โลกนี้มิใช่อยู่เพียง....หนึ่งด้อยมณีนางแท้ แร่ธาตุผันแปร....ล้วนหนึ่ง...มณีนางสร้าง ตันตนเราล้วนหนึ่ง...ประดุจเงาครอบกาย ...ภพหล้านี้มิใช่...มีหงส์ทองเดียวเลย กาดำเจ้าของล้วนครอง...ชีพด้วย.. เมาสมมุติโลกเหว่ยทรนง...จองหอง.. น้ำใจมิตรม้วย....โลกล้วนแลดับ .......โลกนี้เป็นของเจ้า...คนเดียวเพียงนั้นหรือ .....คนอื่นล้วนคือ...เงาสมมุติที่สร้างฤาไฉน .....มนุษย์ล้วนกำหนดสร้าง......เฉกเช่นเงาเสมือน ....ประหนึ่ง...ข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์มิสามารถยึดครองถึงห้วงอารมณ์ก็..เพียงนั้น ....แสงกระทบยามแดดแผดกัดสัมผัสหนังไร้แม่ ....แสงกระทบสาดส่องผ่านร่าง...ก่อเกิดกำเนิดชาติเพียงร่างๆหนึ่ง.. ...ถ้ามองอย่างรู้สึก...เราจะรู้สึกเสมือน...เป็นร่างที่น้อมเคารพผู้ที่ให้กำเนิดเสมอ ......เงาลางลาง....ร่างตะคุ่มๆเดินตามผู้เป็นเจ้าของ...อย่างผู้ที่ด้อยประหนึ่งปัญญา ....หากแม้นพึงพินิจมองตามที่สายตาอันด้อยเขลากับสมองใบกลวงของข้าผู้น้อยปัญญา...นี้แล้ว ท่านเคยรู้สึกไหมว่า....จะมีใครที่เฝ้าติดตามตัวท่านเสมอเหมือนเงา... ผู้ที่จงรักภักดี...แม้ในยามที่ไม่มีใครเลยสักคน.... ในบางเวลาเจ้าก็มักจะหายไปกับความขุ่นมัวของขอบฟ้ากว้างชะเลเขียว จะมักจะเดินทางร่วมไปกับฟ้า ไปกับจันทราในยามที่คืนมืดมิด....ประดุจหนึ่งของหัวใจคน ในยามที่อ้างว้างว่างเปล่า...หัวใจมันมักร้องไห้....ทั้งที่รอยยิ้มภายนอกบ่งบอกถึงความร่าเริงความสุข ยิ้มในใจยังจะสุขเงียบๆที่มีบางสิ่งบางอย่างมากระทบอารมณ์ที่กำลัง...คิดถึง เงยหน้ามองฟ้า...วันนี้ฟ้าหม่นจันทราสีหมองๆ....ทำไมนะ เจ้าไม่ยิ้มไม่ชะโงกลงมามอง.....เงาที่ต้อยต่ำอย่างข้าสักคืน .........พลีหัวใจดวงนี้นิ่ง.........ถวายโลก .....ลืมเหงาลืมโศก....จะสร้างสรร...เพื่อดับร้อน ....แรงใจดวงนี้พลีแสวงสวรรค์......ถวายโลก .....หอมโศกสูบทุกข์....สะท้อน....เสพสู่ห้วงสวรรค์... ...จะเอาอะไรในโลกนี้ที่เป็นของเจ้า... ....หวังหยิบเพียงดาวหรือเดือนเพียงนั้นหรือ ....ธาตุแท้แห่งอนูเราคือ...ความโลภะกามาฤาไฉน ....อยากได้ไว้ทำไมดวงเดือน....มันเสมือนป่าช้ารกชัฎที่กว้างใหญ่ ...เอื้อมมือแล้วหมายมุ่งสิ่งใด....รกหัวใจเสมือนขยะปฎิกูลอารมณ์ ....ปลงตกคิดจะนับราคาแก้วแหวนเงินทอง...ล้วนของจักรวาลกำหนดเหมือน ...หากแม้นยึดได้ทุกดวงดาว...หยิบสัมผัสฟากฟ้าล้วนเราเป็นเจ้าของ... ....หลงครอบงำเอกสิทธิ์ครองครอบ...กอบได้มือเดียวแค่นั้นหรือ .......ปรารถนาสิ่งใดในพิภพ...จบอุดมคติที่ใหญ่หลวง มิได้อยู่เพียงมีมารยาที่หลอกลวง....จมแต่ในห้วงสามานย์ เรียนรู้อะไรในชาติหนึ่ง....ปรัชญาสอนตน.....เสมอเงา.... ...................ผู้ที่คอยติดตามโดยมิเคยปริปากบ่นสักคำ......ถึงแม้นจะยากลำบากเพียงใด ...........เจ้าคือเพื่อนแท้......ในยามที่ข้ามิมีใครเสมอ...เพื่อนยาก
13 กันยายน 2549 13:38 น. - comment id 605762
อืมมม ค่ะ............
13 กันยายน 2549 13:41 น. - comment id 605763
แต่เงา ไม่ได้รู้สึกร้อน หนาว กะเราเลยน๊า เราเท่านั้นที่รู้สึก.......หุหุ
13 กันยายน 2549 13:47 น. - comment id 605764
ในยามที่เดียวดาย....เงาเสมือนผู้เตือนตน .......คือ...ให้ย้อนกลับมามองข้างหลังเราดูบ้าง....อะไรประมาณนี้
13 กันยายน 2549 13:52 น. - comment id 605766
งั้นพอเราเห็นเงาของเรา เราก็จะสงสัยว่า อ้ายเงาดำๆ เนี้ยะเมื่อไหร่มานจะเป็นเปลี่ยนเปงสีอื่นแว้...555 เราจะได้เป็นคนใหม่ไง
13 กันยายน 2549 13:56 น. - comment id 605769
น่าคิดนะ......ถ้าเราเปลี่ยนเงาได้ดั่งใจ...ตามของสีแห่งอารมณ์...สังคมเราคงมองรู้นะว่าใครคนใดคิดอะไรประมาณไหนจะได้มิต้องเดาหรือขัดแย้งกันดั่งเฉกเช่นสังคมในปัจจุบันนี้
13 กันยายน 2549 14:07 น. - comment id 605775
เอ เอ ถ้าเปลี่ยนได้ จะเปลี่ยนเป็นสีอะไรดีน๊า ถึงจะเข้ากับบรรยากาศตอนนี้ หุหุ
13 กันยายน 2549 14:08 น. - comment id 605776
คนขี้เหงา จงเจริญ
13 กันยายน 2549 14:12 น. - comment id 605777
อ่ะแฮ้ม มาทำกันอยู่สองคนนะเนี่ย อยากแอบดูนะ ขอบอก ๆ
13 กันยายน 2549 14:20 น. - comment id 605778
8. แป่ววว เด๋วตีก้นคนแอบดู 5 5 5
13 กันยายน 2549 15:22 น. - comment id 605796
กรี๊ด!!!!!!!!!! เงาหัวหาย........
13 กันยายน 2549 18:31 น. - comment id 605889
มาซุ้มดูคนคุยกันค่ะ
13 กันยายน 2549 23:35 น. - comment id 606002
...สมมุติว่า...เราไม่มีเงา... บุราณ...มักจะใช้เงากำหนดบอกเหตุในสิ่งมิดีสำเหมอ ....อะไรก็ตามแต่...ปุถุชนปัจเจกล้วน.. ....มีความหวัง..มีความมุ่งหมายโดยสิ้น สุดแท้แต่ว่า....ผู้คนเหล่านั้นจะยืนหยัดอดทนรอ...ความมุ่งมาดปรารถนาได้เพียงใด...สุดแท้ทนถึง...วันและเวลาล้วน...มีคนรอคอยเสมอ
13 กันยายน 2549 23:44 น. - comment id 606005
เงาติดตามตัวเราไม่เคยห่าง เงาเป็นผู้เคียงข้างแม้ทางหวาดหวั่น เงาคือเงาที่ตามเราในทุกคืนวัน เงาคือสิ่งสำคัญ..เพราะไม่มีเงานั้นหมายความว่า.... อิอิ นั่นแน่ จะคิดว่าเราตายแล้วหละซิ ไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ใช่จริง ๆ อิอิ
14 กันยายน 2549 01:35 น. - comment id 606027
....ค่ำคืนนี้ปวดเอวจัง...รำพึงรำพันในใจ ....ค่ำคืนที่หลับใหลในรัตติกาลนี้ ....มิมีแม้เงาเป็นเพื่อน...เจ้าคงหลับใหลพักฟื้นกายา...ที่ผ่านร้อนทนหนาวมากับข้าตลอดชั่วครึ่งชีพผู้ที่ถูกเรียกว่ามนุษย์...มันก็คือสิ่งมีชีวิต...เหนืออมนุษย์ตรงด้วยสติปัญญาเพียงนั้นเอง ...ในความมืดสนิทในใจที่ส่องแสงอารมณ์ที่เจิดจำรัสส่องสว่างในอารมณ์ยามนี้ ................จะรอตื่นเช้าหุงข้าวรอเงา .......................ม่ะได้ว่าเงาหายไปน๊าผู้หญิงที่ไม่มีแสงสาดกะทบร่าง
14 กันยายน 2549 05:13 น. - comment id 606036
ตื่นแร่ะ เงาก็มาเลยไม่มีส่วนไหนขาดหาย 5 5 5