ในคืนแรม...... ดาวจ้าแจ่มระยิบระยับวะวับแสง ใจที่เคยทอดถอนเพราะอ่อนแรง กลับกล้าแกร่งด้วยมนต์ขลังพลังดาว แสงสุกใสไขเจิดจ้าท้าสีหม่น พยับฝนพรมพร่างทั่วกลางหาว เมฆขยับเปิดทางฟ้าพร่างพราว เย็นลมหนาวผ่านพลิ้วพรมห่มห่อกาย เสียงคลื่นสาดซัดซ่าเข้าหาฝั่ง ทะเลคลั่งระทมตรมมิหาย เสียงสายน้ำซ้ำซ่าสาดกับหาดทราย บ่งความหมายมิท้อทดหมดแรงใจ มีแสงดาวสายลมห่มไอรัก คอยทอถักผูกขวัญลบหวั่นไหว ก็สุขล้ำเลอค่ากว่าสิ่งใด ทุกข์เก่าใหม่ไร้เงาเข้าครอบครอง.
2 กุมภาพันธ์ 2550 20:16 น. - comment id 652070
แวววาววับระยิบระยับจับขอบฟ้า คือดาราพราวพร่างสว่างไสว โอบล้อมดวงจันทราด้วยห่วงใย กลัวมีใครแอบย่องหมายปองจันทร์ อรุณรุ่งดวงตะวันนั้นยิ้มย่อง ฟันสีทองส่องประกายดูเฉิดฉันท์ ยินสำเนียงเสียงนกจู๋จี๋กัน แต่ตัวฉันไร้คู่อยู่เดียวดาย..
4 กุมภาพันธ์ 2550 14:34 น. - comment id 652607
คืนแรมแรมร้างเจ้า เรียมโศกเศร้าเนาฟูกฟู นุ่มนวลชวนอดสู นวลยี่ภู่ไม่สู้นวล คืนแรมแรมดาวรก ในหัวอกรกรันจวน รกรุ่มเร้าเย้ายวน ชวนนึกนิ่มชิมพิมาน คืนแรมแรมกเลส แสนสังเวชกิเลสราญ เร่าเร้าเราพ่ายพาล แพ้ภพต่ำภวังค์ใจ คืนแรมแรมสมุทร พรายฟองผุดดุจฟองไฟ ทั่วผืนทะเลใส กระฉอกกร้าวกระฉาวฉาน คืนเเรมแรมเรือน้อย คลื่นคลั่งถ่อยโถมเรือมาน ดิ่งด่ำแดนบาดาล กระอักใคร่ในคืนครวญ แวะมาแต่งต่อล้อเล่นครับผม อาจจะเรท ๆ หน่อย ๆ ไม่ว่ากันนะครับ