@ คนเลื่องลือความงดงามเจ้าทิวลิป อยากจะหยิบมาเชยชมดมใกล้ใกล้ แต่ถูกห้ามของหวงเขาห่วงใย เดินทางไกลแดนกังหันข้ามวันคืน @ หลากสีสันขาวเหลืองส้มชมไม่เบื่อ แดงระเรื่อโยกลมไกวไม่แข็งขืน เจ้าสู้ทนลมร้อนพัดยังหยัดยืน ท้ายสุดฝืนธรรมชาติมิอาจทน @ ถิ่นกำเนิดแถบยุโรปพบลมหนาว น้ำค้างพราวหิมะปรายคล้ายฝอยฝน เย็นยะเยือกเจ้าเริงร่าท้าผู้คน ให้ไปยลความสดใสในฮอลแลนด์ @ เจ้าเดินทางมาเมืองไทยให้ยลโฉม ข่าวประโคมเชิญชวนมาว่างามแสน พืชสวนโลกงานยิ่งใหญ่ในดินแดน ณ ผืนแผ่นดินล้านนามาชื่นชม @ เจ้าไม่ชินอากาศร้อนอ่อนแรงล้า แสงแดดจ้าจนหม่นไหม้ไร้สุขสม ชั่วข้ามคืนเจ้าทุกข์โศกวิโยคตรม แสนขื่นขมเกินเริงร่าท้าแดดแรง @ บทสุดท้ายยืนต้นตายเหมือนไร้ค่า ดุจดาราคราร่วงลับดับสีแสง พอหมดสวยเหี่ยวเฉาเจ้ากรอบแดง เจ้าตายแห้งก็ทิ้งไปไม่ใยดี.
29 มกราคม 2550 11:59 น. - comment id 650332
กลอนเพราะค่ะ ... อ่านแล้วเห็นภาพเลยล่ะ ...
29 มกราคม 2550 15:15 น. - comment id 650428
เปรียบดั่ง ชีวิตคน ที่วนวก ระเหินระหก ต้องพลัดพา ที่อาศัย จะกินนอน ร้อนรน ดั่งโดนไฟ ไม่นานไซร้ คงเหี่ยวเฉา เหมือนเจ้าเอย ทิวลิปก็เหมือนคนนั่นแหละจ้า........
30 มกราคม 2550 15:27 น. - comment id 650756
รักดอกไม้ที่มีในสวนพอถึงคืนวันที่มิใช่หน้าดอกไม้ก้อเหียวเฉาไร้ค่า ใจคนก้อเช่นหากไม่ทำให้มีค่าจะอยู่ได้ฉันท์ใดอิอิ