..๏ เสียงระเบิดตูมตามกลางเมืองกรุง ทำเอายุ่งจ้าละหวั่นจนขวัญหาย หนอย !! ไอ้พวกริยำมุ่งทำลาย ชอบสร้างความวุ่นวายเลวรายวัน คนดีดีล้มตายบางรายเจ็บ ต่างชาติเหน็บ "..จับใครได้ไหมนั่น ?.." สื่อ,ทีวีออกข่าวเล่าตามกัน โน่น,นี้,นั้น ตำรวจเร่งควบคุม อยู่กรุงเทพฯ .. แสนสบายใครเคยบอก อยู่บ้านนอก .. ทุกข์ลำบากหลากเรื่องกลุ้ม มาบัดนี้ทั่วทุกภาคมากภัยรุม โจรซ่องสุมระเบิดวางอย่างจงใจ จนเศรษฐกิจซบเซาเร้าไม่ขึ้น สังคมมึนย่ำแย่สุดแก้ไข ต้องอยู่อย่างสับสน โอ้ ! .. คนไทย ประหนึ่งไฟสงครามนิยามมี "..ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย.." จะนับถือศาสน์ใดก็ไทยนี่ หากมัวแต่จ้องฆ่ามุ่งราวี ต่อแต่นี้เพลงชาติไทยใครจักฟัง ๚ะ๛
1 กุมภาพันธ์ 2550 09:38 น. - comment id 651322
ก็รอฟังข่าวคราวมาครบเดือนเต็ม ๆ นับตั้งแต่คราวที่ไปแม่ฮ่องสอน อยู่ในป่า .. แล้วพอเข้าเมืองก็พบกับข่าวเขย่าขวัญคนกรุงเทพฯ ระเบิดกันตูมตามหลายจุด มีคนตาย มีคนบาดเจ็บ .. แต่ยังไม่มีตัวการที่จับได้เป็นตัวเป็นตน และในช่วงเดือน ก็ใช่ว่า เมืองหลวงจะสงบสุขดั่งแต่ก่อน .. บรรยากาศมันเปลี่ยนไปทันที ตามห้างสรรพสินค้าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เคยคับคั่งด้วยผู้มาจับจ่าย ก็กลายเป็นสถานที่เงียบเหงาผิดหูผิดตา .. ทุกคนอยู่อย่างสับสน เต็มไปด้วยความหวาดกลัวภัย เมืองหลวงแท้ ๆ ยังไม่อาจสร้างความอบอุ่นใจให้กับพลเมือง นับประสาอะไรกับจังหวัดอื่น ๆ ที่เผาโรงเรียนกันเป็นว่าเล่น เดี๋ยวนี้ก็ลุกลามกันไปทั่ว ที่ยิง ที่ฟันคอกัน ก็ยังคงทำเป็นกิจวัตรประจำวัน เฮ้อ !! บ่นไปงั้น ไม่ว่ายังไง อยู่ไหน ก็ต้องระมัดระวังตัวกันเอง อย่าซุ่มซ่ามจนเดินตกบันไดเหมือนคนขี้บ่นคนนี้ล่ะ .. ยังเจ็บไม่หายเลย .. เจ็บจัง :( มีตะพาบอยู่ในน้ำ
1 กุมภาพันธ์ 2550 09:42 น. - comment id 651323
เข้ามาดูว่าทำไมไม่เมืองถึงไม่ยิ้ม ... แต่มาเจอระเบิด...เลยต้องหลบก่อนแล้วค่ะ....
1 กุมภาพันธ์ 2550 09:56 น. - comment id 651329
เมืองไม่ยิ้ม แต่ให้คนยิ้มแล้วกันจ้า
1 กุมภาพันธ์ 2550 10:04 น. - comment id 651332
เมืองจะยิ้ม..ได้อย่างไร..ไม่สงบ เหมือนได้พบ...ศัตรูลับ..เกินจับไหว ทำแล้วมุด..ลงรู..อดสูใจ พวกจังไร...สิ้นคิด..จิตอัปรีย์ ขอแจมด้วยคนครับ..คิดแล้วมันเดือดปุดๆจริงๆ..เมื่อคืนเพื่อนโทรมาจากใต้บอกว่าข้างบ้านโดนระเบิดอีกละ..ดีที่ไม่มีใครตาย..เวรกรรมจริงๆ..ขอพูดแค่นี้แหละครับ... ....ดูแลตัวเองกันดีๆนะพี่น้อง...
1 กุมภาพันธ์ 2550 10:08 น. - comment id 651334
เมืองไทยยุ้งนัก ในวันนี้ พลเมืองคนดี ต่างขวัญหาย ต่างหลบซ่อนกายา เพราะกลัวตาย มีแต่คนร้าย เฝ้าทำลาย อยู่รายวัน อยากให้จับให้ได้พวกกบฐ คิดทรยศ ต่อกฎหมาย ปราบให้สิ้น ล้าง แผ่นดินไทย ให้หมดไป ไอ้พวงไร้ มนุษยธรรม ใช่คนไทยขี้ขลาดหรือตาขาว แต่คนเรายิ่งสู้ยิ่งใจหาย เสียเลือดเสียเนื้อไปเท่าไร ก็ยังปราบไม่ได้ เสียดายพวกคนดี ได้แต่หวังสักวัน ให้ฟ้าปราบ ให้ราบคาบ ด้วยแรงแห่งสวรรค์ เทวดาฟ้าดิน คงลงทัณ ปราบพวกมันให้สิ้น แผ่นดินไทย
1 กุมภาพันธ์ 2550 10:19 น. - comment id 651339
เสียงระเบิดตูมตามสงครามเมือง ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียจริงหนอ อีกไม่กี่เวลาที่เฝ้ารอ ก็จะพ้อปีใหม่ไม่เท่าไหร่ วันเคาท์ดาวน์แต่เขาดิ้นหลังสิ้นเสียง ร่างนอนเรียงแสนทุรนทนไม่ไหว สามชีวิตปลิดด้วยมือคนจัญไร เป็นเหยื่อให้คนคิดร้ายต่อแผ่นดิน ศรรกแต่งกลอนนี้ตอนเกิดเหตุการณ์ใหม่ ๆ นี่ก็เดือนนึงแล้วยังหาคนที่ทำไม่ได้เลย แล้วยังงี้คนบริสุทธิ์จะต้องอยู่ขวัญหนีดีฝ่ออีกถึงเมื่อไหร่หนอ เฮ่อ.....
1 กุมภาพันธ์ 2550 10:55 น. - comment id 651359
สยามเมืองยิ้ม... คนไทยใจดี... คนไทยมีน้ำใจ คนไทยรักกัน.... "รักกันไว้เถิดเราเกิดร่วมแดนไทย"...
1 กุมภาพันธ์ 2550 10:59 น. - comment id 651360
นั่นจิเนาะ เพราะใครอ่ะ เก่งจริง หนึ่งเดียวทำความวุ่นวายไปทั่วบ้านทั่วเมืองได้ ขนาดไม่อยู่ในประเทศนะเนี้ย เวรกรรม!!!!!!
1 กุมภาพันธ์ 2550 12:38 น. - comment id 651411
สวัสดีคุณอัลมิตรา........ ขอบคุณมากเลยที่เขียนกลอนให้ นึกแล้วยังโมโหไม่หาย เป็นเพราะบ้าเงินบ้าอำนาจแท้ๆ... ผู้อื่นก็ต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย อื่ม!!ได้ระบายแล้วค่อยโล่งอกขึ้นมาอีกนิด
1 กุมภาพันธ์ 2550 13:02 น. - comment id 651422
แวะเข้ามายิ้มแหย ๆ ผมคิดว่าเป็นเพราะว่าคนชอบเรียกว่าแต่ประเทศไทย ไม่ค่อยมีใครจะเรียกว่าประเทศสยามซักทีมั๊ง
1 กุมภาพันธ์ 2550 13:08 น. - comment id 651423
ส่วน ค. ค. ห. นี้ของคุณจ๊า เอ....ยังมีใครจำได้ไหมหนอ? เมื่อ3-4 ปี ที่แล้ว เข้าไปเที่ยวในเรือนใครคนหนึ่ง เธอผู้นั้นช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ สนุกสนาน(แถมไม่กลัวใครอีกแน่ะ) คุยก็สนุก ความคิดก็เกินในวัยเดียวกัน มีเหตุผลมากมาย... มีอยู่วันหนึ่ง...(ทักทาย พูด) นี่ นี่ คุณรู้ไหมเราชอบคุณสองคนจัง ใครก็ไม่รู้เขินจัดเลย สักพักเราคุยกันเรื่องโจงกระเบน(พิมพ์ผิดขออภัย) คุยกันสามคนเรา(ทักทาย)เป็นฝ่ายฟังมากกว่าเพราะไม่ค่อยรู้เรื่องกับเขา ทั้งสองเริ่มเถียงกัน เหตุเกิดจากโจงกระเบน :) ผลสุดท้ายคางคกก็ต้องยอมแพ้โดยปริยาย....... แต่ที่จดจำมิเคยลืมเลือนจนถึงทุกวันนี้ นึกถึงทีไรเป็นต้องนั่งยิ้มคนเดียวทุกที จริงๆน๊า คือนามแฝงหัวข้อ ค. ค. ห. มาร์ตี้จะนุ่งโจงกระเบน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงตอนนี้ยังหัวเราะอยู่เลยนะ ไม่เชื่อลองดูซิ อารมณ์ดีหรือยัง ยิ้มหน่อยนะ นะ เดี๋ยวจะมาเยี่ยมใหม่จ๊ะ
1 กุมภาพันธ์ 2550 13:48 น. - comment id 651438
ตัวงอนหลุดจากฝาบ้านหรือยัง.......เอ่ย
1 กุมภาพันธ์ 2550 19:25 น. - comment id 651559
กลับถึงบ้านคงเพลีย....พักผ่อนมากๆ ได้รับอะไรนะนกพิราบสื่อสาร(ใช่ไหม)แล้วค่ะ
1 กุมภาพันธ์ 2550 20:38 น. - comment id 651604
โอ๊ย ข้อยละหน่ายเมืองไทย จะย้ายไปอยู่ขอนแก่นซะดอก 55555
1 กุมภาพันธ์ 2550 23:33 น. - comment id 651669
....อย่าลืมทายานะ..ทีหลังเดินระวังมั่งนะ... ..จะใช้ท่าหนุมานคลุกฝุ่นก็บอกคนรอบข้างมั่งจะได้ช่วยหากผิดคิวขึ้นมา... ..ไปหละทำงานก่อนนะลิง...
2 กุมภาพันธ์ 2550 00:39 น. - comment id 651670
ถ้าได้ฟังคุณจักรพันธ์ ยมจินดา สัมภาสน์สดปลัดกระทรวงยุทติธรรมออกทีวี ก็จะเข้าใจ ถือเป็นยุทธศาสตร์ ชาวบ้านถูกทำร้ายยิ่งมายิ่งเป็นผลดีเพราะชาวบ้านจะเหกลียดชังพวกก่อการร้ายไปเอง อิอิ
2 กุมภาพันธ์ 2550 08:03 น. - comment id 651771
คุณปราณรวี .. สยามเมืองยิ้ม แต่ตอนนี้ยิ้มไม่ออก จะยิ้มได้อย่างไร ตราบเท่าที่ภัยจากผู้ประสงค์ก่อการร้ายยังคงมีไม่หยุดหย่อน เดินไปไหนก็เปรี๊ยง เดินไปไหนก็ตูม .. อยู่บ้านเฉยๆ อาจโดนปาดคอ .. เออแน่ !! คุณแม่มดใจร้าย .. ค่ะ สภาพรอบข้างคุกรุ่น ก็หวังว่า จะย่องมาที่แหล่งบันเทิงใจในไซเบอร์กได้บ้างค่ะ คุณแมวคราว .. ค่ะ เพื่อนที่อยู่ชายแดนก็เล่ามาแบบนั้นเหมือนกัน ทราบจากน้าชายที่เป็นตำรวจตะเวนชายแดน เขาลงใต้บ้าง เดือนละครั้ง บางที สองเดือนครั้ง เคยดูจากทีวีประเทศอื่น ๆ ที่รบพุ่งกันยังคิดเลยว่า เมืองไทยสงบดีแท้ ที่ไหนได้ .. เมืองเราดันไปเอาเยี่ยงอย่างเขาเสียนี่ .. เฮ้อ ต้องดูแลตนเองสุดขีดค่ะ คุณปลายเกล็ดทราย .. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ก็ได้แต่หวังว่า คนดีจะมาควบคุมคนที่ไม่ดี ให้หยุดก่อกวนสักที หรือไม่ก็ คนที่ไม่ดี กลับตัวกลับใจเสียใหม่ .. ในใจน่ะ .. อยากให้เอาบทลงโทษแรง ๆ มากำหราบซะที แต่ก็อย่างว่านะคะ จับผิด จับแพะมา ... ก็คงแย่เหมือนกัน คุณศรรกรา .. ช่วงนั้นอยู่แม่ฮ่องสอนค่ะ กางเต้นท์นอนอยู่ในป่า ตอนที่มองฟ้า มองดาวอย่างสบายใจ ก็ไม่รู้หรอกว่า ที่กรุงเทพฯเกิดความวุ่นวายแล้ว ครั้นพอรุ่งขึ้นอีกวัน ตอนกลับเข้ามายังตัวเมือง ถึงได้ทราบข่าวที่ชาวบ้านละแวกนั้นคุยกัน จึงทราบว่า ที่กรุงเทพฯที่ ๆ เป็นหลักแหล่งของอัลมิตรา มีระเบิดเกิดขึ้นหลายจุด ไหนจะไฟไหม้แถวโบเบ๊ ไหนจะมีระเบิดตูมตาม .. ทำให้คิดว่า อะไรกันหนอ .. แล้วเมื่อถึงวันที่เรากลับบ้าน บ้านเราจะยังมีเหลือหรือเปล่านะ คุณแมงกุ๊ดจี่ .. คนฟังเพลง คนที่เอาเนื้อเพลงมาขบคิด ก็ไม่ใช่ว่าจะทุกคน ดังนั้น คนที่ยังคิดร้ายต่อประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง ถึงพูดกรอกหูทุกวัน ก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่า พวกเขาจะกลับใจ .. หวังได้อย่างเดียวค่ะ หวังให้เป็นเช่นนั้น คุณMomMamSan .. ทำไมคุณคิดว่าเป็นเขาล่ะคะ หนึ่งเดียวคนนั้น คุณทักทาย .. วิกฤตที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทางการเมือง สภาพความเป็นอยู่ทางสังคม เศรษฐกิจ ความเชื่อถือของชาวต่างชาติ ฯลฯ .. เปรียบไปก็คงคล้ายโดมิโน .. ที่จุดหนึ่งล้ม จุดอื่น ๆ ก็พลอยล้มตาม ๆ กันไปจนหมด อัลมิตราคิดว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำเยี่ยงปลวก .. ที่ค่อย ๆ ชอนไช ฐาน .. จนรากฐานที่แข็งแกร่งล้มครืน และพังพินาศ ถือได้ว่าเป็นอีกยุทธวิธีของการบ่อนทำลาย ..สงครามจิตวิทยา เพราะหากประเทศใด เสถียรภาพทางสังคมและเศรษฐกิจรวมถึงการเมืองคลอนแล้วไซร้ ก็ถือว่า ประเทศนั้นไร้ประสิทธิภาพจนไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นประเทศแล้วค่ะ คุณชัยชนะ .. นั่นสิ อยากกลับไปเป็นเมืองสยามจัง จะได้เห็นพวกผู้ร้ายถูกกุดหัวเสียบไว้ที่มุมเมืองให้หมด คุณทักทาย (อีกหน) .. จำได้ค่ะ ตอนที่คุณบอกประโยคนั้น ใช่บอกตอนที่อัลมิตราสนทนากับนายพระจันทร์หรือเปล่า (handy man) แต่ตอนนั้นอัลมิตราเรียกเขาว่า แมวน้ำ แถมโมเมอีกว่า ภรรยาของแมวน้ำคือปลาพะยูน .. อำกันเสีย ฮา เลยค่ะ บรรยากาศในการสนทนาก็สนุกสนานมาก เป็นช่วงที่มีความสุขเนอะ คุยกันได้ทุกวัน เหมือนแมงโม้บินมาจับกลุ่มชุมนุมกัน .. ๕๕๕ .. เรื่องโจงกระเบนนั้น อัลมิตรามีเรื่องเก็บตกอยู่แยะ นึกถึงทีไร ก็ขำทุกที .. ตัวอย่างนะ .. ตอน ป. ๕.. ต้องเดินพาเหรด ซึ่งตอนนั้น คอมเซปของสีแดง คือ บางระจัน ผู้ที่เป็นดรัมเมเยอร์จะสวมชุดคล้ายสมเด็จพระสุริโยทัย และขบวนพาเหรดจะแบ่งเป็นชายหญิงแต่งกายต่างกันนิดหน่อย (ทั้งที่เป็น รร.สตรีล้วน คนตัวโตเป็นชาย คนตัวเล็กเป็นหญิง) ทีนี้ คนที่เป็นหญิง ก็นุ่งโจงกระเบนแดงแปร๊ด สวมเสื้อสีชมพู แล้วมีตะเบงมานสีแดง แต่งหน้าสะสวย ถือดาบคู่.. ส่วนคนที่เป็นชาย นุ่งโจงกระเบนแดงแปร๊ดเหมือนกัน สวมเสื้อผ้าฝ้ายสีขาว วาดหนวด คิ้วหนา ถือดาบคู่ .. ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า อัลมิตราต้องถูกจับแต่งตัวเป็นชาย .. ทีนี้ เดินไปได้หน่อย โจงกระเบนมันคอยจะหลุดอยู่เรื่อย หลุดคาสนามอีกต่างหาก ไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะขณะที่เดินพาเหรดนั้น ต้องทำท่าทางฟันดาบตามจังหวะกลอง โอ๊ย ชุลมุน บรรดารุ่นพี่ต้องคอยวิ่งตามเพื่อจับหาง เอ๊ย.. ชายผ้าของอัลมิตราให้อยู่เข้าที่เข้าทางตลอด ๕๕๕ .. ยังมีอีกนะ วีรกรรมของอัลมิตราเกี่ยวกับโจงกระเบนยังไม่หมดแค่นั้น ตอนโตอีกนิด ที่ต้องเล่นละครโรงเรียน คราวนี้เด็ดกว่าคราวที่เป็นเด็ก ป.๕ เสียอีก .. แต่อุบไว้ล่ะ ยังไม่เล่า .. กั๊ก ๆๆไว้ ฮา .. ปล. สองวันนี้เหนื่อยมากค่ะ กลับบ้านไป มีสติอยู่ไม่เกินสองทุ่ม ก็กลายเป็นลิงม่อยซะแล้ว คุณครูใหญ่ฯ .. ขอนแก่นประเทศไหนจ๊ะ .. ทำเป็นบอกใบ้ เหมือนกับจะชวนไปอยู่ด้วยกันแน่ะ คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. ทำเป็นสมน้ำหนวก .. ท่านี้น่ะ สงวนนะคะ ความจริงน่ะ ล้มได้อย่างสวยงาม ไม่มีที่ติ ดูสิ .. ขนมที่ถือไว้อีกมือ ยังอยู่ครบ คุณฤกษ์ .. เขาจะเกลียดชังพวกผู้ก่อการร้ายไปเอง อันนี้จริงแน่ ๆ ค่ะ เห็นด้วย แต่เขาก็จะเริ่มเกลียดผู้ที่มีส่วนจะต้องปกป้องเขาด้วย .. ฐานที่ไม่คุ้มครองให้พวกเขาปลอดภัย .. อันนี้อัลมิตราเสริมค่ะ
2 กุมภาพันธ์ 2550 19:34 น. - comment id 652061
สงสัยงานยุ่ง......
2 กุมภาพันธ์ 2550 21:51 น. - comment id 652119
พี่ "อัลมิตรา" เขียนกลอนดีทุกอันเลยค่ะ แอบอ่านมานานแล้ว นิ๊พึ่งมาเป็นสมาชิก เลยพึ่งมาเม้น 555+ ขิเก็บไว้หน่อยนะคะ น้องเอิงเอย
2 กุมภาพันธ์ 2550 22:03 น. - comment id 652127
คุณทักทาย.. ค่ะ วันนี้ช่วงเช้าเบาบางหน่อย แต่ช่วงบ่ายนี่สิพัลวันเลยค่ะ กว่าจะปลีกตัวกลับบ้านได้ แทบจะเรียกได้ว่าหลบฉากหนีกลับบ้าน ฮา .. เมื่อหัวค่ำ สลบไปรอบนึงแล้ว ตอนนี้ก็ลุกขึ้นมาคัดกลอนใส่สมุดค่ะ ดองไว้นาน ประเดี๋ยวจะทำให้ยิ่งขี้เกียจขึ้นไปใหญ่ คุณทักทายสบายดีนะคะ อากาศแบบนี้ชวนให้สวมเสื้อกันหนาวสีสวย ๆ เนอะ คุณเอิงเอย .. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ที่ติดตามอ่านมานาน เป็นสมาชิกแล้ว ลองหัดเขียนอะไรลงบ้างนะคะ จะติดตามอ่านค่ะ
3 กุมภาพันธ์ 2550 10:41 น. - comment id 652308
ยู๊ฮู...ตื่นๆๆๆๆๆ เพื่อนเก่ามาเยี่ยมอ่ะ สวัสดีจ๊ายัยอัลมิตรา เจ้าทักทาย และทุกๆท่านคับป๋ม
3 กุมภาพันธ์ 2550 13:28 น. - comment id 652355
นายหวานเย็น .. อัลมิตราตื่นตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ แล้วนี่ก็จะได้เวลานอนอีกแล้ววววววว ไปซ่อนตาดำก่อนเน้อ