..๏ นักเดินทางเดินทางบนทางเถื่อน อาศัยเดือนส่องกระจ่างหว่างวิถี เที่ยวสัญจรข้ามพนาฝ่าคีรี ด้วยมากมีความหวังสิ่งตั้งใจ ยามเหนื่อยหนักพักก่อนเพื่อผ่อนล้า จวบแรงมาก็บุกบั่นด้นกันใหม่ หลายทิวา-ราตรี ที่เป็นไป จันทร์อำไพก็เปลี่ยนแปลงไร้แสงนวล คราคืนแรมดุจพลังความหวังล่ม เขาตรอมตรมโหยไห้ใจกำสรวล แต่ละคืบของเพลาพาคร่ำครวญ สุขทั้งมวลพลันสลายในพริบตา โอ้ ! ตะเกียง..เก่าเก่าที่เขาพก แสนตลกแลไปเหมือนไร้ค่า ทั้งน้ำมัน,ไส้ตะเกียง เยี่ยงก่อนมา เคยแจ่มจ้าส่องสว่างระหว่างจร จันทร์นั้นสูงเกินใจจะไขว่คว้า ยังคิดกล้าตามติดเชยชิดสมร ตะเกียงเก่าร้าวใจให้อาวรณ์ มิอาจย้อนสำคัญเทียบจันทร์เพ็ญ นักเดินทางอยู่หว่างหนทางเถื่อน เมื่อปราศเดือนส่องละไมพอให้เห็น กลับฟูมฟายโทษชะตาว่าลำเค็ญ ตะเกียงเร้นลอบช้ำทุกค่ำคืน ๚ะ๛
28 มกราคม 2550 22:37 น. - comment id 650241
มาร่วมทางเดินกันด้วยกันไหม ในเมื่อหัวใจปรารถนา เดินทางตามทางที่ไขว่คว้า เพื่อค้นค่าของเพื่อนผู้เยือนทาง มาเดินทางเป็นเพื่อนนะครับ พี่อิม เดินทางด้วยอีกคน ไม่เหงาแล้วคับผม
28 มกราคม 2550 22:38 น. - comment id 650242
ได้ยินเสียง นักเดินทาง ครวญครางบ่น เหมือนอับจน หนทาง สว่างไสว อย่าโศกทรุด หยุดเดิน เหินห่างไป หากเหนื่อยใจ จงหยุดพัก สักเวลา อุปสรรค มากมาย ในชีวิต ถูกลิขิต เพื่อทดสอบ คำตอบหนา อย่ายอมแพ้ แม้มืดมน จนชินชา ใช้ปัญญา ส่องสว่าง นำทางเดิน อัลมิตรา สู้ สู้ ค่ะ................. ป.ปลา
29 มกราคม 2550 12:09 น. - comment id 650340
นักเดินทางอยู่ระหว่างกลางไพรป่า ไม่รู้ว่าทิศทางอย่างก้าวไหน แต่ทุกสิ่งที่เห็นย่อมเป็นไป สุขนั้นอยู่ที่ใจใคร่ครวญดู เค้าไม่เห็นคุณค่าก็ช่างเขา ตัวของเรามีศักดิ์ศรีที่ดีอยู่ ทำอะไรมากมายหลายคนรู้ เราต้องสู้อยู่ได้ด้วยตัวเอง
29 มกราคม 2550 12:31 น. - comment id 650354
สวัสดีคุณอัลมิตรา คุณ คุณ thaipoem สงสัยวันนี้งานยุ่งแน่เลย ทักฯเพิ่งพักก็เลยแวะเข้ามาเยี่ยม อย่าหักโหมงานมากนะจ๊ะ สาวน้อย พักผ่อนเยอะๆ (การนอนคือเวลาพักผ่อนที่ดีที่สุด) ....... :) วันนี้ยิ้มรึยังคะ คุณอัลมิตรา
29 มกราคม 2550 12:47 น. - comment id 650362
เอาดอกหญ้ายอดดอยมาฝากละกันครับ ผมไม่ใช่นักเดินทาง ผมอาจหลงทางมา และก็หาเพื่อนร่วมทางในการเขียนจินตนาการของผมก็ได้ครับ ทำงานให้มีความสุขครับ
29 มกราคม 2550 12:55 น. - comment id 650366
บ้างครั้งคนเราก็มองข้ามสิ่งที่ใกล้ ๆ ตัวเราเสมอ อย่างที่คุณบอกไว้จริง ๆ ค่ะ...... แวะมาทักทายค่ะ : -
29 มกราคม 2550 13:48 น. - comment id 650381
..... .....นักเดินทาง..ตะเกียง..และสะเบียงกรัง... ..เวลาเดินสวนใครทางขึ้นลงบันได..ดูสวิทช์ไฟให้ดีเน้อ..ลิง...
29 มกราคม 2550 14:59 น. - comment id 650418
สิ่งดีดี..อยู่ใกล้ตัว..ตามัวมืด มิยอมยึด..เหนี่ยวถนอม..ออมเก็บไว้ มีวันหนึ่ง..ต้องสูญเสีย..สิ่งนั้นไป จักเสียดาย..ยากไขว่คว้า..กลับมาครอง...
29 มกราคม 2550 21:40 น. - comment id 650584
วานนี้..ช่วงว่าง ๆ หลังนอนมื้อบ่าย สายตาเลาะเล็มตามสายเคเบิลออนไลน์ไปเรื่อย ๆ กระทั่งเจอประโยคหนึ่ง นักเดินทาง + ตะเกียง + แสงจันทร์ .. ซึ่งเป็นกึ่งความเรียงในเวปกระปุกดอทคอม ผู้เขียน ชื่อน่ารัก .. ตะขบหวาน จำได้ว่า คราวไปเชียงรายกับกลุ่มสหายอาศรม ที่ อ.เชียงของ บ้านญาติของศาลาไทย ลุงวลีเก็บผลตะขบให้ทาน .. "กินได้จริงๆเหรอลุง" ..ถามด้วยความไม่แน่ใจ ลุงวลีมุขแยะ ต้องระวังไว้ก่อนล่ะ "เออ กินได้ จะไปหลอกทำไมกัน" ..ลุงวลีตอบพร้อมกับเหวี่ยงมะเหงกมาโป๊กกระบานทีนึง ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าเป็นเพราะชื่อของผู้เขียน หรือชื่อของความเรียงที่สะดุดตา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็หยิบชื่อความเรียงเอามาเขียนเป็นกลอน ไม่รู้เขียนอะไรลงไป พล็อตเอียงไปกะเอียงมา .. ฮา ความสุขที่ได้เขียน เป็นฉะนี้เอง ................. คุณแดนไกล .. ขอบคุณค่ะ ที่เดินเป็นเพื่อน เขาว่าเดินเป็นกลุ่มจะปลอดภัย คุณปราณรวี .. อุปสรรคมากมายคล้ายบททดสอบ ถ้าชีวิตราบเรียบเราก็จะวัดค่าตัวเองไม่ได้มั๊งคะ คุณกระต่ายใต้เงาจันทร์ .. บางทียอมเป็นตะเกียงไร้ค่าที่ใกล้ตัว ดีกว่าเป็นจันทร์สูงส่งที่ใครต่อใครมิอาจเอื้อมถึงนะคะ คุณทักทาย .. วันหยุด อัลมิตราก็แปลงร่างเป็นหนอนอยู่แล้วค่ะ ตื่นสายและนอนบ่าย .. มีความสุขกับกองหนังสือบนเตียง .. :) คุณร้อยแปดพันเก้า .. เจอแล้วไงคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะ .. อั่นแน่ .. เบื่อล่ะน่าดู จะเขียนกลอนล้อไม่เลิก ฮา .. คุณลิลลี่ขาว .. ค่ะ อย่างในกลอน ตะเกียงเก่า ๆ ถูกสมมุติให้เป็นสิ่งที่ถูกลืม มันคงน้อยใจนะคะ ที่เขาไม่เหลียวแลมันอีกต่อไปแล้ว คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. นักเดินทางตอนนี้ขี้มูกกรังอยู่ค่ะ หนึบติดสองข้างแก้วเลย คุณกุหลาบขาว .. ตราบเมื่อสิ่งนั้นดับสูญไป จึงคร่ำครวญด้วยความเสียดายค่ะ