..๏ ใครเป็นใครอาจดูไม่รู้จัก ถ้ามาทักเรานี้ไม่มีเขิน ใกล้ลุงแก้วสนทนาแสนพาเพลิน มากเพื่อนฝูงหยอกเอินยิ้มเชิญชวน อีกคนโน้นคนนี้ปรี่ไหว้ครบ กระทั่งศพข้างศาลาพาไห้หวน จวบพระท่านฉันเพลเราเร้นจวน เห็นสมควรเยือนกุฏีศรีบรมครู พบคุณลุงใจดีมีเมตตา ยังอุตส่าห์บอกกล่าวให้เรารู้ เมื่ออดีตท่านภู่ที่เฟื่องฟู ท่านกินอยู่อย่างไรได้ชี้แจง ทั้งข้าวของห้องหับสำรับโถ เปิดออกโชว์ทุกชิ้นมิหมิ่นแผลง มีกระดานเขียนถ้อยพลอยแสดง ล้วนตบแต่งสมถะดุจละวาง จากกุฏิท่านภู่เร่ดูอื่น เราระรื่นหัวใจไม่หมองหมาง กับพรรคพวกพกกล้องส่องเส้นทาง แล้วเยื้องย่างสู่อีกโบสถ์เขาโจษจัน อลังการยิ่งแท้บุญแผ่เอื้อ จนอยากเผื่อบางใครที่ใฝ่ฝัน ภิกษุณีห้าสิบสองงามผ่องพรรณ ทองทั้งนั้นอร่ามตาพาตะลึง แต่ละองค์เรียงแถวตามแนวฐาน พักตร์เบิกบานงามสง่าท่าผายผึ่ง เทพธิดาแปลงเงาเรารำพึง แลอีกหนึ่งขัดสมาธิวิลาสวิไล ภิกษุณีละไว้ใครเคยบอก แหม !! ...มาหลอกลิงงงจนสงสัย หลักฐานเห็นกับตาจะว่าไง เฮ้ย !!..คนไหนอยากแย้งตะแบงแปร ? เราอิ่มเอิบหัวใจได้เปี่ยมสุข จนลืมทุกข์ที่คล้ายหลายกระแส จวบพยาธิ์ในท้องร้องงอแง จำเป็นแก้ความหิวต้องลิ่วจร กลับศาลาธรรมวิลาสอย่างรีบเร่ง ท้องตึงเต็งทำท่าหนังตาหย่อน ทั้งอาศรมอร่อยร่วมรวมบ้านกลอน เสร็จสรรพตอนบ่ายกว่าจึงคลาไคล อาทิวาชักชวนทุกถ้วนหน้า คนเดินช้าก็ถาม..จะไปไหน.. ..ลิงหนอลิงมิจำทำได้ไง.. ..ฮ่วย !!.. แล้วไผสมองทดทุกบทความ.. เดินคล้อยหลังหน้าง้ำเหมือนช้ำอก แดดนรกผ่าวผิวร้อนล้นหลาม เหงื่อหยดติ๋งเสื้อผ้าพาเปียกลาม ต้วมเตี้ยมตามพรรคพวกซวกซวกเดิน ก้าวต่อก้าวจนถึงซึ่งวิหาร เมื่อเช้าผ่านเราก้มกราบสรรเสริญ แลบุษบกรองพระพาจำเริญ เขากล่าวเกริ่นฝีมือช่างอย่างเทวดา เบื้องเพดานโชติช่วงพุ่มดวงไฟ ช่างวิไลรอยสลักงามหนักหนา บานประตูทองลงองค์เทวา เทพเกลื่อนตาใจเต้นตึกระทึกแท้ ต่างล้อมวงเสวนากันหนาแน่น คุณสุจิตต์บรรยายแก่นอกแอ่นแอ้ สุนทรภู่ : ประวัติศาสตร์ชาติไทยแปร ท่านตีแผ่คือผู้ดีศรีเมืองกรุง ยกตัวอย่าง โอ้โฮ!!.. สุโขทัย ย้อนตั้งไกลหลักศิลาพาเกี่ยวยุ่ง วกมาถึงพระนเรศวรล้วนปรับปรุง ตอนรบพุ่งกับเจ้าพี่อุปราชา โม้ออกนอกบรรยายหลายคุ้งแคว แล้วฉีกแนวถึงผู้ดีศรีภาษา บ้านอยู่ไหน เอ๊ะ !!..ระยอง ของใครนา ? ท่านกังขาแล้วตีขลุม กระฎุมพี มีอาเพศเหตุใดจึงได้บวช ฤๅเพราะอวดอัตตาศิลป์ศักดิ์ศรี พ่ออยู่หัวฯหมั่นไส้ไม่ปรานี เหม็นขี้หน้าเต็มทีจึงลี้ไกล พระอภัยมณีที่ท่านคิด คำประดิษฐ์ฉากเรือใครเอื้อให้ ? สุนทรภู่บรรยายภาพทราบได้ไง ? ทุกทุกอย่างเป็นไปกระจ่างจริง ล้วนประโยชน์มากมายในความรู้ เหมือนมีครูสอนสั่งนั่งสุงสิง สอดแทรกมุขหลอกล่อราวล้อลิง หัวร่อกลิ้งยิ้มหัวทั่วทุกคน เสร็จจากงานบรรยายขายหนังสือ ประมูลซื้อแข่งราคาน่าสับสน เล็งสามก๊กหมายมั่นแต่ดันจน สองพันค้นกระเป๋าเราไม่มี โถ !! .. อาจารย์ทองแถมโปรดสงสาร หนูทำงานเก็บเงินไม่เพลินหนี้ ป้ายสองพันหนูสลดช่วยลดที พันห้านี้พอไหวอยากได้จัง เฝ้าเมียงมองอยู่นานจนพาลท้อ มิกล้าต่อจนใจไร้เงินถัง ยาจกเฉกเรานี้ฤๅมีตังค์ กลับมานั่งสะท้อนอกสามก๊กซึม จวบบ่ายสี่ที่ลานสาธารณะ จึงปล่อยปละความรู้สึกเพราะนึกขรึม เห็นพวกพ้องเพื่อนกวีมาเต็มตรึม ไม่กลัวบึ๊มปักหลักใกล้นักเขียน สามซีไรท์งานนี้โชว์ทีเด็ด ล้วนบอกเคล็ดแนวกวีที่เสถียร แม้ต่างยุคต่างสมัยหากได้เรียน คงไม่เพี้ยนจบสิ้นศิลป์ศาสตร์ไทย แต่ละท่านปราดเปรื่องเรื่องแนวคิด เราซึ้งจิต ณ บุญคุณที่หนุนให้ คำแนะนำดุจพี่น้องเกี่ยวคล้องใจ พี่ฝากไว้น้องจะสานผลงานทำ แดดอ่อนอ่อนลมพัดเย็นผิวกาย แสนสบายจวบสนธยาเพลาค่ำ คิดหยุดห้วงเวลาน่าจองจำ อยากอิ่มหนำกับอรรถรสบทกวี แต่ปราศผู้สามารถบังอาจรุด ร่ายเวทย์ฉุดจันทราเพื่อพาหนี เพื่อราชรถแห่งไฟไม่จรลี ฟ้าเปลี่ยนสีครอบคลุมทุกมุมเมือง เสียงดุเหว่าเร่าร้องฟังพ้องว่า ถึงเวลายามพลบขอจบเรื่อง หากอักษรยวนใครอย่าได้เคือง มิเปล่าเปลืองโม้อ้างอย่างเคยชิน รำลึกคุณท่านภู่ครูอาลักษณ์ ด้วยรู้จักท่านเกริกไกรในเชิงศิลป์ ขอบพระคุณเหล่าซีไรท์หากได้ยิน มิลืมสิ้นคำสอนสั่งหยั่งรู้ความ ขอบพระคุณครูกวีที่เคารพ ท่านเจนจบเป็นมณีศรีสยาม ต่างถ่องแท้ล้ำเลิศบรรเจิดตาม คงนิยามกวีไทยใจดำรง ขอบพระคุณอาศรมชมรมรักษ์ เราประจักษ์ความจริงคราวลิงหลง เหล่าฤาษีจับมือสอนค่อนบรรจง จากเคยงงก็พอแย้มกล้อมแกล้มคลำ ขอบพระคุณอาทิวา,ศาลาไทย จากหัวใจด้วยปลื้มและดื่มด่ำ งานสืบสานบ้านมหากวีที่จัดทำ เราอิ่มหนำบุญเจตนาน่ายินดี สหายโคลงสหายกลอนสลอนหน้า เชิญทัศนาให้ประจักษ์เป็นสักขี ภาพลงแขกแต่งบ้านมหากวี เท่าที่มีเพียงกึ่งของครึ่งงาน กิจกรรมอย่างนี้พี่น้องมอบ ไมตรีตอบเอื้อกันพลันสนาน ไม่ปรากฏบุคคลฉ้อฉลพาล มิตรภาพคือตำนานที่ขานจริง ประดิษฐ์ประดอยร้อยคำลำนำเล่า แต่ตัวเราปราศแจ้งทุกแหล่งสิ่ง หากผิดพลาดประการใดให้ท้วงติง จะดียิ่งกว่าสาดโคลนโยนผิดมา อีกสักถ้อยร้อยพจน์ก่อนบทจบ แม้นติดลบเราอภัยไม่ถือสา ด้วยอักษรพร่ำเพรื่ออาจเบื่อตา ราวกับว่าเราบรรยายนัยล่อลวง เพราะเจตนาของเราเราย่อมรู้ หาได้กู่ประกาศก้องดั่งฆ้องร่วง ใครกระทำกรรมใดได้ทั้งปวง อย่าจาบจ้วงพลิกลิ้นเหมือนหมิ่นกัน สุนทรภู่ รัตนกวีศรีสยาม ผู้เรืองนามจากแผ่นดินถึงถิ่นสวรรค์ เราศิษย์โง่คิดเขียนเพี้ยนรำพัน เพื่อรังสรรค์ทั้งหมดเป็นบทกลอน จบเรื่องราวเพียงนี้ที่สุดท้าย ฝากสหายทวนคราวฉาวกระฉ่อน เทียบกับงานมหากวีศรีสุนทร ทุกอย่างสะท้อนภาพจริงในสิ่งทำ ๚ะ๛ ประการหนึ่งซึ่งคำจะดำรัส ดำรงสัตย์ซื่อสุทธิ์ไม่มุสา หนึ่งผู้ผิดมิตรญาติและอาตมา จงตรึกตราตัดสินความตามสัจจัง (พระอภัยมณี)
10 กันยายน 2549 14:47 น. - comment id 604949
ที่เย้ายั่วหยอกเล่นให้เห็นขัน อย่าเคืองกันเสียใจไปเลยหนา ก็สมญาตั่งให้จอมลีลา จึงได้กล้าเล่นลิ้นใช่หมิ่นเธอ จออภัยหากใจยังหมองหม่น ยกเว้นเราสักคนไม่ได้เหรอ เคยโต้ตอบชอบชังเหมือนดั่งเกลอ เหตุเพราะเพ้อกลอนพาน่าอายจัง อิอิ ไม่มีคำแก้ตัว รู้ว่าโกรธจริง ๆ อิอิ
10 กันยายน 2549 15:21 น. - comment id 604962
คุณฤกษ์ .. :)
10 กันยายน 2549 16:01 น. - comment id 604974
ไปดูภาพหลายรอบแล้วค่ะ แต่ไม่สามารถดูได้ เครื่องที่เล่นที่บ้านไม่ได้ใช้เน็ตความเร็วสูง เปิดเท่าไหร่ก็เปิดไม่ออก แต่จากการอ่านกลอนชุดนี้ มองภาพได้ว่ามีความน่าทัศนาเพียงใด
11 กันยายน 2549 09:01 น. - comment id 605050
คุณอัลฯบรรยายได้เห็นภาพจริงๆครับ ดูคึกคักครึกครื้น ชวนให้อายกไปร่วมงานด้วยจริงๆ น่าสนุกจริงๆครับ
11 กันยายน 2549 14:42 น. - comment id 605122
ใครที่คิดจะไปหากไม่ได้ไปเสียดายแทนจริงๆ เป็นงานที่นับว่าเยี่ยมยอดและยอดเยี่ยมจริง ฉันทวไมตรีเพียบพร้อมไม่ถือเขาถือเรา อาหารหรือ มีหลายๆสิ่งหลายอย่าง ฟรี ตลอดงาน ที่ที่สำคัญนั้น คือหนังสือที่นำมาวางไว้จะหาได้ยากยิ่งนักหากเรา ไปค้นหาเองครับ ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย แก้วประเสริฐ.
11 กันยายน 2549 15:02 น. - comment id 605127
ได้เห็นภาพตามบรรยาย...ค่ะ ด้วยความขอบคุณ :)
11 กันยายน 2549 16:38 น. - comment id 605137
เป็นบทที่บรรยายภาพชัดเจนจังค่ะ..อยากไปบ้างจังค่ะ
11 กันยายน 2549 18:59 น. - comment id 605157
ยาวเป็นกลอนนิราศเลย กิจกรรมสร้างสรรค์ดีจัง
11 กันยายน 2549 22:20 น. - comment id 605212
คุณฤกษ์ .. คุณผู้ชายอารมณ์ดี อัลมิตรามักล้อคุณ แถมตั้งฉายาให้ต่าง ๆ นา ๆ จนตัวเองก็นึกขันเหมือนกัน (ทำไปได้) .. แต่ทุกครั้งที่หยอกล้อไป คุณก็ไม่เคยสักครั้งที่จะเก็บถ้อยคำล้อเลียนมาเป็นอารมณ์ ความรู้สึกดี ๆ ความรู้สึกที่เป็นมิตรเช่นนี้ อยากให้มีอยู่ตลอดไป นะคะ.. อัลมิตราไม่อยากให้ใครก็ตามที่เข้ามาเล่นเน็ต แล้วเกิดอาการเคร่งเครียด ,ไม่มีความสุข คุณรู้มั๊ย !! ในวันงาน อัลมิตราเห็นคุณสุจิตต์ วงษ์เทศบรรยายความสอดแทรกด้วยมุขตลก และนอกจากนั้น บรรดาครูกวีทั้งหลายที่แนะแนวให้ความรู้ที่ลานเสวนา ต่างก็มีอารมณ์ขัน อัลมิตราชอบบรรยากาศเช่นนี้ .. มันทำให้เกิดความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีเส้นขั้น ไม่มีกรอบกั้น ซึ่งทั้งหมดอาจจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอัลมิตรา .. แต่ที่สำคัญที่อัลมิตราจะบอกคุณก็คือ คุณเป็นคนอารมณ์ดีนะ ทำให้วงเสวนาภาษากลอนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี และสิ่งที่อัลมิตราจะลืมเสียไม่ได้...ขอบคุณในความมีน้ำใจค่ะ ขอบคุณ .. :) คุณผู้หญิงไร้เงา .. ภาพที่ลงไว้ในเรื่องสั้น บอกเล่าถึงบรรยากาศในงานได้คร่าว ๆ แต่ยังมีอะไรอีกหลายอย่าง ที่แม้แต่ภาพและตัวอักษร ไม่อาจสามารถถ่ายทอดได้หมดค่ะ คุณอรุณสุข .. อัลมิตราเพียงแต่นำเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจ และคิดว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ค่ะ ซึ่งก็มีเพื่อนจากบ้านกลอนไทยมาร่วมงานด้วยหลายคน เท่าที่ดูรายนามจากใบลงทะเบียน ที่มาร่วมงานจากบ้านกลอนไทย นับรายนามได้ ๑๕ คนค่ะ .. และอาจมีบางท่านไปแบบไม่เปิดเผย ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาอะไร งานทุกอย่างราบรื่น สรุปงานได้เป็นที่น่าพอใจค่ะ คุณแก้วประเสริฐ ..:) ไม่ถือเขาถือเรา .. คำนี้กล่าวได้ประเสริฐค่ะ และอัลมิตราก็รู้สึกเห็นด้วยจริง ๆ อัลมิตราไปถึงวัดราว 8.30 น. ขณะที่กำลังคลำทางไปอาคารธรรมวิลาส ก็หันไปเห็นบุคคลกลุ่มหนึ่งพอดี ช่วยกันหอบเสื่อ หอบข้าวของไปอาคาร ซึ่งมีทั้งสหายชาวโคลงและสมาชิกบ้านกลอนไทย อัลมิตรารู้ว่า .. เขาไม่ได้รู้จักมักจี่กันมาก่อน (หมายถึงระหว่างสหายชาวโคลง - สมาชิกบ้านกลอนไทย) งานนี้ไม่ต้องมีการแนะนำตัวว่าใครเป็นใคร แต่ละคนทราบด้วยตนเองว่า จะมาทำอะไร ต่างก็ช่วยกันทำ.. แต่ละคนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส และรีบกุลีกุจอ ช่วยกันตระเตรียมสถานที่ ยกนั่น ยกนี่ ขนนั่น ขนนี่ คุณแก้วประเสริฐมาใกล้ช่วงพิธีการจึงมาไม่ทันเห็นการเตรียมงาน ซึ่งต้องเร่งให้ทันเวลา หมอท่องเมฆาก็สละเวลามาช่วยขนของเหมือนกัน ก่อนเดินทางไปทำงานต่อที่คลีนิคค่ะ อัลมิตราดีใจนะ ที่คุณแก้วประเสริฐได้รับสาระประโยชน์และมีความสุขปีติกลับไป คุณกุ้งหนามแดง ..มีความสุขมากมายเลยค่ะ อยากให้ไปด้วยจัง คุณกุหลาบขาว .. ค่ะ อัลมิตราเรียงลำดับความเล่าไป ตัดทอนออกบ้างเพราะตอนเขียนเริ่มง่วงแล้ว ตอนที่อัลมิตราร่างกลอนคร่าว ๆ อัลมิตราก็ลำดับภาพไปด้วย มีความสุข และยังอยู่ในความทรงจำค่ะ คุณครูใหญ่ฯ .. ค่ะ เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ รู้สึกประทับใจ รู้สึกอย่างแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ ให้กันและกัน ค่ะ อัลมิตราคิดว่า หากร่วมแรงร่วมใจกันแล้ว ยังมีกิจกรรมดี ๆ อีกมากมายที่รอให้พวกเราลงมือทำค่ะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
12 กันยายน 2549 03:56 น. - comment id 605421
เสียดายจัง..โอกาสแบบนี้.... .....อย่าลืมทานยาตอนเช้านะ..ง่วงจังอะ...
12 กันยายน 2549 12:27 น. - comment id 605458
คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. คุณอยู่ไกลจัง ทำให้พลาดกิจกรรมหลายหนแล้ว เอาไว้หากมีโอกาส คงได้ร่วมงานร่วมกิจกรรมกันในคราวที่เยือนภาคเหนือนะคะ คุณมนต์กวี .. ไม่เป็นไรนะ อัลมิตราคิดว่ากิจกรรมที่ดี ๆ อย่างนี้ คงไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ยังมีใครต่อใครอีกหลายคนรับปากที่จะสานต่อ นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ หากอัลมิตราทราบข่าวกิจกรรม ก็จะแจ้งให้ทราบทางหน้าเวปนะคะ
12 กันยายน 2549 10:41 น. - comment id 605484
ติดงานและญาติๆจากบุรีรัมย์มาเยี่ยม ทั้งที่ตอนแรกอยากจะไป ฟังบรรยากาศงานเนื้องานของอิม แล้วรู้สึกเสียดายเหมือนกัน งานหน้าคงมีอะไรที่พวกเราคงได้ร่วมงานกันอีก
15 กันยายน 2549 21:33 น. - comment id 606462
ไว้โอกาสเหมาะ จะแจ้งทางเวปค่ะ คุณนางฟ้าแสนซน