..๏ พร่างแพรวแนวฟากฟ้า.........แสนตรึงตราต้องติดตาม อัศจรรย์ความงดงาม.................เรียงรายตามล้ำเลอสรวง สูงเด่นเป็นทิวแถว.....................พราวเพริศแพร้วแนวเด่นดวง ปรากฏความโชติช่วง.................เฉิดฉายหล้าห้วงมหรรณพ์ ฯ ..๏ หลากรูปแลหลายลักษณ์...... แจ้งประจักษ์โสภาพรรณ พร่างระยิบพริบครบครัน............หลากสีสันซึ่งพรรณราย ครั้นพุ่งมุ่งสู่ฟ้า..........................จวบเจิดจ้าจนฉานฉาย สุขสันต์มิเสื่อมคลาย..................ยังมั่นหมายได้ชื่นชม ฯ ..๏ แสงสีที่งามล้ำ.......................ยิ่งจดจำนำรื่นรมย์ เสียงก้องกังวานขรม..................นภาพรหมยิ่งโสภี แตกกระจายรูปหลายหลาก........งดงามมากโอ้พลุสี อัศจรรย์บรรดามี........................ให้สุนทรีทั้งปรีดา ฯ ..๏ สวยแสงแต่งแต้มสรวง...........แสนโชติช่วงดั่งดารา ยิ่งประจักษ์ลักขณา.....................ชั่วพริบตาดับทันใด ทดแทนเป็นทิวแถว.....................ความเพริศแพร้วงามเหลือใจ พราวระยิบพริบพิไล....................อีกเมื่อใดจักได้ชม ๚ะ๛
15 กรกฎาคม 2549 15:24 น. - comment id 503053
...ทุก ๆ ครั้งที่มีประกายพลุพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า ...ก็จะมีเสียงฮือฮา บ้างก็ปรบมืออย่างพอใจ บางคนหลุดปากเปรยว่า \"สวยจังเลย\" ...อัลมิตราเองก็เช่นกัน ชื่นชมในความสวยงามและความมหัศจรรย์และทึ่งในความสามารถ ...ท้องฟ้ายามค่ำคืนกลับสว่างจ้าด้วยแสงสีตระการตา ...จากค่ำคืนที่เคยเงียบเหงา ก็กลับกลายเป็นราตรีรื่นเริงในทันใด ...แต่ก็เพียงชั่วประเดี๋ยวเท่านั้น ภาพทั้งหมดก็หายไป .. ...แทบจะไม่เหลือร่องรอยใดให้ตรวจสอบได้เลยว่า ณ จุดนั้นบนท้องฟ้า เคยมีประกายพลุเจิดจ้าอยู่ ...มีแง่คิดหลาย ๆ อย่างที่แฝงไว้ชวนให้ขบนัย ...ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการสร้างพลุ การขนย้าย และสุดท้ายการจุดพลุ ...หลายคนคงสนใจแต่ฉากของพลุที่ถูกประดับไว้บนท้องฟ้าแล้ว ...แต่ขั้นตอนก่อนหน้า .. น้อยคนนักที่จะสนใจถึงความเป็นมา ...และแทบจะไม่มีใครด้วยซ้ำไปที่จะยังคงมองไปยังจุด ๆ เดิมหลังท้องฟ้าจบกระบวนการแต้มสี ...ฤๅเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ... คุณท่องเมฆา .. เรามีโอกาสไปดูกระบวนเรือพยุหยาตราฯด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ไปยืนดูพลุด้วยกัน อัลมิตราไปดูพลุในคืนวันที่ ๙ เดือนที่แล้ว ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมๆกับคนอื่นอีกมากมาย เป็นค่ำคืนที่น่าประทับใจจริง ๆ เมื่อคืนวานในรายการทีวี ทำให้อัลมิตราย้อนภาพไปถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น กลอนของคุณท่องเมฆาดูเหมือนว่าจะซ่อนนัยอยู่ เป็นความรู้สึกเดียวกัน ยามสิ้นแสงบนฟ้าดั่งค่าหมด คนก็ปลดความทรงจำมิย้ำหวน ไม่เหมือนครั้งพลุงามตามกระบวน ต่างชี้ชวนนิยมชมชอบเกรียว คุณWhiteWizard .. ขอบคุณค่ะ คุณแสงไร้เงา .. ค่ะ เปิดหูเปิดตาก็ดี คุณสร้อยแสงแดง .. นั่นสิ อัลมิตราก็ชอบฟ้าที่ประดับด้วยเดือนดาวมากกว่านะ คุณร้อยแปดพันเก้า .. สมมุติว่าอัลมิตราเขียนแทนคุณละกัน ค่าจ้างซาวบาท :) คุณพุดพัดชา .. ที่เมืองทองธานีไม่ได้ไปค่ะ ไกลจากบ้านพอสมควร จากพระราม ๓ ไปศูนย์สิริกิติ์ข้ามสะพานสองทอดก็ถึงแล้วค่ะ แต่กว่าจะกลับได้ ใช้เวลาตอนขากลับเกือบสองชั่วโมง ครั้นจะยกรถข้ามเกาะกั้นกลางถนนก็ไม่ไหว ..คนเยอะมากเลยค่ะ คุณแก้วประเสริฐ.. อัลมิตราไม่ค่อยกล้าเล่นกับไฟนะ พลุนี่ไม่กล้าเลย แค่ประทัดอัลมิตราก็กลัวแล้วล่ะ ชอบดูพลุ แต่ไม่ชอบอยู่ใกล้ ๆ แต่ถ้าไม่มีพลุให้ดู ก็ไม่ค่อยสนใจ คืออัลมิตราคิดแล้วว่า มันน่าเสียดายเงินจังเลย พลุสว่างจ้าได้ไม่นาน เงินก็ละลายหายไปแล้ว คุณแดดเช้า.. เขียนซ่อนนัยมาแนวเดียวกับคุณท่องเมฆา สงสัยสำนักเดียวกัน ฮา .. คงเหมือนกับการมองจันทร์ บางคนก็มองอย่างชื่นชม บางคนก็มองแล้วบอกว่าจันทร์ไม่น่าชื่นชม ลำพังไม่น่าชื่นชมก็ไม่เท่ากับความคิดที่ว่าจันทร์แสร้งสวย แสร้งงาม .. อันนี้ก็แปลกนะ เพราะจันทร์ ก็คือ วัตถุคล้ายกลม ๆ ก้อนใหญ่ มันทำอะไรไม่ได้นอกจากลอยตุ๊บป่องวนรอบโลกค่ะ ดังนั้น เป็นฟ้าก็ลำบาก เป็นพลุก็ลำบาก เป็นอะไร ๆ ก็ลำบากไปหมด เพราะแต่ละอย่างไม่ได้มีเพียงด้านเดียว คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. นึกภาพตามแล้วน่าสนุกนะคะ อัลมิตราไม่เคยหรอกที่จะมีวิถีชีวิตที่สนุกสนานอย่างนั้น แต่อัลมิตราก็มีว่าวนะ เป็นมรดกตกทอดมาจากพี่ชาย คือเขามีตัวใหม่ แล้วเขาก็ยกตัวเก่าให้น่ะ คุณร้อยฝัน .. ดารดาษดาวที่นั่น ก็หาดูได้ยากในกรุงเทพนะคะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
15 กรกฎาคม 2549 11:45 น. - comment id 507233
ในบ้านป่าดงดอน ไร้ละครโขนหนัง ไร้สิ่งบรรเทิงชวนฟัง มีเพียงความหวังกล่อมใจ ไร้พลุแต้มสีที่ฟากฟ้า มีเพียงนภาสวยใส มีป่าดงพงไพร หล่อเลี้ยงชีวิตเรา รูปสวยนะ ที่นี่หาโอกาสดูพลุยากมาก
15 กรกฎาคม 2549 08:08 น. - comment id 507327
ฟ้าเขาอยู่ดีดี ไปแต้มสีเขาทำไม ฟ้าอยู่เงียบเงียบก็เย็นเรียบพอสบาย ฟ้าอยู่เฉยเฉยคนไม่เคยก็เลยหน่าย ผมชอบฟ้าเรียบเรียบและเงียบเชียบพอสบาย
15 กรกฎาคม 2549 10:31 น. - comment id 507718
ตอนเป็นเด็กยามที่เขาจุดพลุแล้วมันจะมีร่มกางออกมาหลังพลุแตก...วิ่งกันตับแลบเพื่อจะไปเอา..ลมก็ดันพัดลอยไปซะไกล..แต่เมื่อเก็บได้..ไม่เห็นมีอะไร..รู้งี้ซื้อกระดาษว่าวมาทำเองดีกว่า..เหนื่อยแทบตาย..แต่ก็สนุกดีตามประสาเด็กบ้านนอก... ***ดูแลหัวใจตัวเองนะ....
15 กรกฎาคม 2549 09:22 น. - comment id 513670
แต้มสีที่ฟากฟ้า งามเลอค่าแค่คนฝัน พอสีเสื่อมจากนั้น คนก็ดันด่าว่าฟ้า แดดร้อนก็บ่นร่ำ ฝนตกพรำก็ก่นด่า ฟ้าครึ้มก็วนมา โทษว่าฟ้า \"หน้าที่\" หมอง ฟ้าอยู่ดีของฟ้า แต้มแสงทาให้น่ามอง สิ้นแสงก็บ้าร้อง กู่ก้องว่าฟ้ากลับคำ. สวัสดีค่ะ ... คุณอิม : ) ฟ้าหลากสีค่ะ ... ถ้าฟ้าให้ประโยชน์คน คนก็ชื่นชมว่า ฟ้าประทาน พอฟ้ามีเมฆหมอก ฝนตกน้ำท่วม คนก็ก่นด่าฟ้าว่า ฟ้าไม่เมตตา เป็นฟ้าก็ทำตัวลำบากนะคะ ... นับประสาอะไรกับเป็นคน ความอยากของคนไม่สิ้นสุด ... แม้แต่กับฟ้า ยังคาดหวังเลย โทษฟ้าโทษดิน เพราะไม่มีอะไรจะโทษ
15 กรกฎาคม 2549 09:12 น. - comment id 513817
ได้มีโอกาสไปดูพลุที่เมืองทองธานี วันมหามิ่งมงคล และ... ภาพในม่านน้ำงามมากค่ะ ยามนั้นได้แต่คิดว่าราวฝันไป เหมือนเราลอยไปให้หอมห้วงหาว พราวพรายด้วยดวงดาวดาระดาด ในวาดวงเวิ้งแห่งอนันตกาลกาแลคซี่ คิด.. ถึงบทกวีท่านอังคาร มากค่ะ... เพราะอลังการงามบรรเจิดจิตจนหาคำในทิพย์นิมิตรใจใด ยากจะพรรณนาค่ะ
15 กรกฎาคม 2549 09:19 น. - comment id 513822
คุณอิมครับผมก็นั่งดู ดูตั้งแต่เขาทำพลุที่สุพรรณฯ แล้วมาส่งแล้วจุดที่ท่าน้ำวัดอรุณฯ เป็นภาพที่งดงาม และได้ความรู้การจุดพลุแบบใหม่ ซึ่งเมื่อก่อนนี้ ตอนยังเด็กผมชอบไปดูเขาจุด โดยใช้กระบอกไม้ไผ่ แต่ไม่ใช่พลุสมัยนี้นะครับมีหลายๆอย่าง ลูกหนู ไฟเพนียง ฯลฯ ครับ อันตรายมาก ครั้งหนึ่ง กระบอกไม้ไผ่แตะระเบิด มีคนเจ็บมากด้วยครับ แก้วประเสริฐ.
15 กรกฎาคม 2549 08:50 น. - comment id 514307
จุดพลุวาดใส่ไว้ที่ฟ้า อัศจรรย์กระจ่างตาทาสีสัน ล้วนมีความหมายแตกต่างกัน ปลุกขวัญกึกก้องจับต้องใจ ........... เมื่อวานนั่งดูรายการ กบนอกกะลา เห็นคำนี้จึงขึ้นกลอนไว้ เช้ามาได้อ่านแล้ว แหะ แหะ
15 กรกฎาคม 2549 00:25 น. - comment id 590106
จากรายการทีวีช่อง ๙ รายการ \"กบนอกกะลา\" เขานำเอาผู้ที่ประดิษฐ์คิดค้นและจุดพลุมาเดินเรื่องให้ชม สวยงามมาก ในสังคมที่อยู่ในเมืองหลวงและในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองฯ มีการจุดพลุมากมาย ซึ่งอัลมิตราเคยไปดูและบันทึกภาพไว้ เคยคิดเหมือนกันว่าจะเขียนบทกวีที่บรรยายความงดงามนั้น ๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ลืมไปเสียสนิทใจ จนกระทั่งได้ดูรายการ \"กบนอกกะลา\" ก็เลยนั่งเขียนบทกวีง่าย ๆ ที่บรรยายความงดงามพอสังเขป แบบกาพย์ยานี ๑๑ และหวังว่า บางใครอาจจักได้จดจำความงดงามของพลุสีนั้น ๆ ได้ แล้วความตื่นตาตื่นใจจักหวนกลับมาสถิตในใจอีกคราครั้ง มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
15 กรกฎาคม 2549 01:12 น. - comment id 590111
กว่าจะเตรียมการงานมานานเนิ่น นึกว่าเพลินหมดทุกข์สุขหรรษา ส่งประกายความงามท่ามนภา เพียงวูบเดียวก็หมดค่ามิน่าจำ จะต้องแต้มอีกกี่สีที่ฟากฟ้า จึงเลอค่าตามใจคนจนอิ่มหนำ เพียงพลิกลิ้นปลิ้นปลอกหลอกน้ำคำ เขาก็ยำ..ความดีลด..หมดราคา ......
15 กรกฎาคม 2549 03:06 น. - comment id 590112
บทกลอนงามเหมือนเคยครับ คุณน้า
15 กรกฎาคม 2549 07:55 น. - comment id 590122
อุ้ย ขอเป็นแมวนอกบ้านด้วยคน อิอิ... เพราะอยากจะเห็นแสงสีเสียง อิอิ.. ราตรีแห่งสีสันแห่งความสีสดในเห็นเปิดหูเปิดตาดีคะ..
15 กรกฎาคม 2549 21:05 น. - comment id 590196
....... แสงสีเสียงเด่นดังไปทั้งฟ้า เพียงพริบตามืดดับเลือนลับหาย ฟ้าว่างเปล่าไร้รอยด้อยประกาย เงาระบาย..โชติช่วงเพียงลวงตา ได้มีโอกาสดูพลุเฉลิมฉลองวันสุดท้ายเหมือนกันครับ..รถติดคาที่สะพานมัฆวานพอดี เขียนตามสิ่งที่เห็น...ไม่มีนัยจะซ่อนหรอกอิอิ.. มาเยี่ยมนะครับ
16 กรกฎาคม 2549 00:47 น. - comment id 590220
คุณdarkฯ .. ไม่รู้เหมือนกันว่า จะได้เห็นภาพสด ๆ อีกเมื่อไหร่ ปกติอัลมิตราได้ดูแต่ในทีวีค่ะ
16 กรกฎาคม 2549 11:40 น. - comment id 590291
แต้มสีที่ปลายฟ้า แต้มน้ำตาปลายจันทร์ แต้มรักคนไกลกัน แต้มรอยฝันอัลมิตรา
16 กรกฎาคม 2549 11:41 น. - comment id 590292
แต้มสีที่ปลายฟ้า แต้มน้ำตาที่ปลายจันทร์ แต้มรักคนไกลกัน แต้มรอยฝันอัลมิตรา
16 กรกฎาคม 2549 18:34 น. - comment id 590386
พลุเสมื่อนการใช้ชีวิตการเติบโตความยิ่งใหญ่ เมื่อมันขึ่นสู่ฟ้ามันจะเริ่มด้วยควันที่พุ่งไป ไม่น่าสนใจเเต่เมื่อถึงเวลาก็จะระเบิดเป็นเเสงที่งดงาม สู้ต่อไป thaipoem!!!! (ไม่ได้เข้ามานานน่ะขอรับ เอ้าเชียกันหน่อย)
17 กรกฎาคม 2549 00:16 น. - comment id 590466
คุณมนต์กวี .. แต้มสุขสนุกถ้วน........แต้มรอยล้วนเรื่องหรรษา แต้มยิ้มพริ้มงามตา.....แต้มคำว่าตราบฟ้าดิน คุณวนกวี .. ใช่แล้วค่ะ จะได้ยินเสียงก่อนที่จะเห็นพลุแตกตัวเป็นสีสวย ๆ เป็นความวิจิตรบนฟากฟ้าที่มนุษย์อาจเอื้อมเอาสีไปแต่งแต้ม เชียร์กันแบบนี้ .. ไม่สู้ได้ไง :)
17 กรกฎาคม 2549 14:35 น. - comment id 590661
งดงามจริง ดีกว่าดูด้วยตา เพราะหายไป ในพริบตา แต่รูปภาพอยู่ทนนาน ถ่ายได้เก่งมากด้วย เรื่องเป่าแขนซ้ายที่เจ็บคงไม่สามารถไม่มีเวทย์มนต์แต่ถ้าเป่ากระหม่อมจะลอง อิอิ
17 กรกฎาคม 2549 17:14 น. - comment id 590703
คุณฤกษ์ .. รูปภาพอัลมิตราใช้ของเวปลง เนื่องจากว่า รูปที่อัลมิตราเก็บไว้file วีดีโอ ค่ะ ไม่เป่าแขน แต่เลือกเป่ากระหม่อม .. เป็นรังแคแหง๋เลยเรา .. ว้า ..