หากสายตานั้นคือสื่อประสาน คนร้าวรานสองคนให้ค้นพบ ดังเส้นตรงขนานกันได้บรรจบ สองใจซบอิงอุ่นละมุนละไม ผ่านเวลาล่วงวันถึงวันนี้ เธอมาหนีมิรู้อยู่หนไหน ปล่อยความรักความฝันเคยมั่นใจ ปล่อยฉันไว้หดหู่เพียงผู้เดียว ฉันยังคงอยู่ไปอย่างพ่ายแพ้ ถึงจะเหลือท้อแท้ใครแลเหลียว ดุจดังข้าวยืนต้นรอคมเคียว ต้องเปล่าเปลี่ยวโศกาน้ำตาริน ฉันพร้อมรับนิยามความเจ็บปวด แม้ร้าวรวดใจเศร้าเฝ้าถวิล อยู่กับความเหว่ว้าจนชาชิน แต่ไม่สิ้นความหวังฉันยังรอ
18 สิงหาคม 2549 18:05 น. - comment id 598965
******* ข้าวยืนต้น....รอคมเคียว รัก แล้ว ก้อ เจ็บ ปวด การรอคอย ... ที่ยาวนาน ทั้งทรมานและเจ็บปวด .... ************** สักวัน ความฝัน จะเป็นจริง ๆ โฮ้มเพี้ยงงงงงงงง ..............
18 สิงหาคม 2549 22:45 น. - comment id 599071
เพราะหัวใจบอบช้ำได้ง่ายดายนัก เธอหนีจากห่างหายไปไหนหนอ ปล่อยให้ใครอีกคนเฝ้าทนรอ ทุกข์และท้อเกินรับทับประดัง ไม่เหลือแล้วเยื่อใยเธอไกลห่าง เหมือนเรือร้างทิ้งไว้ไกลจากฝั่ง เหลือแต่ซากเศษเสี้ยวความผุผัง สิ้นความหวังรันทดหมดอาลัย มีน้ำตาเป็นเพื่อนยามว้าเหว่ รักหักเหย่อยยับแสนคับขัน หมดแล้วเคยมีใครใจผูกพันธ์ เธอลืมกันฉันเจ็บฝืนกลืนน้ำตา แม้ต้องเจ็บเพียงไหนใจแทบขาด เหมือนแส้ฟาดโบยกระหน่ำช้ำหนักหนา แม้ต้องเจ็บกลืนกล้ำคำกล่าวลา กี่หยดน้ำตาร่วงรินแทบสิ้นใจ
20 สิงหาคม 2549 15:11 น. - comment id 599446
มือกำเคียวหมายเกี่ยวข้าวทั้งกอ มองต้นข้าวยืนรอคนแลเหลียว ยามว้าเหว่คงไม่เร่เลือกคมเคียว คนมาเกี่ยวก็เหงาเศร้าพอกัน คนเหงากับคนเหงาเจอะกัน...อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด