โคลงจิตรลีลา ดังเพิกด้าว............ผืนดิน ดลธานิน.............สนั่นก้อง ปานภูว์ผิน...........ผันผก ทั่วทั้งท้อง............ถิ่นฐาน มารมุ่งม้วน........เขมือบโกง ยกพวกโหง........ห่ามเหี้ยม ดวงตาโพลง........ลิ้นแผล็บ คิดสร้างเสี้ยม......ศึกเสริม ส่งเสริม เหิมหนักแล้ว.....แลหนอ ใครไป่รอ...........รุกต้าน ลูกไล่ผลอ..........พลอดเอ่ย ใครโต้ค้าน........ข่มเขา ขู่เขา เมาห์โลดหล้า.....โลดลอย เดินดุ่มทะยอย....เหยียบย้ำ หลายคนถอย-....แถวถด ร้าวเจ็บกล้ำ.........กลบกลืน ขืนข่มแท้..........เกินทาน จึงก่อการ..........กอบกู้ จึงรวมหาญ......หาญหัก จึงเข้าสู้............สิ่งทราม ขามคร้ามยั่น.....เยงไย ไทยคือไทย.......ที่แกล้ว ไทยใช่ใหล-.....หลับตลอด รู้ตื่นแผ้ว...........แผ่นดิน ภินท์พวกพ้อง....พาลา พังยักษา.............ย่ำเสี้ยน จำเป็นมา...........ประมวลหมู่ หั่นให้เหี้ยน......หดหาย เหือดหาย อีทิสังฉันท์ ๒๐ จึงพิรีย์ขนัดสมรรถขจาย พลังพิลึกอธึกทลาย......................ทุชนลาญ ลาญริปูอธรรม์มหันตพาล ประทุก, ประเทิง ระเริงสถาน......สถุลพรรค์ พรรค์ปิศาจฉกาจไฉกรฉกรรจ์ ธนาเสาะหา, อุราน่ะหรร-............ษฮือเหิม แผ่ประภาพเผด็จประเทศเผดิม ฉลาดฉลุยตะลุยเฉลิม..................โฉลกตน ตูสิใหญ่ผิว์ใครจะใคร่ผจญ ณรงค์ก็พ่ายมลายเพราะพล..........พิทักษ์ตู สูงและต่ำมิคิดพินิจและดู ระหงระเหิดจะเชิดจะชู................จะชุบตัว ร่านขย่มระริกขยิกระรัว กระหังกระหายระราย ณ หัว-......ระแหงเห็น สร้างยุบลตะบิดประดิษฐ์ประเด็น ประชาซิ่ป่วนละล้วนจะเป็น.........ประลัยกาล แตกสมานสมัครอะดักก็ดาล ผิว์ปล่อยฉะนี้บุรีพิศาล.................สะเทือนครืน จึงทหารถนัดสมรรถก็ยืน เถลิงผงาดพิลาส ณ ผืน..............ไผทพลัน กาพย์ยานี ๑๑ แค้นเคืองคนเขื่องโข..................ยิ่งเติบโต ยิ่งตีบตัน ใครแข่ง ใครแข็งขัน...................ก็ขบเขี้ยวคอยเคี้ยวคน ย่างผ้ายเยื้องย้ายผิน...................โลดลิ่วบินลอยลมบน พวกผีพ่วงพีผล- .........................ประโยชน์ผองพวกพ้องพูน สร้างภาพให้ทราบผ่อง...............แท้หม่นหมองมากมองมูล สิ้นทรัพย์ สิ่งสรรพสูญ..............ด้วยหมู่ทรามมูมมามโซม ตวงชั่งให้ต่างชาติ.......................มาย่างยาตรเหมือนญาติโยม ซ้องแห่เซ็งแซ่โหม....................มาซ้องฮือ มาซื้อหา เลวฉายทำลายชาติ......................อวดลีลาศ โอ่ลีลา โสมมสั่งสมมา...........................เสพสามานย์ซึมซ่านมอม ถึงทีพวกผีท้น.............................ต้องยับย่น ต้องยินยอม กำลังไหลหลั่งหลอม..................จักกวาดหล้า กวาดกาลี กลอนสุภาพ พิรุณหลั่งพรั่งลงบรรจงล้าง ให้เสื่อมสร่างคาวอสัตย์ คาวบัดสี หวังผืนแดนแผ่นดินคงยินดี ทุกชีวีหวังไว้วับไววาว ขอแสงฉายพรายเฉิดพริ้งเพริศช่วง ขอหนห้วงหาวแห่งเจิดแจ้งหาว ขอแก้วก่ำล้ำเกิดกำเนิดสกาว ขอรอยร้าวรอยรานบรรสานรอย วารวันใหม่ไม่หม่นมืดมนมิด จงสืบทิศศรัทธาไม่ซาถอย ดวงใจที่พลีถั่งย่อมหลั่งทอย ลบความถ่อยที่ทาบที่ฉาบทา ถึงนับหนึ่งพึงน้อมพึงพร้อมนับ เพื่อสร้างสรรพเสริมสรรค์สิ่งหรรษา ประชายืนขึ้นหยัดท่ามรัถยา สืบสัมฤทธิ์อิสราปรีดารมย์ ไทยสร้างไทยใสถ่องทุกท้องที่ สร้างสิ่งศรีแสวงเสาะโดยเหมาะสม คนเคลื่อนขับคับคั่งสร้างสังคม เพื่อชื่นชมเฉิดฉันนิรันดร์ชัย (เขียนไว้ในช่วงวันที่ ๑๙ ถึง ๒๐ กันยายน วันปฏิรูปการปกครองอีกครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย)
20 กันยายน 2549 14:19 น. - comment id 607847
20 กันยายน 2549 14:26 น. - comment id 607848
ขอลงซำอีกรอบครับ.. รู้สึกโล่งๆ ยังไงบอกไม่ถูก.. เพื่อนผมบอกว่าเป็นการปฎิวัติที่คลาสสิคที่สุด..มีประชาชนนำดอกไม้ไปให้ทหาร ..ค่ำๆ ผมจะเข้าเมืองไปดูรถถัง..
20 กันยายน 2549 14:58 น. - comment id 607852
สั่นสะท้านลานสะทกสะเทือนลั่น ก้องฟ้ามืดมหันตภัยร้าย ประชาชื่นเมฆเค้าพิรุณพราย แต่ใช่หัน ภัยร้ายวาตเพลิง สาประวัติเขียนคล้อยในรอยเฉือน มิจางเลือนลางเล้นจากเส้นเสิง เมื่อเลือดบาดชาดรอนตะกอนเชิง จึงจะเริงร้อนไฟในมือตน..!! นี่..!! เป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย ประวัติศาสตร์เคยให้บทเรียนว่าอย่างไร แล้วจะดีใจหรือเสียใจดี..?
20 กันยายน 2549 19:44 น. - comment id 607930
เพื่อนในเว็ปคนหนึ่งบอกผู้หญิงไร้เงาเหมือนเพื่อนคุณดอกข้าวเลย ว่ามีประชาชนนำดอกไม้ไปให้ทหาร และขอถ่ายรูปกับรถถังพร้อมทหาร ดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติที่น่ารักที่สุดด้วย เพราะไม่มีการนองเลือด อิอิ
20 กันยายน 2549 20:56 น. - comment id 607957
บางครั้ง คนเราก็ต้องขุดรากถอนโคน หญ้าแห้วหมู
20 กันยายน 2549 22:03 น. - comment id 607987
21 กันยายน 2549 07:48 น. - comment id 608018
wind of change ... พระพายอันกลายผัน ๑. ..๏ วาระบทจรมุสู่วิหาร ระหว่างวิถีและอุทยาน.............สราญรมย์ แว่วพระพายระรินระรวยประสม ณ รัตติกาลระรื่นระงม..............ภิรมย์ใจ พบทหารวิกรานต์เกษมฤทัย กระฉับกระเฉง เขลงกระไร.......พิไรลม ข้าพเจ้าพินิจพิเคราะห์ปฐม พิภพพินาศทลายถล่ม.............นิยมใด ปรารถนาประดิษฐ์ประสิทธิ์ไฉน ณ กาลวิบัติและอายุขัย...........ผิวายปราณ โอ้วิมานพิสุทธิ์พิเศษตระหง่าน ณ ห้วงภวังค์ประทังอุทาร..........ตระการเกิน สรรพสิ่งสลายมลายเผชิญ พระพายกระโชกระหกระเหิน.....ประเมินเหมือน โปรดประคับประคองมิร้างมิเลือน ประสิทธิ์ประสาทผดุงเสมือน......มิเบือนกานท์ ฯ ๒. ..๏ พึงกระนั้นคะครึ้นระรื่นฤดี ประสบพิสุทธ์วิมุติศรี...............สุธีฐาน เยาวชนผิว์เยี่ยง ณ เคียงพิชาน ก็เสพและจับประทับผลาน........ปริปราณปัน ย้อนอดีตวิจิตรสมานฉันท์ ฤทัยระรื่นรติกระนั้น................ถวัลย์คง ด้วยพระพายละมุนและอุ่นผจง อดีตระทมระทวยประสงค์.........เจาะจงหาย โปรดสนับสนุนมโนภิปราย มุมั่นประสงค์ตะเกียกตะกาย......ชม้ายฝัน- อันพิลาสเจริดประเสริฐกระนั้น ณ รัตติกาลสราญนิรันดร์..........และหรรษา เพียงแสดงแถลงประกาศกถา เสมือนประคบประหงมยุพา-......ดรุณชน ด้วยผสมผสานสมานกมล ขยม*และท่านสิหมั่นถกล........ประดนเกียรติ์ ฯ ๓. ..๏ ห้วงพระพายประจักษ์อนิจตา ประดุจสุบินพิลาสประภา...........คละวนเวียน ท่านและข้าพเจ้าสิเฝ้าชระเมียน มิท้อมิถอยเผชิญกระเสียร........เสถียรคง เฉกระหัดสิหมุนสนองประสงค์- มิหยุดมิหย่อนพระพายยุยง.......มิหลงภรานต์ เพียงหทัยผิว์มั่นผดุงวิธาน พิทักษ์ประจักษ์และภักดิ์ขนาน...ประสานปรีดิ์ ดัชนีขยับ ณ เส้น ณ คีย์ สดับเสนาะและเพราะฉะนี้.........ฤดีหมาย ฯ ( สร้อยโซโล่ ) ..๏ โปรดสนับสนุนมโนภิปราย มุมั่นประสงค์ตะเกียกตะกาย......ชม้ายฝัน อันพิลาสเจริดประเสริฐกระนั้น ณ รัตติกาลสราญนิรันดร์.........และหรรษา เพียงแสดงแถลงพิลาสกถา เสมือนประคบประหงมยุพา.......ดรุณชน ด้วยผสมผสานสมานกมล ขยมและท่านสิหมั่นถกล..........ประดนเกียรติ์ สร้างสุบินพิลาสสถิตเสถียร ระหว่างพระพายระรวยผละเผียน..และเปลี่ยนแปลง ๚ะ๛ คำว่ากีตาร์ ใช้คำว่า ณ เส้น ณ คีย์ ... คำว่าผิวปาก ใข้คำว่า พิไรลม .. ... imagine ... จินตนาการ ..๏ จินตนาการเถิดว่าเวลานี้ จักไม่มีสรวงสวรรค์ตระการไหน มันง่ายนักหากเธอมิเผลอใจ ครั้นจิตใฝ่ฟันฝ่าพยายาม จินตนาการเถิดว่าเวลานี้ จักไม่มีขุมนรกให้อกหวาม อีกที่สุดโลกหล้าคราตรองตาม คงได้ความหากชำเลืองเบื้องล่างเรา เพราะเบื้องบนตนหรือคือฟ้ากว้าง แจ่มกระจ่างสดใสคลายอับเฉา จินตนาการเถิดว่าประชาเรา- ปราศโศกเศร้ายังยืนหยัดในปัจจุบัน จินตนาการเถิดว่าอาณาจักร จักตระหนักว่าประเทศไร้เขตกั้น มิยากนักหากเราเข้าใจกัน แล้วมุ่งมั่นฟันฝ่ามาร่วมทาง ไม่มีเหตุเลศนัยใช้เข่นฆ่า ปราศบีฑาผู้ใดใครขัดขวาง ปราศคนเจ็บล้มตายไร้ครวญคราง ไร้แนวทางลัทธิมิแบ่งใคร ความแต่งต่างทางศาสน์มิอาจกั้น อยู่ร่วมกันอย่างสันติต่างมีให้ จินตนาการเถิดว่าถ้าร่วมใจ ทุกคนไซร้มีชีวิตจิตเสรี จินตนาการเถิดว่าประชาชาติ ล้วนมุ่งมาตรความสุขในทุกที่ ดำรงชีพแนวทางอย่างเสรี แต่อาจมีผู้เห็นฉันเพ้อฝันไป เธออาจคิดว่าฉันนั้นพร่ำเพ้อ แต่หากเธอไตร่ตรองมองเงื่อนไข มีเพียงฉันผู้หนึ่งซึ่งมั่นใจ ฤๅมีใครยังหวังอย่างเดียวกัน ยังปรารถนาว่าเธอจักร่วมด้วย ต่างมุ่งช่วยก่อร่างสร้างความฝัน ให้ปรากฏแจ้งจิตสัมฤทธิ์พลัน แล้วโลกนั้นจะหลอมเป็นเช่นหนึ่งเดียว จินตนาการเถิดหนาถ้าอำนาจ สิทธิ์ผูกขาดต้องแตกแหลกเป็นเสี้ยว ปราศผู้ชอบครอบครองปองผู้เดียว เธอคงเหลียวเฉลียวจิตคิดแปลกใจ เพราะหากเธอทำไปได้เช่นนั้น ผู้โลภโมโทสันอันมักใหญ่ ผู้หิวโหยโรยแรงแห่งหนใด จักหมดไปจากโลกคลายโศกตรม ความถือพี่มีน้องต้องบังเกิด สิ่งประเสริฐสรรสร้างอย่างเหมาะสม จินตนาการเถิดหนาพารื่นรมย์ ความชื่นชมแบ่งปันพลันเกิดมี คนทั้งมวลล้วนชอบมอบความรัก ต่างร่วมภักดิ์สงบสุขทุกถิ่นที่ มีเมตตากรุณาเอื้ออารี โลกเรานี้จักงดงามล้ำพิไล ( สร้อย ) เธออาจคิดว่าฉันนั้นพร่ำเพ้อ แต่หากเธอไตร่ตรองมองเงื่อนไข มีเพียงฉันผู้หนึ่งซึ่งมั่นใจ ฤๅมีใครยังหวังอย่างเดียวกัน ยังปรารถนาว่าเธอจักร่วมด้วย ต่างมุ่งช่วยก่อร่างสร้างความฝัน ให้ปรากฏแจ้งจิตสัมฤทธิ์พลัน แล้วโลกนั้นจะหลอมเป็นเช่นหนึ่งเดียว ๚ะ๛ ..อรุณสวัสดิ์ค่ะ... ...มีความสุขมากมายเสมอ..ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงแห่งสายลมค่ะ... ...บรรยากาศแบบนี้...ทำให้อัลมิตรานึกถึงเสียงเพลงอยู่สองบทเพลงทันที... ...๑...wind of chang พระพายอันกลายผัน...ซึ่งเป็นของแมงป่องผยองเดช... ...เพลงนี้ อัลมิตรานึกถึงสงครามโลกครั้งที่ ๑ ซึ่ง เยอรมันได้ทำสงครามและขยายอานาจักรนาซี... ...เขากล่าวถึงทหารหาญ...และยังกล่าวถึงสิทธิเสรีภาพต่าง ๆ การใช้ชีวิตแบบอิสระเสรี... ...ซึ่งเข้าได้กับวงแมงป่อง.....เพราะวงแมงป่อง..คือวงดนตรีของ เยอรมัน... ...๒...imagine ห้วงจินตนาการ...ของ john lennon หนึ่งในสมาชิกสี่เต่าทองคะนองฟ้า... ...ที่กล่าวถึงห้วงจินตนาการที่คาดหวัง...อยากเห็นมวลมนุษย์ชาติอยู่อย่างสันติสุขมีความเป็นอิสระเสรีค่ะ... ...ทั้งสองเพลงนี้ อัลมิตราเคยถอดความมาเขียนเป็นอีทิสังฉันท์ และ กลอนแปด...พระพายอันกลายผัน , จินตนาการ ...อย่างไรก็ตาม อัลมิตรายังคงนึกถึงสองเพลงนี้อยู่เสมอ ท่ามบรรยากาศที่อยากให้เกิดความสงบสุขอย่างที่สุดค่ะ... ...และก็หวังว่า พวกเราจะช่วยกัน สร้างบรรยากาศที่สดใสงดงามให้ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ..
21 กันยายน 2549 09:36 น. - comment id 608045
สวัสดีครับทุกท่าน ประเทศไทยจงเจริญ ประเทศไทยจงเจริญ ประเทศไทยจงเจริญ มาโห่ร้องและทักทายทุกๆท่านด้วยความหวังครับ การปฏิรูปการปกครองครั้งนี้ เรียบร้อย นุ่มนวลอย่างที่ผมเองก็ไม่เคยพบมาก่อนเหมือนกันครับ คุณดอกข้าวไปดูตรถถังมาแล้ว ได้ถ่ายภาพเก็บไว้หรือเปล่าครับ ผมอยู่แต่ในบ้าน คงได้แต่ดู (จะพูดให้ถูกจริงๆคือ ฟัง) โทรทัศน์ หรือไม่ก็ฟังวิทยุ แล้วคอยดูต่อไปครับ คุณธรรมาภิวัฏครับ อนาคตเท่านั้นจะบอกได้ว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะนำพาบ้านเมืองไปสู่ทิศใด ทางใด อย่างไรก็ตาม ผมว่า ตอนนี้ คิดคาดในแง่บวกไว้ก่อนดีกว่าครับ คุณทิกิ และคุณผู้หญิงไร้เงาครับ มีข้อซึ่งผมกังวลอยู่นิดหนึ่งคือ อดีตรักษาการนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ลอนดอน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่? กลับมาเพื่อทำอะไรหรือเปล่า? คนอย่างเขาจะยอมแพ้ง่ายๆหรือ? ได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างเรียบร้อยครับ ขอขอบพระคุณคุณอัลมิตราครับ ขอบพระคุณมากๆสำหรับบทกวีเสริม ถ้าพวกเราไม่แตกแยกแผกฝ่าย ถ้าพวกเราร่วมกันสรรค์เพื่อสร้างอย่างตั้งใจและจริงจังแล้ว ทุกอย่างจะก้าวหน้า ทุกอย่างจะพัฒนาครับ
21 กันยายน 2549 12:27 น. - comment id 608062
งานงามมากจริงๆ ค่ะ ขอคาราวะ และ ชื่นชม ด้วยหัวใจ
22 กันยายน 2549 17:29 น. - comment id 608499
30 กันยายน 2549 15:11 น. - comment id 610630
ซาบซึ้งมากค่ะ ขออนุญาตยืมไปประกอบภาพทหารกับดอกไม้http://372smallroom.spaces.live.com/ ตรงวรรคที่ว่า .....ขอรอยร้าวรอยรานบรรสานรอย.....