26 กันยายน 2549 07:31 น. - comment id 528034
29 สิงหาคม 2549 11:33 น. - comment id 602043
สงครามทำให้ ผู้พ่ายแพ้อ่อนแอลง แต่ซ่อนความเข้มแข็งไว้ภายใน ผู้ชนะเข้มแข็งขึ้น แต่ซ่อนความอ่อนแอไว้ภายใน แล้วใครคือ ผู้ชนะ ที่แท้จริงในสงคราม สวัสดีครับ..
29 สิงหาคม 2549 12:10 น. - comment id 602050
เคยได้ยินเรื่องทฤษฎีการจัดระเบียบน่ะค่ะ ที่เขาว่ากันว่า สงครามทำให้เกิดสันติภาพตามมา เหมือนเป็นการทำลายล้างเพื่อให้สังคมกลับคืนสู่ระเบียบ ถ้าไม่ผ่านวิกฤต ไม่ผ่านสงคราม ดูเหมือนโลกจะกลับคืนสู่สมดุลได้ยาก สงครามนำไปสู่สันติภาพ ... เหมือนพายุฝน หลังฝนทะเลจะงาม เหมือนการชำระล้างทำลาย เพื่อการเกิดใหม่ ถึงแม้จะไม่มีผู้แพ้และผู้ชนะที่แท้จริง ... และ/หรืออาจจะดูเหมือนพบเพียงความพ่ายแพ้ แต่แท้แล้ว ... สมรภูมิที่เต็มไปด้วยซากศพ กองเลือดเนื้อ นั่นคือผู้ชนะอย่างแท้จริง หลังจากสังเวยชีวิตไปมากมายมหาศาลแล้ว มนุษย์ได้เรียนรู้อะไรจากสงครามบ้าง? มนุษย์ได้พบการปรับตัว และ ได้พบการประสานสัมพันธ์ร่วมกันหลังจากความสูญเสียได้เกิดขึ้น การเติบโตดูเหมือนจะต้องผ่านการเจ็บปวดเสมอ รากก่อสงครามกับผืนดินแทงต้นขึ้นมาเพื่อทะยานรับแสงแดด เต็มต้นเป็นต้นกล้า ขณะเดียวกัน กว่าใบอ่อนจะผลิแตกออกมาเป็นใบใหม่ เช่นเดียวกันก็ต้องผ่านความเจ็บปวด รวมไปถึงการผลัดใบ เปลี่ยนใบสลายไปเป็นปุ๋ย มองในแง่งาม ... สงครามยังคงไว้ซึ่งความงดงามได้เสมอ เพื่อนำมนุษย์ไปสู่การเรียนรู้เพื่อไปสู่สันติภาพ และการเติบโตทางจิตวิญญาณ แวะมาทักทายคุณร้อยแปดพันเก้าค่ะ .... หลงรักตัวอักษรในคำกลอนของคุณ ทุกครั้งที่ได้อ่าน ทำให้แดดเช้าเกิดความคิดดีๆ และทำให้ได้เติบโตทางความคิดขึ้นมาบ้าง ติดตามเป็นแฟนประจำกระทู้กลอนของคุณนะคะ ขอบคุณค่ะ : )
29 สิงหาคม 2549 12:23 น. - comment id 602052
แวะมาแอ่วหาเด้อ การมองคนอย่ามองแค่ข้างนอก บางครั้งสิ่งทีเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งจริงก้ได้ ผุ้ชนะคือชนะในตนเอง เอ๊าคนละเรื่องเดียวกันป่าวน๊า
29 สิงหาคม 2549 12:35 น. - comment id 602061
มีประโยชน์อะไร..หากชัยชนะที่ได้อยู่บนซากศพของมนุษย์ด้วยกัน.... ...แวะมาทักทายนะน้องชาย...เด๋วไปเขียน รักดับตะวันดีกว่า..ยิ่งช่วงนี้หาพล๊อตไม่ค่อยได้...
29 สิงหาคม 2549 12:37 น. - comment id 602063
ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้เลยค่ะ พลาดตั้งแต่หนังฉายในโรงแล้ว ตั้งใจจะหาแผ่นมาดู แล้วก็ลืมไป คุณร้อยแปดพันเก้า สบายดีนะคะ
29 สิงหาคม 2549 12:56 น. - comment id 602073
...ผู้ชนะที่แท้จริง...คือเอาชนะใจของตนเองได้....แวะมาทักทายกันค่ะ...
29 สิงหาคม 2549 16:17 น. - comment id 602153
สวัสดีค่ะ พี่พันเก้า พี่มีข้อคิดมาให้อ่านอีกแล้วนะค่ะ บัวไปอ่านเจอในหนังสือมาค่ะพี่ ดินและทรายที่คนเหยียบย่ำนั้น ถ้านำมาผสมกันเผา ทำเป็นแผ่นกระเบื้องมุงหลังคา ก็กลายเป็นของสูงอยู่เหนือศรีษะคนได้ ฉันใด บุคคลทุกคนในโลกนี้แม้ เบื้องต้นจะตกต่ำยากแค้นแสนเข็ญ ถ้ามีความเพียรพยายาม ถ้าตั้งอยู่ในคุณงามความดี ก็อาจเฟื่องฟู มีฐานะสูงกว่าเดิม และสูงกว่าคนทั้งหลาย อย่างไรก็ได้ ฉันนั้น บุคคลไม่ทำประโยชน์แก่กันและกัน ถึงแม้ญาติ ก็เหมือนไม่ใช่ญาติ บุคคลใดไม่มีความซื่อสัตย์คิดกลับกลอก ถึงจะเป็นมิตร ก็ไม่เรียกว่ามิตร เอาชนะใจตัวเองนี้ยากมากค่ะ แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปถ้าคิดจะทำใช่ป่าวค่ะพี่พันเก้า ตอนนี่บัวรอดูเรื่องสมเด็จพระนเรศวรค่ะ บัวขอให้พี่พันเก้าโชคดีและปลอดภัยค่ะ
29 สิงหาคม 2549 16:21 น. - comment id 602155
แวะเข้ามาทักทายค่ะ :-
29 สิงหาคม 2549 21:27 น. - comment id 602197
ขณะที่เราปลีกตัวออกห่างจากผู้คน เพราะเรารู้สึกว่า เรามีวิญญาณที่ใสสะอาดกว่าพวกเขา หรือมีจิตใจที่ผ่องแพ้วกว่า กว้างขวางกว่า หรือมีสติปัญญาที่ฉลาดล้ำลึกกว่าพวกเขา แต่นั่นมิได้หมายความว่า เราได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่อันใด เป็นเพียง เราได้เลือกแนวทางที่ง่ายที่สุดแก่ตัวเรา และเลือกทางที่มีภาระน้อยที่สุดให้แก่ตัวเอง ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง คือ ** เราจะต้องคลุกคลีกับผู้คนเหล่านี้ ** อย่างอิ่มเอิบไปด้วยวิญญาณแห่งการให้อภัย ** พร้อมด้วยความเอื้ออาทรต่อความอ่อนแอ ** ความพลาดพลั้งของพวกเขา ** และจะต้องเปี่ยมไปด้วย วิญญาณแห่งความปรารถนา ที่แท้จริงในการขัดเกลา อบรมพวกเขา และยกระดับพวกเขาสู่ระดับเดียวกับเรา เท่าที่เรามีความสามารถ ที่กระทำเช่นนี้ มิได้หมายความว่า ** เราจะหลุดออกจากระดับอันสูงส่งของเรา ** และมิได้ลดอุดมการณ์อันสูงส่งของเราลงมา ** หรือมิได้หมายความว่า ** เราจำต้องประจบเอาใจบุคคลเหล่านี้ ** จำต้องเยินยอต่อความผิดพลาดของพวกเขา ** หรือว่าทำให้พวกเขารู้สึกว่า ** เราสูงส่งกว่าพวกเขา...หามิได้ ** การรอมชอม ** ระหว่างสิ่งที่เคยขัดแย้งกัน ** กับความใจกว้าง ** หลังจากมุ่งมั่นค้นหาสิ่งนี้อย่างพากเพียร ** นี่แหละ... คือ... ** **...ความยิ่งใหญ่โดยแท้...** อัลชะฮีค ซัยยิค กุฏุบ : เขียน ซะการียา อัลนัควีย์ : แปล
29 สิงหาคม 2549 21:57 น. - comment id 602210
แล้วจะมีประโยชย์อะไร เมื่อต้องอยู่กับความว่างปล่า การชนะที่ปราศจาก การรับรูจากใครๆ **********เขียนดีจัง***********
29 สิงหาคม 2549 22:15 น. - comment id 602219
สงครามมีอยู่หลายรูปแบบ บางครั้งสงครามที่นองเลือด อาจจะเป็นสงครามที่น่ากลัว แต่ผู้หญิงไร้เงาว่า สงครามนั้นไม่น่ากลัวหรอก แต่สงครามประสาทน่ากลัวกว่าเยอะ อิอิ (ขอหยอกหน่อยนะค่ะ)
30 สิงหาคม 2549 16:31 น. - comment id 602422
The Way Home.. แรงบันดาลใจจากเรื่อง The Way Home..คุณยายผมดีที่สุดในโลก ๑) บนเส้นทางสายเก่าที่เราคุ้น ความอบอุ่นเรียกหากลับมาบ้าน ทิ้งชนบทเดินหน้ามุ่งหางาน หวังฝากหลานเชื่อมยายสายสัมพันธ์ แรกสบตาคือนิยามความเป็นอื่น รอวันคืนกลายกลับกระชับมั่น ความคุ้นเคยผ่านเวลามากำนัล เป็นของขวัญความต่างระหว่างวัย เพราะต่างขั้วต่างวิถีต่างชีวิต ต่างความคิดชนบทกับเมืองใหญ่ พบกันพร้อมกับความไม่เข้าใจ ยายห่วงใยยิ่งค่าคำว่ารัก ๒) เราก็ต่างมิใช่คนไร้ราก กำเนิดจากแห่งไหนใจประจักษ์ ต่างมีที่อุ่นอิงไว้พิงพัก แม้ปักหลักหนใดไกลถิ่นเดิม หากผูกโยงหลานกับยายโดยสายชีวิต อาจสนิทมิแปลกแยกแต่แรกเริ่ม ใช่ส่งทอดปัญหามาต่อเติม เพราะอาจเพิ่มภาระระยะยาว บนเส้นทางสายเก่าเรากลับบ้าน เล่าตำนานไม้ดอกถึงหมอกหนาว หล่อหลอมความเหลื่อมล้ำในเรื่องราว เชื่อมโลกนี้สีขาวบอกกล่าวยุค นี่คือเรื่องราวของเด็กชายอายุ 7 ขวบที่ชื่อ ซังวู เขาเกิดและเติบโตในเมืองใหญ่ ขณะที่ คุณยาย ที่เป็นใบ้ของเขา กลับใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ในต่างจังหวัด หลังจากถูกบีบให้ต้องไปใช้ชีวิตกับคุณยาย เด็กชายซังวูได้มีโอกาส เรียนรู้ความหมายของชีวิตมากขึ้น ในฐานะของเด็กเมือง ซึ่งเคยชินกับโลกที่ทันสมัยและหรูหรา จึงไม่แปลกที่เขาไม่อาจจะเข้ากันได้ กับหญิงชรา ที่มีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติอย่างคุณยาย อย่างไรก็ตาม แม้จะต้องเผชิญกับความดื้อ ของเด็กชายมากเท่าใด แต่หญิงชราก็ทนได้เสมอ แถมบางครั้ง ยังคอยปลอบประโลม เมื่อเด็กชายท้อใจเสียอีก ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะพาผู้ชมสัมผัสกับภูมิปัญญาแห่งชีวิต และทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของเรา นั่นก็คือ - ธรรมชาติ อยากให้เพื่อนๆ ได้ดูน่ะครับ
30 สิงหาคม 2549 16:51 น. - comment id 602432
... มีอะไรดีๆ ให้อ่าน เสมอนะครับ ...
31 สิงหาคม 2549 10:54 น. - comment id 602584
ขอบคุณมากครับ..คุณแดดเช้า ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดกันเสมอๆ ไม่ทราบว่าดูบอลโลกที่ผ่านมาหรือเปล่าครับ เคยเห็นภาพที่หนังสือพิมพ์ลง ชาวอิตาเลียนชนะบอลโลกแห่โลงศพที่คลุมธงชาติฝรั่งเศส ผมชักไม่แน่ใจว่านี่เป็นกีฬาหรือสงครามกันแน่ บางทีมันอาจเป็นเรื่องเดียวกัน.. มีทฤษฎีหนึ่งที่เกี่ยวกับกีฬาคือ มันเกิดขึ้นเพื่อทดแทนเลือดนักล่าในตัวเรา ยามที่เราไม่ต้องล่าสัตว์เหมือนมนุษย์ดึกดำบรรพ์ มนุษย์ยุคแรกไม่ได้มีอะไรที่ต่างจากสัตว์ กินอาหารดิบ และล่าสัตว์เมื่อหิว จนเมื่ออ่านหนังสือ How to มาก และรู้วิธีปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เราไม่ต้องเข้าป่าล่าสัตว์ถี่เหมือนเดิม แต่เลือดนักล่า หรือ เรียกความเร้าใจในการล่าที่ฝังในยีน ไม่ได้หายไปไหน ไม่เชื่อไปถามประธานาธิบดีแห่งมะริกัน ดิ๊ก เชนีย์ คนที่เอาปืนไล่ยิงเพื่อน เพราะตาลายเห็นเพื่อนเป็นเป็ด ส่วนเจ้านายของเขาคือ นายจอร์ช บุช ก็ต่างกับเขานิดเดียวคือไม่ชอบยิงเป็ด แต่นิยมยกกำลังไปยิงคนที่บ้านอื่นมากกว่า นั่นคือที่มาของสงครามในอิรักที่ยังเละจนทุกวันนี้ พูดง่ายๆ คือ กีฬาเป็นการระบาย และปลดปล่อยความรุนแรงที่แฝงในยีนออกมา และอะไรคือที่มาของสงครามเล่า..มันจะสวยงามอยู่ไหม ถ้าคิดว่ามีคนบ้ากีฬาแบบนี้เยอะๆ เอาน่านะ พูดคุยกันฉันมิตร คิดอะไร ก็คุยกันได้ครับ คุณแดดเช้า..
31 สิงหาคม 2549 11:06 น. - comment id 602587
สวัสดีรับ..คุณไรไก่ การมองคนอย่ามองที่ภายนอก อิอิ..ผมน่ะ ผ้าขี้ริ้วห่อผ้าขี้ริ้วเน่อ.. เอาน่านะ คนละเรื่องเดียวกัน ก็คุยกันได้ การเอาชนะใจตัวเองน่ะดีที่สุด และก็ยากที่สุดด้วย ฝนตกอยู่หรือเปล่าครับในเวียง บ้านผมยังตกไม่หยุดเลย รักษาสุขภาพด้วยครับ ........ พี่ชาย..ผมรออ่านรักดับตะวันอยู่นะ..ไหงเป็น ปิดคดีสีชมพู ไปซะฉิบ..แต่ว่าเขียนได้เจ๋งเลยครับพี่ นับถือ นับถือ ........... สวัสดีครับ..คุณ เพรง.เพยีย หาดูนะครับ น่าดูทีเดียว ศุกร์นี้ ผมจะได้ดู Hotel Rwanda อีกรอบหนึ่ง ที่ยูบีซี ว่อง 53 อาจจะได้ไอเดียเขียนกลอนต่อ จะเอามาฝากอ่านครับ ผมสบายดีครับ ขอบคุณครับ และหวังว่า คุณคงสบายดีเช่นกัน ไม่ทราบว่า ไปเขียนกลอนที่ไหนหรือเปล่าเอ่ย จะได้ตามไปอ่านครับ ..
31 สิงหาคม 2549 12:40 น. - comment id 602609
สวัสดีครับ..คุณราชิกา ขอบคุณครับที่เข้ามาทักทายกัน ......... สวัสดีครับ..น้องบัว กว่าพี่จะได้ดูเรื่องสุริโยทัย ก็นานโข เรื่องสมเด็จพระนเรศวร ก็คาดว่าจะเป็นแบบนั้น เพราะพี่ไม่ได้ดูหนังโรงมากว่า10ปีแล้ว นานมาก เหมือนเรื่องสุดท้ายที่ดูคือ FORREST GUMP จะไล่ดูหนังตอนเขาทำเป็นซีวีดีน่ะ ไว้ดูแล้วมาเล่าให้พี่ฟังบ้างนะ หนังประวัติศาสตร์ เนื้อเรื่องเปลี่ยนไม่ได้ แต่เทคนิค และอย่างอื่นที่น่าสนใจ อยากดูเหมือนกัน หนังไทยที่ดูล่าสุดของพี่ก็เห็นจะเป็นเรื่อง มหา\'ลัยเหมืองแร่ หรือ เพื่อนสนิทนี่แหละ ระหว่างสองเรื่องนี้ ไม่แน่ใจว่า เรื่องไหนล่ากว่า แต่ชอบเรื่องมหา\'ลัยเหมืองแร่มากเลยครับ ไม่แน่ใจว่าน้องบัวจะชอบดูแนวนี้หรือเปล่า อาจินต์ ปัญจพรรค์ มีแง่คิดในการใช้ชีวิต และ ประสบการณืการทำงานแบบถึงลูกถึงคนดีเหมือนกัน เฉพาะหนังสือ มหา\'ลัยเหมืองแร่ ก็มากมายหลายเล่ม พี่มีไม่ครบทุกเล่มหรอกครับ แต่ดูหนังนี่ คัดเลือกมาอย่างดีแล้ว อ้อ..เสาร์นี้ อะแคเดอมี่ต้องออกอีกหนึ่งคน เชียร์ใครไว้ในใจบ้างหรือเปล่า คนที่พี่เชียร์น่ะตกรอบไปแล้ว เซ็งนิดๆ เอาไว้มาคุยกันต่อนะครับ ....... ขอบคุณครับ คุณไวท์ลิลลี่
31 สิงหาคม 2549 13:27 น. - comment id 602620
สวัสดีครับ..คุณอัลมิตรา == ขณะที่เราปลีกตัวออกห่างจากผู้คน เพราะเรารู้สึกว่า เรามีวิญญาณที่ใสสะอาดกว่าพวกเขา หรือมีจิตใจที่ผ่องแพ้วกว่า กว้างขวางกว่า หรือมีสติปัญญาที่ฉลาดล้ำลึกกว่าพวกเขา == ถามตัวเองว่า เราปลีกตัวออกจาผู้คนหรือเปล่า เปล่านะ ฉะนั้นจึงไม่เคยรู้สึกว่า เราจะมีวิญญาณ ใสสะอาดกว่าผู้ใด หรือฉลาดล้ำลึกเหนือใคร การปลีกตัว อาจจะด้วยความรู้สึกที่ว่าเราด้อยกว่าใครตะหาก ====แต่นั่นมิได้หมายความว่า เราได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่อันใด เป็นเพียง เราได้เลือกแนวทางที่ง่ายที่สุดแก่ตัวเรา และเลือกทางที่มีภาระน้อยที่สุดให้แก่ตัวเอง === แต่นี่เป็นทางเลือกของเรา ที่จะสร้างภาระให้ตัวเองน้อยที่สุดมากกว่า เพราะมากคนมากความ ===ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง คือ ** เราจะต้องคลุกคลีกับผู้คนเหล่านี้ ** อย่างอิ่มเอิบไปด้วยวิญญาณแห่งการให้อภัย ====** เราจำเป็นต้องคลุกคลีขนาดนั้นเชียวหรือ เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของเรา ในเมื่อเรารู้จักการให้อภัย ===พร้อมด้วยความเอื้ออาทรต่อความอ่อนแอ ** ความพลาดพลั้งของพวกเขา ** === อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับเขาเอง เราไม่ใช่คนตัดสิน ====และจะต้องเปี่ยมไปด้วย วิญญาณแห่งความปรารถนา ที่แท้จริงในการขัดเกลา อบรมพวกเขา และยกระดับพวกเขาสู่ระดับเดียวกับเรา เท่าที่เรามีความสามารถ === ระดับเราอยู่ตรงไหนครับ ถ้าเราไม่อยู่ในฐานะที่ถูกยอมรับ เขาจะฟังเราไปทำไม เพราะการส่งเจตนาที่แท้จริงของเราไปแล้วเขารับไม่ได้ ====ที่กระทำเช่นนี้ มิได้หมายความว่า ** เราจะหลุดออกจากระดับอันสูงส่งของเรา ** และมิได้ลดอุดมการณ์อันสูงส่งของเราลงมา ** หรือมิได้หมายความว่า ** เราจำต้องประจบเอาใจบุคคลเหล่านี้ ** จำต้องเยินยอต่อความผิดพลาดของพวกเขา ** หรือว่าทำให้พวกเขารู้สึกว่า ** เราสูงส่งกว่าพวกเขา...หามิได้ ** การรอมชอม ** ระหว่างสิ่งที่เคยขัดแย้งกัน ** กับความใจกว้าง ** หลังจากมุ่งมั่นค้นหาสิ่งนี้อย่างพากเพียร ** นี่แหละ... คือ... ** **...ความยิ่งใหญ่โดยแท้...** ===== มนุษย์เป็นสัตว์ประหลาด มีความขัดแย้งที่แปลกในตัวเอง..เขาแกร่งทางความคิด แต่เปราะบางยิ่งกว่าสัตว์ใดๆ เขาอยากไปในโลกกว้าง แต่ก็เกลียดการผจญภัย และกลัวความลำบาก วีรบุรุษ วีรสตรีนานทีมีสักคน พวกเขาเป็นและทำในสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่อยากเป็นอยากทำ แต่ใจไม่ถึง.. อยากให้อ่าน ชีวิตบัดซบ ของ อัลแบร์ การ์มู ครับ หรือ พระเจ้าตายแล้ว ของนีทเช่ ไว้มาคุยกันครับ ............... หวัดดีครับ น้องไอซ์ นั่นสิน้องไอซ์ ว่าแต่วันนี้คุณกินถั่วหรือยัง .......... สวัสดีครับ..ผู้หญิงไร้เงา ใช่แล้วครับ คู่สงครามคือใครเราไม่เห็น..อิอิ ................ หวัดดีนายเก็น ขอบคุณครับที่ยังเห็นค่ามัน ผมตั้งใจเขียนทุกงานครับ แต่อาจไม่ถูกใจใครเท่าไร หรือโดนใจคน ส่วนใหญ่ เป็นความชอบส่วนตัวน่ะครับ ถ้าชอบแนวเดียวกัน ก็คุยกันได้เรื่อยๆ มีอะไรก็แนะนำมาเลยนะครับ อย่าเกรงใจ
31 สิงหาคม 2549 19:33 น. - comment id 602698
พี่พันเก้าค่ะ บัวเข้ามาอ่านคอมเม้นทืพี่ เลยอดที่จะตอบไม่ได้ค่ะ DVD ของน้องซื้อไว้แทบทุกเรื่องค่ะ มีเครื่องโปรเจ็คร์เตอร์เหมือนในโรงหนังเลยค่ะแต่บัวไม่ค่อยได้ดูหลอกค่ะบัวไม่ชอบนอนดึกมากเสาร์อาทิตย์หยุดบัวก็ไปตามวัดค่ะ กลับถึงบ้านก็หลับแต่เรื่อง มหาลัยเหมืองแร่ บัวดูค่ะ เพื่อนสนิทก็ดูค่ะ บัวมาอยู่ กทม.จะ 3 ปี บัวไปดูหนังที่โรงหนัง เรื่องเดียวค่ะ เรื่องทรอย พี่พันเก้าค่ะบัวเชียร์ ตุ้ย ค่ะเสียงเขาดี วันนั้นที่เขาจะได้ไปฮ่องกงแล้วโดนเรียกออกมา อาต้อยบอกว่าต้องไปบัวร้องให้ค่ะเพราะบัวก็ว่าเขาร้องดีกว่าทุกคนทำไมถึงออกไป เล่นไม่พูดให้จบประโยคตอนนี้บัวเชียร์เขาอยู่ค่ะแล้วก็น้องมิ้นด้วยค่ะอยากให้เขาได้รับรางวัลบอยอีกคนบัวชอบ 3 คนเลยค่ะ จริงๆแล้วที่เหลืออยู่บัวก็ชอบนะค่ะ แต่ชอบ ตุ้ยอันดับแรกค่ะ บัวขอให้พี่ปลอดภัยนะค่ะและโชคดีค่ะ
1 กันยายน 2549 14:31 น. - comment id 602828
หวัดดีจ้ะ น้องบัว พี่ไม่มีเครื่องดีวีดีน่ะ แต่หนังคงจะคมชัดกว่า ซีวีดีเยอะ และทนกว่า อิจฉาจังแฮะ ทรอย อาวิเอเตอร์ แล้วก็ เรย์ ยังไม่ได้ดู ที่เป้นของตัวเอง แต่ดูในยูบีซี เวลาซื้ออะไรมานะ ชอบเดี๋ยวก่อน เพราะมันของตาย ดูเมื่อไรก็ได้ แล้วก็ไม่ได้ดู ทู้กที.. แหะแหะ..อะคาเดอมี่ พี่เชียร์ทุกคนนะ ยกเว้นตุ้ย เพราะเขานอนมาน่ะ แบเบอร์มากเลย งานนี้ชิงที่ 2 กับที่ 3 กร่อยไปนี้ด เพราะน้องเพชรคนเสียงดีออกตั้งแต่วี้คที่สาม เซ็งชะมัด ไม่มีคู้ต่อสู้ที่สูสี เพราะน้องร้องดีเหมือนพัดชา เอเอฟ 2 พี่เชียร์ใครก็ผิดหวัง เพราะเชียร์มวยรองตลอด แต่ตอนนี้ พี่เชียร์ ต้า กับซาร่า เพราะน้องต้า เขาเป็นเด็กเภสัชฯ มอชอ สถาบันเดียวกับพี่ น้องซาร่า ก็เช่นกัน เป็นเด็กมงฟอร์ต เอ็นติด รัฐประศาสนศาสตร์ มอชอนะ ถ้าเขาไม่สละสิทธิ์ซะก่อน เสียงน้องซาร่าไม่ดีเท่าไร แต่น่ารักดี คนนี้พี่ก็นึกว่าจะหลุดตั้งแต่วี้คแรกแล้วครับ แต่เสาร์นี้ พี่ขอเชียร์น้องก้อ..ก่อนครับ เพราะคนอื่นผ่านฉลุยอยู่แล้ว เพราะคาดว่า ปากเหวรอบนี้จะมีสามคน คือ ซาร่า บอย และ ก้อ เอาน่านะ ลุ้นๆ น้องก้อหน่อยละกัน ไว้มาคุยกันต่อนะ รักษาสุขภาพด้วยครับ
3 กันยายน 2549 14:12 น. - comment id 603148
29 กันยายน 2549 12:32 น. - comment id 610307
แรงบันดาลใจจาก Finding Nemo โลกของเด็กมายมายหลากหลายสี ต่างหาที่หายใจในโลกกว้าง เปี่ยมความฝันยิ้มแย้มแจ่มนภางค์ ติดปีกบินบางบางหาทางระบาย หลายเฉดสีเรืองสลับเรียงซับซ้อน อาจซุกซ่อนภาพเคลือบริ้วเหลือบฉาย สนุกค้นคำตอบรุมรอบกาย สิ่งที่ได้(อาจ)ไร้ความหมายสายตาเรา สร้างศรัทธาสวนสวยด้วยสีสัน เป็นดอกไม้รับตะวันร้างวันเฉา ร้องเพลงปลื้มดื่มด่ำระบำเงา อย่ารั้งชื่นขื่นเขลาด้วยเราเอง สร้างสะพานงดงามด้วยความหวัง แม้บางคราละล้าละลังยังอวดเก่ง แปรน้ำตารินรื้นเป็นครื้นเครง ทุกบาดแผลบรรเลงเพลงประสบการณ์
5 ตุลาคม 2549 11:34 น. - comment id 612059
Seasons Change.. สักแต่ว่าฤดูกาลมันแปรเปลี่ยน สักแต่เขียนนิยามความรู้สึก สักแต่บ่นบางใครรู้ไม่ลึก สักแต่นึกเรื่องยุ่งยุ่งมิปรุงใจ แม้ความฝันน้อยนิดยังผิดนัด งานเร่งรัดฝันไม่เหลือเพื่อจะใฝ่ แม้แต่ฝันพเนจรผลัดผ่อนไป ฝันหมดไฟเพราะฟืนชื้นน้ำตา สักแต่จมความรู้สึกไม่นึกแก้ สงบแท้หากใจเลิกใฝ่หา ตื่นเพื่อรู้ทางสวรรค์คือปัญญา สักแต่ด่าโทษใครไม่ดูตน จงปล่อยว่างวางใจไปกับโลก สุขกับโศกเวียนรับความสับสน จงทบทวนแจ่มชัดตัดวังวน จงอดทนมองไกลไปให้เป็น
5 ตุลาคม 2549 11:56 น. - comment id 612064
หน้ากาก.. หน้ากากหากใส่หากัน ทุกวันทุกวัน ผูกพันจริงแท้แน่ฤา มารยามารยาทนั้นหรือ สังคมนับถือ ใสซื่อบิดถ้วนกระบวนความ เนื้อแท้คารมคมทราม วาจาหยาบหยาม แยกแยะได้ไหมไหนดี คุณธรรมฉาบหน้าราศี โอบเอื้ออารีย์ เหล่านี้ย่อมรู้แก่ใจ ล้อเล่นเย้าหยอกหลอกใคร ทำไปทำไม แล้วได้ใดมอบตอบแทน ซ่อนหน้าจัดวางต่างแผน ต่อขาต่อแขน แนบแน่นหน้ากากหน้าจริง เปลือกแก่นซ่อนไว้ไม่ประวิง หน้ากากสวมสิง ยากยิ่งแยกแยะแยบยล ........... (เดี๋ยวมาต่อ)
5 ตุลาคม 2549 12:14 น. - comment id 612075
Expect Nothing.. ไม่คาดหวังสิ่งใดๆ มีชีวิตอยู่อย่างสมถะ ต่อความประหลาดใจ ย่อมเป็นคนแปลกหน้า ต่อการเรียกหาความสงสาร กับความเอื้ออารี ที่เจือจานมาถึง รับไว้เท่าที่จำเป็น ยุติการเรียกร้องวิงวอน แล้วส่งผ่านความต้องการไปเสีย ไม่ปรารถนาสิ่งใดที่ใหญ่เกินกว่า หัวใจดวงน้อยของเธอ หรือโตกว่าดวงดาว กำราบความผิดหวังรุนแรง ด้วยการปลอบโยนมิให้หวั่นไหวหรือเย็นชา และทำให้กลายเป็นเสื้อคลุม สำหรับห่อหุ้มวิญญาณของเธอ ค้นหาสาเหตุว่าทำไม มนุษย์ตัวเล็กๆ จึงสามารถดำรงอยู่ได้ แม้ไม่ใคร่เฉลียวฉลาดนัก แต่ก็ไม่คาดหวังสิ่งใด และมีชีวิตอยู่อย่างสมถะ ต่อความประหลาดใจ ...
4 ธันวาคม 2549 14:16 น. - comment id 633614
Deja Vu คือปรากฏการณ์ที่หลายๆคนอาจจะเคยเจอ เมื่อคุณรู้สึกเหมือนกับว่า เคยเห็นภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น แต่กลับจำไม่ได้ว่าเคยเห็นเมื่อไหร ซึ่งมักจะทำให้ใครหลายๆคนประหลาดใจกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น และในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่าจริงๆแล้วมันเป็นเพราะอะไร... เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกิดวินาศกรรมเรือข้ามฝากที่กำลังบรรทุกทหารเรือและครอบครัวเดินทางไปฉลอง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตห้าร่อยกว่าคน นั่นจึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสืบหาผู้กระทำผิดให้เร็วที่สุด หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ร่วมสืบสวนก็คือ ดั๊ก คาร์ลิน เจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนเกี่ยวกับวัตถุระเบิด เขาเป็นมืออาชีพที่หาตัวจับยากคนหนึ่งที่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญในการคลี่คลายคดี อะไรควรตัดทิ้ง อะไรคือสิ่งที่สาวไปถึงผู้กระทำ... ในระหว่างการสืบสวน ได้มีผู้พบศพหญิงสาวผู้หนึ่งลอยไปติดชายฝั่ง ซึ่งมีสภาพเหมือนถูกไฟไหม้เหมือนกับเป็นหนึ่งในเหยื่อของการวินาศกรรม เพียงแต่จากการชันสูตรกลับพบว่าเธอเสียชีวิตก่อนหน้าการวินาศกรรม ดั๊กจึงเข้าไปที่บ้านของเธอเพื่อหาหลักฐาน ที่นั่นเขากลับพบว่ามีบางอย่างที่น่าประหลาดใจ และเขาหาคำตอบไม่ได้ เมื่อบ้านของหญิงเคราะห์ร้ายมีหลายอย่างเชื่อมโยงกับเขา ทั้งเบอร์โทรศัพท์ ทั้งลายนิ้วมือของเขาที่เต็มไปทั่วบ้าน ซึ่งเขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน แต่กลับมีร่อยรอยของเขาที่นี่... ด้วยความเป็นมืออาชีพ และความสามารถในการวิเคราะห์หาตัวคนร้าย เขาจึงถูกชักชวนให้เข้าร่วมกับหน่วยสอบสวนคดีวินาศกรรม และนั่นทำให้เขาได้พบกับเครื่องมือสุดยอดที่สามารถเห็นภาพก่อนการเกิดเหตุ 4 วัน สิ่งที่ทีมงานต้องการจาก ดั๊ก ก็คือคำถามที่ว่า "เมื่อเราสามารถดูภาพย้อนหลังไป 4 วัน แล้วเราจะเริ่มดูจากตรงไหนเพื่อให้ตามหาคนร้ายได้" การสืบสวนจึงเริ่มต้นขึ้น. ยิ่งการสืบสวนไปไกลเท่าไหร ดั๊ก ก็เริ่มพบความผิดปรกติของเครื่องมือที่ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มสงสัยในสิ่งที่เห็น และสุดท้ายก็พบว่าเครื่องมือนั่นไม่ใช่ภาพที่เกิดจากการวิเคราะห์ของคอมพิวเตอร์ แต่มันคือเหตุการณ์จริงในอดีตที่ต่างจากเวลาปัจจุบันไป 4 วัน นั่นหมายถึง คนที่อยู่ในภาพยังไม่ตายในเวลานั้น... สิ่งนี้จึงทำให้ดั๊ก ต้องการกลับไปแก้ไขอดีตเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกฆาตรกรรม และป้องกันการวินาศกรรมก่อนที่มันจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง... เพียงแต่อย่าลืมว่า การแก้ไขสิ่งใดในอดีตล้วนต้องมีผลกับปัจจุบันทั้งสิ้น... แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะสามารถแก้ไขเหตุการณ์วินาศกรรมที่เกิดมาแล้วอย่างไร เขาจะช่วยเหลือเหยื่อที่เคราะห์ร้ายได้หรือไม่ และจะเกิดผลกระทบอะไรกับปัจจุบันบ้าง... แม้หนังจะชื่อว่า เดจา วู แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่ามันจะเกี่ยวข้องอะไรกับคำว่าเดจา วู เลยแม้แต่น้อย ตัวละครในเรื่อง ไม่มีใครที่เห็นภาพอนาคตก่อนซักคน ทั้งที่ตอนดูไตเติ้ลผมนึกว่าเนื้อเรื่องน่าจะประมาณ มีคดีเกิดขึ้น แล้วมีคนเห็นภาพก่อนเกิดคดีก่อน เลยพยายามหยุดยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้น หรืออะไรแบบนั้น แต่พอไปดูแล้วกลับไม่ใช่เลย จะว่าไปมันเหมือนกับ il mare ภาคบู้วินาศสันตะโร ซะมากกว่า ทั้งนี้ไม่ใช่ไม่สนุกนะ เนื้อเรื่องและฉากแอ๊คชั่นสุดมันส์มากๆ เพียงแต่มันไม่น่าใช้ชื่อ Deja Vu เท่านั้นแหละ และมันอาจจะทำให้คนอยากเห็นอะไรที่เกี่ยวกับ Deja Vu รู้สึกผิดหวังนิดๆ สิ่งหนึ่งที่ผมมักจะรู้สึกกับหนังฝรั่ง ที่แตกต่างกับหนังไทยนั่นคือ ความรู้สึกว่า "มันเป็นความจริง" ฉากระเบิดเรือในช่วงเริ่มต้นเรื่องนั้น ทำได้สมจริงมากๆในความรู้สึกผม การแสดงของทุกตัวละครแสดงได้เหมือนกับเราได้เห็นเหตุการณ์จริงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ความสมจริงในการแสดง ในบท ในงานสร้างต่างๆ มันทำให้คนดูรู้สึกเชื่อต่อสิ่งที่ได้เห็น ซึ่งน้อยนักที่หนังไทยจะทำได้แบบนี้ หลายต่อหลายครั้งหนังไทยมักจะมีข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ผู้ดูขาดอารมณ์ร่วม เมื่อขาดความน่าเชื่อถือในตัวหนัง การที่จะดึงอารมณ์ผู้ชมให้เชื่อในสิ่งที่เห็นจึงกลายเป็นทำได้ไม่ถึง และโดนด่าไปในที่สุด แม้เรื่องที่เหลือเชื่ออย่างซุปเปอร์แมน เขาก็ยังทำให้เราเชื่อได้ว่า ซุปเปอร์แมนมีจริง แต่หนังไทยกลับไม่เคยประสพความสำเร็จในเรื่องเหล่านี้เลย ไปดูทีไรกลับรู้สึกว่ามันเป็นแค่การแสดงเท่านั้นเอง... อยากเห็นหนังไทยที่สามารถทำให้คนดูเชื่อว่าเกิดขึ้นจริงบ้างจัง จะมีบ้างไหมนะ ไปดูมาแล้วโดย Rainma
23 กันยายน 2553 18:22 น. - comment id 1158272
ไอ้สัสกูจะเอาแรงเงาป5