เรือนงามตรึงจิตตั้ง.............เคียงนที อวลกลิ่นร้อยมาลี................รอบรั้ว อุ่นอรุณสาดแสงสี...............สะท้อนทาบ ก้านกลีบช้องนางขั้ว-..........ครั่นน้ำค้างหนาว ลมเอื่อยราวโอบไล้..............อรุณฉาน กรุ่นรักรินร่ำกาล................กล่อมรื้น เพลงเรือแผ่วเพียงหวาน.....วอนแว่ว บางสุขบางสะอื้น..................โอดซ้ำน้ำเสียง เลียบเคียงเงาร่มครึ้ม...........ศาลา ผูกรักสลักวา-.......................ทะถ้อย สร่างฟ้าสร่างฝนซา...............ซึมจาก ฝนหยดยังหยาดย้อย...........พร่างพื้นความหลัง เพียงลำพังดั่งรู้.....................เดียวดาย ลมร่ำระรินกาย....................กร่อนล้า บันไดท่าริมสาย....................ธารโศก ระเรื่อยชลเอื่อยช้า................เซาะซ้ำร่ำไร หัวใจแห่งรักเจ้า..................จรไหน แม่เอย วงสุราร้างไกล......................ค่ำนี้ เสียงหัวเราะใสใส................คืนสุข เสียงขับโคลงก่อนกี้..............กลับไห้ครวญหา ศาลาริมฝั่งน้ำ....................นวลจันทร์ แสงอาบสีอำพัน..................ส่องหล้า คิดถึงคิดถึงกัน..................ก่อนจาก ฝันที่สุดขอบฟ้า..................เถิดเอื้อมเอาถึง
3 กรกฎาคม 2549 23:26 น. - comment id 588299
สิ่งสวยงามยังมีอยู่คู่โลกหล้า .. เบื้องบนท้องฟ้า .. มีเดือนดาราโสภาพรรณ แผ่นพื้นปฐพียังมีผองบุปผาบานสะพรั่ง .. ทั่วผืนน้ำนั้นยัง .. มีมวลมัสยาอันร่าเริง
3 กรกฎาคม 2549 23:37 น. - comment id 588304
ชอบมานะคะ โดยเฉพาะบทนี้ เพียงลำพังดั่งรู้.....................เดียวดาย ลมร่ำระรินกาย....................กร่อนล้า บันไดท่าริมสาย....................ธารโศก ระเรื่อยชลเอื่อยช้า................เซาะซ้ำร่ำไร
4 กรกฎาคม 2549 03:31 น. - comment id 588334
ไม่ได้เขียนโคลงซะนาน..เลยแจมบ่ได้...มาอ่านอย่างเดียวก็แล้วกันนะครับ
4 กรกฎาคม 2549 08:13 น. - comment id 588379
สวัสดี... งดงามคะ มะกรูดเขียนไม่เป็น อิอิ
4 กรกฎาคม 2549 08:39 น. - comment id 588404
คุณอัลมิตรา ความเห็นเข้ากับบรรยากาศเป็นอันมากเลย อิๆ มัสยาโจนคลื่นน้ำ.....แตกกระจาย เกล็ดสะท้อนแดดลาย..เลื่อมรุ้ง เงินวาบอาบเปลวสาย...อรุณส่อง น้ำกระเซ็นฝอยฟุ้ง.....เกลื่อนฟ้าเฟือนฝน
4 กรกฎาคม 2549 09:01 น. - comment id 588427
ศาลาสวยดีครับ วิวสวยครับ น่าจะเป็นที่นั่ง กินเหล้าได้ดี อิอิอิ
4 กรกฎาคม 2549 16:52 น. - comment id 588539
คุณเพรง.พเยีย ขอบคุณมากครับ :) คุณบินเดี่ยว โคลงก็เขียนเป็นบทอัศจรรย์ได้นะครับ อิๆ จำได้บทนึงเคยเขียนไว้ในอาศรมฯ นานมาแล้ว โฉมเอยโฉมแม่เพี้ยง...เพ็ญโสม ลมรื่นโบกตระโบมโลม..ร่างเคล้า วายุหว่านผืนโพยม.....พิรุณพร่าง พรำพร่ำพรมเร้าเข้า.....สู่สวรรค์
4 กรกฎาคม 2549 16:57 น. - comment id 588540
คุณมะกรูด ขอบคุณครับ :) คุณอัสสุ รูปประกอบของเว็บน่ะ ไม่ค่อยเข้ากับโคลงเลยแหละครับ เอามาใส่แก้ขัดไปก่อน ความจริงรูปนี้ก็สวยดีแต่ออกทะเลไปนิด แหะ
4 กรกฎาคม 2549 18:11 น. - comment id 588561
เรือนงามริมฝั่งน้ำ............... เคียงคลอง แมกหมู่ผกากรอง.................เกาะซุ้ม ธาราเรื่อยไหลนอง...............เต็มปรี่ นอนเอื่อยคลายกลัดกลุ้ม........สุขล้ำริมชล ภมร-วนร่อนพลิ้ว..................ปลิวลม เกาะกลุ่มแลดอมดม...............หมู่ไม้ คลายจิตสร่างทุกข์ตรม..........พอผ่อน ปลดปล่อยอารมณ์ไร้..............โกรธกริ้วเคืองใจ เรไรหวีดร่ำร้อง.....................ระงม หรีดหริ่งบรรเลงรมย์..............กล่อมเคล้า ดาวพราวน่าเชยชม.................พริบพร่าง กระจ่างนวลทั่วฟ้า...................สาดด้วยจันทร์ฉาย ดีของับพี่ม้าลาย เป็นโคลงแรกที่แต่งตอบได้ยาวขนาดนี้น้างับ โห!!!!ทำไปได้
4 กรกฎาคม 2549 23:25 น. - comment id 588611
พักใจริมฝั่งน้ำ ................ ทบทวน สิ่งผ่านมาแปรปรวน ........ ปวดร้าว ศาลาพักผ่อนหวน ........... ระลึก ช่วยผ่อนคลายก่อก้าว ...... ร่องเท้าวิถี พักหนีวนวุ่นกล้ำ .............. มัวหมอง น้ำเรื่อยไหลเจิ่งนอง ......... ชะล้าง สะท้อนแดดอ่อนปอง ......... สงบสุข ลมแผ่วผ่านเพียงสร้าง ...... โลกล้ำส่วนฝัน พักผ่อนกันครึกครื้น .......... หมู่มิตร เริงร่ารื่นชื่นจิต .................. ผ่อนเศร้า เลือนแล้วสิ่งพลั้งผิด ........... วันก่อน ลืมพลาดเพลินยั่วเย้า ............ มิตรแท้คลายหมอง สองเราเฝ้าฝั่งน้ำ .............. ระริน ตาสบสายตาผิน ................ ท่องน้ำ อยากเก็บเสียงได้ยิน ........ ถ้อยทุก คำเอย อยากกอบชื่นหวานล้ำ ..... แนบไว้ใจฝัน ศาลามั่นฝั่งเฝ้า ................ มองคน เยือนผ่อนคลายพอยล ...... พักบ้าง ชะรอยขุ่นวุ่นวน ............... หายโศก ปลดเปลื้องสรรค์สุขสร้าง .... เสกด้วยร่มเย็น. สวัสดีค่ะ ... พี่ม้าลาย : )
5 กรกฎาคม 2549 11:10 น. - comment id 588711
หลุดไปของับพี่ บทสามแก้หน่อยละกัน อิอิ ไม่ค่อยได้แต่งง่ะงับ เนี้ยถ้าไม่ใช่เพราะพี่ม้าลายนะ คงไม่คิดจะแต่งตอนนี้หรอกงับ ขอบคุณอีกที่งับ ..... เรือนงามริมฝั่งน้ำ............... เคียงคลอง แมกหมู่ผกากรอง.................เกาะซุ้ม ธาราเรื่อยไหลนอง................เต็มปรี่ นอนเอื่อยคลายกลัดกลุ้ม........สุขล้ำริมชล ภมร-วนร่อนพลิ้ว..................ปลิวลม เกาะกลุ่มแลดอมดม.............หมู่ไม้ คลายจิตสร่างทุกข์ตรม..........พอผ่อน ปลดปล่อยอารมณ์ไร้.............โกรธกริ้วเคืองใจ เรไรหวีดร่ำร้อง.....................ระงม หรีดหริ่งบรรเลงรมย์..............กล่อมหล้า ดาวพราวน่าเชยชม...............พริบพร่าง กระจ่างนวลทั่วฟ้า..................สาดด้วยจันทร์ฉาย
5 กรกฎาคม 2549 19:44 น. - comment id 588805
คุณแดดเช้า พักใจริมฝั่งน้ำ...................แสนนาน นักเล่า-เหล่าลูกหลาน........รอบล้อม วันนี้เปลี่ยนนิทาน............เรื่องใหม่ เชิญนั่งพับเพียบพร้อม.......เพื่อตั้งใจฟัง บางครั้งเพียงแค่ขั้น...........บันได คนลื่นล้มลงไถล..................ตกน้ำ จะก้าวเพื่อผ่านไป..............ถึงฝั่ง แต่กลับต้องชอกช้ำ.............อยู่หน้าศาลา ศาลาริมท่าน้ำ....................นอนสบาย พักผ่อนพักใจกาย..............สุขแท้ หัวใจหากหล่นหาย..............ที่นี่ กี่ลื่นก็ไม่แพ้......................ย่อมค้นจนเจอ
6 กรกฎาคม 2549 09:48 น. - comment id 588917
คุณมอมแมมฯ เรือนงามริมฝั่งน้ำ.....เงียบสงบ แสงตะวันรอนพลบ-...ค่ำแล้ว ภุมรินร่อนบินซบ.....ภุมเรศ กุหลาบโรยกลีบแก้ว...เกลื่อนห้องเคหา แสงไฟริมฝั่งสะท้อน....สายธาร โคมส่องตะเกียงลาน....เรื่อฟ้า หมู่แมลงเม่าเบิกบาน....บินว่อน ร่วงหล่นฝูงปลาอ้า......ปากยิ้มรับขวัญ อิอิ