขึ้น แม้แต่การคบชู้สู่ชาย จะไปเป็นที่ยอมรับ( หรือไม่) แต่เราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะประณามใครเช่นกัน แต่ในเรื่องความเหมาะสมของแต่ละครอบครัวหนึ่ง ผมยังนิยม ผัวเดียวเมียเดียวนะ เพราะมันไม่นำพาซึ่งปัญหาใด ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องมีการเคารพและให้เกียรติกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง  เพราะมองเห็นพื้นฐานของการสร้างทัศนคติที่ดีในการอยู่ร่วมกับคนอื่น
    
    อย่างไรก็ตาม บทพรรณนาธรรมชาติของเสภาขุนช้างขุนแผน ก็แสดงฝีมืออันประณีตของกวีในการเลือกสรรคำมาฉายให้เห็นจินตภาพของเนินผา และชะง่อนเขาอย่างละเอียดลออ  คำที่ใช้ก็สื่อมโนภาพได้เยี่ยมยอด
    
    การเปรียบต่าง เช่นการเอาจิตภาพ ข้อคิดเห็นหรือทั้งสองอย่างที่ต่างกันหรือตรงข้ามกันมาเข้าฉาก ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้น ก็มีหลายต่อหลายบท ที่เราจำได้เมื่อเรียนก็เช่น
    
    เสียแรงรูปงามนามก็เพราะ
    ละมุนเหมาะใจชั่วนี้เหลือแสน
    ที่ดีดีสิ้นในดินแดน
    ที่ชั่วเล่าใครจะแม้นก็ไม่มี
    
    ผมยังมองเห็นว่า วรรณคดีเล่มนี้ เรื่องนี้ คนไทยควรอ่านนะครับ ถ้ามีเวลา ผมไม่เคยเสียเวลา หรือเสียใจในการอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเรื่องใด เล่มใด มันมีแต่ได้กับได้น่ะครับ ถ้อยสุนทรียภาพจากคำประพันธ์เหล่านั้น บางครั้งก็อัศจรรย์ใจเหลือเกินว่าแต่ง และผูกเรื่องมาได้อย่างไร
    อย่างน้อย ผมก็ไม่ใช่นักวิจารณ์วรรณคดีน่ะครับ เห็นแบบนี้ในวันนี้ ก็เท่านั้น ถือว่าเราแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ
    
    
    
    
    1.gif
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    7 กุมภาพันธ์ 2550 08:53 น. - comment id 653916

    สวัสดีครับ คุณแมวคราว
    
    เรื่องวันทองสองใจ มันฝังใจมาตั้งแต่เด็ก ๆกระมังครับ เพราะเรียนมาแบบนั้น ค่านิยม ขนบต่าง ๆ ไม่มีใครยกย่องหญิงสองผัว แต่เมื่อเราเด็ก การมองโลกของเราอาจจะยังแค่อ่านบางส่วน หรืออ่านบางตอนที่ยกมาเรียน ไม่ได้อ่านบริบททั้งหมด และการคิดแหกคอก สมัยผมก็ยังไม่มี
    
    ผมเห็นใจนะ เมื่ออ่านทั้งหมดแล้ว มันมีเหตุให้เป็นเช่นนั้น แต่ก็นั่นแหละ ยังไง ก็ดีใจที่มีวรรณคดีเล่มนี้ที่เขียนไว้ให้เราได้ศึกษา
    
    ยิ่งอ่านก็ยิ่งได้มากกว่าที่คาดไว้ตอนแรก 
    อะไรลองมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ
    
    
    46.gif
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    7 กุมภาพันธ์ 2550 08:59 น. - comment id 653921

    สวัสดีครับ น้องบัว
    
    พี่ไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษเท่าไรหรอกครับ เห็นอย่างนี้ ก็พูดอย่างนี้เท่านั้น
    
    พี่ออกจะอคติแนวคิดต่ออะไรหลายอย่างโดยส่วนรวม และการด่าผู้หญิง เช่น เรื่องประโคมข่าว แม่ใจร้าย แม่ใจยักษ์ เมือ่เราพบทารกตามที่ต่าง ๆ พฤติกรรมของการทิ้งเด็กแรกเกิดและประณามผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว พี่ไม่เคยเห็นด้วย ไอ้ตัวที่ร่วมทำให้เกิดมา มันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ปล่อยให้ผู้หญิงรับเคราะห์เพียงฝ่ายเดียว ถึงจะยกอุทาหรณืใด ๆ สอนหญิงก็ตาม แต่ก็ไม่ยุติธรรม 
    
    
    เห็นด้วยมั้ย เกิดมาเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก 1.gif
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    7 กุมภาพันธ์ 2550 09:05 น. - comment id 653924

    สวัสดีครับ คุณศรรกรา
    
    บางครั้งยังเคยคิดเลยว่า
    
    โลกใบนี้เป็นของผู้ชาย
    
    การที่ฉายาผู้ชายมากรัก กลับกลายเป็นว่าน่ายกย่อง ไม่ว่าจะ ขุนแผน คาสโนว่า หรืออะไรก็ตามแต่ มันเท่ตรงไหน 
    ส่วนตัว ไม่เคยเชื่อว่าผู้หญิงจะนิยมแบบนั้น ใครก็ชอบคนดี คนถ่อมตน เก่งไม่อวด  เก่งไม่กร่าง นะ
    
    ขอบคุณนะครับ ที่เข้ามาทักทายกัน 46.gif
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    7 กุมภาพันธ์ 2550 09:07 น. - comment id 653925

    สวัสดีครับ คุณเฌอมาลย์
    
    นะครับ..ผมก็ว่านะ..
    
    โลกนี้มันเบี้ยว ๆ ชอบกล 1.gif
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    7 กุมภาพันธ์ 2550 09:09 น. - comment id 653929

    สวัสดีครับ พี่ก่อพงษ์
    
    เพิ่งอ่านใหม่น่ะครับ อ่านตอนที่ความคิดความอ่านเหมือนจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่ก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก แต่อาจเข้าใจอะไรมากขึ้น
    
    มีอะไรก็แนะนำนะครับพี่
    สบายดีนะครับ 1.gif
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    7 กุมภาพันธ์ 2550 09:13 น. - comment id 653931

    สวัสดีครับ ครูพิม
    
    เห็นด้วยกับที่ครูพิมเขียนครับ
    
    สักวัน ผมจะเขียนยอยศวันทอง แบบประณีต ๆ สักบทน่ะครับ 1.gif
    
    
    
    ---------
    
    
    
    ขอบคุณเพื่อน ๆ นะครับ ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันที่นี่  29.gif
  • ดุริยวรรณกวี

    25 กุมภาพันธ์ 2550 13:28 น. - comment id 662482

    สวัสดีครับคุณร้อยแปดพันเก้า
    
    ผมเพิ่งเข้ามาใหม่นะครับพอดีได้อ่านแล้วก็สนุกดีนะครับ แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่อ่านแล้วรู้สึกขัดๆนะครับ ก็ตรงที่คุณอธิบายไว้ว่า วันทองตกเป็นเมียของขุนช้างเพราะ " เธอถูกบังคับ ตบตีจากผู้เป็นแม่ และที่สำคัญก็คือ เธอได้ข่าว(ลวง) ว่าขุนแผนตายแล้ว แต่จริง ๆ ขุนแผนอยู่กับนางลาวทอง
    นางวันทองตกลงอยู่กับขุนช้างเพราะเชื่อว่า สามีตาย " อันนี้ผมคิดว่าเรื่องมันอาจจะผิดเพี้ยนนะครับลองไปอ่านดูดีๆแล้วจะรู้ว่านางวันทองไม่ได้ตกเป็นเมียของขุนช้างเพราะเห็นว่าขุนแผนพานางลาวทองมานะครับ นางวันทองพอรู้ว่าขุนแผนพานางลาวทองมาก็เสียใจโมโห จึงกลับไปหมายจะผูกคอตาย แต่ว่านางสายทองพี่เลี้ยงเข้ามาช่วยไว้ทัน แต่เรื่องที่นางเสียตัวให้กับขุนช้างเป็นเพราะว่านางศรีประจันต์ผู้เป็นแม่ต่างหากที่ใช้ให้คนจับนางวันทองเข้าไปไว้ในห้องของขุนช้าง พอขุนช้างเข้ามาเห็นก็ปลุกปล้ำนางวันทองครับ ทำให้นางขัดขืนแล้วดิ้นไปถูกมุ้งที่ผูกไว้ มุ้งนั้นหล่นลงมาพันตัวนางวันทอง นางวันทองจึงตกเป็นเมียของขุนช้างครั้งนั้นนั่นแหละครับ
    
    อืมแล้วอีกอย่างในตอนแรกที่คุณกล่าวไว้น่ะครับว่า "นางพิมเปลี่ยนชื่อมาเป็นวันทอง ไม่ใช่เพราะเธอสองใจ เป็นเพราะไม่สบายและหมอดูทำนายทายทักให้เปลี่ยน เป็นวันทอง " อันนี้ก็คงไม่ใช่หมอดูล่ะมังครับ ลองอ่านดูดีๆละก็คงจะเป็นขรัวตาที่วัดกระมังครับ 
    
    บางทีอะไรเล็กๆน้อยๆแล้วผิดพลาดออกไปทำให้สื่อเรื่องหรือความหมายอะไรผิดๆก็อาจกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องไปเลยก็ได้นะครับ คนอื่นๆที่ๆไม่ได้อ่านเองก็จำต้องรู้อย่างผิดไปด้วย อันนี้ผมไม่ได้ตำหนิติเตียนหรืออย่างใดนะครับแต่อยากให้ทุกคนลองไปอ่านดูแล้วจะรู้ว่าเรื่องเล่าขุนช้างขุนแผนกับเรื่องที่แต่งไว้เป็นเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนมีความแตกต่างกันอย่างไร รายละเอียดของเรื่องมีมากและแตกต่างจากเรื่องที่เล่าโดยปากต่อปากแค่ไหนนะครับ 
    
    ปรารถนาดีนะครับ
  • ร้อยแปดพันเก้า

    2 มีนาคม 2550 12:14 น. - comment id 664853

    ขอบคุณมากครับ คุณดุริยวรรณกวี
    
    29.gif29.gif29.gif
    
    
    หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราคงได้คุยกันในโอกาสต่อ ๆ ไปนะครับ
    
    
    ด้วยมิตรภาพ 
    1.gif
  • อัลมิตรา

    2 มีนาคม 2550 12:59 น. - comment id 664865

    นางพิมยอมเป็นเมียขุนช้าง ด้วยความเสียใจที่มีต่อขุนแผน
    ดูสิ .. นางผู้สู้รอผัวตลอดมา กลับมาพบเรื่องบาดจิตใจเช่นนั้น
    
    ขุนช้างก็เลยได้ส้มหล่นไป แต่ขุนช้างก็ดีต่อนางวันทองนะ 
    จนท้ายสุดนางวันทองก็ตัดสินใจไม่ได้
    
    นั่นก็รัก นี่ก็เวทนา .. 
    
    และถึงแม้ว่าจะรู้ ขุนช้างมากเล่ห์แสนกลเพียงใด
    แต่ทั้งหมดที่ขุนช้างทำไป ก็เพราะว่ารักนาง
    
    กับความเสียใจที่นางมี กับความทุ่มเทที่เหมือนกับถูกหักหลัง
    
    คนอื่นจะตัดสินใจแทนนางไม่ได้หรอก
    ว่านางสองใจ หรือเปล่า
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    6 มีนาคม 2550 08:56 น. - comment id 666129

    ฝากอ่านละกันครับ เพราะผมติดตามอ่านงานของ กาแฟขม..ขนมหวาน น่ะครับ
    
    
    ตอนที่ 201 กูหึงนะโว้ย!(จากมหาอุปรากร แม่นาก ถึงมหาอุปรากร วันทอง) 
     
    โดย วาทตะวัน สุพรรณเภษัช 27 กันยายน 2548 07:20 น. 
     
     
    ท่านผู้อ่านติดตามกาแฟขมขนมหวานมาตั้งแต่ต้น จะเห็นว่า ผมมีความฝังใจกับเรื่องขุนช้าง-ขุนแผนเป็นอย่างมาก เพราะเห็นว่าเป็นวรรณคดีสำคัญของชาวบ้านและของชาติเลยทีเดียว
           
           ทำไมผมจึงอยากให้คุณสมเถาฯ ทำวันทองให้เป็นมหาอุปรากร ?
           ตอบได้ว่า เหตุผลของผมก็ คือ
           
           เรื่องของนางวันทองจากขุนช้างขุนแผนนั้น เป็นชีวิตของผู้หญิงคือ นางพิมพิลาไลยหรือนางพิม (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวันทอง) ที่มีทั้งความสุขและทุกข์ ขมขื่น ผิดหวัง เหมือนปุถุชนคนทั่วไป แต่ที่แตกต่างเธอพบกับความตายที่น่าสะพรึงกลัว คือต้องถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ
           
           ความสุขสมที่นางพิมพิลาไลยมีต่อพลายแก้วหรือขุนแผน ยามหนุ่มสาวนั้น เป็นความรักอันหวานระรื่น ฉากรักในไร่ฝ้ายระหว่างคนทั้งสองก็แสนจะงดงาม เมื่อได้แต่งงานเป็นคู่ผัวตัวเมีย พลายแก้วสามีต้องไปราชการงานทัพ เมียอยู่ทางนี้ไอ้ขุนช้างที่หมายปองก็ทำเล่ห์เพทุบายต่างๆ หลอกว่าผัวตายแล้วนางก็โศกเศร้า อีนังศรีประจันแม่นางพิมก็แสนจะขี้งก เห็นเงินเป็นใหญ่เหมือนคนสมัยนี้ ก็เสือกไสไล่ส่งเธอให้เป็นเมียขุนช้าง
           
           แม้จำต้องแต่งกับขุนช้างเพราะแม่บังคับไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ทันเสียตัว สามีชนะศึกกลับมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนแผนแว่นไว ลงเรือกลับมาหานางพิมพิลาไลยซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นวันทอง เพราะมารดาบอกว่าชื่อเก่าไม่เป็นมงคล
           
           ขุนแผนไม่ได้มาคนเดียว ดันพานางลาวทองเมียอีกคนมาด้วย ผู้หญิงที่ไหนจะทนได้ การปะทะคารมของเมียหลวงเมียน้อยดุเดือดอย่างยิ่ง และเมื่อวันทองโกรธจัดก็บอกว่า
           
           ถึงกระนั้นก็การอะไรใคร          ฤาช้างแทงมึงเข้าไปถึงคอหอย
           ทุดอีลาวชาวป่าขึ้นหน้าลอย      แม่จะต่อยเอาเลือดมาล้างตีน
           
           นี่แหละผู้หญิงสุพรรณบ้านบรรหารขนานแท้ เรื่องใส่เกียร์ถอยไม่มีเสียล่ะ...ต่อยอีเมียน้อยมันซะ...แล้วเอาเลือดมาล้างตีนเสียให้หายแค้น...
           
           มือถึงตีนถึง...ด้วยกันทั้งนั้น...เอากะแม่ซิ เอ้า !
           
           ถ้าเป็นโอเปร่า อาจบรรจุทั้งตอนเอาไว้ในองก์ที่ ๑ คือตั้งแต่ทั้งตัวเอกทั้งสาม คือ ขุนแผน ขุนช้าง นางวันทอง ยังเป็นเด็กจนกระทั่งได้แต่งงานกัน ขุนแผนไปงานทัพกลับมา จนกระทั่งพาเมียน้อยมาบ้านเมียหลวง (เป็นผมไม่กล้าแน่ๆ!) จนเป็นเรื่องเป็นราวอย่างที่เล่ามา ซึ่งหากเป็นเพลงในท้องเรื่อง อาจมีตั้งแต่ดนตรีบรรเลงด้วยท่วงทำนองที่แสดงความร่าเริงของเด็กๆ เพลงความรักอันแสนหวานของหนุ่มสาวกำลังระเริงรักอย่างชุ่มชื่น และเพลงที่แสดงความคร่ำครวญถวิลหาของเมีย ที่ผู้ผัวไปศึกแล้วตัวเองอยู่แนวหลัง กลับต้องถูกรังแก
           
           นอกจากนี้จะยังบรรจุเพลงและดนตรี ซึ่งแสดงความเกรี้ยวกราดของภริยา ที่ผัวรักทะลึ่งพาเมียน้อยลงเรือมาลอยหน้ามาเย้ยถึงหน้าบ้าน ใครรึ จะทนได้ !?
           
           เห็นไหมครับ...แค่องก์ที่ ๑ ก็มีเพลงให้เลือกหลากหลายอารมณ์แล้ว
           
           สำหรับองก์ที่ ๒ จับตอนขุนแผนรำพึงถึงวันทองแม่เมียเมียรัก จนกระทั่งบุกขึ้นเรือนขุนช้าง ลักพานางวันทองไป ต่อมาขุนแผนต้องโทษนางเอกก็โดนขุนช้างฉุดกลับไปอยู่กินกันอีก แต่คราวนี้นางวันทองมีท้องติดเอาลูกขุนแผนไปด้วย
           
           คลอดออกมาให้ชื่อว่า พลายงาม ขุนช้างจับได้ไม่ใช่ลูก พาไปฆ่าในป่าเอาไม้ทับไว้แต่ไม่ตาย เจ้าพลายหนีไปอยู่กับนางทองประศรีผู้เป็นย่าที่กาญจนบุรี แล้วมาช่วยพ่อให้หลุดจากการจองจำ ออกทำศึกกับเชียงใหม่จนชนะ
           
           ต่อมาลูกชายขอให้นางไปอยู่กับพ่อ แต่วันทองตัดสินใจไม่ได้ จนลูกเกิดเรื่องทุบตีขุนช้าง เป็นคดีความถึงพระพันวษาพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งทรงให้นางเลือกว่าจะเอาผัวคนไหน แต่ วันทองเองก็ลังเลเพราะขุนแผนเป็นรักแรกและมีลูกด้วยกัน ขุนช้างผัวคนที่มาทีหลังแต่ก็รักและทะนุถนอมเอาใจนางเป็นอย่างดี เลือกไม่ถูกจริงๆ
           
           เมื่อพระพันวษาทรงเห็นวันทองมีกริยาไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด ทรงกริ้วและบริภาษว่านางวันทองเป็นหญิงสองใจ ให้นำตัวไปฆ่าเสีย
           
           องก์ที่ ๓ นี่สำคัญนัก นางวันทองถูกนำเข้าหลักประหาร ลูกชายทูลขอชีวิตนาง ซึ่งก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษให้ แต่มาถึงไม่ทัน นางถูกลงดาบเสียก่อน เศร้าเป็นที่สุด
           
           องก์ที่ ๔ สุดท้าย ก็เป็นตอนปีศาจนางวันทอง ซึ่งกรมศิลปากรเคยทำเป็นละครมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ได้ไปดูด้วยและชอบมาก นางวันทองนั้นตายไปแล้ว หัวใจเธอก็ยังอยู่ที่ลูก เป็นผีไปแล้วไม่ยอมไปผุดไปเกิด คอยปกป้องรักษาบุตรอันเป็นที่รัก และมาปรากฏร่างเพื่อเตือนลูกชายว่า พ่อคือขุนแผนโกรธจัดและคิดฆ่าแล้ว ทำให้พลายงามหรือจมื่นไวยวรนารถเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือพ่อไปได้
           
           นี่คือหัวใจของแม่แท้ๆ ถึงตายไปแล้วก็ยังห่วงลูก มาคอยเตือนเมื่อลูกรักจะมีภัย น่ารักเป็นที่สุด
           
           ที่เขียนมานี้ รู้สึกตัวตัวผมเองบังอาจมากเหลือเกิน ที่หาญไปแนะนำอัจฉริยะอย่างคุณสมเถา สุจริตกุล แต่มหาอุปรากรเรื่องวันทองนี้ เป็นสิ่งที่ผมอยากเห็นมาก และแน่ใจว่าคีตกวีเอกของไทยผู้นี้ สามารถรังสรรค์วันทองออกมาเป็น Grand Opera ได้งดงามกว่าที่ผมคิดมากมายนัก จะได้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเยาวชนรุ่นต่อไปให้รู้จัก และเกิดความนิยมชอบในอุปรากร เพราะงานศิลปะนั้นไม่มีพรมแดน หากแต่เป็นโอสถทิพที่บำรุงและก่อให้เกิดความงดงามขึ้นในหัวใจของผู้คน
           
           ใครที่เรียนและรู้จักดนตรีไทย หรือดนตรีสากลแล้ว ลองหันมาเสพอุปรากรที่ทำโดยคนไทยดูบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายกลับเป็นประโยชน์แก่ตัวเสียด้วยซ้ำ
           
           ที่อยากได้ดูและได้ฟังมากก็คือ คุณสมเถาฯจะแต่งเพลงที่ผู้หญิงหึงกันนั้นออกมาอย่างไร จะมีจังหวะกระแทกกระทั้ง หลั่งไหลอารมณ์และความโกรธออกมาแค่ไหน เพราะเรื่องความหึงของสตรีนั้น ตัวคนเขียนเองยังจำได้ดีขอเล่าให้ท่านผู้อ่านที่เคารพฟังสักนิด
           
           วันหนึ่งผมเป็นนายร้อยเวรต่างจังหวัด ได้รับแจ้งเหตุการณ์ขว้างบ้านกัน
           เลยออกไประงับเหตุตามหน้าที่
           
           ปรากฏว่าเมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ เห็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย กำลังเอาก้อนหินที่เตรียมตุนเอาไว้ในถุงใหญ่สองสามใบ ขว้างบ้านที่เป็นเรือนไม้สองชั้น ส่วนคนบนบ้านปิดไฟเงียบ
           
           ขณะที่หญิงสาวที่เอาหินขว้างบ้านเปรี้ยงๆ โดยกระทำการในลักษณะมือก็ขว้าง ปากก็ตะโกนร้องด่าไปว่า
           
           อีห่า....ออกมานะ...มึงเอาผัวกูมา กกน่ะ....กูหึงนะโว้ย !
           
           ปรากฏว่า คนขว้างเองก็ยังไม่ได้แต่งงาน เป็นเมียผัวตามกฎหมายกับผู้ชายที่นอนเงียบด้วยความกลัวอยู่ในบ้าน ส่วนผู้หญิงเจ้าของบ้านที่ถูกกล่าวหาว่า เอาสามีเขามานอนกกอย่างมีความสุขด้วยนั้น แท้ที่จริงก็เป็นเพื่อนสนิทของคนขว้างนั่นแหละ ก็เป็นเรื่องของผู้ชายเจ้าเสน่ห์ที่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเรื่องประหลาดอะไรนัก เพราะเรื่องอย่างนี้มีขึ้นได้เสมอ
           
           อย่างไรก็ตาม แม้ผมจะจัดการให้เรื่องจะสงบลงได้โดยเร็ว แต่เสียงที่ร้องว่า
           
           กูหึง...นะโว้ย !
           
           นึกขึ้นมาคราวได้ วลีที่น่าเกรงขามนี้ ยังดังกึกก้องอยู่ในสองหูของผมทุกคราไป !!
           เรื่องความหึงของผู้หญิงนั้น รุนแรงร้ายกาจนัก ไอ้ที่ผู้ชายโดนฆ่ากันตายทุกวันนี้ เหตุเพราะฤทธิ์รักแรงหึงของผู้หญิงนั้น มาเป็นอันดับต้นๆ เลย
           
           ผมเคยเล่าเอาไว้ว่า การพูดของคนไทยนั้น ก็ไม่ได้เป็นรองใคร การพูดของชาติเรามีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม มัน และที่ขาดไม่ได้คือรสเผ็ด ซึ่งรสเหล่านี้ก็ไปปรากฏชัดในวรรณคดี ซึ่งสามารถสัมผัสรสอันวิเศษได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของความรักระหว่างชายหญิง
           
           ตำราวรรณคดีไทยแบ่งเป็นสี่รส ชื่อสอดคล้องกัน คือ เสาวรจนี ,นารีปราโมทย์, พิโรธวาทัง, สัลลาปังคพิไสย
           
           พิโรธวาทัง คือคำที่ระบายความโกรธแค้น ขุ่นเคือง แสดงออกมาเป็นคำพูดด้วยการตัดพ้อต่อว่าให้สะใจ เพื่อปลดปล่อยความผิดหวัง ความแค้นคับ อับจิต ความน้อยเนื้อต่ำใจ ปะปนด้วยความการเสียดสี เกรี้ยวกราด อ่านแล้วถึงอกถึงใจพระเดชพระคุณนัก
           
           คำว่าพิโรธ แปลว่า โกรธกริ้ว ไม่สบอารมณ์ วาทังหรือวาทะก็คือ คำพูดนั่นเอง
           ลองดูความโกรธและหึงหวงของนางวันทองเสียบ้าง นอกจากจะโกรธและหึงที่สามีดันพาเมียน้อยมาถึงบ้านเหมือนเย้ยกัน ยิ่งเธอเห็นขุนแผนเข้าข้างนางลาวทองเมียน้อยจนเกินเหตุซ้ำเติมเข้าไปอีกด้วยแล้ว แม่วันทองจึงพูดจาว่ากล่าว อย่างดุเดือดเลือดพล่าน ลองฟังดูครับ
           
           *ว่าพลางโจนขึ้นบนสะพาน           จะตักน้ำล้างบ้านเอาตีนสี
           สิ่งไรมิให้เป็นราคี                        น้ำท่ามีอยู่จะถูเช็ด
           ทั้งน้ำมันกระจกกระแจะแป้ง          จะทิ้งไว้ให้แห้งเป็นสะเก็ด
           ให้สิ้นวายหายชาติของคนเท็จ        จะขุดเว็จฟื้นดินให้สิ้นรอย
           ขาดเด็ดเสร็จกันในวันนี้                ไม่มีอาลัยเท่าปลายก้อย
           ถึงพระอินทร์ลงมาว่าก็อย่าคอย      ที่วันทองนั้นจะถอยมาคืนดี
           
           นางวันทองโกรธจัดร้องบอกว่า ขุนแผนไปจากบ้านแล้วจะเอาน้ำล้างเรือนให้เกลี้ยง โดยจะไม่ยอมจับผ้าขี้ริ้วให้เป็นราคีมือ
           
           แต่แม่จะใช้ ส้นตีน ถูเรือน ให้มันหายช้ำใจ...ใครจะทำไม?
           เครื่องสำอางหอมทั้งหลายที่พ่อพระเอกเคยใช้ จะทิ้งเอาไว้ให้มันแห้งเกรอะกรังคากระปุกอยู่อย่างนั้นแหละ  ให้สิ้นชาติสิ้นเชื้อ สำหรับคนโกหกมดเท็จที่นอกใจอย่างนี้กันเสียที !
           
           ยิ่งไปกว่านั้น คนไทยโบราณซึ่งไม่นิยมเอาส้วม หรือ เว็จ มาไว้ในตัวบ้าน ส่วนมากมักตั้งอยู่ด้านหลัง ไกลออกไปจากเรือนที่อยู่อาศัย หากยังอยู่ในบริเวณที่ดินของบ้าน นางเอกที่หัวใจสลายเพราะผัวรักอย่างวันทอง ยังระบายออกมาด้วยความคั่งแค้นว่า
           
           จะขุดเว็จฟื้นดินให้สิ้นรอย
           
           แน่ะ..ดูซิ...แม้แต่เว็จหรือส้วมที่ขุนแผนถ่ายทุกข์เอาไว้ ตั้งแต่ตอนแต่งงานอยู่กินเป็นผัวเมีย กระทั่งพ่อพระเอกไปราชการงานศึกเป็นแรมปี จนของเสียที่ขุนแผนแกถ่ายทิ้งเอาไว้เนิ่นนาน กลมกลืนกลายเป็นเนื้อเดียวกับดินใต้เว็จไปเรียบร้อยแล้ว วันทองแม่ก็ไม่ละ บอกว่าจะยอมลงทุนลงแรง ขุดดินแล้วพรวนเสียใหม่ กลบร่องกลิ่น..รอยก่าเสียให้สิ้น ไม่ให้มีแม้แต่กลิ่นปฏิกูลของผัวตัวดีที่นอกใจถ่ายทิ้งเอาไว้ ลอยละล่องฟ่องฟุ้งเป็นเสนียดกับบ้าน และจมูกของตัวนางวันทองเองอีกต่อไป
           
           ฮู้ยยยยยยยยยย...เชื่อแล้วจ้ะ ว่าแม่โกรธและหึงจริงๆ...กลัวแล้วจ้า !!
           
           เพี้ยง...ไม่ว่าชาติหน้าชาติไหน...ขออย่าให้ตัวคนเขียนเอง ต้องไปทำให้ผู้หญิงคนไหน หึงจัด อย่างนี้เลย....
           
           เจ้าประคู้นนนนนนนน !!!
    
    
    --------------------
  • -ร้อยแปดพันเก้า-

    6 มีนาคม 2550 09:01 น. - comment id 666133

    ขอบคุณคุณ ดุริยวรรณกวี คุณอัลมิตรา ที่ทำให้ผมต้องกลับไปอ่านอีกครั้ง และอีกหลาย ๆ ครั้ง 
    
    29.gif29.gif
  • tom

    24 กรกฎาคม 2551 16:42 น. - comment id 878090

    การที่นางพิม ได้รับการเรียกขานว่า นางวันทองสองใจนั้น ชั้นคิดว่า มันคงเป็นเรื่องอะไรที่มีการเข้าใจผิดมากกว่า 
    ชั้นเลยอยากจะแสดงความคิดเห็น
    ว่าการที่นางวันทองนั้นถูกเรียกว่าสองใจนั้นมาจากคำพิพาษของพระพันวษาที่ว่านางว่าไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง 8bfvtwiw,jgxHo24.gif26.gif46.gif53.gif64.gif64.gif มัวนะค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน