ไร่ลึกกลางดงดอนป่าสูง ชักจูงนวลน้องละล่องไล่ เรืองรองทาบทองท้องฟ้าใหญ่ ไรไรเห็นเป็นเช่นแดนทอง กางเขนบินล่าหาแมลง ต้องแฝงยามเหยี่ยวนกเขาร้อง หนูนาก็รี่เข้ารังรอง จดจ้องรอดูอยู่อย่างนั้น ชายเขาชายป่าเวลาเย็น ช่างเป็นเหมือนแดนแสนสวรรค์ แก่งธารโตรกผาชล่าชัน ชวนเจ้าเท่านั้นไปล่องลอย ผ้าถุงตีโป่งเหนือน้ำใส ลอยไปไล่เจ้าเฝ้าเกี่ยวก้อย กุมมือลอบจูบเจ้าแต่น้อย มิให้เป็นรอยต้องหมองมัว ก่อกองไฟฟอนตอนหัวค่ำ ไล่เงาดำพืดมืดสลัว โอบนางปกป้องน้องอย่ากลัว หมอกมัวแม้ม่านจะผ่านเลย เปล่าขลุ่ยกล่อมไพรให้เจ้าฟัง เอนหลังตักพี่เพียงเขนย สยายผมเจ้าเล่นเหมือนเช่นเคย มิเอ่ยคำใดใจก็รู้ เราสองรักหนึ่งจากใจสอง มีน้องมีพี่มีเพียงคู่ โลกจะเลวจะร้ายไม่รับรู้ แค่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันก็พอ (ม้าก้านกล้วย)
28 มกราคม 2545 03:59 น. - comment id 32472
อบอุ่นดีจังเลย พี่ม้าก้านกล้วย... ชอบครับ
28 มกราคม 2545 11:36 น. - comment id 32506
ค่ะคงมีความเห็นเช่นเดียวกันกับธนรัฐค่ะพี่ม้าก้านกล้วยเขียนกลอนแบบเล่าเรื่องพื้นบ้านดีจังเลยค่ะ วันนี้อ่านกลอนแล้วชื่นใจ
28 มกราคม 2545 13:22 น. - comment id 32538
ไร่แถวไหนครับน่าอยู่มากเลยครับ
29 มกราคม 2545 08:53 น. - comment id 32656
ชอบที่สุดกับชีวิตบ้านไร่..เคยฝันจะแต่งนิยายหวานนางเอกชื่อพวงชมพู..ขี่ม้า..และไร่ที่ว่ามีหุบเขาแบบกลางไพรที่เกาะพะงัน..บ้านเกิด..ที่มีโตรกธารและผาสูง..ยากที่ใครจะจินตนาการออกเพราะซ่อนตัวลึกลับ..ขวัญ..ฝัน..และเขียนเรื่องปลายฝนต้นหนาวกับทุ่งข้าวแห่งความฝัน
29 มกราคม 2545 08:56 น. - comment id 32657
ไว้ในบทกวีคำคม..เป็นเกียรติมากถ้าสละเวลาอ่านนะคะ รักและอยากให้มีพระเอกมารับไปอยู่ในไร่ฝันอย่างนี้..เพราะชีวิตนี้ถวิลแต่พงไพร.. ไม่ชอบใจชีวิตที่เหมือนปลาผิดน้ำยังงี้เลยค่ะ.. มาพาไปทีได้ไหมนะ..นะจ้ะ