๏ เมฆาคราปลิวลิ่วล่อง.........................เมียงมองหมู่เมฆเสกสรร ลวดลายหลายหลากมากพรรณ...............แผกผันภาพพิศคิดกล ต่างเห็นเป็นแปลกแผกลักษณ์...............ต่างทักถ้อยเอ่ยเผยผล ต่างใจไขต่างทางตน............................ต่างคนคิดต่างทางกัน บ้างว่าหน้ายักษ์จักเคี้ยว........................เข่นเขี้ยวขึ้งขุ่นหุนหัน บ้างคิดผิดแผลงแจ้งพลัน......................เทวัญวาดยิ้มพริ้มตา เพียงหนึ่งซึ่งเห็นเป็นต่าง.....................ใดพรางภาพผิดปริศนา ฤๅจิตคิดแสร้งแปลงมา........................เฟือนค่าคล้ายเพี้ยนเปลี่ยนไป มานึกตรึกตรองถ่องแท้.......................มาแลลอดพ้นกลไข มามองส่องซึ้งถึงนัย............................ตรองให้เห็นสิ่งจริงความ เมฆาคราปลิวลิ่วล่อง...........................ตรึกตรองติงให้ใจถาม ชื่นตาปรากฏงดงาม............................หรือทรามเสื่อมแท้แต่ใจ ๚
22 มกราคม 2545 18:19 น. - comment id 31603
กลอนหก ... บทหนึ่งมี 4 วรรคอย่างกลอนแปดหรือกลอนสุภาพ แต่วรรคหนึ่งมี ๖ คำ แบ่งอ่านสามช่วงเป็น ๒-๒-๒ คำรับสัมผัสนอกของวรรคที่ ๒ และ ๔ อาจเป็นคำที่ ๑ ๒ ๓ หรือ ๔ ก็ได้ นิยมเขียนในบทละครเพื่อแสดงอารมณ์โกรธ คงเป็นเพราะลีลากลอนกระชับ และกระแทก สะใจมั้งครับ
22 มกราคม 2545 18:48 น. - comment id 31604
ตามมาอ่านงานวฤกอย่างเดียวคงไม่พอครับ ต้องเรียนรู้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
22 มกราคม 2545 20:36 น. - comment id 31612
มารับความรู้เก็บไว้ค่ะ..แต่ทำไงก็ยังเขียนกลอนดี ๆ อย่างนี้ไม่ได้
22 มกราคม 2545 21:02 น. - comment id 31619
ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งฝัน จินตนาการกันไปต่าง ความคิด แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เหมือนกัน คือสุขใจ
23 มกราคม 2545 00:20 น. - comment id 31657
เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ... นอกจากพื้นฐานจิตใจตนแล้ว ยังเป็นพื้นฐานของการอบรมสั่งสอนจากครอบครัว ด้วยนะ... ถ้าเรามองโลกในแง่ดี ชีวิตก็มีความสุขไปกว่าครึ่งแล้วละจ้า...
23 มกราคม 2545 10:13 น. - comment id 31689
ไม่รู้นะ..รู้ก็แต่ว่าทำไมต้องรักคนช่างฝัน อาจจะเป็นเพราะเราเดินบนถนนสายเดียวกัน มากความฝันมากรักมากจินตนาการ.. รักหนังสือรักธรรมชาติรักทุกคนที่ชอบอ่านเขียนให้แง่คิดดีๆรักและรักและชอบให้น้ำใจแก่ใครๆที่ต่ำต้อย..ในผืนดินเดียวกันนี้..ก่อนทีชีวีจะราโรย..ค่ะ
23 มกราคม 2545 10:39 น. - comment id 31693
มองเมฆบางวันสวยใสชมพูหวาน ร้าวรานยามใจเหงากับความฝัน เมฆสวยใสให้เราส่งใจถึงกันและกัน ให้เธอ..ขวัญ มีเวทีธรรมชาติวาดฝันวาดวิมานรักในอากาศไง..จ้ะคนดี!
23 มกราคม 2545 11:17 น. - comment id 31697
ชอบกลอนหกเหมือนกันค่ะ เพราะกระชับ ได้อารมณ์ แต่รู้สึกเขียนยากกว่ากลอนแปด ตรงจะหาคำมาเขียนแล้วตรงกับใจ และความรู้สึก
24 มกราคม 2545 08:20 น. - comment id 31870
อืม...บางครั้งเมฆก้อนเดียวกันแต่อาจเห็นแตกต่างกัน ก็คงเหมือนกับคนเรานี่ล่ะเนาะ..วฤก..ที่มีหลายมุมมองหลายความคิดเห็นแล้วแต่ใครจะคิดไปต่างๆนานา
24 มกราคม 2545 15:17 น. - comment id 31950
คำกลอนเพราะๆอีกแล้วครับป๋ม หากว่างๆจะมาร่วมแจมนะคับมั่วเล่น pirch แต่งกลอนคับป๋ม
24 มกราคม 2545 15:17 น. - comment id 31951
คำกลอนเพราะๆอีกแล้วครับป๋ม หากว่างๆจะมาร่วมแจมนะคับมั่วเล่น pirch แต่งกลอนคับป๋ม
24 มกราคม 2545 21:50 น. - comment id 31994
เจทท์ชอบอ่านกลอนแบบนี้นะคะ ถึงจะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องฉันทลักษณ์อะไร แต่ตอนที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ ชอบอ่านกลอนแบบนี้ในหนังสือภาษาไทยค่ะ ตอนนี้มาอยู่ที่นี่ ก็ได้อ่านจากงานของคุณวฤก นี่ล่ะค่ะ ^-^ ขอยอมรับฝีมือเลยจินๆ..
27 มกราคม 2545 02:06 น. - comment id 32334
เล่ ก็ชอบอ่านนะค่ะกลอนแบบนี้ เมื่อก่อนก็เคยอ่านแต่ในหนังสือเรียน ไม่เคยคิดว่าจะได้มาอ่านที่ไทยโพเอ็มนี้อีก ขอบคุณนะค่ะสำหรับกลอนดี ๆ
2 กุมภาพันธ์ 2545 17:05 น. - comment id 33479
เมฆก้อนเดียวกัน แต่แต่ละคนอาจมองและคิดต่างกันเป็นเรื่องปรกตินะคะ เพราะคนเราก็นานาจิตตังค่ะ